แต่ไหนแต่ไร ผมไม่ค่อยนิยมการ์ตูนแนวนักเลงญี่ปุ่นเท่าไรนัก ถึงแม้ในยุคของผมจะมีการ์ตูนนักเลงระดับตำนานอย่างเช่น อีกา หรือ จอมเก Blues ก็ตาม
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมรู้สึกว่ามันให้ความรู้สึกเถื่อนๆ มากกว่าดูเท่กว่าตัวละครในการ์ตูนแนวโชเน็น (แต่หากมองในอีกแง่หนึ่ง อาจกล่าวได้ว่า การ์ตูนแนวนักเลง ก็คือการ์ตูนแนวโชเน็นใน Setting ในโลกความเป็นจริงนั่นเอง เพราะตัวละครเอกจะแนวห้าวๆ ไม่ยอมผู้ใหญ่ ไม่นิยมถูกกฎเกณฑ์ผูกมัด แต่ก็มีหลักการแบบฉบับของตัวเอง รักความเสรีและพวกพ้อง ฯลฯ) นอกจากนี้ที่ไทยในสมัยก่อนก็มีข่าวนักเลงตีกันจนมีผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายจนเป็นภาพจำที่ไม่ดีด้วย ที่ผ่านมา สื่อบันเทิงแนวนักเรียนนักเลงญี่ปุ่นที่ผมเคยรับชมมาก็จะมีแค่ละครชุด Majisuka Gakuen 2 ภาคแรก (ที่ดูเพราะตามสาว AKB48 มากกว่า) หรือไม่ก็เป็นเรื่อง "กึ่งๆ" นักเลง เช่น GTO และ คุโรมาตี้ โรงเรียนคนบวม เท่านั้น
ตอนที่ได้ยินเกี่ยวกับ Tokyo Revengers เป็นครั้งแรก ผมก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไรนัก ถึงแม้จะทราบว่าเรื่องนี้มีความแฟนตาซีเกี่ยวกับการย้อนเวลาผสมเข้าไปด้วยก็ตาม เพราะเมื่อดูจากคำโปรยคร่าวๆ ผมก็คิดในใจว่า "ย้อนเวลาไปเป็นนักเลงมันจะช่วยอะไรได้ล่ะ?" แล้วดูจากทรงเรื่องแล้ว ก็ไม่มีวี่แววว่า พระเอกจะสามารถใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองในตอนที่เป็นผู้ใหญ่ ช่วยแก้เหตุการณ์ในตอนเป็นเด็กได้อย่างไร ที่สำคัญเนื้อเรื่องก็ไม่น่าจะมีการเอาเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มาเล่นเป็นประเด็นได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ทดลองดู Tokyo Revengers ฉบับอนิเมไปได้แค่หนึ่งตอน ผมก็ติดหนึบและดูต่อเนื่องจนถึงตอนปัจจุบันในเวลาอันสั้น ผมยอมรับว่าการ์ตูนเรื่องนี้สมศักดิ์ศรีกับที่เป็นหนึ่งในการ์ตูนยอดฮิตของญี่ปุ่นในปัจจุบันจริงๆ เนื้อเรื่องของการ์ตูนมีลูกเล่นมากมาย ทั้งการไขปริศนา สืบสวนสอบสวน จุดหักมุม ตัวละครก็มีเสน่ห์ชวนให้เอาใจช่วย ด้วยเหตุนี้เอง พอ Tokyo Revengers ฉบับคนแสดงเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ผมก็ตัดสินใจเข้าไปอุดหนุน
ความรู้สึกของผมที่มีต่อ Tokyo Revengers ฉบับคนแสดงมีดังนี้ครับ
สิ่งที่โอเค
- Casting ตัวละครสำคัญส่วนใหญ่ถือว่าดี
- นางเอกเล่นน่ารัก ผมว่าในบางมุม น้องเค้าดูคล้ายๆ Arimura Kasumi ด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้สำหรับผู้ที่สนใจ นักแสดงหญิงที่รับบทเป็นฮินะ จะชื่อว่า Imada Mio ครับ
- เนื้อเรื่องค่อนข้างตรงตามต้นฉบับ (ถึงแม้จะมีการตัดรายละเอียดบางส่วนไปบ้าง) ฉาก Highlight มาค่อนข้างครบ และตัวหนังก็เลือกจบในจุดที่ถึงแม้จะไม่มีการทำภาคต่อตามมังงะ แต่คนดูก็จะรู้สึกว่ามันสมบูรณ์ในระดับหนึ่ง (แต่ก็จะมีจุดที่งงๆ เกี่ยวกับผู้ร้ายบางตัว)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้- เนื้อเรื่องจะทำตามการ์ตูนถึงตอนที่ทำภารกิจช่วยดราเคนสำเร็จแล้วกลับมายุคปัจจุบันที่อั๊กคุงเปิดร้านทำผม พระเอกเจอหน้านางเอกตอนเป็นผู้ใหญ่ แล้วก็จบตรงนั้น (ไม่ได้ทำไปถึงฉากลานจอดรถ)
