JJNY : ชายเร่ร่อนป่วยโควิดเสียชีวิตริมถนน│US.เผย“เดลตา”ติดง่ายที่สุด│ลดงบกองทัพ กก.โวยต้องหั่นอีก│เอกชนเห็นพ้องแบงค์ชาติ

สลด ชายเร่ร่อน วัย80 ป่วยโควิด-19 เสียชีวิต ริมถนนย่านอนุสาวรีย์ฯ
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6527263
  

 
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 24 ก.ค.2564 แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าตรวจสอบบริเวณวิคตอรี่พ้อยต์เกาะพญาไท อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ถนนราชวิถี แขวงถนนพญาไท ราชเทวี กรุงเทพมหานคร หลังจากได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตไม่ทราบสาเหตุ
 
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้เสียชีวิตเป็นผู้ชายอายุ 80 ปี สภาพศพนอนเสียชีวิตข้างที่นั่ง พร้อมกับมีกระเป๋าสัมภาระอยู่ด้วย แพทย์จึงตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีแรพิดเทสต์ ผลพบว่า ติดเชื้อโควิด-19 เจ้าหน้าที่จึงได้กั้นพื้นที่และเก็บศพไปชันสูตรต่อที่โรงพยาบาลรามาธิบดี
  
จากการสอบถาม ร.ต.วิสิษฐ สมบุญ ผู้ดูแลวิคตอรี่พ้อยต์เกาะพญาไท เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งจากผู้ค้าในพื้นที่ว่าพบเห็นชายคนดังกล่าวล้มลงหลังจากนั่งดื่มน้ำในบริเวณดังกล่าว จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ให้มาตรวจสอบ โดยคาดว่าเป็นคนเร่ร่อนที่มาพักบริเวณนี่ตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ก่อนจะพบว่าเสียชีวิต และเพิ่งเคยเห็นว่าชายคนนี้มานอนพักที่นี่ และไม่ทราบว่ามาจากที่ไหน ซึ่งปกติแล้วบริเวณนี้ก็จะมีคนเร่ร่อนมาพักอยู่เป็นประจำ และก็ได้แจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาดำเนินการแล้ว แต่ก็ยังมีคนมาพักอาศัยอยู่เรื่อย ๆ
 
ขณะที่แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยหลังจากที่ชันสูตรพลิกศพเบื้องต้น พบว่าผู้เสียชีวิตไม่มีบาดแผลตามร่างกาย ส่วนการตรวจเบื้องต้นที่พบติดเชื้อโควิด-19 นั้น ต้องไปตรวจสอบต่อที่โรงพยาบาล และในกระเป๋าพบยารักษาโรคประจำตัวโรคบาหวาน และความดัน รวมทั้งเสื้อผ้าจำนวนหนึ่ง หลังจากนี้ต้องประสานติดตามญาติผู้เสียชีวิตต่อไป
 


สหรัฐฯเผย“โควิดเดลตา” ติดต่อง่ายที่สุดที่เคยเจอ ผู้ป่วยมีเชื้อสูง 1,000 เท่า
https://www.tnnthailand.com/news/covid19/86258/
วันนี้ ( 24 ก.ค. 64 )โรเชลล์ วาเลนสกี้ ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐฯ หรือ CDC กล่าวตามเวลาท้องถิ่นว่า โควิดกลายพันธุ์ “เดลตา” เป็นหนึ่งในไวรัสโรคระบบทางเดินหายใจ ที่ติดต่อกันได้ง่ายที่สุด เท่าที่เราเคยรู้จักกันมา และเท่าที่เธอเคยพบเจอมาตลอดชีวิตของการทำงาน 20 ปี
 
ผู้อำนวยการ CDC กล่าวต่อไปว่า เดลตามีความร้ายกาจมากกว่า และติดต่อได้ง่ายกว่าโควิดสายพันธุ์ก่อน ๆ ที่เคยระบาดมาก่อนหน้านี้ และการระบาดของโควิดในสหรัฐฯ ยังไม่จบสิ้นลง
 
ขณะเดียวกัน CNBC เผยผลการศึกษาล่าสุดพบว่า คนที่ติดเชื้อเดลตา ได้รับการตรวจพบว่า มีเชื้อเดลตาอยู่ในจมูกมากกว่า 1,000 เท่า เมื่อเทียบกับผู้ที่ติดเชื้อโควิดสายพันธุ์แรก
 
ด้านผู้เชี่ยวชาญหลายคนในสหรัฐฯ เตือนว่า สหรัฐฯ กำลังเข้าสู่ช่วงเวลาสำคัญที่สุดอีกครั้ง สำหรับระบาดของโควิด-19 หลังจากที่เดลตากำลังแพร่ระบาดอย่างรวดเร็วในสหรัฐฯ
 
ขณะนี้ เดลตาได้กลายเป็นโควิดสายพันธุ์หลักที่ระบาดในสหรัฐฯ ไปแล้ว โดย 4 ในทุก ๆ 5 คนของผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ในสหรัฐฯ เป็นการติดเชื้อเดลตา เดลตายังทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิดรายวันในสหรัฐฯ เพิ่งพุ่งสูงทะลุระดับ 40,000 คนอีกครั้งเมื่อวันพฤหัส (22 กรกฎาคม) ไปอยู่ที่ 41,400 คน หรือเพิ่มขึ้นถึง 195% จากเพียงเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อน และทำให้ยอดผู้เสียชีวิตรายวันในสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 42% ไปอยู่ที่ 607 คน รวมทั้งทำให้จำนวนผู้ป่วยโควิดที่อาการหนักถึงขั้นต้องเข้าโรงพยาบาล เพิ่มขึ้น 46%
 
