คิดถึง 2 บทที่ 65

กระทู้สนทนา

.
                   ไดอารี่ความคิดถึง

                 ปลายเดือนกรกฎาคมเป็นอันทราบในทุก ๆ ปีจะมีวันหยุดยาวสี่วัน โรงเรียนหยุดยาวให้นักเรียนได้ไปทำบุญเต็มที่ ทว่าไม่ยอมให้หยุดเฉย ๆ บางวิชาสั่งการบ้านเพียบ บอสกับเพื่อน ๆ ในห้องแอบมองค้อนให้วิชานั้น ๆ ที่สั่งงานในวันหยุดยาวกันเลย ทำได้แค่แอบโยนค้อนนั่นแหละ

                   วันนี้ในชั่วโมงสุดท้ายทางโรงเรียนได้จัดกิจกรรมร่วมกับวัดในชุมชน คือ โรงเรียนนำนักเรียนไปถวายเทียนพรรษาและผ้าอาบน้ำฝนแด่พระสงฆ์ โดยแบ่งกลุ่มกันไป วัดที่จะนำไปถวายมีทั้งหมดสามวัดด้วยกัน หนึ่งในนั้นมีวัดหมู่บ้านของเธอด้วย ทุก ๆ ปีทางโรงเรียนจะจัดกิจกรรมนี้ขึ้น เพื่อทำนุบำรุงศาสนาให้อยู่คู่กับโรงเรียนต่อไป

                    การแบ่งกลุ่มคือแบ่งเป็นชั้นคละกัน โชคดีมากที่บอสได้ไปวัดหมู่บ้านของตนเอง ตอน ม.1 บอสจำได้ว่าได้ไปวัดของหมู่ 3 เข้าพรรษาปีนี้ได้มาวัดหมู่บ้านของตนก็ดีใจมาก

                     ในชั่วโมงสุดท้ายก่อนเลิกเรียน คุณครูได้ประกาศให้นักเรียนทุกคนเข้าแถวรวมตัวกันที่หน้าเสาธง โดยเข้าแถวแบ่งตามชั้นและห้องของตนเองเหมือนเข้าแถวเคารพธงชาติในตอนเช้า โดยมีท่านประธานโรงเรียนและสภานักเรียนควบคุมดูแลความเรียบร้อยรอ

                     เมื่อทุกคนเข้าแถวเรียบร้อย คุณครู ว่าที่ร้อยโท ศิลปะชัยก็เข้ามาพูดชี้แจงกิจกรรมในวันนี้ให้นักเรียนทุกคนได้รับทราบ

                 “นักเรียนครับวันนี้เราจะไปถวายผ้าอาบน้ำฝนและเทียนเข้าพรรษากัน ครูจะแบ่งเป็นชั้น ๆ ดังนี้นะครับ ม.1-2 ไปวัดหมู่ 1 กับคุณครูชัยนาท คุณครูพิเชษฐ์ คุณครูนภาพร และ คุณครูมินตรานะครับ เดินไปนะทุกคนนะ ห้ามนำรถมอเตอร์ไซค์ออกไปเด็ดขาด ถวายเสร็จทุกคนจะต้องกลับมาโรงเรียนก่อน ถ้าใครนำรถส่วนตัวออกไปครูจะทำโทษนะครับ อย่าหาว่าครูไม่เตือนนะ” ครูว่าที่ร้อยโทศิลปะชัยกล่าว

                   “ม.3-4 ไปวัดป่า หมู่ 3 ครับ เดินไปเหมือนกันนะครับ กับครูปริญ ครูบรรจง ครูทิฆัมพร และท่านรองกรองแก้วครับ เดินไปนะ วัดป่าใกล้ ๆ เอง สุดท้ายนะครับ ม.5-6 ไปวัดบ้านสะอาดนะครับ กับครูเอง ครูทศพล ครูสิทธิพร และ ครูเพลินพิศนะครับ เดินไปเหมือนกันทุกคน ห้ามเด็ดขาด ห้ามใครนำรถส่วนตัวออกไปเด็ดขาด ก่อนไปครูจะให้หัวหน้าห้องเช็คชื่อก่อน ไปถึงวัดก็เช็คชื่ออีกรอบ กลับมาถึงโรงเรียนครูก็จะเช็คชื่ออีกรอบ ใครหายไปพวกมืงโดนแน่” ครูว่าที่ร้อยโทศิลปะชัยกล่าวพร้อมขู่ไปในตัว

