การพูดและการแสดงออกของบุคคลนั้น หากเป็นการพูดหรือการแสดงออกในภาวะปกติ หลายครั้งนั้นเสียงนั้นก็จะเงียบหายไป
ไม่ต่างอะไรกับการตะโกนจนคอแตก ก็ไม่มีวันที่จะถึงดวงดาว
แต่.. เมื่อเสียงนั้นถูกตะโกนออกมา ในสภาวการณ์ที่เหมาะสม และถึงเวลาที่สุกงอม
เมื่อนั้น เสียงของบุคคลเหล่านั้นก็จะทรงพลัง เกิดเป็นปฏิกิริยาลูกโซ่ ราวกับไม้ขีดไฟที่ลุกโชนติดต่อกันไปอย่างไม่จบสิ้น เกิดเป็นไฟกองใหญ่ที่ยากดับ
จนก่อเกิดปาฏิหาริย์จนโลกและอารยประเทศจะต้องหันมามอง ส่งผลให้เก้าอี้ของผู้นำประเทศจะต้องสั่นคลอน
และผู้นำประเทศและรัฐบาล ก็จะได้รับรู้ว่า "คุณอย่าได้ประมาทต่อเสียงของเหล่าสาธารณชน"
เพราะประวัติศาสตร์ก็จะได้จารึกไว้ว่า "คุณคือผู้นำประเทศเพียงคนเดียว" ที่ถูกสารารณชนต่อต้านกันอย่างหนักหน่วงที่สุด
อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อนในอดีตการเมืองไทย!!
เริ่มเดิมทีนั้น ดวงเมืองไทยนั้น ผู้กำหนดฤกษ์ยามได้วางดวงเมืองไว้ที่ราศีเมษ อันเป็นเรือนแห่งเดช เรือนแห่งอำนาจราชศักดิ์
เนื่องจากเป็นเรือนของดาวอังคาร(๓)เป็นเรือนแห่งเพศชาย และดาวอังคารตนุลัคณ์นั้นเป็นดาวแห่งบุคคล ที่เป็นตำรวจ,ทหารซะเป็นส่วนใหญ่
ผู้นำทางการเมืองของไทย จึงล้วนมาจากสายทหาร หรือมักมีทหารขึ้นเป็นผู้นำ
แต่สุดท้ายส่วนใหญ่ก็จะไม่สามารถนำพาประเทศชาติให้เจริญร่ำรวยมั่งคั่งได้
เพราะดาวอังคาร(๓)ของดวงเมืองนั้น ได้ทั้งตำแหน่งราชาโชคและประ(เสื่อม) สำหรับผมก็คือ "ท่าดีทีเหลว"
โคจรอยู่ราศีพฤษภอันเป็นเรือนการเงิน และเป็นเรือนกาลีของดาวศุกร์(๖) ทั้งดาวอังคาร(๓)นั้นก็ควบตำแหน่ง
เจ้าเรือนมรณะ(เรือนแห่งความทุกข์ ความกดดันของชีวิต และความตาย)
เมื่ออยู่ไปนานเข้า ก็จะนำพาความเครียด ความกดดัน และโรคประสาทมาสู่ประชาชน ยิ่งเกิดโรคภัยไข้เจ็บระบาดจึงยิ่ง ระบาดจนยากควบคุม
