คุณเคยตกหลุมรักใครจริงๆสักคนไหมครับ ?
( อันนี้ผมถามทุกเลยนะครับ ปล.อยากอ่านการตกหลุมหลักใครสักคนจริงๆ )
ส่วนนี้เป็นเรื่องของผมเอง ที่มั่นใจมาก
...ก่อนอื่นเลยสวัสดีครับ /l\ !!
ผมจะเล่าถึงตัวผมเองในอดีต ในอดีตผมเป็นเพียงเด็กชายคนนึง ที่อยากจะมีความรัก แต่ใครจะไปรู้ว่าตั้งแต่คิดว่าตัวเองอยากจะมีความรักมันจะทำให้เกิดประสบการณ์ได้มากมายขนาดนี้ เมื่อประมาณ ตอนผมอยู่ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ผมได้มีความคิดที่อยากจะมีแฟนอยากมีคนรัก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะตัวเองเป็นคนหน้าสิวเยอะมาก เยอะจนไม่มีที่จะให้ขึ้นแล้ว ช่วงนั้นถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นช่วงเปิดเทอม ม.2 เทอมแรกใหม่ๆเลย ได้มีเด็กผู้หญิงเข้ามาใหม่ ใช่ครับผมมองแล้วผมชอบเธอมากเลย รู้สึกว่าเอาหล่ะคนนี้หล่ะที่ผมจะต้องจีบ ก็ซึ่งใช้เวลาจีบอยู่หลายเดือนกว่าจะได้ใจเธอ พอได้คบกันผมก็ดีใจนะ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คบกันไปเหมือนคู่อื่นปกติ ไม่หวือหวาอะไร แต่พอมาวันนึงผมได้ทำเธอเสียใจมาก มันเป็นเพราะตอนนั้นเราเล่นวอลเลย์บอล แล้วผมตะโกนใส่อย่างดัง แต่จำไม่ได้แล้วว่าตะโกนว่าอะไร เธอบอกว่าไม่ชอบคนตะโกน หรือ ตะคอกใส่ ณ เวลานั้นเธอก็บอกเลิกผมทันที ส่วนผมก็ไม่ได้นึกอะไรเพราะคิดว่าอยากเลิกก็เลิกไป จนเวลาผ่านไป เป็นอาทิตย์ผมพึ่งรู้สึกตัวได้ว่า ผมควรง้อเธอ ใช่ครับ มันสายไป เธอบอกว่าเธอมีแฟนใหม่ และ ก็ไปมีอะไรกันแล้วด้วย ตอนนั้นผมโทษตัวเองอย่างเดียวเลยไม่คิดอยากจะมีใครอีกเลย แต่พอเวลาผ่านไป ช่วง มัธยมปลาย ม.4 ผมได้มีรักครั้งใหม่อีกครั้ง และมีไปเรื่อยๆ เปลี่ยนแฟนทุกๆเทอม เหมือนตัวเองอัดอั้นอยากจะมีแฟนมากเลย ตัวผมเองเป็นค่อนข้างขี้แยมากเลยครับ คิดมากนิดหน่อยคิดไปเองนิดหน่อยก็งอแง ร้อง เจ้าน้ำตา
และส่วนมากที่ผมเป็นบ่อยก็เพราะมันเป็นเพราะตัวผมเองคงดีไม่พอดีสำหรับใครเลย โดนบอกเลิกแทบจะทุกคน แต่ถ้าคิดเป็น 100% ก็ 90% ที่โดนบอกเลิกครับ จนผมเริ่มปิดใจ ไม่อยากให้ใจใครอีกเลยจากที่ตัวเองร้องไห้เก่ง งอแงเก่ง มีมุมน่ารักให้แฟน เอาใจใส่แฟน กลายเป็นว่าผมเป็นผู้ชายที่น่าเบื่อ ค่อนข้างไร้อารมณ์ไปเลย แต่ตอนผมเป็นแบบนั้น ก็ยังมีแฟนนะครับ ยัง งง ว่า ยังมีผู้หญิงชอบผู้ชายที่ตายด้านอีกเหรอ ...ครับเวลาผ่านไม่นาน ก็โดนบอกเลิกเพราะน่าเบื่อ เพราะมีใหม่ เพราะผมไม่ใส่ใจหรือสนใจ หรือไม่แสดงความรู้สึกอะไรเลย แต่ผมก็ยังมีแฟนไปเรื่อยหวังว่าจะมีสักวันนึงเราจะคนที่เราตามหา แต่ก็ไม่รู้ว่าไอคนที่เราตามหานี่ มันเป็นแบบไหน โหลดหลายแอพมาเล่น คุยๆได้สักพัก ก็หาย ก็เงียบ ก็หนีไปมีแฟนบ้าง จนผมไม่อยากจะโหลดอะไรมาเล่นเลยรู้สึกว่ามันก็เฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมตายด้านได้ประมาณ 2-3 ปีครับ ไม่ร้องไห้ ไม่งอแง ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ สายตาว่างเปล่า เหมือนว่าตัวเองไม่มีความรู้สึกที่อยากจะรักใครอีกเลยครับ ถึงแม้ผมจะพูดว่า รัก ชอบ แต่ผมก็รู้สึกแค่ว่า ก็พูดเฉยๆ แค่นั้นเอง ไม่เคยมีใครมองผมที่สายตาเวลาพูด และ ส่วนมากที่เข้ามาก็จะเป็นแนวรักแรกๆ หลัง หายตัว อ้างว่า ที่บ้านไม่โอเคบ้าง หนีไปมีแฟนใหม่ บอกเลิกผมเพราะว่าผมน่าเบื่อเกินไปแล้วผมก็เป็นแบบนี้อยู่อีก 1 - 2 ปี