                    “อ่าคุณครูผู้รับผิดชอบและหัวหน้าห้องครับ เช็คชื่อรอบแรกเสร็จแล้วก็ออกเดินทางได้เลยนะครับ เพื่อเป็นการไม่เสียเวลา” คุณครูกล่าวต่อ

                    ชินพงศ์หัวหน้าห้องของพวกเธอทำการเช็คชื่อ พอเช็คชื่อครบแล้วก็ออกเดินทางไปกับคุณครูทั้งสี่ท่านพร้อมน้อง ม.1 เดินทางไปวัดหมู่บ้านของเธอเอง คุณครูนำผ้าไตรจีวร และ เทียนเข้าพรรษาเล่มใหญ่ พร้อมสังฆทานนำไปถวายให้วัดด้วย พวกเธอเดินเท้ากันไป จับกลุ่มกันเดินแก๊งของใครของมัน เธอเดินมากับโสรญา ส่วนน้ำผึ้งนั้นแยกไปเดินกับพวกจอยและนิดเพื่อนห้องอื่น

                   “ซูบ้านมืงคือไกลแท้ กูเมือย ไกลคักเด้อ” ระหว่างทางวราพรพูดขึ้น วรพาเป็นคนเดียวที่ชอบเรียกเธอว่าซูนี่ ผันมาจากสุนิชื่อจริงของเธอ พวกเธอเกาะกลุ่มกันเดินเป็นห้องใครห้องมัน ยกเว้นก็แต่น้ำผึ้งนั่นแหละ ที่ขอแยกตัวออกไป

                  บอสปรายตามองอมยิ้มให้เพื่อน “เป็นใดมืง รู้ซึ้งไป๊ คือมืงตั๋วกูย่างไปท่ารถบ้านนาจารย์นั่นล่ะ ฮา “ พอบอสตอบเพื่อนแบบนี้ พวกนิดหน่อย โส เตือนใจ คนที่ไปด้วยกันวันก่อนนั้นต่างพากันหัวเราะลั่น จนคุณครูและคนอื่น ๆ หันมามอง

                    เจ้าตัวหัวเราะอีกทั้งชินพงศ์และอาทิตย์ต่างหัวเราะลั่น “ซูนี่เครียดแฮงล๊าวะ ว่าตุ๊กุล้อย่างไปบ้านนาจารย์ ฮา “ ชินพงศ์เป็นคนพูด พูดด้วยใบหน้ายิ้ม เธอเองก็ไม่ได้งอนอะไร ถือเป็นเรื่องตลกไป สนุกด้วยซ้ำ

                    “ใกล้ ๆ นึงแจ๋ว ใกล้สิฮอดล่ะ เห็นหลังคาโบสถ์ล่ะนั้น “ บอสตอบกลั้วยิ้ม พวกเธอคุยกันไปเดินไปด้วยในกลุ่ม

                     “กรี๊ด ! บักฮานิ๊ก มืงสิตายบ่ ตบหัวกุพ่อมืงบ่บักฮาหนิ “ เมื่อธวัชชัยวิ่งไปตบศีรษะช่อทิพย์ แกล้งเล่น ๆ ระหว่างทาง เพราะสองคนนี้เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ๆ มาจากหมู่บ้านเดียวกัน ขึ้นมัธยมก็มาเรียนที่เดียวกัน แถมยังได้อยู่ห้องเดียวกันอีก ชนิดที่ว่าตามติดกันมาเลยตั้งแต่อนุบาลยันมัธยม

                      เจ้าตัวไม่โกรธเลย แถมยังชอบใจไปอีกที่แกล้งช่อทิพย์ได้ ไม่พอแถมยังจะเข้าไปแกล้งเรื่อย ๆ อีก ทั้งสองคนวิ่งเตะกันไปตามทาง

