JJNY : ติดเชื้อ 18,912 เสียชีวิต178│สงครามเปลี่ยน สหรัฐแจ้ง│หนุ่มใหญ่ฉีดวัคซีนบ่าย-ตกดึกเสียชีวิต│หนี้ครัวเรือนจ่อแตะ93%

กระทู้ข่าว

รัฐบาล โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19) วัคซีน (Vaccine) ข่าวต่างประเทศ ข่าวเศรษฐกิจ

ทุบสถิติอีก ยอดโควิดวันนี้ ติดเชื้อใหม่พุ่ง 18,912 ราย เศร้าเสียชีวิต 178 ราย

https://www.matichon.co.th/covid19/news_2858818

ทุบสถิติอีก ยอดโควิดวันนี้ ติดเชื้อใหม่พุ่ง 18,912 ราย เศร้าเสียชีวิต 178 ราย

เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม ศูนย์ข้อมูลโควิด-19 เผยแพร่ ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันเสาร์ที่ 31 กรกฎาคม 2564 รวม 18,912 ราย จำแนกเป็น
ติดเชื้อใหม่ 18,102 ราย
ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 810 ราย
ผู้ป่วยสะสม 568,424 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
หายป่วยกลับบ้าน 10,750 ราย
หายป่วยสะสม 364,494 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน)
ผู้ป่วยกำลังรักษา 200,510 ราย
เสียชีวิต 178 ราย

สงครามเปลี่ยน สหรัฐแจ้ง สายพันธุ์เดลตาระบาดง่ายอย่างกับ อีสุกอีใส
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6538560

สงครามเปลี่ยน – ซีเอ็นเอ็น รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค สหรัฐอเมริกา หรือ ซีดีซี เผยแพร่เอกสารภายในองค์กรว่า “ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่ให้รู้ว่า สงครามเปลี่ยนแล้ว” เมื่อโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาที่กำลังระบาดอย่างหนักในสหรัฐ ทำให้มีอาการป่วยรุนแรงและแพร่ได้ง่ายมากเช่นเดียวกับเชื้ออีสุกอีใส

ข้อมูลจากเอกสารการนำเสนอของซีดีซี เผยแพร่โดย วอชิงตัน โพสต์ สื่อทรงอิทธิพลของอเมริกา ระบุข้อความว่า ไวรัสกลายพันธุ์ สายพันธุ์เดลตา ทำให้ผู้ติดเชื้อป่วยแรงว่าสายพันธุ์อื่นก่อนหน้า และแพร่เร็วเหมือนอีสุกอีใส แม้แต่ผู้ที่ได้รับวัคซีนโควิด-19 ครบโดสแล้วก็มีโอกาสแพร่เชื้อได้ในอัตราเดียวกันกับผู้ที่ไม่ได้รับวัคซีน

นางโรเชลล์ วาเลนสกี ผู้อำนวยการซีดีซียืนยันว่าเอกสารดังกล่าวเป็นของแท้และไม่ได้ประหลาดใจใดๆ

รายงานเตือนว่าอยากให้ประชาชนเข้าใจ แต่ไม่ตื่นตระหนกว่าไวรัสชนิดนี้ติดต่อได้มากที่สุดชนิดหนึ่ง เช่นเดียวกับหัดและอีสุกอีใส

ซีดีซีมีแผนที่จะเผยแพร่ข้อมูลในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นซึ่งจะเป็นการสนับสนุนการตัดสินใจของนางวาเลนสกีที่แนะนำให้ทุกคน รวมทั้ง ผู้ที่ฉีดวัคซีนครบแล้วควรใส่หน้ากากอนามัยภายในบ้านเพราะไวรัสยังคงตกค้างภายในอาคาร

ส่วนทุกคนที่อยู่ในโรงเรียน ทั้งนักเรียน เจ้าหน้าที่และผู้เยี่ยมชมโรงเรียนควรสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา พร้อมทั้งย้ำว่าทุกคนต้องปฏิบัติตามมาตรการต่างๆ เพื่อควบคุมการระบาด

ข้อมูลซีดีซีพบว่าไวรัสสายพันธุ์เดลตาแพร่ระบาดได้ง่ายเหมือนอีสุกอีใส อัตราการแพร่โดยเฉลี่ย คือ ผู้ที่ติดโรค 1 คนจะแพร่ให้คนอื่นได้ 8-9 คน ขณะที่เชื้อไข้หวัดทั่วไประบาดจากคนหนึ่งไปยังคนอื่นได้ประมาณ 2 คน ซึ่งการระบาดนี้ รู้จักกันในชื่อของ R0

หากคนที่ฉีดวัคซีนแล้วติดเชื้อโควิด-19 ก็จะมีปริมาณไวรัสจำนวนมากในร่างกายพอๆ กับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนและแพร่ให้คนอื่นได้เช่นเดียวกับคนที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน

ส่วนนายวอลเตอร์ โอเรนสไตน์ หัวหน้าศูนย์วัคซีนอีโมรีกล่าวว่าคนที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 อาจจะไม่แสดงอาการเมื่อติดเชื้อและแพร่เชื้อไวรัสได้ในระดับเดียวกันกับคนที่ไม่ได้ฉีดวัคซีน แต่คนที่ฉีดวัคซีนแล้วอาจจะปลอดภัยกว่า

เอกสารของซีดีซีเผยให้ทราบว่าวัคซีนป้องกันไม่ให้เกิดอาการรุนแรงได้มากกว่าร้อยละ 90 แต่มีประสิทธิภาพในการป้องกันการแพร่กระจายลดลง จึงเท่ากับว่ามีการกระจายของโรคมากขึ้นและมีการแพร่ระบาดในชุมชนมากขึ้น แม้ว่าได้รับวัคซีนแล้วก็ตาม

