สวัสดีค่ะ ตอนนี้เราเป็นนักศึกษาแพทย์ อยู่ปี 2 แล้วค่ะ ถึงแม้จะเป็นช่วงเรียนออนไลน์อยู่ที่บ้าน แต่การเรียนก็หนักจริงๆ ค่ะ โดยพื้นฐาน เราเป็นคนถนัดภาษาอังกฤษค่ะ สอบเข้าก็ได้คะแนนดีวิชาภาษาอังกฤษ และคณิตศาสตร์ แต่วิชาวิทยาศาสตร์ทั้ง ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ นี่แค่พอผ่านเกณฑ์มาได้เท่านั้นเองค่ะ
ปีแรกก็ยังเรียนวิชารวมๆ คล้ายๆ คณะวิทยาศาสตร์ พอไปได้ค่ะ แต่ขึ้นมาปีที่ 2 รู้สึกว่ามีอะไรให้ต้องปรับตัวหลายอย่าง หลักๆ ก็คือการเรียนเป็น Block ที่เรียนเสร็จแล้วสอบเลย พูดง่ายๆ ว่า สอบแทบจะทุกสัปดาห์นั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เนื้อหาไม่ไปอัดกันทีเดียว แต่ก็ทำให้รู้สึกกดดันอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ ทุกๆ วัน ตื่นมาตอนเช้า นั่งเรียนออนไลน์ ฟังอาจารย์บรรยาย แต่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ... ตกเย็น ทำการบ้าน ไม่ก็ดูคลิปทบทวน กินข้าว อาบน้ำ นอน ชีวิตแทบทุกวันก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ จริงๆ อยากจะออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นด้วย แต่มันรู้สึกไร้เรี่ยวแรงทั้งกายและใจเลยค่ะ เวลาต้องทำแบบฝึกหัดหรืองานต่างๆ เราก็ทำไม่ค่อยเป็นค่ะ ถามเพื่อนได้บ้าง แต่จะให้ถามไปหมดทุกอย่าง เราก็ไม่อยากจะรบกวนเขาค่ะ ต้องพยายามทำเองให้เต็มที่ก่อน ซึ่งแน่นอนว่ามันใช้เวลานาน แต่ก็อาศัยหาคำตอบเท่าที่พอจะหาได้ค่ะ ซึ่งวิชาที่เรียนต่างๆ อย่างเช่น Biochemistry เราเรียนแล้วปวดหัวจี๊ดเลยค่ะ ความรู้เก่าก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว พอเสริมทัพลงลึกไปอีก เรานี่ไปไม่เป็นเลยค่ะ แล้วการอ่านสไลด์ที่มี pathway ต่างๆ กับศัพท์อะไรที่เราไม่รู้เลยว่ามันจะเชื่อมโยงกันได้ยังไง ส่งผลให้เราไม่เข้าใจ และจำไม่ได้ค่ะ ส่วนวิชาอื่นๆ ที่ออกแนวชีวะ ร่างกายมนุษย์ ก็ยากไม่แพ้กันค่ะ แต่ก็คิดว่าถ้าท่องไปเรื่อยๆ ก็น่าจะทำได้ (มั้งนะคะ)
ก่อนสอบทีไรก็จะเครียดมากๆ ค่ะ เราปวดหัวแทบทุกวัน (แถมยังปวดขา ปวดหลังด้วย แต่นั่นเป็นเพราะเราไม่ค่อยได้ออกกำลังกายค่ะ กำลังปรับปรุงตัว) เวลาทำงานเดี่ยว งานกลุ่ม ไม่ได้ อ่านหนังสือสอบไม่ทัน เราก็จะมานั่งร้องไห้ค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ก็จะมาปลอบ บอกว่าถ้าไม่ไหว ก็ออกมาได้เลย ยังมีเส้นทางอื่นๆ อีกมากมายให้เลือก และก็จะประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน เราก็มาลองคิดดูว่า ถ้าสมมติเราเลือกตามความชอบ เราก็คงจะเลือกเป็น อักษรศาสตร์ หรือที่เป็นสายศิลป์ภาษา อื่นๆ แต่เมื่อดูอนาคตการทำงานในยุคสมัยนี้แล้ว เรารู้สึกว่าเป็นการเลือกที่ไม่มั่นคงเท่าไรค่ะ อาจจะเรียนสบาย ไม่เครียดเท่าหมอ ไปอีก 4 ปี แต่หลังจากนั้น อาจจะหางานทำลำบากกว่าค่ะ เพราะไม่ใช่สายอาชีพ จบจากคณะอื่น ถ้ามีความสามารถก็มาทำแทนได้ เราชอบเรียนภาษา ชอบอ่านหนังสือ(ที่ไม่ใช่วิชาการ) ชอบเขียนหนังสือ ชอบวาดรูป ดูไม่ใช่แนวหมอสักเท่าไร ถ้าเราเลือกสิ่งที่เราชอบ หรือเราจะมีความสุขกับมันมากกว่า?
