รักสามเศร้า….บทที่ 1 (รีไรท์)

กระทู้สนทนา

.


                  "บูมจะรักอาร์คนเดียวตลอดไป"

                   ข้อความสั้น ๆ ถูกส่งไปในไลน์ที่บันทึกเอาไว้ในโทรศัพท์ ที่รัก ! ชื่อนั้นโชว์หลาบนหน้าจอในช่วงประมาณสี่ทุ่มกว่า ๆ เด็กหนุ่มวัยสิบสามที่พึ่งขึ้นมัธยมเมื่อไม่กี่เดือนมานี่เอง เขาเริ่มมีความรักแล้ว

                     ก่อนหน้านั้นที่จะคบกันเขารู้สึกว่าผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างหน้านี่น่ารัก สวย ผิวขาว ดูมุมไหนก็น่ารักไปหมด ผู้หญิงคนนี้ คือ อาร์ เพื่อนที่เรียนห้องเดียวกันกับเขานั่นเอง

                    บูมนั่งโต๊ะแถวหลังห้อง อาร์นั่งโต๊ะแถวที่สอง ถ้านับเป็นแถวหน้ากระดาน ถ้านับเป็นแถวตอนลึกก็ยังเป็นแถวที่สองอีกเหมือนเดิม

                    บูมนั่งแถวที่สี่โต๊ะสุดท้าย ซึ่งนั่งในแนวทะแยงมุมกับอาร์ เป็นมุมพอดีที่บูมมองเห็นอาร์ในทุก ๆ วัน เมื่อแน่ใจแล้วว่าตนเองชอบผู้หญิงคนนี้ จึงให้เพื่อนสนิทไปขอเบอร์อาร์มาให้ แล้วบูมก็ได้คุยกับอาร์สมใจ

                     ข้อความในไลน์ขึ้นสถานะว่าอ่านแล้ว และถูกตอบกลับด้วยสติ๊กเกอร์ฝันดี ตามด้วยรูปหัวใจ แค่นี้ก็ทำให้เขานอนหลับฝันดีได้

                     "นอนดึกทุกวัน ระวังนะระวังจะเรียนไม่จบหนังสือหนังหาอ่านบ้างมั้ย" เสียงแม่บ่นข้างนอกห้อง ถึงจะยังไม่เปิดประตูเข้ามาก็ได้ยินเสียง บ้านของบูมชั้นสองทั้งชั้นทำด้วยไม้ ห้องนอนบูมทำด้วยไม้อัดธรรมดา ดังนั้นจึงค่อนข้างที่จะไม่เก็บเสียง

                       บูมลุกขึ้นจากที่นอนหยิบผ้าเช็ดตัวพาดบ่า สูดหายใจเข้าเต็มปอด ตั้งท่าเปิดประตูเตรียมวิ่งให้พ้นมือแม่ เพราะจะต้องโดนฝ่ามือพิฆาตของแม่แน่นอนถ้าวันไหนที่แม่ต้องเดินขึ้นมาปลุกแบบนี้ บูมต้องโดนฝ่ามือแม่ตีก่อนทุกครั้ง แต่มันก็ไม่เคยทำให้หลาบจำ ครั้งนี้ก็เช่นกันบูมโดนเต็ม ๆ ที่หัวไหล่จะว่ามันไม่แรงแต่มันก็แสบพอตัว

                     บูมรีบวิ่งเข้าห้องน้ำพร้อมเอามือลูบ ๆ วน ๆ เป็นวงกลมเพื่อบรรเทาอาการแสบที่แม่ตีเมื่อครู่

                      "รีบอาบน้ำแต่งตัวสายแล้ว ไม่ให้ปลุกสักวันมีมั้ย ขึ้นมัธยมแล้วไม่ใช่เด็ก ๆ หัดมีความรับผิดชอบต่อตัวเองบ้าง" เสียงแม่บ่นตามหลังมาขณะที่บูมวิ่งลงบันไดเพื่ออาบน้ำในตอนเช้า