อีกทั้งดาวอังคาร(๓)นั้นอยู่รวมกับดาวเกตุ(๙) ซึ่งเป็นดาวโจโรฤกษ์ หากเป็นผู้นำที่ก้าวขึ้นมาอย่างไม่ถูกต้อง ต่างชาติก็จะไม่ให้เกียรติและยิ่งไม่ยอมรับ
และที่สำคัญ ดาวอังคาร(๓)ของดวงเมืองที่ได้ตำแหน่งที่เสียหายนั้น ยังต้องบังคับไว้ด้วยลูกนวางค์นิจ(ร้าย)
เป็นการตอกตะปูปิดฝาโลงไปได้เลยว่า "เมื่อใดที่ทหารก้าวขึ้นเป็นผู้นำทางการเมืองไทย" เมื่อนั้นประเทศของเราจะต้องเสื่อม
ไปตามอาถรรพ์ร้ายของดาวอังคาร(๓)ที่อยู่ในเรือนการเงิน ที่เป็นเรือนกาลีของดาวศุกร์(๖) ทั้งร่วมกับดาวเกตุ(๙)โจโรฤกษ์ และต้องนวางค์เป็นนิจ(ร้าย)
"ที่สำคัญท่านผู้นำทางการเมืองคนปัจจุบันของไทยเรา ก็มีลัคณาอยู่ที่ราศีพิจิกอันเป็นเรือนของดาวอังคาร(๓)เช่นกัน แต่เป็นเรือนมรณะของดวงเมือง"
การขึ้นเป็นผู้นำประเทศ จึงยิ่งทวีความทุกข์ ความกดดัน ความเครียด ยิ่งขึ้นเป็นผู้นำในภาวะของการเกิดโรคระบาดที่ร้ายแรง(โควิด ๑๙)
ดวงอาถรรพ์ของดวงเมือง และดวงของผู้นำประเทศที่อยู่ในเรือนมรณะของดวงเมือง จึงไม่สามารถแก้วิกฤตใดๆได้ คนก็จะตายกันเป็นใบไม้ร่วง
แม้แต่วัดก็จะเผากันแทบไม่ทันและจะยิ่งหนักขึ้น จนสร้างจงเกลียดจงชังให้กับประชาชนในประเทศ ซึ่งผมจะกล่าวและวิเคราะห์ในครั้งต่อไปให้ฟังครับ
จุดอ่อนหรือจุดเปราะบางในทุกดวงชะตานั้น ย่อมมีในทุกดวงชะตาครับ ไม่ว่าคุณจะวางฤกษ์ให้เลอเลิศขนาดไหน สุดท้ายก็ต้องมีจุดเสีย
ซึ่งดวงเมืองของประเทศไทยเช่นกัน ซึ่งผู้กำหนดฤกษ์นั้น วางตำแหน่งของดาวมฤตยู(๐)อันเป็นดาวแห่งอาเพศวิปริตแปรปรวน รวมถึงเป็นดาวแห่งความเป็นความตายไว้ที่ราศีเมถุน อันเป็นเรือนสหัชชะ สาธารณชน ซึ่งเป็นเรือนของดาวพุธ(๔)
อาเพศของดวงเมืองที่ดาวมฤตยู(๐)จึงเริ่มต้นขึ้นที่นี่ และจะยิ่งก่อชนวนที่นับวันจะยิ่งทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น ซึ่งเริ่มมาจากเรือนนี้..