                     “อี่ทิพย์กับบักนิ๊กหยอกตะกันเด้อสู มันมักกันติวะ” พลอยปิยะพรพูด พวกเธอจ้องมองช่อทิพย์กับธวัชชัยวิ่งหยอกกันเป็นเด็ก ๆ ไปได้ ไม่อายคุณครูที่มาด้วยเลย

                  “อี่ทิพย์คือด่าเขาคักแถะหยะ ฮา บักนิ๊กกะเฮ็ดให้เขาด่าพ่อจะของเด้อสู” ปุ้ยสินจัยพูดกลั้วหัวเราะ พวกเธอยิ้มตามหันไปมองสองคนนั้นเล่นกัน

                    “ปุ้ยกุว่าถ่าบ่มักกันกะใกล้เคียงเด้อ หยอกตะกันซุมฮาหนิ ในห้องเรียนกะคือกันเด้อ” ช่อเอื้องเอาบ้าง หันไปมองเพื่อนสองคนแล้วพูดขึ้น

                   ระยะทางจากโรงเรียนมาบ้านของเธอประมาณกิโลเมตรได้ ไม่ถึงก็เกือบถึง พวกเธอเดินไปเล่นกันไป ทั้งน้อง ๆ ม.1 ต่างเล่นกันพูดคุยกันเสียงดัง ทำให้บรรยากาศรู้สึกว่า ระยะทางในการเดินไม่ไกลเลย เธอเดาว่าต้องมีโรงเรียนฝ่ายประถมมาด้วยแน่นอน เพราะปีที่แล้วสองเรียนก็มาปะทะกัน จะเจอน้องบีมไหมนะ จะได้แนะนำเพื่อน ๆ ให้รู้จัก แอบนึกไปถึงน้องสาว

                      “เฮ๊ยบอสบ้านเฮ๊ยคือไกลแถะ เฮ๊ยยางมาแบบนี้ทุกมื้อเลยติ” อาหรั่งหรือคณิตเดินมาใกล้ ๆ  ถามเธอพร้อมเดินขนานไปกับกลุ่มของพวกเธอด้วย “น้ำเผิ่งไปไสวะ คู่หูเฮ๊ยไปไส” มิวายถามหาน้ำผึ้งด้วย

                    “พุ่นอยู่นำซุมอี่จอยพุ่น เฮากะยางมาทุกมื้อล่ะคณิต บ่ไกลเด้ ยางแป๊บเดียวนึง” บอสตอบ เดินเกาะกลุ่มไปกับโสและมอสมาริสา

                “ถามกูกับอี่มอสแน่คณิต ถามตะอี่บอสหลาย ฮา “ โสล้อ บอสเบิกตากว้าง อย่ามาล้อแบบนี้นะ ไม่ชอบเดี๋ยวเพื่อน ๆ ก็เข้าใจผิด

                “เฮากะสิถามอยู่นี่ล่ะ เมือยบ่โสญากับเฮ๊ยมอสน่ะ เมือยบ่ยางน่ะ จะแมนดอก” คณิตพูดยิ้ม ๆ ย่อชื่อโสรญาให้เหลือสองพยางค์ ส่วนเธอหันไปหัวเราะให้กันสามคน ไม่นานพวกดำรงค์กับวรวุฒิก็เดินเข้ามารวมกลุ่มด้วย นิลาวรรณกับเตือนใจก็เดินเข้ามาสมทบด้วยเช่นกัน จากมีพวกเธอแค่สี่คนกลายเป็นกลุ่มใหญ่ในทันที จึงเปลี่ยนเรื่องพูด ไม่นานก็เดินมาถึงวัดในหมู่บ้านของเธอ

                    มาถึงคุณครูชัยนาทเข้าไปหาเจ้าอาวาส แจ้งความประสงค์ที่มาในวันนี้ หลวงตาบอกให้รอก่อนเพราะจะมีโรงเรียนฝ่ายประถมมาด้วย บอสเดาไว้ไม่มีผิด จะผิดได้อย่างไร ทุก ๆ ปีโรงเรียนฝ่ายประถมก็มาแบบนี้ สมัยตนเองอยู่ประถมก็ยังได้มาปะทะกับพี่มัธยมแบบนี้เช่นกัน

