โควิดลามหนัก! ป่วยใหม่ 14,150 ราย เสียชีวิต 118 ราย ป่วยสะสมเฉียด 5 แสนราย
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_2851127
โควิดลามหนัก! ป่วยใหม่ 14,150 ราย เสียชีวิต 118 ราย ป่วยสะสมเฉียด 5 แสนราย
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 14,150 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อใหม่ 13,905 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 245 ราย ผู้ป่วยสะสม 497,965 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 9,168 ราย หายป่วยสะสม 323,217 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) เสียชีวิต 118 ราย
บุคลากรการแพทย์ออกแถลงการณ์ร่วม จี้สธ.กระจายวัคซีนโปร่งใส ล่าชื่อหนุนmRNA เป็นวัคซีนหลัก
https://www.matichon.co.th/politics/news_2851035
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมบุคลากรทางการแพทย์ เรียกร้องถึงกระทรวงสาธารณสุข เรื่องความโปร่งใสในการกระจายวัคซีน Pfizer ที่จะเข้ามาในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564
ความดังนี้
ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 นี้ กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าบุคลากรการแพทย์ด่านหน้าจะได้รับการฉีดวัคซีน Pfizer มากกว่า 500,000 โดส โดยจะเริ่มฉีดต้นเดือนสิงหาคม ทว่าสถานการณ์ขณะนี้นับว่ามีความขัดแย้งกับคำกล่าวข้างต้นอย่างมาก เมื่อพิจารณาถึงความจริงที่ว่าขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน AstraZeneca เป็นบูสเตอร์โดสเข็ม 3 ทั้งด้วยความไม่มั่นใจในการมาถึงของ Pfizer การถูกทำให้เชื่อว่าจะไม่มีวัคซีน Pfizer เข้ามา และการคาดการณ์ว่า Pfizer จะเข้ามาไม่พอสำหรับบุคลากรฯ ทั้งหมด โดยมีหลักฐานและข้อยืนยันจำนวนมากที่พิสูจน์ว่าสภาพการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเวียนในโรงพยาบาลหรือการประกาศว่าจะไม่รับผิดชอบหากบุคลากรฯ ที่ยืนยันจะรอ Pfizer ติดโควิดในระหว่างรอวัคซีน
สภาพการณ์ดังกล่าว นำไปสู่การตั้งคำถามว่าขณะนี้มีบุคลากรทางการแพทย์ได้รับวัคซีน AstraZeneca ไปแล้วเท่าใด และยังมีเจตจำนงรอฉีดวัคซีน Pfizer ต้นเดือนหน้าดังที่กระทรวงสาธารณสุขกล่าวอ้างเท่าใด มีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการกระจายวัคซีนครั้งนี้ ทว่ากระทรวงสาธารณสุขซึ่งมีข้อมูลของบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดในมือกลับไม่เปิดเผยตัวเลขอย่างโปร่งใสชัดเจน
นอกจากความคลุมเครือของข้อมูลเรื่องวัคซีน การออกแบบและจัดการเพื่อทำให้วัคซีนอยู่ในอุณหภูมิที่ถูกต้องเหมาะสม (Cold-chain tracking) ซึ่ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้จัดทำ เพื่อติดตามการกระจายของวัคซีนยี่ห้อและล็อตต่างๆ ยังได้ปิดตัวลงตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม
(ดูได้ที่ https://datastudio.google.com/u/0/reporting/731713b6-a3c4-4766-ab9d-a6502a4e7dd6/page/JMn3B?pli=1&fbclid=IwAR2ZHbkl2UniAvpUxdEQuGGyNw5fj0hU9DYQ8CMhhKExDbpmHppRw103bDQ)
และถูกแทนที่ด้วยเว็บไซต์ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขทำแทน
(ดูได้ที่ https://dashboard-vaccine.moph.go.th/dashboard.html)
ซึ่งไม่มีการแจ้งรายละเอียดยี่ห้อวัคซีนหรือล็อต มีเพียงข้อมูลว่า ประชาชนในแต่ละจังหวัดได้รับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนเท่าใด เพียงแค่นั้น
เพื่อความโปร่งใสและการกระจายวัคซีนให้ถึงมือผู้ควรได้รับโดยปราศจากเส้นสาย หมอไม่ทน, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, Nurses Connect , สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย (IFMSA Thailand Official) และ DNA บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร จึงขอเรียกร้องต่อกระทรวงสาธารณสุขดังนี้
1. นำวัคซีน mRNA มาเป็นวัคซีนหลักให้คนไทยทุกคน
2. ชี้แจงและเปิดเผยข้อมูลว่ามีบุคลากรฯ ได้รับวัคซีน AstraZeneca เป็นบูสเตอร์โดสไปแล้วเท่าใด และยังเหลือบุคลากรฯ ที่ยืนยันจะรับไฟเซอร์เป็นจำนวนเท่าใด เพื่อให้จำนวนวัคซีนที่ได้รับพอดีกับบุคลากรฯ ไม่มีเศษตกหล่นติดตามไม่ได้นอกระบบ
3. นำข้อมูลสำคัญที่จะพิสูจน์ความโปร่งใสกลับมาบรรจุในระบบ Cold-chain tracking นั่นคือเส้นทางการกระจายวัคซีนโดยระบุยี่ห้อและล็อตต่างๆ ของวัคซีน และเปิดให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย เพื่อแสดงความรับผิดชอบของรัฐต่อประชาชน และให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการก้าวข้ามวิกฤต
4. ระบุผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจนกรณีเกิดการจัดสรรการกระจายวัคซีนผิดพลาดหรือทุจริต
นอกจากนั้น เรายังขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ร่วมลงชื่อสนับสนุนการนำ mRNA มาเป็นวัคซีนหลักทาง change.org/vaccinewetrust และร่วมจับตามองการกระจายวัคซีนครั้งนี้ ด้วยการแจ้งเบาะแสมายัง “แบบรับรายงานความผิดปกติในการกระจายวัคซีนโดย สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย” (เข้าถึงได้ที่ shorturl.at/dkDHK หรือ QR code ด้านล่าง) หรือ ส่งเมลมาที่ mormaithon@protonmail.com หากท่านพบเห็นหรือทราบข้อมูลการได้วัคซีนมาอย่างไม่ถูกต้อง เราจะถามไปด้วยกันว่า #เก็บไฟเซอร์ไว้ให้ใคร
ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีน และการปิดบังข้อมูลเส้นทางการกระจายวัคซีน คือการลดโอกาสการมีชีวิตรอดของประชาชน เพื่อเรียกร้องถามหาความโปร่งใสนี้ อีกไม่นาน ตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์จะมีการเคลื่อนไหว ขอให้ประชาชนติดตามอย่างใกล้ชิด
ตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์
27 กรกฎาคม 2564
มันคือสงครามโรค “ได๋ ไดอาน่า” โพสต์เล่าความจริง แม้จะดูใจร้าย
https://www.pptvhd36.com/news/ข่าวบันเทิง/152652
“ได๋ - ไดอาน่า จงจินตนาการ” โพสต์เล่าความจริง ที่แม้จะดูใจร้าย แต่มันคือเรื่องจริง สถานการณ์สุดวิกฤต ต้องสู้กับสงครามโรค
เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิง ที่เดินหน้าช่วยเหลือผู้เดือดร้อน คอยประสานงานช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 มาโดยตลอด หลังตัดสินใจเปิดเพจ “เราต้องรอด” สำหรับ พิธีกร-นักแสดงสาว ได๋ - ไดอาน่า จงจินตนาการ ที่ก่อนหน้านี้ต้องเสียน้ำตาให้กับเคสหนักๆมาแล้ว
ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าเรื่องราวในสถานการณ์ตอนนี้ ที่เหมือนจะดูใจร้าย แต่มันคือเรื่องจริง
ซึ่งระบุว่า
“ขออนุญาตพูดตรงๆนะคะ
หากเป็นเวลาปกติคงจะดูใจร้ายเเต่นี่คือความจริง ตอนนี้ทุกคนต้องสตรองต้องช่วยตัวเองกันก่อนนะคะ
เตียง - ไม่มีค่ะ ยังไงก็ไม่มี ก่อนหน้านี้ผู้ติดเชื้อหลักพันก็ไม่มีอยู่เเล้ว ตอนนี้หลักหมื่น .... สมมุติเราเสริมเตียง เพื่มเตียงยังไงคุณหมอเเละพยาบาลก็มีเท่าเดิม
HOME ISOLATION กักตัว รักษาตัวเองอยู่ที่บ้านนะคะ ทานยาตามอาการ คอยหมั่นดู เเละวัดค่า OXYGEN ของตัวเอง ติดต่อลงทะเบียนได้ที่ 1330 กด 14 หรือ ที่ @1668.reg เพื่อขอยานะคะ
ตอนนี้ทุกคืนเจอคน OXYGEN DROP 80 70 ก็ต้อง ให้ oxygen อยู่บ้าน ในขณะที่ oxygen 50 40 30 ก็พยายามส่งทีมไปดูเเลเเละดัน oxygen ขึ้น เพื่อประทัง เเละให้เวลาทีมงาน เราต้องรอด ในการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอยาต้าน ไวรัส ซึ่งไม่สามารถให้ได้ในกรณีที่ อาการยังไม่หนัก .....
ขอเตียง - ไม่มีจริงๆค่ะ ใครมีช่วยบอกหน่อยนะคะ จะรีบโทรให้เลย
ขอยาสามัญ ตามอาการ - ขอชื่อที่อยู่เบอร์โทร
ขอยาต้านไวรัส - ต้องลงทะเบียนเเละให้หมอสั่งจ่าย
สงครามโรคครั้งนี้มันลุยเราไม่หยุด เราอย่ายอมมันนะคะ กินยาค่ะ สู้กับมันค่ะ บางคนถ่ายไม่หยุด อาเจียนไม่หยุด เเล้วไม่ยอมทานข้าว ญาติต้องนั่งให้กำลังใจ เเล้วเชียร์ให้จิบๆๆๆ ไปเรื่อยๆนะคะ
หากคุณหมอจ่ายยาก็ต้องกินตามที่คุณหมอเขียนนะคะ ตอนนี้ทุกหน่วยงาน ทุกคนกำลังช่วยกันอยู่สุดความสามารถ เเต่เคสเยอะจริงๆ ล้นจริงๆ
เข้าใจผู้ป่วย เข้าใจญาติทุกคนว่าร้อนใจ เเละสับสนไม่รู้ว่าจะทำยังไง ก็ถ้าหนทางเดียวตอนนี้คือดูเเลกันเอง เราก็ทำให้ดีที่สุด ช่วยกันเเละกันให้ได้มากที่สุด......สถานการณ์มันหนักมากจริงๆ #เราต้องรอด
ปล: เเต่หากไม่ไหวเเล้วจริงๆ บางทีการที่เราได้อยู่กับพ่อเเม่เราในห้วงเวลาสุดท้ายก็ดีกว่า การจากกันไปโดยไม่ได้บอกลา .........เพราะนี่คือความจริง”