- ตัวหนังจะตัดเนื้อเรื่องส่วนที่ดราเคนกับไมกี้ผิดใจกัน (ปาไม่ได้บ้าเลือดจนเอามีดแทงโอซะไน เลยไม่ถูกตำรวจจับ ไม่มีฉากเปยังทรยศ ) และตัวละครหญิงที่เป็นแฟนของดราเคนจะไม่ปรากฏตัวในเรื่อง
- เพลง OST เพราะ
- สัญลักษณ์ของแก๊งโตมัน ที่ทำออกมาเลี่ยงตราสวัสดิกะได้สวยทีเดียว
สิ่งที่เสียดาย
- นาโอโตะ Casting ออกมาไม่ดี ดูอารมณ์ร้อน ไม่เยือกเย็น หรือแสดงความสามารถในการสืบเหมือนในการ์ตูน
แถมในฉากย้อนอดีต นาโอโตะที่ควรจะเป็นเด็กเล็กกับโผล่มาในรูปแบบเด็กโข่งอีกต่างหาก (ใช้นักแสดงคนเดียวกันกับนาโอโตะตอนโต)
- บอสในฉากต่อสู้ท้ายเรื่อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ฮันมะไม่ได้ลงมาบู๊กับไมกี้เหมือนกับในการ์ตูน แค่เฝ้ามองดูเฉยๆ แล้วจากไป คนของแก๊งเมบิอุสที่สู้กับไมกี้จะเป็นโอซะไนแทน ซึ่งมันก็ไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนักที่ตัวละครที่โดนไมกี้อัดแบบท่าเดียวจอดในตอนแรกจะสามารถรับมือไมกี้ได้พอสมควรในภายหลัง
- หัวหน้าหน่วยย่อยดูไม่เด่นนัก
- การไล่ระดับอารมณ์ในตอนท้ายเรื่อง ถึงแม้จะโอเค แต่ก็ไม่ออกมาชวนลุ้นตัวโก่งเหมือนตอนดูอนิเม
- ตัวละครฮันมะ ที่ใส่มาในเรื่องแบบงงๆ ว่าโผล่มาทำไม เพราะไม่ได้มีบทบาทในเรื่องเลย
สรุป
ในภาพรวมแล้ว Tokyo Revengers นับเป็นภาพยนตร์คนแสดงที่ดัดแปลงเนื้อหาจากการ์ตูนออกมาได้ในระดับดีปานกลาง ถึงแม้จะไม่ได้แน่ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่ว่าพลาดไม่ได้ครับ
* เกร็ดเล็กน้อย: คำว่า Revenge ในภาษาอังกฤษจะหมายถึงการแก้แค้น แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว คำนี้จะหมายถึง "การแก้มือ/ การแก้ไข (ในสิ่งที่พลาดไป)" เสียมากกว่า
[รีวิวล่วงหน้าจากญี่ปุ่น] Tokyo Revengers - เจาะเวลาหาไมกี้ ภาคคนแสดง
แต่ไหนแต่ไร ผมไม่ค่อยนิยมการ์ตูนแนวนักเลงญี่ปุ่นเท่าไรนัก ถึงแม้ในยุคของผมจะมีการ์ตูนนักเลงระดับตำนานอย่างเช่น อีกา หรือ จอมเก Blues ก็ตาม
ส่วนหนึ่งเป็นเพราะผมรู้สึกว่ามันให้ความรู้สึกเถื่อนๆ มากกว่าดูเท่กว่าตัวละครในการ์ตูนแนวโชเน็น (แต่หากมองในอีกแง่หนึ่ง อาจกล่าวได้ว่า การ์ตูนแนวนักเลง ก็คือการ์ตูนแนวโชเน็นใน Setting ในโลกความเป็นจริงนั่นเอง เพราะตัวละครเอกจะแนวห้าวๆ ไม่ยอมผู้ใหญ่ ไม่นิยมถูกกฎเกณฑ์ผูกมัด แต่ก็มีหลักการแบบฉบับของตัวเอง รักความเสรีและพวกพ้อง ฯลฯ) นอกจากนี้ที่ไทยในสมัยก่อนก็มีข่าวนักเลงตีกันจนมีผู้บริสุทธิ์บาดเจ็บล้มตายจนเป็นภาพจำที่ไม่ดีด้วย ที่ผ่านมา สื่อบันเทิงแนวนักเรียนนักเลงญี่ปุ่นที่ผมเคยรับชมมาก็จะมีแค่ละครชุด Majisuka Gakuen 2 ภาคแรก (ที่ดูเพราะตามสาว AKB48 มากกว่า) หรือไม่ก็เป็นเรื่อง "กึ่งๆ" นักเลง เช่น GTO และ คุโรมาตี้ โรงเรียนคนบวม เท่านั้น