ล่าสุดปัจจุบัน ณ ตอนนี้
จริงๆผมก็ยังตายด้านอยู่นะครับ แต่ ณ เวลาที่มาตั้งกระทู้นี้ผมไม่ได้เป็นคนแบบนั้นแล้วครับ ☻
เมื่อปีก่อนผมมีแฟนครับ คบกันได้ประมาณ 8-9 เดือน ผมโดนบอกเลิกเพราะว่าผมสนใจแต่เกมครับ ผมก็เข้าใจและจะปรับปรุงตัวครับ วันนั้นเธอให้ผมไปหาไปคุยกัน ในใจผมคิดว่าต้องโดนบอกเลิกแน่ๆ แหงๆ ใช่ครับ พอไปถึงโดนบอกเลิก เป็นครั้งแรกที่ผมขอโอกาสคนรัก ผมบอกเธอว่า ผมขอโทษ ให้โอกาสผมได้แก้ตัวได้ไหม ผมจะเล่นเกมให้น้อยลง ใช่มันเลิกเล่นทันทีเลยไม่ได้ ผมก็มีสังคมในเกมเช่นกัน แต่จะแบ่งเวลาให้เธอ แต่เธอก็บอกผมว่า พี่ เราขอโทษ เราเหนื่อยแล้ว เราไม่ไหวแล้ว เราขอโทษจริงๆ ผมรู้สึกว่า เธอเหนื่อยมากจริงๆ ตอนนั้นในหัวผมคิดได้แค่ว่าเพราะตัวเองที่ตายด้านหรือเปล่า ผมเลยต้องยอมรับผลรับที่ตัวกระทำ ผมไม่อยากให้เธอต้องมารู้สึกแย่ๆกับผมอีกผมเลยปล่อยเธอไป แต่ผมก็ไม่ร้องไห้นะครับ และ ไม่รู้สึกเสียใจเลย แค่ใจหายว่า ชีวิตประจำวันที่เราทำมา 9 เดือน ตื่นเช้ามา ทักหา หรือ เธอทักหาผม พอตื่นมาอีกวันนึงแชทว่างเปล่ามาก ผมก็เริ่มยอมรับตัวเอง แล้วก็เริ่มปิดใจตัวเองว่าพอแล้วหล่ะไม่อยากมีแล้วความรัก ตอนเราตั้งใจ เราก็เจอแต่อะไรแย่ๆ พอเราเจอคนที่ตั้งใจกับเรา เราก็ทำตัวแย่ใส่เขาโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย หรือ รู้แต่เพียงแค่ปล่อยผ่าน
ผมปิดใจมาได้สักพักนึง สักพักใหญ่ๆ แต่ไม่ใหญ่มาก
และนี้คือคนที่ผมตกหลุมรักเธอเข้าแล้วจริงๆครับ
ผมได้โหลดแอพนึงมา Tinder แมทซ์หนักมาก แต่ไม่ทักใครไปเลย
จนผมเจอผู้หญิงคนนึง ซึ่งไม่ได้ตรงสเป็คผมเลย แต่แปลกแมทซ์ช่วงดึกประมาณตี 2 ใช่ครับผมก็ไม่ทัก แต่แปลกมาก ช่วงเช้าผมตื่น ประมาณ 8 โมงกว่า
ผมทักผู้หญิงคนนี้ไป " มอนิ่ง " ทักเหมือนสนิท ผมก็ งง ว่า เอ้าทักทำไม แล้วทักซะแบบเหมือนรู้จักกัน แต่เอาจริง มองรูปตั้งแต่แรกก็รู้สึกว่าเหมือนตัวเองเคยรู้จักเธอมาก่อน แต่ไม่รู้ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ ตอนไหน ซึ่งเธออยู่ไม่ไกลจากผมเลย ห่างกันเพียง 1 กม. ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย คุยมาได้สักพักจนได้ ไลน์ ig facebook ผมยอมรับว่า ณ ตอนนั้นผมก็ยัง งง อยู่ว่าทำไมถึงต่อมาใน พื้นที่privateของผมได้ ถามเรื่องส่วนตัวของเธอ ส่วนสูง น้ำหนัก เรียนที่ไหน เรียนคณะอะไร อายุเท่าไหร่ และผมก็ได้รู้ว่า เธออายุเท่าผม ห่างกับผมเพียง 1 เดือนเป๊ะๆ เราเกิดวันที่เดียวกัน แต่คนละเดือนกันเท่านั้น ผมเกิดก่อน เธอเกิดทีหลัง เธอเรียนหมอ ส่วนผมเรียนสถาปัตย์ เธอเป็นคนเดียวและคนแรกที่ทักหาผมก่อนในช่วงเช้า ในขณะที่สถานะเราของเราก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นอะไร แต่เธอทักหาผมก่อนเสมอ เพราะผมตื่นสาย แต่เธอตื่นเช้า ผมรู้สึกแปลกใจเอ๊ะ ทำไมนะ ปกติมันจะต้องเป็นเราที่ต้องทักไปก่อนตลอดกับคนอื่นๆ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองพิเศษจัง ที่ทำให้เธอทักเราก่อนได้ รู้สึกดีใจที่มีคนสนใจเรา เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ปล่อยให้บทสนาเงียบ หรือ ว่างเปล่าเลย และเมื่อคุยกันไปได้สักพัก