ช่วงปลายๆสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ไปเจอซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่อง I"s เข้าที่ Netflix (ญี่ปุ่น)
เนื่องจากซีรี่ย์เรื่องนี้ ดัดแปลงมาจากการ์ตูนในความทรงจำของผมเรื่องหนึ่ง ที่โด่งดังมากๆในยุค 90
ผมจึงตัดสินใจลองเปิดรับชมดูครับ
ตอนที่เริ่มดูนั้น ผมก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่า ละครเรื่องนี้จะออกมารุ่งหรือร่วง เพราะแค่เห็นหน้าพระเอกโผล่มา ความรู้สึกอยากดูต่อนี่ก็ลดลงไปพอสมควร
แต่พอเห็นเพลงเปิดละครที่ทำออกมาได้สวยละเมียดละไม ก็เลยตัดสินใจยอมดูต่อก็ได้ พอดูจบตอนแรกก็รู้สึกติดหนึบทันที และดูต่อมาเรื่อยๆ จนจบตอนที่ 13 เมื่อวานนี้เองครับ
ในภาพรวมนั้น ผมเห็นว่าละครเรื่องนี้ทำออกมาได้เยี่ยมเลยทีเดียว ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่ได้รู้จักฉบับการ์ตูนมาก่อน ก็น่าจะตกหลุมรักละครเรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก
ความเห็นที่ผมมีต่อ I"s ฉบับคนแสดง มีดังต่อไปนี้ครับ
1.
ความครบ/ซื่อสัตย์ต่อเนื้อเรื่อง
จะว่าไปแล้ว ผมต้องยอมรับสารภาพว่า ในตอนที่เริ่มดูละครเรื่องนี้ ผมจำเนื้อเรื่อง I"s ได้ไม่มากนัก
ในตอนที่ผมเจอกับการ์ตูนเรื่องนี้ในสมัยประถมปลายๆ ซึ่งเป็นยุคที่ผมเจอการ์ตูนดีๆหลายเรื่อง แต่อ่านไม่เคยจบสักเล่ม
ในสมัยนั้น ธุรกิจร้านเช่าหนังสือการ์ตูนยังไม่บูม เงินค่าขนมที่ผมได้ก็น้อยเกินที่จะไปไล่เก็บหนังสือการ์ตูนอ่านด้วย โดยมากแล้ว ผมจึงอาศัยอ่านการ์ตูนเอาจากเพื่อนร่วมใช้ ในรถโรงเรียน หรือในร้านตัดผม เนื้อหาที่ได้อ่านจึงจำได้ไม่ละเอียดนอกจากฉาก Service (ฮั่นแน่! ) เด่นๆ ครั้นกาลเวลาได้ผ่านไปจนถึงยุคที่มีร้านเช่าหนังสือการ์ตูนแล้ว ผมก็เน้นอ่านการ์ตูนบู๊ๆเป็นหลัก มากกว่าที่จะไปอ่านการ์ตูนโรแมนติกที่มีฉากพูดเยอะๆ
อย่างไรก็ตาม พอได้ดูฉบับละครคนแสดงแล้ว ฉากต่างๆที่อยู่ในความทรงจำจากการอ่านผ่านๆ ก็มีอยู่ในละครครบ ไม่ว่าจะเป็น ฉากนางแบบวาดรูปคลาสศิลปะ ฉากเกมพระราชา ฉากเรียงก้อนหินทำนายรัก หรือฉากซ่อนสาวที่ออนเซ็น และพอได้ลองหาข้อมูลตามเว็บภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ แฟนๆก็ชมกันว่าภาคคนแสดงนี่ซื่อสัตย์กับต้นฉบับมาก เก็บเนื้อหามาได้ค่อนข้างครบ ซึ่งต่างจาก ver. OVA ที่มีการตัดเนื้อหาของไอโกะกับจุนออกไปอย่างน่าเสียดาย
2.
ฉากเซ็กซี่
เมื่อพูดถึงการ์ตูนเรื่อง I"s แฟนๆการ์ตูนส่วนใหญ่ก็คงนึกถึงฉาก Service สุดแซบเป็นแน่แท้
ในฉบับละครนั้น ความเซ็กซี่ต่างๆนั้นก็ยังคงมีอยู่ แต่ก็จะลดระดับลงมาเป็นเซ็กซี่แบบแบาๆแทน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- ฉากอิทสึกิไปเป็นนางแบบในวิชาศิลปะนั้น ในการ์ตูนเธอจะใส่ชุดยางที่ดูเหมือนเป็นร่างเปลือย แต่ในละครเธอจะใส่เสื้อคลุมให้คนเข้าใจว่า
ไม่ใส่อะไรอยู่ข้างใต้ แต่ครูศิลปะก็สังเกตเห็นว่ามีสายบิกินี่โผล่ออกมา
- ฉากหลบสาวในออนเซ็น ในฉบับเดิม พระเอกจะหลงเข้าไปในออนเซ็นหญิง แล้วต้องหลบอยู่กับอิซุมิโดยอยู่ในสภาพเปลือยทั้งคู่
แต่ในฉบับคนแสดงนั้น พระเอกจะเปลือยคนเดียว และไปซ่อนตัวในห้องคาราโอเกะ (ที่อิซุมิใส่ยูคาตะร้องเพลงอยู่)
พออิซุมิไปรับหน้าพวกอิโอริ เธอเกิดเดินสะดุดอะไรบางอย่างล้มลง จนยูคาตะอยู่ในสภาพไม่เรียบร้อย ทำให้อิโอริเข้าใจผิด
โดยส่วนตัวผมว่า การทำอย่างนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะทำให้ละครเข้าถึงกลุ่มคนดูมากขึ้น
อีกทั้งยังทำให้ฉากระหว่างพระเอกและนางเอกตอนหลังๆ (เช่นฉากแวะบ้านพระเอกช่วงคริสต์มาสอีฟ หรือฉากทริปหลังเรียนจบ) นี่มีความลุ้นและความฟินมากขึ้นเป็นทวีคูณ
3.