ดาวมฤตยู(๐)ที่จะสั่นคลอนดวงเมืองและผู้นำประเทศนั้น มาในฤกษ์ของเทศาตรี หรือฤกษ์ของเหล่าศิลปิน ดารา นักร้อง นักแสดง
ซีกของวงการบันเทิง สื่อสารมวลชน คนทำงานกลางคืน ตลอดจนวงการร้านอาหาร ร้านเสริมสวย งานนวด งานสปาฯลฯ
นี่คือกลุ่มงานและบุคคลในฤกษ์เทศาตรี ที่จะเป็นผู้ถล่มผู้นำประเทศจนเสียศูนย์จนเก้าอี้ของท่านสั่นคลอน แบบมีตัวตายตัวแทน
เรียกว่า คุณจะเจอกองทัพของศิลปินดารา วงการบันเทิงถล่ม เหมือนกับเรือที่เต็มไปด้วยรูรั่ว อุดหนึ่งรู ก็เพิ่มทวีคูณรูรั่ว จนคุณหมดทางปิดมัน
ที่มีสาเหตุเช่นนั้นก็เพราะว่า ดาวมฤตยู(๐)ที่มาจากอาถรรพ์ของเหล่าศิลปินดาราและวงการบันเทิง และสื่อสารมวลชนนั้น
ต้องลูกนวางค์บังคับไว้ที่เรือนมรณะของดวงเมือง เมื่อชนวนเหตุที่เกิดขึ้นนั้น มาจากโรคระบาดที่รัฐบาลหมดทางแก้ คนตายทวีคูณหนุนเนื่อง
วัคซีนไม่พอ ระบบสาธารณสุขที่คุณบริหารล้มเหลว ความทุกข์ยาก ความกดดันต่างๆ ซึ่งสืบเนื่องมาจากการจนตรอกในการแก้ปัญหานั่นเอง
เมื่อดูจากกาลจักร-ลัคณ์จรแล้ว ณ เวลานี้ ลัคณาจรของดวงเมืองนั้น โคจรเข้าสูราศีตุลย์อันเป็นเรือนกาลกิณีของดวงเมือง
ดาวอาทิตย์(๑)ที่เคยโดดเด่นเป็นสง่า ซึ่งได้ตำแหน่งบริวารและเป็นเจ้าเรือนปุตตะ(ประชาชน,บริวาร,เด็ก,ผู้เยาว์)
โคจรเป็นมหาอุจจ์ในวันเริ่มต้น ของการวางดวงเมือง
แต่ตอนนี้ ดาวอาทิตย์(๑)ในกาลจักร โคจรตกต่ำที่สุดในต่ำแหน่งนิจ(ร้าย)ทับลัคณาจรของดวงเมือง
จึงเกิดการประท้วงของประท้วงของผู้ชุมนุมอย่างที่ไม่มีทางจบสิ้น เพราะดาวอาทิตย์(๑)เป็นดาวแห่งชื่อเสียงเกียรติยศ
เมื่อมาจากเรือนปุตตะ(เด็ก,ผู้เยาว์) จึงเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การเมืองไทย ที่เหล่าผู้ประท้วงนั้นมาจากเด็กนักเรียนนักศึกษา เด็กมัธยม
และคุณจะไม่มีทางกำหราบปราบปรามได้ อีกทั้งมีดาวจันทร(๒)ดับ ซึ่งทับลัคณาจรของดวงเมืองที่ส่งผลร้าย
ดาวจันทร์(๒)นั้นเป็นเจ้าเรือนกัมมะจร เมื่อเป็นจันทร์ดับทั้งเป็นดาวอายุจรตามภูมิปี วิถีชีวิตของประชาชนในซีกกลางคืนจึงต้องถูกล็อกดาวน์
แต่มันก็จะไม่สามารถแก้ปัญหาใดๆได้ เพราะเป็นช่วงที่ดวงเมืองนั้นอ่อนมาก และจำนวนคนตายก็จะยิ่งเพิ่มพูนจนเป็นอันดับหนึ่งของเอเซีย
จุดที่สำคัญที่การ Call Out ของบุคคลในซีกของวงการบันเทิง และซีกสื่อสารมวลชนที่ผมกล่าวมาในข้างต้น จะเริ่มลุกโชนเป็นไฟจนยากดับ
ด้วยเหตุที่ว่า ดาวศุกร์(๖)ซึ่งเป็นดาวตนุลัคณ์จรในราศีตุลย์ของดวงเมืองนั้น ในอดีตนั้นเป็นดาวกาลี ปัจจุบันจรมาเป็นศรีจร