ผมมีธุระที่ต้องออกบ้านไปห้างเพื่อซื้อของใช้ที่จำเป็น และ มันก็บังเอิญที่เธอต้องไปห้างนั้นเช่นกัน ไปทำธุระส่วนตัวเหมือนกัน ผมเลยถือโอกาสนี้ ขอเจอเธอสักหน่อย เธอตอบตกลงเพราะ ธุระของเธอก็ไปแล้วต้องเดินรอเวลาอยู่ดี ตอนนั้นผมเอาน้องสาวผมไปด้วย และ เมื่อถึงเวลาที่ผมและเธอถึงห้างเราก็ไปเจอกัน ผมเขินเธอหนักมากแต่ก็ต้องเก็บอากาศเพียงได้แต่แสดงอาการกวนๆ ออกไป ประมาณว่า อุ้ย "ตัวแค่เนี้ย"เอง ทำมือประมาณบ่งบอกว่าเธอตัวเล็ก ตัวเตี้ย
พอเจอผมรู้สึกดีมาก รู้สึกอบอุ่นแปลกๆ ทั้งๆแค่เดินคุยกันไปเรื่อย แต่ผมแปลกใจว่าเธอไม่ได้สนใจผมเพียงแค่ผม เธอสนใจน้องสาวผมด้วย น้องเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดกับคนแปลกหน้า หรือ เพื่อนๆของผม นานๆทีจะพูด เธอทำความรู้จักน้องของผมและได้ชวนน้องของผมคุยไปเรื่อย ผมรู้สึกแปลกใจมาก ฮึ้ย !! มีคนที่สนใจเราและสนใจคนในครอบครัวเราด้วยงั้นหรือ ฮึ้ย !! จริงเหรอ เธอพูดถามน้องสาวผมเยอะมากน้องผมก็ทำได้แค่ขำแห้งๆ จนคุยกันได้สักพัก น้องผมเริ่มพูด เริ่มตอบ เริ่มถามเองบ้าง ใช่ผมแปลกใจ เธอทำให้น้องผมไม่เขินไม่อายเธอ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าสนใจแค่น้อง แต่ยังรู้สึกว่าเธอก็สนใจผมด้วย แปลกใจสุดๆ เราก็เดินคุยกันในห้างได้สักพัก เดินดูของใช้ ของกิน มันก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับบ้าน และ ถึงเวลาธุระของเธอ เราก็แยกย้ายกัน ผมรู้สึกประทับใจในตัวเธอมาก ทั้งการเทคแคร์คนในครอบครัวเรา แล้วก็เทคแคร์เรา พอถึงบ้านผมก็ทักหาเธอทันทีถึงแล้วนะ เธอก็ตอบกลับว่าธุระของเธอก็เสร็จแล้ว ขอตัวขับรถกลับบ้านก่อนนะ พอเธอถึงบ้านเธอทักหาผม และผมก็ตอบด้วยความไวแสง !! แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกชอบหรืออะไรอยู่ดี
จนคุยกันไปได้อีกสักพักนึง เราคุยกันไปเรื่อย หลายๆเรื่อง จนคุยกันเรื่องค่าเทอม ค่าเทอมของเธอแพงหูฉีกมาก !! มันเลยทำให้ผมรู้สึกว่าเฮ้ย เราโคตรต่างกันเลย คนละระดับกันเลย ค่าเทอมของเธอหลายแสนบาท ! ส่วนค่าเทอมของผม หมื่นต้น ผมเรียนจบ ค่าเทอมทั้งหมดยังไม่เท่าค่าเทอมของเธอเพียงเทอมเดียวเลย รู้สึกว่าเฮ้อไม่ไหวหรอก ผมกลัวผมจะเลี้ยงเธอไม่ไหว อาหารที่เธอกิน ร้านข้าวที่เธอกิน หรือ ของใช้ที่เธอใช้ ผมกลัวว่าผมจะจ่ายให้เธอไม่ไหว
#ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าผมอยากจะเปิดใจกับคนนี้
และเธอก็ถามผมว่า "ที่คุยกับเธอเนี่ยผมรู้สึกยังไง " ผมตอบไวมาก " ไม่รู้ " เธอก็เปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่น เหมือนเธอรู้สึกเฟลนิดหน่อยเราก็คุยกันไปเรื่อย
ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ ผมรู้สึกว่าผม อยากที่จะเปิดใจลองดูอีกครั้ง และ อยากจะทำมันให้ดีมากกว่าที่ผ่านๆ มา และพอเวลาผ่านไป ช่วงกลางดึกวันนึง เวลาประมาณ 22.00 ผมได้เปิดใจเล่าชีวิตของผม และ สิ่งที่ผมกังวลตอนนี้คือ ฐานะของผม ผมถูกเลี้ยงดูมาแบบที่ แม่พูดว่าเราเป็นผู้ชาย เราต้องหาเลี้ยงผู้หญิง ไม่ใช่ให้ผู้หญิงมาหาเลี้ยงเรา เราต้องดูแลชีวิตเขาได้ ไม่ใช่เราเอาเขามาลำบากด้วย ใช่ ผมคิดแค่ว่า ผมฐานะต่างกับเธอมาก ร้านอาหารที่เธอเข้า ของใช้ที่เธอใช้ สังคมที่เธออยู่ ผมคิดว่าเราต่างกันมากเกินไป จึงทำให้ผมไม่กล้าที่จะบอกความรู้สึกกับเธอตรงๆ หรือ ไม่กล้าที่จะไปรู้สึกว่าผมอยากคุยกับเธอ อยากเป็นคนพิเศษของเธอ