                   ระหว่างรอพวกเธอก็นั่งพักกันตามอัธยาศัย ภายในวัดจะมีโรงเรียนเด็กก่อนเกณฑ์ด้วย หรือ เรียกว่าศูนย์ฝึกและพัฒนาเด็กก่อนเกณฑ์ตามด้วยซื้อวัด เวลานี้เด็ก ๆ เลิกเรียนกลับบ้านไปแล้ว นักเรียนคนอื่น ๆ ต่างจับจองชิงช้าของน้อง ๆ นั่ง อย่างกับไม่เคยเล่นมาก่อน บางคนดูตื่นเต้นเป็นพิเศษ

                    ไม่นานคุณครูก็เรียกให้พวกเธอขึ้นไปนั่งบนศาลา เป็นศาลาไม้ยกใต้ถุนสูง นั่งเรียงกันเป็นชั้นและห้อง เริ่มจากชั้น ม.1 ตามด้วยชั้น ม.2 และแบ่งพื้นที่ให้น้อง ๆ ชั้นประถมด้วย

                  “บอสเฮือนบอสอยู่ตรงใด” เล็ก สุทัศน์ ถาม เพราะไม่ได้เล่นด้วยกัน ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกัน เล็กจึงไม่ค่อยรู้อะไรเกี่ยวกับเธอนัก ไม่ได้สนใจพวกเธอเลยด้วยซ้ำ ห้องของเธอมีเพื่อนชื่อเล็กสองคน คือ เล็กอนุชาที่ตัวสูงมาก และ เล็กสุทัศน์คนนี้ ตัวเล็กสมชื่อ ตัวเล็กกว่าเธออีก

                   “เฮือนอี่บอสกะอยู่ตรงนั้นเด้ ย่างออกไปหน้าวัดน่ะ มืงเห็นร้านค้ามืงกะเห็นเฮือนมันเลย” เล็กปัทมาพรตอบเล็กสุทัศน์แทนเธอ “เฮือนบาวบอลแมนบ่” เล็กพูดกล่าวถึงพี่บอลพี่ชายคนเล็กของเธอ เล็กปัทมาพรอยู่ห้อง 3 เล็กรู้จักบ้านของเธอเพราะยายของเล็กเป็นคนที่นี่ อยู่เยื้อง ๆ กับคุ้มของย่าเอง ทำให้จึงพอรู้จักและคุ้นเคยกับคนในหมู่บ้านของเธอพอสมควร

                   “ฮู้ดีน้อเล็ก !” ตั๊กวิสาชลพูดแทนเธอ พร้อมค่อนขอดให้เพื่อน ตั๊กอยู่ห้องเดียวกันกับเธอ และ อยู่หมู่บ้านเดียวกันกับเล็กนั่นแหละ เธอทราบคร่าว ๆ ว่าเพื่อน ๆ กลุ่มของตั๊กและสินจัยไม่ค่อยกินเส้นลงรอยกันกับเล็กเท่าไหร่ จึงกระแนะกระแหนกันในบางเวลา เช่นตอนนี้

                    “ฮู้ตั้วตั๊ก เฮือนยายกูกะอยู่คุ้มนั้นน้อ” เล็กปัทมาพรตอบเชิงประชด

                    “ตี้ ! ฮา “ พิศมัยกับสินจัยอุทานพร้อมกัน ตอบพร้อมหัวเราะ เธอเองก็หัวเราะตาม ไม่นานเพื่อน ๆ กลุ่มนี้คงมีตบกันแน่

                     “เฮือนเฮากะอยู่ตรงที่เฮ๊ยเล็กเว้านั่นล่ะเล็ก” บอสตอบเล็กชาย “เฮือนกุอิห่า เฮือนอ้ายบอลอีกหลังนึง” แล้วก็หันไปตอบเล็กหญิงด้วย

                    พวกเธอนั่งเม้าท์กันรอโรงเรียนฝ่ายประถม ไม่นานคณะครูและนักเรียนโรงเรียนฝ่ายประถมก็มาถึง มีนักเรียนไม่เยอะเท่าไหร่นัก ทุกคนขยับ ๆ พื้นที่ให้น้อง ๆ ได้นั่ง ศาลาวัดกว้างใหญ่มาก สามารถบรรจุคนได้เยอะพอสมควร