ด้านนายแพทย์ แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคภูมิแพ้และโรคติดเชื้อแห่งชาติของสหรัฐฯ ระบุว่า แนวโน้วการระบาดข้างต้น ที่เกิดขึ้นเนื่องจากเดลตา ไม่ใช่ทิศทางที่เราต้องการให้เป็นไป และสหรัฐฯ จะต้องทำมากกว่านี้ เพื่อสู้กับการระบาดของเดลตา
 
ด้านองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ก็เพิ่งรายงานสถานการณ์ล่าสุดการระบาดของเดลตาทั่วโลกเมื่อวันพุธ (21 กรกฎาคม) ว่า เดลระบาดไปแล้ว 124 ประเทศทั่วโลก และเตือนว่า เดลตาจะระบาดเพิ่มขึ้นอีก จนถึงขั้นครองโลกในอีกเพียงไม่กี่เดือนข้างหน้า
 

 
กมธ.งบฯปรับลดงบกองทัพแล้ว 1.6 พันล้าน ก้าวไกลโวยต้องหั่นอีก งบซื้ออาวุธยังมี
https://www.matichon.co.th/politics/news_2846606
 
“พิจารณ์” แจงปรับลดงบกองทัพกว่าพันล้านเหตุสามารถปรับลดได้อีก การจัดซื้อชุดแต่งกายทหารเกณฑ์ ไม่ปรากฏในเอกสาร สงสัยยังหาไม่เจอหรือว่าเลิกซื้อแล้ว แย้มรวบรวมรายละเอียดเตรียมอภิปรายไม่ไว้วางแฉต่อมีโครงการอะไรที่ปรับลดได้อีก 
 
เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ในฐานะคณะอนุกรรมาธิการ (กมธ.) ครุภัณฑ์และไอซีที ใน กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 กล่าวถึงการพิจารณางบประมาณ ว่า ตอนนี้พิจารณาเกือบหมดแล้วเหลือเพียงแค่กองทัพเรือ โดยภาพรวมได้มีการปรับลดงบประมาณไปทั้งสิ้น 1,630 ล้านบาท เนื่องจาก กมธ.เห็นว่างบประมาณครุภัณฑ์ของกระทรวงกลาโหมสามารถปรับลดลงได้อีก รวมถึงมีการจัดซื้อครุภัณฑ์ที่ราคาสูงเกินจริง ซึ่งต้องยอมรับว่าการพิจารณารายละเอียดเกี่ยวกับรายการจัดซื้อครุภัณฑ์ยังไม่มีเวลาตรวจสอบที่เพียงพอ เนื่องจากมีระยะเวลาสั้น เพราะหน่วยงานนำเอกสารมาให้ กมธ.ล่าช้า อีกทั้งขอตั้งข้อสังเกตว่า กมธ.พยายามรวบรัดการพิจารณา โดยทำการตัดลดงบประมาณ และผ่านความเห็นชอบไปอย่างรวดเร็ว
 
ส่วนการตัดลดงบประมาณของกองทัพบก 1,100 ล้านบาทนั้น ส่วนตัวเห็นว่ายังมีรายการที่สามารถตัดได้อีก เช่น การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ ไม่ว่าจะเป็นเฮลิคอปเตอร์ ที่ของบประมาณ 700 ล้านบาท หัวลากรถขนาดใหญ่ และยุทโธปกรณ์ต่างๆ รวมแล้วมีงบประมาณเกือบ 881 ล้านบาท ซึ่งหาก กมธ.อนุมัติเห็นชอบก็จะทำให้ต้องจ่ายงบประมาณผูกพันในปีถัดไปถึง 1,700 ล้านบาท ท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจที่ย่ำแย่กว่าปีนี้
 
“ในทีโออาร์ ซึ่งงบประมาณในส่วนนี้ ส่วนตัวเห็นว่าสามารถเลื่อนออกไปก่อน โดยรายละเอียดข้อสังเกตในการพิจารณางบประมาณครั้งนี้จะรวบรวมนำไปอภิปรายในวาระ 2 และการอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อแฉให้เห็นว่า ยังมีโครงการอะไรที่สามารถปรับลดได้อีก เนื่องจากไม่มีความจำเป็นในสถานการณ์โควิด-19 เช่นนี้” นายพิจารณ์กล่าว
 
นายพิจารณ์กล่าวว่า ในการตั้งงบประมาณของกองบัญชาการกองทัพไทยในการปรับปรุงระบบที่เกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ ที่ชี้แจงรายละเอียดไม่ครบถ้วน เมื่อเทียบกับหน่วยงานอื่นๆ ในลักษณะเดียวกัน และยังเห็นว่ามีการจ้างที่ปรึกษาในวงเงินงบประมาณที่สูงกว่าหลักเกณฑ์ ท้ายที่สุดหน่วยงานก็อ้างเรื่องความมั่นคงและเรียกเก็บเอกสารคืน รอบนี้เป็นเรื่องตลก เพราะรายการจัดซื้อของกองทัพบกชุดแต่งกายของทหารเกณฑ์ ไม่ปรากฏในเอกสารรายการจัดซื้อครุภัณฑ์และยังหาไม่เจอว่าซ่อนอยู่ที่ไหนหรือว่าเลิกซื้อแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่