คุยกันจนเวลา 23.16 : เธอบอกผมว่า เธอรู้สึกดีกับผม ความรู้สึกมันอธิบายยากนะ เราจะรู้ด้วยตัวของเราเองว่าที่ตรงไหนที่เรามีค่า ที่ตรงไหนที่เรารู้สึกว่าเค้าเห็นคุณค่าในตัวเรา และที่เค้าคุยกับเธอมา ก็ไม่รู้ว่ามันใช่ช่วงโปรโมชั่นไหมนะ แต่เค้าเห็นเธอคุยกับเค้า โดยที่ทุกคำที่เธอพิมพ์มันมีประกายของความอยากคุย อยากจะเล่าสู่กันฟังในทุกๆเรื่อง เค้ารู้สึกว่าเค้าโชคดีในทุกๆวันเลยที่ตื่นมาแล้วเจอเธอทักมาหาตลอด แต่เหตุผลจริงๆมันหาไม่ได้หรอก มันเพิ่มขึ้นและมากขึ้นในทุกๆวันแหละ แล้วความรู้สึกที่บอกว่าเค้าชอบ เพราะ ไม่มีวันไหนเลยที่เค้า ไม่อยากจะเรียนรู้ในตัวเธอเลย ตื่นมาก็รู้สึกว่าอยากจะมีกันในทุกๆวัน ไม่ว่าจะในสถานะไหนก็ตาม
ณ เวลานั้นผมตกใจและซาบซ้ำกับคำที่เธอบอกผม ใจของผมรู้สึกอบอุ่น จากที่ผมไม่อยากจะเปิดใจให้ใคร จากที่ผมไม่รู้สึกอะไรกับใคร มันเหมือนว่าเธอมาทำให้โลกใบเทาๆ ใหญ่ๆ ของผมมันหายไป กลายเป็นว่าผมกลับมามีโลกสีชมพู ที่สดใสมากๆอีกครั้ง ผมก็อธิบายไม่ถูกแต่ผมรู้สึกว่า เธอมาเติมเต็มในสิ่งที่ผมขาดหายไป โดยที่ผมไม่ต้องร้องขออะไรเลย ไม่ต้องกังวลใดๆ เวลาผ่านไป เราสนิทกันมากขึ้น สนิทกันไปเรื่อยๆ จนเธออยากที่จะเลี้ยงของกินผม เธอถามผมว่าอยากกินไหมเดี๋ยวไปซื้อไปฝาก ซึ่งผมดูจากหน้าตาของกินนั้นแล้วแพงแน่นอน แต่ไม่อยากปฏิเสธเธอ ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวผมออกเองซื้อให้ด้วยนะ เธอก็ไม่ยอมบอกว่าจะเลี้ยง จนเธอต้องบอกว่าอะงั้นหารกัน แต่สุดท้ายเธอก็พูดจนผมต้องให้เธอเลี้ยง เพราะเธอจะเลี้ยง ผมเกรงใจเธอมากแต่รับไว้ด้วยความยินดีแล้วก็บอกเธอว่า ครั้งหน้าไม่เอาแล้วนะ เดี๋ยวผมออกเอง เราสนิทกันมากขึ้น เราคุยกันมากขึ้น ผมเคยคิดว่าอยากคุยเรื่องอนาคตกับใครสักคน แต่เคยลองคุยแล้วก็โดนมองว่าผมเพ้อฝันไปวันๆ ผมจึงไม่กล้าคุยกับใครอีก ผมเลยลองคุยกับเธอดูในเรื่องอนาคต มันกลับกลายเป็นว่าเธอชอบที่จะคุยเรื่องนี้และชื่นชมความคิดกับสิ่งที่ผมเป็นอยู่ ณ ตอนนี้ แต่ผมก็ยังกังวลเรื่อง ฐานะ ผมเลยได้พูดกับเธออีก พูดหลายรอบมาก จนเธอต้องพูดจริงๆ จังๆ กับผมว่า
: เค้าไม่ได้รู้สึกขอให้ผู้ชายมาดูแลเรื่องเงินนะ ขอแค่ดูแลด้วยใจจริงๆก็พอ เราเลือกไม่ได้ป้ะว่าจะต้องเกิดมาในฐานะอะไร โชคชะตาคนเรามันมาไม่เหมือนกัน คือขอแค่เธอไม่เดือดร้อนเรา เราไม่เดือดร้อนเธอแล้วดูแลกันไป ก็น่ารักและป้ะะ
มันทำให้ผมมองข้าม ปัญหา ฐานะของผมไปเลย สิ่งที่ผมคิดมากและกลัวว่าเธอจะไม่โอเค มันกลับกลายเป็นว่ามันไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
เธอเป็นความสุขของผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่าเธอนี่แหล่ะ คือคนที่ผมรัก คือคนที่ผมอบอุ่นใจ คือคนที่ผมพร้อมจะเล่าทุกๆอย่างให้ฟังในแต่ละวัน เธอนี่แหล่ะคือคุณแม่ของลูกผม ... ยังมีต่อนะครับ เขียนไม่พอแล้ว (( ต่อใต้กระทู้นะครับ ))
คุณเคยตกหลุมรักใครจริงๆสักคนไหมครับ ?
( อันนี้ผมถามทุกเลยนะครับ ปล.อยากอ่านการตกหลุมหลักใครสักคนจริงๆ )
ส่วนนี้เป็นเรื่องของผมเอง ที่มั่นใจมาก
...ก่อนอื่นเลยสวัสดีครับ /l\ !!