                     ผู้เป็นแม่ส่ายหัวให้กับลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ที่อายุเพียงแค่นี้มีแฟนแล้ว กลางคืนก็ไม่ยอมนอน คุยโทรศัพท์ทั้งคืน นึกแล้วคนเป็นแม่ก็อยากจะยึดโทรศัพท์คืนจริง ๆ

                       ไม่น่าใจอ่อนซื้อให้เลย แต่ถ้าไม่ซื้อให้ก็จำเป็นต้องใช้ เวลาพ่อแม่ไปธุระกลับดึกได้โทรบอกกล่าวกัน นึกอย่างเอือมระอาในตัวลูกชายสุดที่รักคนนี้

                       บูมมาถึงโรงเรียนเสียงออดของโรงเรียนดังพอดี ตามด้วยเพลงมาร์ชประจำโรงเรียนที่คุ้นหู เปิดดังทั่วโรงเรียนเป็นสัญญาณเตือนนักเรียนทุกคนให้มาเข้าแถวหน้าเสาธงให้เรียบร้อย

                      วันนี้บูมก็ยังมาทันเข้าแถวเพราะเพลงมาร์ชร้องยังไม่จบ บูมคิดว่าถ้าจะเอากระเป๋าไปเก็บก่อนคงไม่ทันแน่ กลัวว่าจะได้ไปยืนหน้าเสาธง แบบนี้คงอายอาร์แย่เลย เอากระเป๋าเข้าแถวด้วยนี่แหละ ครูจะรู้ว่าพึ่งมาก็ตามถึงอย่างไรก็ยังทันเข้าแถวตอนเช้า

                      เมื่อบูมมองไปยังแถวผู้หญิง บูมเห็นอาร์กำลังมองมาที่ตนเองพอดี บูมยกมือทำสัญลักษณ์โอเคให้กับอาร์ จากนั้นก็เอามือแตะไหล่เพื่อนขยายแถวให้เข้าที่ เพื่อเตรียมตัวเคารพธงชาติในตอนเช้า

                      เพลงชาติบรรเลงขึ้นโดยมีประธานนักเรียนนำร้องก่อนท่อนแรก แล้วตามด้วยนักเรียนทุกคนร้องประสานเสียงพร้อมกันในท่อนต่อไปจนจบเพลง ตามด้วยสวดมนต์ไหว้พระ และพบปะครูเวณหน้าเสาธง

                       เช้านี้ห้อง ม.1/10 เป็นชั่วโมงแนะแนว เป็นห้องของบูมกับอาร์เอง ชั่วโมงนี้ครูแนะแนวสิบนาทีจากนั้นก็ปล่อยตามสบาย แต่ต้องอยู่ภายในห้องเท่านั้น

                     เพื่อนบางคนจับกลุ่มคุยกัน เพื่อนบางคนเด็กเรียนก็หยิบหนังสือขึ้นมาอ่าน บางคนอ่านการ์ตูน เพื่อนผู้หญิงอีกกลุ่มจับกลุ่มเม้าท์เรื่องเพื่อนห้องนั้นห้องนี้กันคุณครูก็ไม่ได้ว่าอะไร แค่อย่าเสียงดังรบกวนห้องอื่น ๆ ก็พอ

                     บูมกับอาร์นั่งนิ่ง ๆ ก้มหน้าเอามือสอดเข้าใต้โต๊ะ กดพิมพ์ไลน์คุยกัน เมื่อกดส่งปุ๊บก็เงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กันปั๊บ ทำให้เพื่อนบางคนที่สังเกตเห็นแซวสองคนจนหน้าแดง ถึงกับต้องเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋ากันทันที

                      ทั้งสองคนถูกยกให้เป็นคู่รักประจำห้อง  และ เพื่อน ๆ ยังคอยลุ้นว่าจะมีคู่ที่สองอีกต่อไปหรือไม่