โคจรไปอยู่ในราศีเมถุน ซึ่งเป็นเรือนแห่งสาธารณชน ซึ่งมีดาวพุธ(๔)เจ้าเรือนราศีเมถุนอันเป็นเรือนศุภะจร และกลายเป็นเรือนกาลีจรอยู่ในขณะนี้
เมื่อดาวศุกร์(๖)ซึ่งเป็นดาวตนุลัคณ์จรของดวงเมือง เมื่อโคจรสัมพันธ์กับเรือนกาลีจรของดาวพุธ
และดาวพุธ(๔)นั้น ก็โคจรเป็นเก้ากับลัคณ์จรของดวงเมือง(ในกาลจักร) จึงถือว่าดวงเมืองรวมถึงผู้นำทางการเมือง
จะต้องได้รับผลกระทบอย่างต่อเนื่องและอย่างหนัก เพราะราศีเมถุนนั้นเป็นเรือนที่เก้าของลัคณาจร
ดาวพุธ(๔)จึงเป็นพินทุบาทว์(ดวงเมืองจึงแตกเพราะเหล่าสาธารณชน และถูกบุคคลในวงการบันเทิงถล่มแบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์)
ยิ่งมีดาวพฤหัส(๕)ซึ่งเป็นประ(เสื่อม)มาร่วมด้วย ทั้งหมอ ทั้งนักกฎหมาย ทั้งนักวิชาการ และวงการแพทย์มาร่วมด้วย
รับรองท่านผู้นำประเทศคงจะต้องเสียศูนย์ จนกลายเป็นผู้นำประเทศซึ่งเป็นหนึ่งเดียว ที่ต้องถูกวิพากษ์วิจารณ์ถูกถล่มอย่างหนักในโลกโซเชียล
เพราะมีดาวมฤตยู(๐)นั้น รอส่งผลอาเพศร้ายและบังคับเรื่อง และกลุ่มบุคคลไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว รอเวลาแค่ดวงเมืองอ่อน
และสัมพันธ์กับราศีเมถุนเท่านั้น ศึกสองด้านจึงได้เกิดขึ้นแล้ว..
ระหว่าง "ม็อบขาสั้นและเหล่านักเรียนนักศึกษา ที่ทางรัฐบาลไม่มีทางที่จะแก้ไขได้ และการเปิดศึกถล่มอย่างหนักในซีกของคนในแวดวงบันเทิง"
ถ้าจะให้ตอบกันแบบชาวบ้านๆแบบง่ายๆก็คือ ดวงผู้นำประเทศท่านนี้นั้น ไม่สามารถเข้ามาแก้วิกฤติใดๆให้กับประเทศชาติได้เลย ยิ่งอยู่ยิ่งแย่ลง
แต่ถ้าจะให้ตอบในทัศนะของโหรฯก็คือ.. ดวงคุณนั้นเป็นมรณะกับทางดวงเมือง ยิ่งอยู่คนก็จะมีแต่ความเครียดและนำพาโรคประสาทและความกดดัน
มาสู่ประชาชน รวมถึงการเข้ามาเป็นผู้นำในยุคของการระบาดอย่างร้ายแรงของโรคโควิด ๑๙ คนจะตายเป็นใบไม้ร่วง
ยิ่งปัจจุบันในลัคณาจรของดวงเมืองนั้น มีดาวอังคาร(๓)เจ้าเรือนมรณะจร และดาวมฤตยู(๐)ดาวอาเพศและความตายเป็นศูนย์พาหะนำลัคณ์จร
การบริหารงานในซีกสาธารณสุขก็จะยิ่งล้มเหลว อาเพศในเรื่องของการฉีดวัคซีนก็จะประดังเข้ามานานัปการ คนตายจะยิ่งเกลื่อนถนน
สิ่งเดียวที่คุณจะได้รับก็คือ เสียงวิพากษ์วิจารณ์ที่มีแต่ผลลบที่จะยิ่งรุนแรงมากขึ้น ในทุกๆวันเท่านั้นครับ!!
ขอแสดงความปรารถนาดี
ราชาสีหราช
***Call Out การแสดงจุดยืนของคนในวงการบันเทิง จะสั่นคลอนดวงเมืองและผู้นำทางการเมือง แบบที่ไม่เคยมีมาก่อนในทัศนะของโหรฯ