ผมจะเล่าถึงตัวผมเองในอดีต ในอดีตผมเป็นเพียงเด็กชายคนนึง ที่อยากจะมีความรัก แต่ใครจะไปรู้ว่าตั้งแต่คิดว่าตัวเองอยากจะมีความรักมันจะทำให้เกิดประสบการณ์ได้มากมายขนาดนี้ เมื่อประมาณ ตอนผมอยู่ มัธยมศึกษาปีที่ 2 ผมได้มีความคิดที่อยากจะมีแฟนอยากมีคนรัก แต่ก็ไม่ได้คิดอะไรมาก เพราะตัวเองเป็นคนหน้าสิวเยอะมาก เยอะจนไม่มีที่จะให้ขึ้นแล้ว ช่วงนั้นถ้าจำไม่ผิดน่าจะเป็นช่วงเปิดเทอม ม.2 เทอมแรกใหม่ๆเลย ได้มีเด็กผู้หญิงเข้ามาใหม่ ใช่ครับผมมองแล้วผมชอบเธอมากเลย รู้สึกว่าเอาหล่ะคนนี้หล่ะที่ผมจะต้องจีบ ก็ซึ่งใช้เวลาจีบอยู่หลายเดือนกว่าจะได้ใจเธอ พอได้คบกันผมก็ดีใจนะ แต่ก็ไม่ได้คิดอะไร คบกันไปเหมือนคู่อื่นปกติ ไม่หวือหวาอะไร แต่พอมาวันนึงผมได้ทำเธอเสียใจมาก มันเป็นเพราะตอนนั้นเราเล่นวอลเลย์บอล แล้วผมตะโกนใส่อย่างดัง แต่จำไม่ได้แล้วว่าตะโกนว่าอะไร เธอบอกว่าไม่ชอบคนตะโกน หรือ ตะคอกใส่ ณ เวลานั้นเธอก็บอกเลิกผมทันที ส่วนผมก็ไม่ได้นึกอะไรเพราะคิดว่าอยากเลิกก็เลิกไป จนเวลาผ่านไป เป็นอาทิตย์ผมพึ่งรู้สึกตัวได้ว่า ผมควรง้อเธอ ใช่ครับ มันสายไป เธอบอกว่าเธอมีแฟนใหม่ และ ก็ไปมีอะไรกันแล้วด้วย ตอนนั้นผมโทษตัวเองอย่างเดียวเลยไม่คิดอยากจะมีใครอีกเลย แต่พอเวลาผ่านไป ช่วง มัธยมปลาย ม.4 ผมได้มีรักครั้งใหม่อีกครั้ง และมีไปเรื่อยๆ เปลี่ยนแฟนทุกๆเทอม เหมือนตัวเองอัดอั้นอยากจะมีแฟนมากเลย ตัวผมเองเป็นค่อนข้างขี้แยมากเลยครับ คิดมากนิดหน่อยคิดไปเองนิดหน่อยก็งอแง ร้อง เจ้าน้ำตา
และส่วนมากที่ผมเป็นบ่อยก็เพราะมันเป็นเพราะตัวผมเองคงดีไม่พอดีสำหรับใครเลย โดนบอกเลิกแทบจะทุกคน แต่ถ้าคิดเป็น 100% ก็ 90% ที่โดนบอกเลิกครับ จนผมเริ่มปิดใจ ไม่อยากให้ใจใครอีกเลยจากที่ตัวเองร้องไห้เก่ง งอแงเก่ง มีมุมน่ารักให้แฟน เอาใจใส่แฟน กลายเป็นว่าผมเป็นผู้ชายที่น่าเบื่อ ค่อนข้างไร้อารมณ์ไปเลย แต่ตอนผมเป็นแบบนั้น ก็ยังมีแฟนนะครับ ยัง งง ว่า ยังมีผู้หญิงชอบผู้ชายที่ตายด้านอีกเหรอ ...ครับเวลาผ่านไม่นาน ก็โดนบอกเลิกเพราะน่าเบื่อ เพราะมีใหม่ เพราะผมไม่ใส่ใจหรือสนใจ หรือไม่แสดงความรู้สึกอะไรเลย แต่ผมก็ยังมีแฟนไปเรื่อยหวังว่าจะมีสักวันนึงเราจะคนที่เราตามหา แต่ก็ไม่รู้ว่าไอคนที่เราตามหานี่ มันเป็นแบบไหน โหลดหลายแอพมาเล่น คุยๆได้สักพัก ก็หาย ก็เงียบ ก็หนีไปมีแฟนบ้าง จนผมไม่อยากจะโหลดอะไรมาเล่นเลยรู้สึกว่ามันก็เฉยๆ เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ผมตายด้านได้ประมาณ 2-3 ปีครับ ไม่ร้องไห้ ไม่งอแง ไม่สนใจ ไม่ใส่ใจ สายตาว่างเปล่า เหมือนว่าตัวเองไม่มีความรู้สึกที่อยากจะรักใครอีกเลยครับ ถึงแม้ผมจะพูดว่า รัก ชอบ แต่ผมก็รู้สึกแค่ว่า ก็พูดเฉยๆ แค่นั้นเอง ไม่เคยมีใครมองผมที่สายตาเวลาพูด และ ส่วนมากที่เข้ามาก็จะเป็นแนวรักแรกๆ หลัง หายตัว อ้างว่า ที่บ้านไม่โอเคบ้าง หนีไปมีแฟนใหม่ บอกเลิกผมเพราะว่าผมน่าเบื่อเกินไปแล้วผมก็เป็นแบบนี้อยู่อีก 1 - 2 ปี
ล่าสุดปัจจุบัน ณ ตอนนี้