                      ทั้งสองคนคบกันมาเรื่อย ๆ คุยกันก่อนนอนทุกคืน พอขึ้น ม.2 จากที่แค่คุยกันผ่านไลน์ความสัมพันธ์ก็พัฒนาขึ้นมาเป็นนั่งทานข้าวด้วยกัน เริ่มไปไหนมาไหนด้วยกันบ่อยขึ้น สนิทกันมากขึ้น

                    "บูมจะรักอาร์ตลอดไป" ประโยคนี้ยังถูกส่งไปให้ทุก ๆ วัน ไม่มีวันที่บูมจะลืม ค่ำคืนนี้ก็เช่นกัน เนื่องจากเป็นวันศุกร์บูมจะคุยกับอาร์ได้ดึกกว่าทุกวัน ไม่ต้องรีบนอนเพราะอย่างไรพรุ่งนี้ก็ตื่นสายได้

                    "เค้าคิดถึงอาร์ไม่ได้เจอหน้ากันตั้งสองวัน" เขาพูดกลั้วยิ้ม อาร์จะรู้ไหมว่าเขากำลังยิ้มเขินอยู่

                      "เค้าก็คิดถึงบูมเหมือนกัน พรุ่งนี้ไปบ้านย่าไม่ใช่เหรอนอนดึกจัง" เม้มปากอมยิ้ม รับรู้ว่าคนในสายกำลังยิ้มอยู่เช่นกัน ตนเองนั้นเขินบิดม้วนตัวไปมาบนที่นอนอยู่คนเดียว

                     "คุยกับแฟนอยู่ไง อยากหยุดเวลาไว้ตรงนี้ ไม่อยากให้เข็มนาฬิกาเดินเลย" เขาตอบกลับมา

                      "ปากหวานจัง" พูดพร้อมหัวเราะ

                     "รู้ได้ไงเคยชิมแล้วเหรอ ฮา " พูดแซวคนในสาย พร้อมหัวเราะเช่นกัน ตอนนี้โลกทั้งใบกลายเป็นสีชมพูหมดแล้ว

                      "แหนะ ทลึ่งนะบูม อยากให้พรุ่งนี้เป็นวันจันทร์จังเลยคิดถึง" บอกคิดถึงเขาได้เต็มปากเต็มคำ เพราะรักเขามากมายเหลือเกิน

                      "บูมก็คิดถึงอาร์นะ บูมจะรักอาร์ตลอดไป" แล้วสองคนก็หลับฝันหวานไปพร้อมกันในคืนนี้

                      เช้านี้แม่ไม่ปลุก ปล่อยให้เขานอนเต็มที่ เพราะเป็นวันหยุด เสาร์อาทิตย์เขาต้องไปบ้านปู่กับย่า ไปอยู่เป็นเพื่อนเนื่องจากไม่นานมานี่อาของเขาเสียชีวิตด้วยอุบัติเหตุ รอดชีวิตแค่คนเดียวคือลูกสาววัยห้าขวบในตอนนั้น

                    รถเก๋งพังยับเดชะบุญน้องเบสไม่เป็นอะไรมาก หัวแตกร่างกายบอบช้ำนิดหน่อย แต่คนเป็นพ่อแม่เสียชีวิตคาที่ทั้งสองคน

                   ปู่ย่ารวมทั้งพ่อแม่ของเขาและญาติ ๆ ต่างเสียใจมากกับการสูญเสียครั้งนี้ คนที่ทำใจไม่ค่อยได้เห็นจะเป็นย่า พ่อจึงให้เขามาอยู่ด้วยทุกวันหยุด หรือ ช่วงปิดเทอม

                     การไปบ้านย่าในรอบนี้ทำให้บูมพบเจอผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นหลานของยายจันทร์คนข้างบ้านย่านั้นแหละ ยายจันทร์รู้จักกับบูมดี ยายเคยเล่าเรื่องหลานสาวที่อยู่กรุงเทพให้ฟังอยู่บ่อย ๆ