                   บอสมองหาน้องสาวของตน ชำเลืองกวาดสายตามองหาน้องบีม ทันใดนั้นก็เจอพอดี น้องบีมใส่เสื้อม่อฮ่อมสีน้ำเงินและกระโปรงนักเรียน บอสจำได้ว่าตัวนี้เป็นมรดกจากเธอเอง เสื้อม่อฮ่อมแต่ละตัวจะมีแถบตรงกระดุมสีต่างกัน จำได้ว่าของน้องบีมสีฟ้าส่วนของเธอสีม่วง วันนี้น้องบีมใส่สีม่วงนั่นแปลว่าเสื้อของเธอ ส่วนของพี่ ๆ น้องบีมใส่ไม่ได้ มันตัวใหญ่เกินไป

                    น้องบีมมัดผมแกะสองข้าง ปล่อยหน้าม้าลงมา ฝีมือของพี่ปาวเอง เมื้อเช้าบอสเห็นพี่ปาวมัดให้น้องบีม “บีม ! “ บอสเรียกน้องสาวอย่างลืมตัว พร้อมส่งยิ้มให้ แต่ก็ไม่ได้กวักมือเรียกให้เข้ามาหา เพราะน้องบีมอยู่กับเพื่อน ๆ และคุณครูของตน

                   น้องบีมและคนอื่น ๆ ที่ได้ยินเสียงของเธอเรียกเมื่อครู่ต่างหันมามอง น้องบีมยิ้มให้เธอ คุณครูนภาพรและคุณครูชัยนาทหันมามองตาม ครูนภาพรยิ้มให้ “น้องสาวบ่ “ คุณครูถาม ครูไม่รู้จักเธอหรอกแค่ถามเฉย ๆ

                   บอสยิ้มและตอบคุณครูไป “ค่ะ “ ทันใดนั้นน้องบีมก็เดินมาหา นั่งลงข้าง ๆ  เพื่อน ๆ ที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ต่างยิ้มให้ด้วยความเอ็นดูน้องบีมมาก โดยเฉพาะสินจัยกับโสรญา

                   “น้องเฮ๊ยบอสบ่ น้องอิหลิหนิบ่” สินใจถามด้วยความสนใจมาก ทั้งเธอและโสรญาต่างหัวเราะ โสรญาเป็นเพื่อนที่เธอค่อนข้างสนิทที่สุดในห้องกับมอสมาริสาและน้ำผึ้ง โสเคยมาบ้านและเคยเจอน้องบีมบ้างแล้ว

                   “โตคือถามตลกแถะปุ้ย ฮา กะน้องมันนั่นตั้ว “ โสพูดกลั้วหัวเราะ เธอกับมอสและน้องบีมก็หัวเราะตามไปด้วย

                   “น้องเฮาหนิล่ะเฮ๊ย คือกันบ่” บอสยืนยัน

                 “คือตะฮักแถะอิหล่า มัดผมแกะนำไผมัดให้หนิ ชื่อหยังบอส” ปุ้ยสนใจน้องบีมมาก รวมทั้งเพื่อน ๆ คนอื่นที่นั่งใกล้ ๆ กันต่างหันมาสนใจพวกเธอสองพี่น้อง “พี่บอสมัดผมให้บ่ คือตะฮักแท้ อยากมีน้องสาวเด้ มีตะอ้ายมึน ๆ แหมะ ฮา” ปุ้ยพูดพร้อมลูบผมน้องบีมเล่น

                   “ชื่อบีมจ้า พี่ปาวมัดให้” น้องบีมตอบ

                   “อ่อ นึกว่าพี่มอสมัดให้ พุ่นคุณครูเอิ้นแล้ว ค่อยมาหาพี่บอสใหม่เด้อ “ ปุ้ยสะกิดน้องบีม เมื่อเห็นคุณครูฝ่ายประถมเรียกรวมตัว ไม่ใช่แค่คู่พี่น้องของพวกเธอที่เจอกัน ยังมีคู่อื่น ๆ ด้วย ไม่นานพิธีการก็เริ่มขึ้น
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่