หากถามว่า ทำไมเราถึงอยากเรียนหมอ และเลือกมาในตอนนั้น เหตุผลก็เพราะ ความมั่นคง เป็นหลักประกันว่าจะมีงานทำแน่ๆ รายได้อาจจะไม่ได้มากมาย ถ้าเทียบกับความเหนื่อยยากที่จะต้องเจอ แต่เป็นอาชีพที่มีเกียรติ น่ายกย่อง (อาชีพอื่นก็มีเช่นกันค่ะ) เป็นการทำงานที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ทำบุญไปในตัวตลอดเวลา แถมยังใช้ความรู้กลับมาดูแลครอบครัวได้อีกด้วย เราอาจจะไม่ได้มีปณิธานที่แรงกล้าว่าอยากเป็นหมอให้ได้ แต่ก็คิดว่าเป็นทางเลือกที่ควรค่าค่ะ
อย่างไรก็ตาม หลังจากเรียนมาเพิ่งเข้าปีที่ 2 ยังไม่จบเสียด้วยซ้ำ เราก็รู้สึกว่ามันยาก ยากจนไม่อยากเรียนต่อแล้วค่ะ เราสอบตกมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว จากคนที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยต้องกังวลว่าจะไม่ได้เกรด 4 และเราคิดว่าถ้าเราอดทนเรียนต่อไป ถึงอาจจะต้องใช้แรงมากกว่าคนอื่นเขาสักหน่อย แต่สุดท้ายคงจะจบได้ค่ะ แต่ช่วงระหว่างนี้ทั้งอีก 4 ปีกว่า การใช้ทุน การเรียนต่อเฉพาะทาง หรืออาจจะมีเฉพาะทางต่อยอดต่ออีก ชีวิตเราไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรนะคะ คงจะเหนื่อยมากๆ ฟังจากประสบการณ์ตรงของบุคลากรทางการแพทย์ แล้วก็ในอินเทอร์เน็ตมากมาย คงต้องเรียนกันต่อไปเรื่อยๆ กว่าจะจบก็พอดี 30 กว่า ไหนจะการต้องรับผิดชอบชีวิตคนไข้ ปัญหาหลายรูปแบบที่จะต้องเจอ แล้วจะต้องอดนอนมากหรือเปล่า สายตาที่ต้องจ้องจออยู่วันละไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง เราจะเสียสุขภาพมากแค่ไหน หรือขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง จัดการเวลาดีๆ มากกว่า?
สุดท้ายนี้ เราอยากจะถามว่า ระหว่าง สู้เรียนหมอต่อไปให้จบ หรือ ซิ่วไปเรียนคณะอื่นที่เราถนัด และคาดว่าจะสบายกว่า จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ากันคะ?
ถ้าสู้เรียนหมอต่อ เราจะทำอย่างไรให้เข้าใจ สนุกกับการเรียน ดีคะ หรือมีวิธีจัดการกับความเครียดทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไป อย่างไรบ้าง?