                     บอกว่าหลานสาวอายุเท่ากับเขา หลานคนเล็ก ยายจันทร์มีหลานสองคน คนโตน่าจะเป็นพี่บูมสามปี แต่บูมก็ยังไม่เคยเจอตัวจริงสักที

                    ในการมาบ้านของย่าวันนี้ บูมเห็นผู้หญิงคนหนึ่งนั่งที่เปลหน้าบ้านของยายจันทร์ กำลังก้มหน้าก้มตาเล่นโทรศัพท์อยู่ ดูแล้วน่าจะรุ่นราวคราวเดียวกัน หรือนี่จะเป็นเนสหลานยายจันทร์ที่พูดถึง

                   หรือจะเป็นอีกคนที่เป็นพี่สาว บูมแอบยืนดูอยู่รั้วข้างบ้าน ใช้ต้นชะอมกับต้นกระถินเป็นที่กำบังตัวไว้ ทันไดนั้นผู้หญิงคนนั้นเหมือนรู้ตัวว่ามีคนมอง อยู่ จึงหันหน้ามาทางรั้วบ้านย่าของบูม

                   "มองทำไม" เนสถามด้วยไม่สบอารมณ์นัก อยู่ ๆ ก็มาแอบมองกันดื้อ ๆ แบบนี้

                   บูมไม่ทันได้ตอบ เนสก็วิ่งเข้าบ้านไปแล้ว ไม่นานเสียงย่าก็ตะโกนเรียกเอาชะอมที่ให้ไปเก็บ ย่าจะเอามาทำกับข้าว บูมจึงรีบเก็บชะอมกับกระถินไปให้ย่าก่อนที่จะโดนบ่นชุดใหญ่

                     คืนนี้ฝนตกพึ่งหยุด เสียงอึ่งอ่างร้องกันระงมไปทั่ว ได้บรรยากาศบ้านทุ่งของแท้ เวลานี้เพียงสองทุ่มเองยังไม่ใช่เวลาที่อาร์จะคุยกับบูม

                    อาร์มีเวลากำหนดคุยกันเพราะที่บ้านห้ามเรื่องมีแฟน บูมเข้าใจมันเป็นความห่วงใยของพ่อแม่ เพราะฉะนั้นแล้วเวลาคุยกันของอาร์คือช่วงเข้านอนสี่ทุ่มเป็นต้นไป หรือ หลังจากละครหลังข่าวจบเป็นต้นไปนั่นเอง

                    บูมนั่งคิดถึงหลานสาวยายจันทร์คนนั้น เธอหน้าตาดี หุ่นดี ผิวขาวตามฉบับเด็กกรุงเทพ บูมอยากรู้ว่าเธอชื่ออะไรเป็นหลานคนโตหรือหลานคนเล็ก แต่คนนี้คนโตหรือคนเล็กล่ะ จะถามย่าดีไหม หรือ ถามน้องเบสดี บูมนอนในเปลที่ผูกไว้กับเสาร์หน้าบ้านคิดไปเรื่อยเปื่อยคิดถึงเรื่องหลานยายจันทร์คนที่เห็นเมื่อตอนหัวค่ำ

                    "พี่บูมทำไร" น้องสาวลูกพี่ลูกน้องเดินมาหา น้องเบสที่ตอนนี้มีอายุได้แปดขวบ ตัวผอม ๆ  บูมชอบเรียกน้องเบสว่า น้องแห้ง บูมรักน้องเบสมาก สงสารน้องที่ต้องกำพร้า และน้องเบสก็ติดพี่บูมมากเหมือนกัน

                      น้องเบสเดินมาหาบูมที่นอนอยู่ในเปล นั่งลงบนตัวพี่ชายโดยไม่สนใจว่าจะหนักหรือป่าว

                      "แห้งพี่บูมถามอะไรหน่อยดิ" คนที่ถูกเรียกว่าแห้งทำหน้ามุ่ย ไม่ชอบชื่อนี้เลย เอามือกอดอกหน้าเชิด