จริงๆผมก็ยังตายด้านอยู่นะครับ แต่ ณ เวลาที่มาตั้งกระทู้นี้ผมไม่ได้เป็นคนแบบนั้นแล้วครับ ☻
เมื่อปีก่อนผมมีแฟนครับ คบกันได้ประมาณ 8-9 เดือน ผมโดนบอกเลิกเพราะว่าผมสนใจแต่เกมครับ ผมก็เข้าใจและจะปรับปรุงตัวครับ วันนั้นเธอให้ผมไปหาไปคุยกัน ในใจผมคิดว่าต้องโดนบอกเลิกแน่ๆ แหงๆ ใช่ครับ พอไปถึงโดนบอกเลิก เป็นครั้งแรกที่ผมขอโอกาสคนรัก ผมบอกเธอว่า ผมขอโทษ ให้โอกาสผมได้แก้ตัวได้ไหม ผมจะเล่นเกมให้น้อยลง ใช่มันเลิกเล่นทันทีเลยไม่ได้ ผมก็มีสังคมในเกมเช่นกัน แต่จะแบ่งเวลาให้เธอ แต่เธอก็บอกผมว่า พี่ เราขอโทษ เราเหนื่อยแล้ว เราไม่ไหวแล้ว เราขอโทษจริงๆ ผมรู้สึกว่า เธอเหนื่อยมากจริงๆ ตอนนั้นในหัวผมคิดได้แค่ว่าเพราะตัวเองที่ตายด้านหรือเปล่า ผมเลยต้องยอมรับผลรับที่ตัวกระทำ ผมไม่อยากให้เธอต้องมารู้สึกแย่ๆกับผมอีกผมเลยปล่อยเธอไป แต่ผมก็ไม่ร้องไห้นะครับ และ ไม่รู้สึกเสียใจเลย แค่ใจหายว่า ชีวิตประจำวันที่เราทำมา 9 เดือน ตื่นเช้ามา ทักหา หรือ เธอทักหาผม พอตื่นมาอีกวันนึงแชทว่างเปล่ามาก ผมก็เริ่มยอมรับตัวเอง แล้วก็เริ่มปิดใจตัวเองว่าพอแล้วหล่ะไม่อยากมีแล้วความรัก ตอนเราตั้งใจ เราก็เจอแต่อะไรแย่ๆ พอเราเจอคนที่ตั้งใจกับเรา เราก็ทำตัวแย่ใส่เขาโดยที่เราไม่รู้ตัวเลย หรือ รู้แต่เพียงแค่ปล่อยผ่าน
ผมปิดใจมาได้สักพักนึง สักพักใหญ่ๆ แต่ไม่ใหญ่มาก
และนี้คือคนที่ผมตกหลุมรักเธอเข้าแล้วจริงๆครับ
ผมได้โหลดแอพนึงมา Tinder แมทซ์หนักมาก แต่ไม่ทักใครไปเลย
จนผมเจอผู้หญิงคนนึง ซึ่งไม่ได้ตรงสเป็คผมเลย แต่แปลกแมทซ์ช่วงดึกประมาณตี 2 ใช่ครับผมก็ไม่ทัก แต่แปลกมาก ช่วงเช้าผมตื่น ประมาณ 8 โมงกว่า
ผมทักผู้หญิงคนนี้ไป " มอนิ่ง " ทักเหมือนสนิท ผมก็ งง ว่า เอ้าทักทำไม แล้วทักซะแบบเหมือนรู้จักกัน แต่เอาจริง มองรูปตั้งแต่แรกก็รู้สึกว่าเหมือนตัวเองเคยรู้จักเธอมาก่อน แต่ไม่รู้ว่าที่ไหน เมื่อไหร่ ตอนไหน ซึ่งเธออยู่ไม่ไกลจากผมเลย ห่างกันเพียง 1 กม. ก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย คุยมาได้สักพักจนได้ ไลน์ ig facebook ผมยอมรับว่า ณ ตอนนั้นผมก็ยัง งง อยู่ว่าทำไมถึงต่อมาใน พื้นที่privateของผมได้ ถามเรื่องส่วนตัวของเธอ ส่วนสูง น้ำหนัก เรียนที่ไหน เรียนคณะอะไร อายุเท่าไหร่ และผมก็ได้รู้ว่า เธออายุเท่าผม ห่างกับผมเพียง 1 เดือนเป๊ะๆ เราเกิดวันที่เดียวกัน แต่คนละเดือนกันเท่านั้น ผมเกิดก่อน เธอเกิดทีหลัง เธอเรียนหมอ ส่วนผมเรียนสถาปัตย์ เธอเป็นคนเดียวและคนแรกที่ทักหาผมก่อนในช่วงเช้า ในขณะที่สถานะเราของเราก็ยังไม่แน่ชัดว่าจะเป็นอะไร แต่เธอทักหาผมก่อนเสมอ เพราะผมตื่นสาย แต่เธอตื่นเช้า ผมรู้สึกแปลกใจเอ๊ะ ทำไมนะ ปกติมันจะต้องเป็นเราที่ต้องทักไปก่อนตลอดกับคนอื่นๆ ผมก็รู้สึกว่าตัวเองพิเศษจัง ที่ทำให้เธอทักเราก่อนได้ รู้สึกดีใจที่มีคนสนใจเรา เธอเป็นผู้หญิงที่ไม่ปล่อยให้บทสนาเงียบ หรือ ว่างเปล่าเลย และเมื่อคุยกันไปได้สักพัก ผมมีธุระที่ต้องออกบ้านไปห้างเพื่อซื้อของใช้ที่จำเป็น