ถ้าเลือกซิ่ว สมมติว่าไปเรียนอักษรศาสตร์ คิดว่าเป็นความคิดที่ดีไหมคะ อาจจะต้องคิดเอง แต่ก็อยากฟังความคิดเห็นท่านอื่นค่ะ
หรือขอกำลังใจได้ไหมคะ หรือไม่ก็เพลงสักเพลงที่ฟังแล้วจะรู้สึกดีขึ้น หรือวิธีระบายความเครียดของทุกคนเวลาเจอปัญหา ข้อคิด คำคม ประสบการณ์ หรืออะไรก็ได้ค่ะ ที่จะทำให้มีกำลังใจ หายเหนื่อย ไม่รู้ว่าจะมีคนเข้ามาตอบกระทู้นี้หรือเปล่า แต่หากมีก็ขอขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ
เรียนหมอปี 2 หนักมาก ไปต่อหรือพอแค่นี้
ปีแรกก็ยังเรียนวิชารวมๆ คล้ายๆ คณะวิทยาศาสตร์ พอไปได้ค่ะ แต่ขึ้นมาปีที่ 2 รู้สึกว่ามีอะไรให้ต้องปรับตัวหลายอย่าง หลักๆ ก็คือการเรียนเป็น Block ที่เรียนเสร็จแล้วสอบเลย พูดง่ายๆ ว่า สอบแทบจะทุกสัปดาห์นั่นเองค่ะ ซึ่งเป็นเรื่องดีที่จะทำให้เนื้อหาไม่ไปอัดกันทีเดียว แต่ก็ทำให้รู้สึกกดดันอยู่ตลอดเวลาเลยค่ะ ทุกๆ วัน ตื่นมาตอนเช้า นั่งเรียนออนไลน์ ฟังอาจารย์บรรยาย แต่ไม่เข้าใจอะไรสักอย่าง ... ตกเย็น ทำการบ้าน ไม่ก็ดูคลิปทบทวน กินข้าว อาบน้ำ นอน ชีวิตแทบทุกวันก็จะเป็นประมาณนี้ค่ะ จริงๆ อยากจะออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมอย่างอื่นด้วย แต่มันรู้สึกไร้เรี่ยวแรงทั้งกายและใจเลยค่ะ เวลาต้องทำแบบฝึกหัดหรืองานต่างๆ เราก็ทำไม่ค่อยเป็นค่ะ ถามเพื่อนได้บ้าง แต่จะให้ถามไปหมดทุกอย่าง เราก็ไม่อยากจะรบกวนเขาค่ะ ต้องพยายามทำเองให้เต็มที่ก่อน ซึ่งแน่นอนว่ามันใช้เวลานาน แต่ก็อาศัยหาคำตอบเท่าที่พอจะหาได้ค่ะ ซึ่งวิชาที่เรียนต่างๆ อย่างเช่น Biochemistry เราเรียนแล้วปวดหัวจี๊ดเลยค่ะ ความรู้เก่าก็ไม่ค่อยจะมีอยู่แล้ว พอเสริมทัพลงลึกไปอีก เรานี่ไปไม่เป็นเลยค่ะ แล้วการอ่านสไลด์ที่มี pathway ต่างๆ กับศัพท์อะไรที่เราไม่รู้เลยว่ามันจะเชื่อมโยงกันได้ยังไง ส่งผลให้เราไม่เข้าใจ และจำไม่ได้ค่ะ ส่วนวิชาอื่นๆ ที่ออกแนวชีวะ ร่างกายมนุษย์ ก็ยากไม่แพ้กันค่ะ แต่ก็คิดว่าถ้าท่องไปเรื่อยๆ ก็น่าจะทำได้ (มั้งนะคะ)
ก่อนสอบทีไรก็จะเครียดมากๆ ค่ะ เราปวดหัวแทบทุกวัน (แถมยังปวดขา ปวดหลังด้วย แต่นั่นเป็นเพราะเราไม่ค่อยได้ออกกำลังกายค่ะ กำลังปรับปรุงตัว) เวลาทำงานเดี่ยว งานกลุ่ม ไม่ได้ อ่านหนังสือสอบไม่ทัน เราก็จะมานั่งร้องไห้ค่ะ คุณพ่อกับคุณแม่ก็จะมาปลอบ บอกว่าถ้าไม่ไหว ก็ออกมาได้เลย ยังมีเส้นทางอื่นๆ อีกมากมายให้เลือก และก็จะประสบความสำเร็จได้เหมือนกัน เราก็มาลองคิดดูว่า ถ้าสมมติเราเลือกตามความชอบ เราก็คงจะเลือกเป็น อักษรศาสตร์ หรือที่เป็นสายศิลป์ภาษา อื่นๆ แต่เมื่อดูอนาคตการทำงานในยุคสมัยนี้แล้ว เรารู้สึกว่าเป็นการเลือกที่ไม่มั่นคงเท่าไรค่ะ อาจจะเรียนสบาย ไม่เครียดเท่าหมอ ไปอีก 4 ปี แต่หลังจากนั้น อาจจะหางานทำลำบากกว่าค่ะ เพราะไม่ใช่สายอาชีพ จบจากคณะอื่น ถ้ามีความสามารถก็มาทำแทนได้ เราชอบเรียนภาษา ชอบอ่านหนังสือ(ที่ไม่ใช่วิชาการ) ชอบเขียนหนังสือ ชอบวาดรูป ดูไม่ใช่แนวหมอสักเท่าไร ถ้าเราเลือกสิ่งที่เราชอบ หรือเราจะมีความสุขกับมันมากกว่า?