https://www.facebook.com/ladydna/posts/10159031192171620
JJNY : ติดเชื้อ14,150 เสียชีวิต118│จี้สธ.กระจายวัคซีนโปร่งใส│“ได๋”โพสต์เล่าความจริง แม้ดูใจร้าย│หวั่นปิดเมืองฉุดGDPติดลบ
https://www.matichon.co.th/covid19/thai-covid19/news_2851127
โควิดลามหนัก! ป่วยใหม่ 14,150 ราย เสียชีวิต 118 ราย ป่วยสะสมเฉียด 5 แสนราย
เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 รายงานสถานการณ์ COVID-19 ในประเทศไทย ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 รวม 14,150 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อใหม่ 13,905 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 245 ราย ผู้ป่วยสะสม 497,965 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) หายป่วยกลับบ้าน 9,168 ราย หายป่วยสะสม 323,217 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) เสียชีวิต 118 ราย
บุคลากรการแพทย์ออกแถลงการณ์ร่วม จี้สธ.กระจายวัคซีนโปร่งใส ล่าชื่อหนุนmRNA เป็นวัคซีนหลัก
https://www.matichon.co.th/politics/news_2851035
เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีการเผยแพร่แถลงการณ์ร่วมบุคลากรทางการแพทย์ เรียกร้องถึงกระทรวงสาธารณสุข เรื่องความโปร่งใสในการกระจายวัคซีน Pfizer ที่จะเข้ามาในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564
ความดังนี้
ในวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 นี้ กระทรวงสาธารณสุขยืนยันว่าบุคลากรการแพทย์ด่านหน้าจะได้รับการฉีดวัคซีน Pfizer มากกว่า 500,000 โดส โดยจะเริ่มฉีดต้นเดือนสิงหาคม ทว่าสถานการณ์ขณะนี้นับว่ามีความขัดแย้งกับคำกล่าวข้างต้นอย่างมาก เมื่อพิจารณาถึงความจริงที่ว่าขณะนี้บุคลากรทางการแพทย์จำนวนมากต้องเข้ารับการฉีดวัคซีน AstraZeneca เป็นบูสเตอร์โดสเข็ม 3 ทั้งด้วยความไม่มั่นใจในการมาถึงของ Pfizer การถูกทำให้เชื่อว่าจะไม่มีวัคซีน Pfizer เข้ามา และการคาดการณ์ว่า Pfizer จะเข้ามาไม่พอสำหรับบุคลากรฯ ทั้งหมด โดยมีหลักฐานและข้อยืนยันจำนวนมากที่พิสูจน์ว่าสภาพการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือเวียนในโรงพยาบาลหรือการประกาศว่าจะไม่รับผิดชอบหากบุคลากรฯ ที่ยืนยันจะรอ Pfizer ติดโควิดในระหว่างรอวัคซีน
สภาพการณ์ดังกล่าว นำไปสู่การตั้งคำถามว่าขณะนี้มีบุคลากรทางการแพทย์ได้รับวัคซีน AstraZeneca ไปแล้วเท่าใด และยังมีเจตจำนงรอฉีดวัคซีน Pfizer ต้นเดือนหน้าดังที่กระทรวงสาธารณสุขกล่าวอ้างเท่าใด มีข้อสงสัยมากมายเกี่ยวกับการกระจายวัคซีนครั้งนี้ ทว่ากระทรวงสาธารณสุขซึ่งมีข้อมูลของบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมดในมือกลับไม่เปิดเผยตัวเลขอย่างโปร่งใสชัดเจน