และ มันก็บังเอิญที่เธอต้องไปห้างนั้นเช่นกัน ไปทำธุระส่วนตัวเหมือนกัน ผมเลยถือโอกาสนี้ ขอเจอเธอสักหน่อย เธอตอบตกลงเพราะ ธุระของเธอก็ไปแล้วต้องเดินรอเวลาอยู่ดี ตอนนั้นผมเอาน้องสาวผมไปด้วย และ เมื่อถึงเวลาที่ผมและเธอถึงห้างเราก็ไปเจอกัน ผมเขินเธอหนักมากแต่ก็ต้องเก็บอากาศเพียงได้แต่แสดงอาการกวนๆ ออกไป ประมาณว่า อุ้ย "ตัวแค่เนี้ย"เอง ทำมือประมาณบ่งบอกว่าเธอตัวเล็ก ตัวเตี้ย
พอเจอผมรู้สึกดีมาก รู้สึกอบอุ่นแปลกๆ ทั้งๆแค่เดินคุยกันไปเรื่อย แต่ผมแปลกใจว่าเธอไม่ได้สนใจผมเพียงแค่ผม เธอสนใจน้องสาวผมด้วย น้องเป็นคนที่ไม่ค่อยพูดกับคนแปลกหน้า หรือ เพื่อนๆของผม นานๆทีจะพูด เธอทำความรู้จักน้องของผมและได้ชวนน้องของผมคุยไปเรื่อย ผมรู้สึกแปลกใจมาก ฮึ้ย !! มีคนที่สนใจเราและสนใจคนในครอบครัวเราด้วยงั้นหรือ ฮึ้ย !! จริงเหรอ เธอพูดถามน้องสาวผมเยอะมากน้องผมก็ทำได้แค่ขำแห้งๆ จนคุยกันได้สักพัก น้องผมเริ่มพูด เริ่มตอบ เริ่มถามเองบ้าง ใช่ผมแปลกใจ เธอทำให้น้องผมไม่เขินไม่อายเธอ แต่ผมก็ไม่ได้รู้สึกว่าสนใจแค่น้อง แต่ยังรู้สึกว่าเธอก็สนใจผมด้วย แปลกใจสุดๆ เราก็เดินคุยกันในห้างได้สักพัก เดินดูของใช้ ของกิน มันก็ถึงเวลาที่ผมจะต้องกลับบ้าน และ ถึงเวลาธุระของเธอ เราก็แยกย้ายกัน ผมรู้สึกประทับใจในตัวเธอมาก ทั้งการเทคแคร์คนในครอบครัวเรา แล้วก็เทคแคร์เรา พอถึงบ้านผมก็ทักหาเธอทันทีถึงแล้วนะ เธอก็ตอบกลับว่าธุระของเธอก็เสร็จแล้ว ขอตัวขับรถกลับบ้านก่อนนะ พอเธอถึงบ้านเธอทักหาผม และผมก็ตอบด้วยความไวแสง !! แต่ก็ยังไม่ได้รู้สึกชอบหรืออะไรอยู่ดี
จนคุยกันไปได้อีกสักพักนึง เราคุยกันไปเรื่อย หลายๆเรื่อง จนคุยกันเรื่องค่าเทอม ค่าเทอมของเธอแพงหูฉีกมาก !! มันเลยทำให้ผมรู้สึกว่าเฮ้ย เราโคตรต่างกันเลย คนละระดับกันเลย ค่าเทอมของเธอหลายแสนบาท ! ส่วนค่าเทอมของผม หมื่นต้น ผมเรียนจบ ค่าเทอมทั้งหมดยังไม่เท่าค่าเทอมของเธอเพียงเทอมเดียวเลย รู้สึกว่าเฮ้อไม่ไหวหรอก ผมกลัวผมจะเลี้ยงเธอไม่ไหว อาหารที่เธอกิน ร้านข้าวที่เธอกิน หรือ ของใช้ที่เธอใช้ ผมกลัวว่าผมจะจ่ายให้เธอไม่ไหว
#ตอนนี้ผมเริ่มรู้สึกว่าผมอยากจะเปิดใจกับคนนี้
และเธอก็ถามผมว่า "ที่คุยกับเธอเนี่ยผมรู้สึกยังไง " ผมตอบไวมาก " ไม่รู้ " เธอก็เปลี่ยนเรื่องไปคุยเรื่องอื่น เหมือนเธอรู้สึกเฟลนิดหน่อยเราก็คุยกันไปเรื่อย
ผ่านไปได้สักพักใหญ่ๆ ผมรู้สึกว่าผม อยากที่จะเปิดใจลองดูอีกครั้ง และ อยากจะทำมันให้ดีมากกว่าที่ผ่านๆ มา และพอเวลาผ่านไป ช่วงกลางดึกวันนึง เวลาประมาณ 22.00 ผมได้เปิดใจเล่าชีวิตของผม และ สิ่งที่ผมกังวลตอนนี้คือ ฐานะของผม ผมถูกเลี้ยงดูมาแบบที่ แม่พูดว่าเราเป็นผู้ชาย เราต้องหาเลี้ยงผู้หญิง ไม่ใช่ให้ผู้หญิงมาหาเลี้ยงเรา เราต้องดูแลชีวิตเขาได้ ไม่ใช่เราเอาเขามาลำบากด้วย ใช่ ผมคิดแค่ว่า ผมฐานะต่างกับเธอมาก ร้านอาหารที่เธอเข้า ของใช้ที่เธอใช้ สังคมที่เธออยู่ ผมคิดว่าเราต่างกันมากเกินไป จึงทำให้ผมไม่กล้าที่จะบอกความรู้สึกกับเธอตรงๆ หรือ ไม่กล้าที่จะไปรู้สึกว่าผมอยากคุยกับเธอ อยากเป็นคนพิเศษของเธอ
