ตามที่ธนาคาร ธอส. ได้มีมาตรการเร่งด่วน ช่วยลูกค้าที่ยังได้รับผลกระทบจาก COVID-19 เป็นระยะเวลานาน 3 เดือนตั้งแต่สิงหาคม-ตุลาคม 2564 ซึ่งดิฉันได้สมัครเข้าร่วมมาตรการ ผ่านทางแอพLine ไปเมื่อวันที่ 21 กรกฏาคม 2564 ในขั้นตอนลงทะเบียนดิฉันก็ลงทะเบียนสำเร็จ ดิฉันได้แคปหน้าจอไว้ (ยอดชำระในงวดถัดไป เป็น 0บาทเรียบร้อย)
วันนี้ดิฉันเข้าไปเช็คในแอพ ปรากฏว่าเลขที่สัญญาของดิฉันนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา ดิฉันจึงได้โทรไปถามเจ้าหน้าที่ธนาคาร ธอส. สาขาที่ยืนกู้ไว้ เจ้าหน้าที่ธนาคารเเจ้งว่าคำร้องขอเข้าร่วมมาตรการของดิฉันนั้นไม่ผ่าน ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารให้เหตุผลว่า ดิฉันเปลี่ยนอาชีพจากตอนแรกที่ดิฉันยืนกู้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัท แต่ปัจจุบันดิฉันได้ออกมาประกอบธุระกิจส่วนตัว 2ปีแล้ว
ในช่วงสถาณการณ์การระบาดโควิด19 ที่ผ่านมา ธนาคารได้มีมาตรการพักชำระหนี้ ดิฉันก็ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ คำร้องของดิฉันก็ผ่าน แต่มาครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารสาขาแห่งนี้แจ้งกับดิฉันว่าคำร้องของดิฉันไม่ผ่านเพราะดิฉันเปลี่ยนอาชีพ ดิฉันก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปว่าที่ผ่านมาดิฉันก็สมัครเข้าร่วมมาตรการสำเร็จด้วยดีมาตลอด อีกอย่างในตอนนี้ดิฉันอาศัยอยู่ในพื้นที่การระบาดโควิดสีแดง ซึ่งในครั้งนี้หนักกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา กิจการของดิฉันต้องปิดตัวลงไม่มีลูกค้าไม่มีรายได้ ดิฉันพยายามอธิบายต่อ จนท.ธาคารสาขาแห่งนี้ แต่จนท.ธนาคาร ไม่หยุดพูด ไม่หยุดฟังดิฉันเลย ตั้งแต่คุยสาย จนท.ธนาคาร ไม่ฟังดิฉันเลย
จนท.ธาคารสาขาแห่งนี้แจ้งว่า เมื่อก่อนธนาคารช่วยทุกคนที่ประสบปัญหา แต่ตอนนี้ธนาคารตีวงให้แคบลง ไม่ได้พิจารณาให้ผ่านทุกคน ดิฉันถามว่า มีเหตุผลอะไรคะ เพราะอะไร ในเมื่อครั้งนี้ การระบาดโควิด หนักและรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่าน จนท.ธนาคารปฏิเสธดิฉันอย่างไม่รับฟังเลยค่ะ
ในแอพ LINE ก็มีหัวข้อให้เลือกอาชีพ ดิฉันก็เลือกอาชีพที่ดิฉันทำอยู่ตอนนี้ ทำขั้นตอนทุกอย่าง จนสำเร็จ สุดท้ายนี้ ดิฉันขอถามว่า แบบนี้ เรียกว่า ช่วยเหลือหลอคะ?! มาครั้งนี้ ตีวงการพิจารณาให้แคบลง คืออะไร ดิฉันก็เป็นลูกค้ามานาน อยู่ในมาตรการความช่วยเหลือนี้มาทุกครั้ง ธนาคารสาขาแห่งนี้ มีหลักเกณฑ์อะไรใช้พิจารณา ความเหมาะสม ความเดือดร้อนของลูกค้าธนาคาร หรือความคิดเห็นส่วนตัวของผู้พิจารณา ดิฉันพยายามพูด พยายามเรียกจนท.ให้ฟังดิฉันก่อน แต่ จนท.ก็พูดไม่หยุด ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น