หากถามว่า ทำไมเราถึงอยากเรียนหมอ และเลือกมาในตอนนั้น เหตุผลก็เพราะ ความมั่นคง เป็นหลักประกันว่าจะมีงานทำแน่ๆ รายได้อาจจะไม่ได้มากมาย ถ้าเทียบกับความเหนื่อยยากที่จะต้องเจอ แต่เป็นอาชีพที่มีเกียรติ น่ายกย่อง (อาชีพอื่นก็มีเช่นกันค่ะ) เป็นการทำงานที่ได้ช่วยเหลือผู้อื่น ทำบุญไปในตัวตลอดเวลา แถมยังใช้ความรู้กลับมาดูแลครอบครัวได้อีกด้วย เราอาจจะไม่ได้มีปณิธานที่แรงกล้าว่าอยากเป็นหมอให้ได้ แต่ก็คิดว่าเป็นทางเลือกที่ควรค่าค่ะ
อย่างไรก็ตาม หลังจากเรียนมาเพิ่งเข้าปีที่ 2 ยังไม่จบเสียด้วยซ้ำ เราก็รู้สึกว่ามันยาก ยากจนไม่อยากเรียนต่อแล้วค่ะ เราสอบตกมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว จากคนที่ก่อนหน้านี้ ไม่เคยต้องกังวลว่าจะไม่ได้เกรด 4 และเราคิดว่าถ้าเราอดทนเรียนต่อไป ถึงอาจจะต้องใช้แรงมากกว่าคนอื่นเขาสักหน่อย แต่สุดท้ายคงจะจบได้ค่ะ แต่ช่วงระหว่างนี้ทั้งอีก 4 ปีกว่า การใช้ทุน การเรียนต่อเฉพาะทาง หรืออาจจะมีเฉพาะทางต่อยอดต่ออีก ชีวิตเราไม่รู้ว่าจะเป็นอย่างไรนะคะ คงจะเหนื่อยมากๆ ฟังจากประสบการณ์ตรงของบุคลากรทางการแพทย์ แล้วก็ในอินเทอร์เน็ตมากมาย คงต้องเรียนกันต่อไปเรื่อยๆ กว่าจะจบก็พอดี 30 กว่า ไหนจะการต้องรับผิดชอบชีวิตคนไข้ ปัญหาหลายรูปแบบที่จะต้องเจอ แล้วจะต้องอดนอนมากหรือเปล่า สายตาที่ต้องจ้องจออยู่วันละไม่ต่ำกว่า 10 ชั่วโมง เราจะเสียสุขภาพมากแค่ไหน หรือขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเอง จัดการเวลาดีๆ มากกว่า?
สุดท้ายนี้ เราอยากจะถามว่า ระหว่าง สู้เรียนหมอต่อไปให้จบ หรือ ซิ่วไปเรียนคณะอื่นที่เราถนัด และคาดว่าจะสบายกว่า จะเป็นทางเลือกที่ดีกว่ากันคะ?
ถ้าสู้เรียนหมอต่อ เราจะทำอย่างไรให้เข้าใจ สนุกกับการเรียน ดีคะ หรือมีวิธีจัดการกับความเครียดทั้งในปีนี้และปีต่อๆ ไป อย่างไรบ้าง?
ถ้าเลือกซิ่ว สมมติว่าไปเรียนอักษรศาสตร์ คิดว่าเป็นความคิดที่ดีไหมคะ อาจจะต้องคิดเอง แต่ก็อยากฟังความคิดเห็นท่านอื่นค่ะ
หรือขอกำลังใจได้ไหมคะ หรือไม่ก็เพลงสักเพลงที่ฟังแล้วจะรู้สึกดีขึ้น หรือวิธีระบายความเครียดของทุกคนเวลาเจอปัญหา ข้อคิด คำคม ประสบการณ์ หรืออะไรก็ได้ค่ะ ที่จะทำให้มีกำลังใจ หายเหนื่อย ไม่รู้ว่าจะมีคนเข้ามาตอบกระทู้นี้หรือเปล่า แต่หากมีก็ขอขอบคุณมากๆ เลยนะคะ ขอให้ทุกคนโชคดีค่ะ