คุยกันจนเวลา 23.16 : เธอบอกผมว่า เธอรู้สึกดีกับผม ความรู้สึกมันอธิบายยากนะ เราจะรู้ด้วยตัวของเราเองว่าที่ตรงไหนที่เรามีค่า ที่ตรงไหนที่เรารู้สึกว่าเค้าเห็นคุณค่าในตัวเรา และที่เค้าคุยกับเธอมา ก็ไม่รู้ว่ามันใช่ช่วงโปรโมชั่นไหมนะ แต่เค้าเห็นเธอคุยกับเค้า โดยที่ทุกคำที่เธอพิมพ์มันมีประกายของความอยากคุย อยากจะเล่าสู่กันฟังในทุกๆเรื่อง เค้ารู้สึกว่าเค้าโชคดีในทุกๆวันเลยที่ตื่นมาแล้วเจอเธอทักมาหาตลอด แต่เหตุผลจริงๆมันหาไม่ได้หรอก มันเพิ่มขึ้นและมากขึ้นในทุกๆวันแหละ แล้วความรู้สึกที่บอกว่าเค้าชอบ เพราะ ไม่มีวันไหนเลยที่เค้า ไม่อยากจะเรียนรู้ในตัวเธอเลย ตื่นมาก็รู้สึกว่าอยากจะมีกันในทุกๆวัน ไม่ว่าจะในสถานะไหนก็ตาม
ณ เวลานั้นผมตกใจและซาบซ้ำกับคำที่เธอบอกผม ใจของผมรู้สึกอบอุ่น จากที่ผมไม่อยากจะเปิดใจให้ใคร จากที่ผมไม่รู้สึกอะไรกับใคร มันเหมือนว่าเธอมาทำให้โลกใบเทาๆ ใหญ่ๆ ของผมมันหายไป กลายเป็นว่าผมกลับมามีโลกสีชมพู ที่สดใสมากๆอีกครั้ง ผมก็อธิบายไม่ถูกแต่ผมรู้สึกว่า เธอมาเติมเต็มในสิ่งที่ผมขาดหายไป โดยที่ผมไม่ต้องร้องขออะไรเลย ไม่ต้องกังวลใดๆ เวลาผ่านไป เราสนิทกันมากขึ้น สนิทกันไปเรื่อยๆ จนเธออยากที่จะเลี้ยงของกินผม เธอถามผมว่าอยากกินไหมเดี๋ยวไปซื้อไปฝาก ซึ่งผมดูจากหน้าตาของกินนั้นแล้วแพงแน่นอน แต่ไม่อยากปฏิเสธเธอ ก็เลยบอกว่าเดี๋ยวผมออกเองซื้อให้ด้วยนะ เธอก็ไม่ยอมบอกว่าจะเลี้ยง จนเธอต้องบอกว่าอะงั้นหารกัน แต่สุดท้ายเธอก็พูดจนผมต้องให้เธอเลี้ยง เพราะเธอจะเลี้ยง ผมเกรงใจเธอมากแต่รับไว้ด้วยความยินดีแล้วก็บอกเธอว่า ครั้งหน้าไม่เอาแล้วนะ เดี๋ยวผมออกเอง เราสนิทกันมากขึ้น เราคุยกันมากขึ้น ผมเคยคิดว่าอยากคุยเรื่องอนาคตกับใครสักคน แต่เคยลองคุยแล้วก็โดนมองว่าผมเพ้อฝันไปวันๆ ผมจึงไม่กล้าคุยกับใครอีก ผมเลยลองคุยกับเธอดูในเรื่องอนาคต มันกลับกลายเป็นว่าเธอชอบที่จะคุยเรื่องนี้และชื่นชมความคิดกับสิ่งที่ผมเป็นอยู่ ณ ตอนนี้ แต่ผมก็ยังกังวลเรื่อง ฐานะ ผมเลยได้พูดกับเธออีก พูดหลายรอบมาก จนเธอต้องพูดจริงๆ จังๆ กับผมว่า
: เค้าไม่ได้รู้สึกขอให้ผู้ชายมาดูแลเรื่องเงินนะ ขอแค่ดูแลด้วยใจจริงๆก็พอ เราเลือกไม่ได้ป้ะว่าจะต้องเกิดมาในฐานะอะไร โชคชะตาคนเรามันมาไม่เหมือนกัน คือขอแค่เธอไม่เดือดร้อนเรา เราไม่เดือดร้อนเธอแล้วดูแลกันไป ก็น่ารักและป้ะะ
มันทำให้ผมมองข้าม ปัญหา ฐานะของผมไปเลย สิ่งที่ผมคิดมากและกลัวว่าเธอจะไม่โอเค มันกลับกลายเป็นว่ามันไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป
เธอเป็นความสุขของผมไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ ผมรู้สึกว่าเธอนี่แหล่ะ คือคนที่ผมรัก คือคนที่ผมอบอุ่นใจ คือคนที่ผมพร้อมจะเล่าทุกๆอย่างให้ฟังในแต่ละวัน เธอนี่แหล่ะคือคุณแม่ของลูกผม ... ยังมีต่อนะครับ เขียนไม่พอแล้ว (( ต่อใต้กระทู้นะครับ ))