ดิฉันขอให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสำนักงานใหญ่ ธนาคาร ธอส. ให้ความเป็นธรรมกับดิฉันด้วยค่ะ ดิฉันเดือดร้อนจริงๆ และเป็นลูกค้าธนาคารมานานพอสมควร อยากขอความเห็นใจ .... ขอบคุณค่ะ
ทำเรื่องพักหนี้ ธอส. แต่เจ้าหน้าที่ยกเลิก ? ไหนบอกว่าช่วย
วันนี้ดิฉันเข้าไปเช็คในแอพ ปรากฏว่าเลขที่สัญญาของดิฉันนั้นอยู่ระหว่างการพิจารณา ดิฉันจึงได้โทรไปถามเจ้าหน้าที่ธนาคาร ธอส. สาขาที่ยืนกู้ไว้ เจ้าหน้าที่ธนาคารเเจ้งว่าคำร้องขอเข้าร่วมมาตรการของดิฉันนั้นไม่ผ่าน ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารให้เหตุผลว่า ดิฉันเปลี่ยนอาชีพจากตอนแรกที่ดิฉันยืนกู้เมื่อ 7 ปีที่แล้ว มีอาชีพเป็นพนักงานบริษัท แต่ปัจจุบันดิฉันได้ออกมาประกอบธุระกิจส่วนตัว 2ปีแล้ว
ในช่วงสถาณการณ์การระบาดโควิด19 ที่ผ่านมา ธนาคารได้มีมาตรการพักชำระหนี้ ดิฉันก็ได้ลงทะเบียนเข้าร่วมมาตรการ คำร้องของดิฉันก็ผ่าน แต่มาครั้งนี้ทางเจ้าหน้าที่ธนาคารสาขาแห่งนี้แจ้งกับดิฉันว่าคำร้องของดิฉันไม่ผ่านเพราะดิฉันเปลี่ยนอาชีพ ดิฉันก็ได้แจ้งเจ้าหน้าที่ไปว่าที่ผ่านมาดิฉันก็สมัครเข้าร่วมมาตรการสำเร็จด้วยดีมาตลอด อีกอย่างในตอนนี้ดิฉันอาศัยอยู่ในพื้นที่การระบาดโควิดสีแดง ซึ่งในครั้งนี้หนักกว่าทุกๆครั้งที่ผ่านมา กิจการของดิฉันต้องปิดตัวลงไม่มีลูกค้าไม่มีรายได้ ดิฉันพยายามอธิบายต่อ จนท.ธาคารสาขาแห่งนี้ แต่จนท.ธนาคาร ไม่หยุดพูด ไม่หยุดฟังดิฉันเลย ตั้งแต่คุยสาย จนท.ธนาคาร ไม่ฟังดิฉันเลย
จนท.ธาคารสาขาแห่งนี้แจ้งว่า เมื่อก่อนธนาคารช่วยทุกคนที่ประสบปัญหา แต่ตอนนี้ธนาคารตีวงให้แคบลง ไม่ได้พิจารณาให้ผ่านทุกคน ดิฉันถามว่า มีเหตุผลอะไรคะ เพราะอะไร ในเมื่อครั้งนี้ การระบาดโควิด หนักและรุนแรงกว่าทุกครั้งที่ผ่าน จนท.ธนาคารปฏิเสธดิฉันอย่างไม่รับฟังเลยค่ะ
ในแอพ LINE ก็มีหัวข้อให้เลือกอาชีพ ดิฉันก็เลือกอาชีพที่ดิฉันทำอยู่ตอนนี้ ทำขั้นตอนทุกอย่าง จนสำเร็จ สุดท้ายนี้ ดิฉันขอถามว่า แบบนี้ เรียกว่า ช่วยเหลือหลอคะ?! มาครั้งนี้ ตีวงการพิจารณาให้แคบลง คืออะไร ดิฉันก็เป็นลูกค้ามานาน อยู่ในมาตรการความช่วยเหลือนี้มาทุกครั้ง ธนาคารสาขาแห่งนี้ มีหลักเกณฑ์อะไรใช้พิจารณา ความเหมาะสม ความเดือดร้อนของลูกค้าธนาคาร หรือความคิดเห็นส่วนตัวของผู้พิจารณา ดิฉันพยายามพูด พยายามเรียกจนท.ให้ฟังดิฉันก่อน แต่ จนท.ก็พูดไม่หยุด ไม่ฟังอะไรทั้งนั้น
ดิฉันขอให้ ธนาคารแห่งประเทศไทย หรือสำนักงานใหญ่ ธนาคาร ธอส. ให้ความเป็นธรรมกับดิฉันด้วยค่ะ ดิฉันเดือดร้อนจริงๆ และเป็นลูกค้าธนาคารมานานพอสมควร อยากขอความเห็นใจ .... ขอบคุณค่ะ