นอกจากความคลุมเครือของข้อมูลเรื่องวัคซีน การออกแบบและจัดการเพื่อทำให้วัคซีนอยู่ในอุณหภูมิที่ถูกต้องเหมาะสม (Cold-chain tracking) ซึ่ง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมได้จัดทำ เพื่อติดตามการกระจายของวัคซีนยี่ห้อและล็อตต่างๆ ยังได้ปิดตัวลงตั้งแต่ต้นเดือนพฤษภาคม
(ดูได้ที่ https://datastudio.google.com/u/0/reporting/731713b6-a3c4-4766-ab9d-a6502a4e7dd6/page/JMn3B?pli=1&fbclid=IwAR2ZHbkl2UniAvpUxdEQuGGyNw5fj0hU9DYQ8CMhhKExDbpmHppRw103bDQ)
และถูกแทนที่ด้วยเว็บไซต์ที่ทางกระทรวงสาธารณสุขทำแทน
(ดูได้ที่ https://dashboard-vaccine.moph.go.th/dashboard.html)
ซึ่งไม่มีการแจ้งรายละเอียดยี่ห้อวัคซีนหรือล็อต มีเพียงข้อมูลว่า ประชาชนในแต่ละจังหวัดได้รับการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนเท่าใด เพียงแค่นั้น
เพื่อความโปร่งใสและการกระจายวัคซีนให้ถึงมือผู้ควรได้รับโดยปราศจากเส้นสาย หมอไม่ทน, ภาคีบุคลากรสาธารณสุข, Nurses Connect , สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย (IFMSA Thailand Official) และ DNA บุคลากรทางการแพทย์และอาสาสมัคร จึงขอเรียกร้องต่อกระทรวงสาธารณสุขดังนี้
1. นำวัคซีน mRNA มาเป็นวัคซีนหลักให้คนไทยทุกคน
2. ชี้แจงและเปิดเผยข้อมูลว่ามีบุคลากรฯ ได้รับวัคซีน AstraZeneca เป็นบูสเตอร์โดสไปแล้วเท่าใด และยังเหลือบุคลากรฯ ที่ยืนยันจะรับไฟเซอร์เป็นจำนวนเท่าใด เพื่อให้จำนวนวัคซีนที่ได้รับพอดีกับบุคลากรฯ ไม่มีเศษตกหล่นติดตามไม่ได้นอกระบบ
3. นำข้อมูลสำคัญที่จะพิสูจน์ความโปร่งใสกลับมาบรรจุในระบบ Cold-chain tracking นั่นคือเส้นทางการกระจายวัคซีนโดยระบุยี่ห้อและล็อตต่างๆ ของวัคซีน และเปิดให้ประชาชนทุกคนเข้าถึงข้อมูลได้ง่าย เพื่อแสดงความรับผิดชอบของรัฐต่อประชาชน และให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการก้าวข้ามวิกฤต
4. ระบุผู้รับผิดชอบอย่างชัดเจนกรณีเกิดการจัดสรรการกระจายวัคซีนผิดพลาดหรือทุจริต
นอกจากนั้น เรายังขอเชิญชวนประชาชนทุกคน ร่วมลงชื่อสนับสนุนการนำ mRNA มาเป็นวัคซีนหลักทาง change.org/vaccinewetrust และร่วมจับตามองการกระจายวัคซีนครั้งนี้ ด้วยการแจ้งเบาะแสมายัง “แบบรับรายงานความผิดปกติในการกระจายวัคซีนโดย สมาพันธ์นิสิตนักศึกษาแพทย์นานาชาติแห่งประเทศไทย” (เข้าถึงได้ที่ shorturl.at/dkDHK หรือ QR code ด้านล่าง) หรือ ส่งเมลมาที่ mormaithon@protonmail.com หากท่านพบเห็นหรือทราบข้อมูลการได้วัคซีนมาอย่างไม่ถูกต้อง เราจะถามไปด้วยกันว่า #เก็บไฟเซอร์ไว้ให้ใคร
ความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงวัคซีน และการปิดบังข้อมูลเส้นทางการกระจายวัคซีน คือการลดโอกาสการมีชีวิตรอดของประชาชน เพื่อเรียกร้องถามหาความโปร่งใสนี้ อีกไม่นาน ตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์จะมีการเคลื่อนไหว ขอให้ประชาชนติดตามอย่างใกล้ชิด