ตอนที่ได้ยินเกี่ยวกับ Tokyo Revengers เป็นครั้งแรก ผมก็ไม่ค่อยสนใจเท่าไรนัก ถึงแม้จะทราบว่าเรื่องนี้มีความแฟนตาซีเกี่ยวกับการย้อนเวลาผสมเข้าไปด้วยก็ตาม เพราะเมื่อดูจากคำโปรยคร่าวๆ ผมก็คิดในใจว่า "ย้อนเวลาไปเป็นนักเลงมันจะช่วยอะไรได้ล่ะ?" แล้วดูจากทรงเรื่องแล้ว ก็ไม่มีวี่แววว่า พระเอกจะสามารถใช้ความรู้ความสามารถของตัวเองในตอนที่เป็นผู้ใหญ่ ช่วยแก้เหตุการณ์ในตอนเป็นเด็กได้อย่างไร ที่สำคัญเนื้อเรื่องก็ไม่น่าจะมีการเอาเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์มาเล่นเป็นประเด็นได้ด้วย
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ได้ทดลองดู Tokyo Revengers ฉบับอนิเมไปได้แค่หนึ่งตอน ผมก็ติดหนึบและดูต่อเนื่องจนถึงตอนปัจจุบันในเวลาอันสั้น ผมยอมรับว่าการ์ตูนเรื่องนี้สมศักดิ์ศรีกับที่เป็นหนึ่งในการ์ตูนยอดฮิตของญี่ปุ่นในปัจจุบันจริงๆ เนื้อเรื่องของการ์ตูนมีลูกเล่นมากมาย ทั้งการไขปริศนา สืบสวนสอบสวน จุดหักมุม ตัวละครก็มีเสน่ห์ชวนให้เอาใจช่วย ด้วยเหตุนี้เอง พอ Tokyo Revengers ฉบับคนแสดงเข้าฉายในโรงภาพยนตร์ ผมก็ตัดสินใจเข้าไปอุดหนุน
ความรู้สึกของผมที่มีต่อ Tokyo Revengers ฉบับคนแสดงมีดังนี้ครับ
สิ่งที่โอเค
- Casting ตัวละครสำคัญส่วนใหญ่ถือว่าดี
- นางเอกเล่นน่ารัก ผมว่าในบางมุม น้องเค้าดูคล้ายๆ Arimura Kasumi ด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- เนื้อเรื่องค่อนข้างตรงตามต้นฉบับ (ถึงแม้จะมีการตัดรายละเอียดบางส่วนไปบ้าง) ฉาก Highlight มาค่อนข้างครบ และตัวหนังก็เลือกจบในจุดที่ถึงแม้จะไม่มีการทำภาคต่อตามมังงะ แต่คนดูก็จะรู้สึกว่ามันสมบูรณ์ในระดับหนึ่ง (แต่ก็จะมีจุดที่งงๆ เกี่ยวกับผู้ร้ายบางตัว)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- เพลง OST เพราะ
- สัญลักษณ์ของแก๊งโตมัน ที่ทำออกมาเลี่ยงตราสวัสดิกะได้สวยทีเดียว
สิ่งที่เสียดาย
- นาโอโตะ Casting ออกมาไม่ดี ดูอารมณ์ร้อน ไม่เยือกเย็น หรือแสดงความสามารถในการสืบเหมือนในการ์ตูน
แถมในฉากย้อนอดีต นาโอโตะที่ควรจะเป็นเด็กเล็กกับโผล่มาในรูปแบบเด็กโข่งอีกต่างหาก (ใช้นักแสดงคนเดียวกันกับนาโอโตะตอนโต)
- บอสในฉากต่อสู้ท้ายเรื่อง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- หัวหน้าหน่วยย่อยดูไม่เด่นนัก
- การไล่ระดับอารมณ์ในตอนท้ายเรื่อง ถึงแม้จะโอเค แต่ก็ไม่ออกมาชวนลุ้นตัวโก่งเหมือนตอนดูอนิเม
- ตัวละครฮันมะ ที่ใส่มาในเรื่องแบบงงๆ ว่าโผล่มาทำไม เพราะไม่ได้มีบทบาทในเรื่องเลย
สรุป
ในภาพรวมแล้ว Tokyo Revengers นับเป็นภาพยนตร์คนแสดงที่ดัดแปลงเนื้อหาจากการ์ตูนออกมาได้ในระดับดีปานกลาง ถึงแม้จะไม่ได้แน่ แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นที่ว่าพลาดไม่ได้ครับ
* เกร็ดเล็กน้อย: คำว่า Revenge ในภาษาอังกฤษจะหมายถึงการแก้แค้น แต่สำหรับคนญี่ปุ่นแล้ว คำนี้จะหมายถึง "การแก้มือ/ การแก้ไข (ในสิ่งที่พลาดไป)" เสียมากกว่า