ขณะที่วัคซีนยังลดอัตราการเสียชีวิต 10 เท่าและลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดได้ 3 เท่า

ซีดีซีแนะนำว่าให้ฉีดวัคซีนประกอบกับสวมหน้ากากอนามัยเพราะเชื้อไวรัสโควิด-19 สายพันธุ์เดลตาก่อให้เกิดความรุนแรงของโรคมากกว่าสายพันธุ์อื่น

ขณะนี้ สหรัฐกำลังเผชิญกับการระบาดของสายพันธุ์เดลตา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ที่มีคนได้รับวัคซีนไม่กี่คน

มหาวิทยาลัยจอห์นส์ ฮ็อบสกินส์ ของสหรัฐ ประเมินว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันละ 66,900 คนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยนับตั้งแต่สหรัฐมีการระบาดต่ำสุดในปีนี้ ที่มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 11,299 รายต่อวันเมื่อวันที่ 22 มิ.ย. และเป็นจำนวนที่สูงกว่าจำนวนผู้ติดเชื้อเมื่อฤดูร้อนที่แล้วและเมื่อวันพุธ มีผู้ติดเชื้อสูงขึ้นทุกรัฐ ยกเว้นเพียงรัฐเดียว ในรอบ 7 วันที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า

นางวาเลนสกีกล่าวว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นกำลังใจให้ คือ มีผู้คนมากขึ้นที่รับมือกับสถานการณ์เลวร้าย รวมทั้ง องค์กรต่างๆ ภาคธุรกิจ รัฐต่างๆ และคนท้องถิ่น

ขณะที่หน้าที่ของหน่วยงานด้านสาธารณสุขต้องสื่อสารให้ประชาชนเข้าใจถึงความสำคัญของการฉีดวัคซีนซึ่งเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการรับมือกับสายพันธุ์เดลตา

ด้านนายโจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ประกาศว่าจะกระตุ้นให้ชาวอเมริกันได้รับวัคซีนมากขึ้น รวมทั้ง เจ้าหน้าที่รัฐบาลกลางทุกคน ไม่อย่างนั้น อาจจะต้องเจอกับกฎปฏิบัติที่เข้มงวด

พร้อมทั้งสะท้อนภาพว่าชาวอเมริกันกำลังจะเสียชีวิตทั้งที่ไม่อยากเสียชีวิต ลองอ่านข่าวดูก็จะเห็นว่าผู้ป่วยที่ไม่ได้ฉีดวัคซีนกำลังนอนรอความตายจากโควิด-19 และขอให้แพทย์ฉีดวัคซีนให้ แต่ถึงตอนนั้นก็สายไปเสียแล้ว

ญาติคาใจหนุ่มใหญ่ฉีดวัคซีนบ่าย-ตกดึกเสียชีวิต งงความดันต่ำแต่ยังฉีดให้

https://www.dailynews.co.th/news/108905/

ครอบครัวหนุ่มใหญ่วัย 57 คาใจ หลังไปฉีดวัคซีนตอนบ่าย ตกดึกหายใจไม่ออก ส่ง รพ.ไม่ทัน เสียชีวิต เชื่อเป็นเพราะฉีดวัคซีน ชี้ร่างกายแข็งแรงแม้มีโรคภูมิแก้กับหัวใจโต งงวันฉีดวัดความดันต่ำแต่ก็ยังฉีดให้ วอนหน่วยงานเกี่ยวข้องตรวจสอบ

เมื่อวันที่ 30 ก.ค. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หลังได้รับแจ้งว่า มีชายวัย 57 ปี ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 แล้วเสียชีวิตในวันเดียวกัน ญาติได้นำศพมาตั้งสวดอภิธรรมยังศาลา 2 ของวัดดังกล่าว เมื่อไปถึงโดยได้พบกับบุตรสาว 2 คนของนายประคอง รอดเพชร อายุ 57 ปี พร้อมญาติญาติกำลังเตรียมข้าวของพิธีในการสวดพระอภิธรรมศพของนายประคอง ที่เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน

ลูกสาวนายประคอง กล่าวว่า เมื่อวันที่ 27 ก.ค.ที่ผ่านมา พ่อได้ไปฉีดวัคซีนแอสตราเซเนกาที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งใน จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 13.30 น. ของวันดังกล่าว หลังจากนั้นก็ได้กลับมาที่บ้าน แต่ช่วงกลางดึกเกือบ 23.00 น. คุณพ่อมีอาการเหนื่อยหายใจไม่ออกจึงรีบนำตัวส่ง รพ.ไทรน้อย แต่เสียชีวิตก่อนถึง รพ.

ลูกสาวนายประคอง กล่าอีกว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตนกับแม่และญาติๆ รู้สึกเสียใจและคาใจเป็นอย่างมาก เชื่อว่าสาเหตุการเสียชีวิตของพ่อน่าจะมาจากการแพ้วัคซีนที่ฉีดเข้าไป เพราะปกติจะเป็นแข็งแรง แม้จะมีโรคประจำตัวคือ โรคหัวใจโตและภูมิแพ้ วันที่ไปฉีดวัคซีน ตรวจความดันพบว่า ความดันต่ำ แต่ทางรพ.ก็ฉีดให้ เรื่องที่เกิดขึ้นตนอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบให้แน่ชัด เพราะเชื่อว่า พ่อเสียชีวิตจากการฉีดวัคซีนในครั้งนี้อย่างแน่นอน ซึ่งหากตนถ้ารู้ว่าฉีดวัคซีนแล้วจะต้องเสียพ่อไป ตนคงไม่ให้คุณพ่อฉีดอย่างแน่นอน.

แก้ไขข้อความเมื่อ