แรงเฉื่อย



     ผมเคยสงสัยครับ ว่าเวลาเราพยายามแก้นิสัยอะไรบางอย่างให้ดีขึ้น
     ทำไมมักไม่มีคนเห็น หรือที่หนักไปใหญ่ คือโดนคำพูดซ้ำเติมให้หมดกำลังใจ
     และพาลทำให้เซ็ง หรือบางทีก็เลิกเลย ไม่รู้จะทำไปทำไม
 
     มาสังเกต ว่าเรื่องนี้อาจล้อกับธรรมชาติอย่างนึง คือ แรงเฉื่อยหรือโมเมนตัม คนเรียนวิทย์อาจคุ้นเคยบ้าง
     วัตถุใดที่เกิดการเคลื่อนที่แล้ว จะเกิดแรงเฉื่อยในตัว ทำให้วัตถุเคลื่อนที่ได้เอง และเราก็ออกแรงน้อยลงได้
     แต่เวลาจะหยุดหรือเปลี่ยนทิศทาง ก็ต้องใช้แรงมาก เพื่อต่อสู้กับแรงเฉื่อยเช่นกัน
     เช่น การปั่นจักรยาน ตอนเริ่มปั่นจะใช้แรงมาก พอรถเริ่มวิ่งจะใช้แรงน้อยลง พออยากจะหยุดหรือเลี้ยวก็ต้องใช้แรงมากอีกครั้ง เพื่อล้างแรงเฉื่อย ที่เป็นผลจากเราสร้างขึ้นเองในตอนแรก
     
     นิสัย หรือกรรมใด ก็อาจอยู่ใต้กฏนี้ครับ
     นิสัยอะไร ที่เราทำเยอะๆ หรือทำมานาน ผลกรรมที่ไปกระทบคนอื่น ก็เกิดแรงเฉื่อย คือทุกคนเห็นได้เองว่าเราเป็นอย่างนี้ โดยเราไม่ต้องทำ
     ทีนี้พอเราจะแก้หรือหยุด ก็ต้องใช้แรงมาก หรือใช้เวลามาก เพื่อจะลบล้างแรงเฉื่อยนั้นให้ได้
 
     สมมติ เราเป็นคนใจร้อน
     หนึ่งหรือสองสัปดาห์ ที่เราฝืนใจเย็น ไม่พูดไม่บ่น ความเปลี่ยนแปลงนี้สำหรับเราเหมือนมันนานมาก
     แต่กับคนอื่น เค้ามีแรงเฉื่อย ว่าเราทำแบบเดิมอยู่ตลอด เค้าไม่ได้มาสังเกต
     สุดท้ายจึงมักจะไม่ทักด้านดีขึ้น และยังอาจพูดให้เรารู้สึกแย่เข้าไปอีก เช่น นี่ใจเย็นขึ้นแล้วเหรอ มองไม่ออกเลย
     
     เรื่องอื่นก็คล้ายกัน เวลาเราพยายามเลิกกินของไม่มีประโยชน์ เลิกผลัดวันประกันพรุ่ง หรือพยายามทำดี
     เราโฟกัส เราจึงเห็นว่าเปลี่ยนมาก แต่คนอื่นเขาไม่ได้โฟกัส แรงเฉื่อยว่าเราทำนิสัยเดิม จึงกลืนหมด
     นิสัยใหม่ คงต้องใช้เวลามากหน่อย กว่าจะล้างกันได้
     และหลายครั้งเราก็รอไม่ไหว แก้แทบตายไม่มีใครเห็นค่า ก็เลยเลิกเสียก่อน
     
     อยากเป็นกำลังใจให้ทุกคนนะครับ สำหรับทุกความพยายามปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้น
     ก็แค่แรงเฉื่อย ขับเคลื่อนคนอื่นให้มองเราไม่ตามปัจจุบัน
     แต่แรงเฉื่อยไม่มีแรงในตัวเอง ยังไงวันนึงอย่างไรก็ต้องถูกล้างไป
     ขอแค่อดทนอีกหน่อย อย่างไรทุกคนจะเห็นในที่สุดครับ

https://www.blockdit.com/neo.positive
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่