                      "เรียกชื่อน้องเบสดี ๆ ก่อน แล้วน้องเบสจะตอบ" เด็กหญิงค่อนขอด เชิดหน้าให้พี่ชาย

                      "รู้เหรอว่าพี่บูมจะถามอะไร" พูดกลั้วหัวเราะ เอ็นดูในท่าทางของน้องสาวนัก รู้ว่าน้องเบสไม่ชอบให้เรียกแห้งเขาก็ยังชอบแกล้งเรียกเสมอ

                       "ไม่รู้ ! แต่ถ้าพี่บูมไม่เรียกชื่อน้องเบสดี ๆ  ถามอะไรน้องเบสก็จะไม่ตอบ" ขู่เข้าให้

                      "ครับ ๆ ก็ได้ครับ น้องเบสครับหลานยายจันทร์ชื่ออะไรครับ คนที่อยู่กับยายจันทร์ตอนนี้อ่ะ"

                    "อ่อ ชื่อพี่เนส พี่สาวพี่เนสชื่อพี่นิว" เด็กหญิงตอบเสียงในแจ๋วด้วยรอยยิ้ม

                     "โอเคครับยายแห้งเอ้ย ฮา " เด็กน้อยทำท่าทีโกรธ เอามือเล็ก ๆ หยิกเข้าไปที่ต้นแขนพี่ชายโทษฐานที่เรียกว่ายายแห้ง แล้ววิ่งเข้าไปในบ้าน บูมไม่เจ็บเท่าไหร่แต่แกล้งทำเป้นเจ็บร้องโอ้ย วิ่งตามเข้าไปในบ้านด้วยอีกคน

                     เมื่อย่าเห็นแบบนั้นต้องดุหลานสองคนเอาไว้ เวลานี้ไม่ใช่เวลามาหยอกเล่นกันเสียงดังกลางค่ำกลางคืนแบบนี้ แต่ก็ทำเอาคนเป็นย่ายิ้มออกมาได้เช่นกัน

                     เขาอาบน้ำเตรียมตัวรอคุยกับอาร์เหมือนอย่างเช่นทุกวัน ระหว่างนอนรอเวลาที่จะคุยกับอาร์ เขาอดที่จะนึกถึงเนสไม่ได้เลย

                     ชื่อเนสเหรอ ! รูปร่างหน้าตาเนสสวยน่ารักไม่แพ้อาร์เลยสักนิด แต่ดูแล้วน่าจะหยิ่ง เขานอนกลิ้งไปกลิ้งมาบนที่นอน นึกไปถึงหลานสาวของยายจันทร์ อีกไม่กี่นาทีก็จะสี่ทุ่ม

                    เมื่อถึงเวลาบูมกดวิดีโอคอลคุยกับอาร์ทันที ด้วยความรักด้วยความคิดถึงห่วงหาที่สองวันไม่ได้เจอกัน ทำให้มีเรื่องราวมากมายมาคุยกันได้เยอะแยะหลายเรื่อง แล้วสองคนก็หลับไปพร้อมกันในที่สุด

จบบท..

*เรื่องนี้เขียนไว้เมื่อ 2 ปีที่แล้ว ยังไม่มีประสบการณ์ในการเขียนเท่าไหร่ค่ะ (มากเลยแหละ)  เนื้อหาล่อแหลม หรือ ไม่ดีขออภัยด้วยนะคะ จขกท.จะไม่แก้ ! 😅 ลายมือของส่วนเกินก็จะเป็นนิยายแนวรัก ๆ แบบนี้เสียส่วนใหญ่ค่ะ เรื่องนี้รู้สึกว่าจะเป็นพี่ออมรัชต์สารินท์ทำปกให้ คิดถึงจุง*
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่