ตัวแทนบุคลากรทางการแพทย์
27 กรกฎาคม 2564
มันคือสงครามโรค “ได๋ ไดอาน่า” โพสต์เล่าความจริง แม้จะดูใจร้าย
https://www.pptvhd36.com/news/ข่าวบันเทิง/152652
“ได๋ - ไดอาน่า จงจินตนาการ” โพสต์เล่าความจริง ที่แม้จะดูใจร้าย แต่มันคือเรื่องจริง สถานการณ์สุดวิกฤต ต้องสู้กับสงครามโรค
เป็นอีกหนึ่งคนบันเทิง ที่เดินหน้าช่วยเหลือผู้เดือดร้อน คอยประสานงานช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด-19 มาโดยตลอด หลังตัดสินใจเปิดเพจ “เราต้องรอด” สำหรับ พิธีกร-นักแสดงสาว ได๋ - ไดอาน่า จงจินตนาการ ที่ก่อนหน้านี้ต้องเสียน้ำตาให้กับเคสหนักๆมาแล้ว
ล่าสุดเจ้าตัวก็ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว เล่าเรื่องราวในสถานการณ์ตอนนี้ ที่เหมือนจะดูใจร้าย แต่มันคือเรื่องจริง
ซึ่งระบุว่า
“ขออนุญาตพูดตรงๆนะคะ
หากเป็นเวลาปกติคงจะดูใจร้ายเเต่นี่คือความจริง ตอนนี้ทุกคนต้องสตรองต้องช่วยตัวเองกันก่อนนะคะ
เตียง - ไม่มีค่ะ ยังไงก็ไม่มี ก่อนหน้านี้ผู้ติดเชื้อหลักพันก็ไม่มีอยู่เเล้ว ตอนนี้หลักหมื่น .... สมมุติเราเสริมเตียง เพื่มเตียงยังไงคุณหมอเเละพยาบาลก็มีเท่าเดิม
HOME ISOLATION กักตัว รักษาตัวเองอยู่ที่บ้านนะคะ ทานยาตามอาการ คอยหมั่นดู เเละวัดค่า OXYGEN ของตัวเอง ติดต่อลงทะเบียนได้ที่ 1330 กด 14 หรือ ที่ @1668.reg เพื่อขอยานะคะ
ตอนนี้ทุกคืนเจอคน OXYGEN DROP 80 70 ก็ต้อง ให้ oxygen อยู่บ้าน ในขณะที่ oxygen 50 40 30 ก็พยายามส่งทีมไปดูเเลเเละดัน oxygen ขึ้น เพื่อประทัง เเละให้เวลาทีมงาน เราต้องรอด ในการประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขอยาต้าน ไวรัส ซึ่งไม่สามารถให้ได้ในกรณีที่ อาการยังไม่หนัก .....
ขอเตียง - ไม่มีจริงๆค่ะ ใครมีช่วยบอกหน่อยนะคะ จะรีบโทรให้เลย
ขอยาสามัญ ตามอาการ - ขอชื่อที่อยู่เบอร์โทร
ขอยาต้านไวรัส - ต้องลงทะเบียนเเละให้หมอสั่งจ่าย
สงครามโรคครั้งนี้มันลุยเราไม่หยุด เราอย่ายอมมันนะคะ กินยาค่ะ สู้กับมันค่ะ บางคนถ่ายไม่หยุด อาเจียนไม่หยุด เเล้วไม่ยอมทานข้าว ญาติต้องนั่งให้กำลังใจ เเล้วเชียร์ให้จิบๆๆๆ ไปเรื่อยๆนะคะ
หากคุณหมอจ่ายยาก็ต้องกินตามที่คุณหมอเขียนนะคะ ตอนนี้ทุกหน่วยงาน ทุกคนกำลังช่วยกันอยู่สุดความสามารถ เเต่เคสเยอะจริงๆ ล้นจริงๆ
เข้าใจผู้ป่วย เข้าใจญาติทุกคนว่าร้อนใจ เเละสับสนไม่รู้ว่าจะทำยังไง ก็ถ้าหนทางเดียวตอนนี้คือดูเเลกันเอง เราก็ทำให้ดีที่สุด ช่วยกันเเละกันให้ได้มากที่สุด......สถานการณ์มันหนักมากจริงๆ #เราต้องรอด
ปล: เเต่หากไม่ไหวเเล้วจริงๆ บางทีการที่เราได้อยู่กับพ่อเเม่เราในห้วงเวลาสุดท้ายก็ดีกว่า การจากกันไปโดยไม่ได้บอกลา .........เพราะนี่คือความจริง”
https://www.facebook.com/ladydna/posts/10159031192171620