ภาพและเพลง
ในส่วนของการถ่ายภาพและเพลงประกอบ ละครทำออกมาได้สวย ดูแพง ราวกับจะทำหนังชิงรางวัลอย่างไรอย่างนั้น
โดยเฉพาะในส่วนของเพลงเปิดเพลงปิด ที่ทำให้คนดูรู้สึกโหยหาอดีตตามยุคสมัยไปด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้น เพลงเปิดและเพลงปิดจะมีลูกเล่นนิดหน่อยตรงที่ พอเนื้อเรื่องเปลี่ยน มิวสิคก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย
ในตอนแรกๆ จะมีอิโอริกับอิทสึกิเท่านั้น จากนั้นก็จะมีอิซุมิ และไอโกะเพิ่มเข้ามาตามลำดับ
ภาพแทรกของตัวละครสาวแต่ละคนในมิวสิคเพลงเปิด ก็มีการบอกนัยยะเกี่ยวกับความเป็นตัวละครแต่ละคนด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ใส่ข้อความ
- อิโอริ จะเป็นภาพขาของเธอตอนกำลังก้าวขึ้นบันได สะท้อนถึง ความรู้สึกที่เทิดทูนของพระเอก อีกทั้งต้องตามไขว่คว้าเธอทั้งเรื่อง
- อิทสึกิ จะเป็นภาพเธอกำลังทาบมืออยู่กับต้นไม้พร้อมรอยยิ้ม สะท้อนถึงความรักและความปรารถนาดี ที่หยั่งรากลึกตามกาลเวลาจนมั่นคง
- อิซุมิ จะเป็นภาพของเธอกำลังจ้องหน้า พร้อมเอามือทาบริมฝีปาก สะท้อนถึงความเว้าวอน และความเย้ายวน
-ไอโกะ จะเป็นภาพเธอกำลังเดินเลิกม่านลูกปัดในบ้าน ในมือถือถ้วยชาที่มีควันลอยกรุ่น สะท้อนถึงความอบอุ่น คอยเยียวยาจิตใจ
4.
Casting ฝ่ายชาย
ในส่วน ของCasting ตัวละครฝ่ายชาย เชื่อว่าคนดูส่วนใหญ่ อาจจะตะหงิดๆกับตัวพระเอกว่า หาที่หล่อกว่านี้ไม่ได้เหรอ/ ถ้าหาได้แบบนี้ ให้ข้าพเจ้าไปเล่นแทนดีกว่า อย่างไรก็ตาม พอดูไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มอินและเอาใจช่วยไปด้วยซะอย่างนั้น นอกจากนี้ผมเองก็เคยดูละครญี่ปุ่นอารมณ์ 'พระเอกหน้าธรรมดาๆ ถูกราย ล้อมด้วยสาวสวย' อย่าง One Million Dollar Women มาแล้ว เลยรับได้ครับ
จะว่าไปแล้ว การที่พระเอกจัดอยู่ในเกณฑ์ไม่ค่อยหล่อนี่ ก็ยิ่งทำให้ธีม 'ดอกฟ้ากับหมาวัด' นี่มี Impact ขึ้นไปอีก
5. Casting ฝ่ายหญิง
ในส่วน ของการ Casting ตัวละครฝ่ายหญิงนี่ ถือว่าทำได้ดีงามมากครับ แม้แต่ในบรรดาตัวละครเสริมฝ่ายหญิงนั้น นักแสดงที่เป็นนามิก็จัดว่าสวยแบบเปรี้ยวจี๊ด คนที่เป็นยูกะ แม้จะหน้าตาดูเป็นสาวธรรมดาๆหน่อย แต่ให้ความรู้สึกว่ามีจริตจะก้านน่ารักดี
6. ความรู้สึกเกี่ยวกับสาวๆใน I"s
- ตัวละครหญิงที่ผมขอยกให้เป็น MVP ในเรื่องนี้ ก็คือ Kato Konatsu ที่รับบทเป็นไอโกะ ครับ (เรื่อง I"s เป็นละครเรื่องแรกที่เธอแสดง)
ดูเผินๆจากภาพโปสเตอร์ ผมรู้สึกว่า ในบรรดาสาวๆสี่คนนี่ อิโอริ อิทสึกิ อิซุมิ สวยกว่า คนอื่นออกแนวตาโตหน้าหวาน แต่ไอโกะนี่ออกแนวอาหมวยไปเลย
แถมกว่าไอโกะจะปรากฎตัว ก็อยู่ในช่วงสามตอนสุดท้ายแล้ว
แต่ทันทีที่เธอเข้ามาในเนื้อเรื่องนี่ พลังการทำลายล้างสูงมาก ดูแค่ตอนเดียวแล้วตกหลุมรักอย่างจังในระดับไวฟุไปเลย สรุปว่าในบรรดาสาว 'I' ทั้งสี่คน
ผมชอบไอโกะมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็สงสารเธอที่สุดด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความจริงอิทสึกิก็มีความรักแบบเสียสละและน่าสงสารเหมือนกัน แต่อย่างน้อยในตอนจบ เธอก็พบรักใหม่ที่อเมริกา และพระเอกก็ยังพอมีทางKeep In Touch กับเธอได้
อิชุมิ ถึงจะไม่สมหวังกับพระเอก แต่ก็สามารถแวะมาแกล้งพระเอกได้เรื่อยๆ และก็ได้เข้าร่วมกลุ่มเพื่อนของพระเอกไปแล้ว
แต่ไอโกะนี่ ยอมที่จะหายลับไปเลย ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีใคร หนทางติดต่อก็ไม่มี เพราะยุคนั้นเป็นยุคที่ยังมีแค่ PCT และไอโกะก็ไม่มี PCT ของตัวเองด้วย คือโอกาสที่จะได้กลับมาเจอกันอีกนี่ยากมาก
- Shiraishi Sei เล่นเป็น อิโอริได้น่ารัก น่าทะนุถนอม จะว่าไปแล้ว มองในบางมุมตอนที่เธอไว้ผมยาวนี่ หน้าคล้าย Ayase Haruka เหมือนกัน
- ประทับใจกับความรักและความเสียสละของอิทสึกิเหมือนกันครับ
- อิซุมิ นี่อาจจะเป็นตัวละครที่มีหากมาอยู่ในละครไทยแนว Shadow Force II แล้ว ก็มีสิทธิเป็นตัวอิจฉาได้สูง
อย่างไรก็ตาม เธอก็ได้แสดงให้เห็นในเนื้อเรื่องว่า เธอเองก็มีเกียรติ และยินดีที่จะสนับสนุนความรักระหว่างพระเอกและอิโอริ
นี่ถือเป็นเสน่ห์ของละคร/ การ์ตูนแนวรักๆญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ที่ให้ความสำคัญกับการนำผู้หญิงที่ดีคนละแบบมาเจอกันโดยไม่ต้องตบกัน
7. นัยยะเรื่องฤดูกาลทั้งสี่ กับสาวๆ ทั้งสี่คน
ผมไม่แน่ใจว่าในฉบับการ์ตูนมีการสื่อถึงประเด็นนี้ด้วยหรือเปล่า
แต่ผมรู้สึกว่าการแทนเหล่านางเอกในเรื่องทั้งสี่คน กับฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่นนี่ นี่ก็เป็นอะไรที่ผมชอบมากเหมือนกัน
เพราะเมื่อดูจากเนื้อเรื่องแล้ว สาวทั้งสี่คนก็ให้ความรู้สึกของแต่ละฤดูกาลจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้อิโอริกับฤดูใบไม้ผลิ
ฤดูใบไม้ผลินั้นมีจุดเด่นอยู่ที่ดอกซากุระ ซึ่งเป็นดอกไม้ที่งดงาม น่าทะนุถนอม
แต่ในขณะเดียวกันก็มีความเปราะบาง สะท้อนให้เห็นถึงความไม่แน่นอน
ที่ญี่ปุ่น ฤดูใบไม้ผลิเป็นช่วงเวลาที่คนส่วนใหญ่ เริ่มงานใหม่ที่บริษัท เริ่มเข้าสู่เทอมใหม่ และสำเร็จการศึกษา จึงให้ความรู้สึกของการเริ่มต้นและลาจาก
อิโอริเองก็เช่นกัน เธอเป็นคนที่ทั้งน่ารัก ทั้งน่าทะนุถนอม แต่กว่าจะได้ลงเอยกับพระเอกในตอนจบนั้น
เธอก็เจอเหตุที่เสี่ยงต่อการทำให้ความสัมพันธ์ล่มสลายอยู่หลายครั้ง และต้องพรากจากกับพระเอกอยู่หลายรอบ
อิทสึกิกับฤดูใบไม้ร่วง
ฤดูใบไม้ร่วงนี้เป็นฤดูที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลาย จากการที่มีความเย็นเข้ามาช่วยคลายความร้อน โดยที่ยังไม่หนาวเกินไป
โทนสีเหลืองปนแดงของฤดูใบไม้ร่วง ที่มาก่อนโทนสีเคร่งขรึมของฤดูหนาวนั้น
หากถือว่าหนึ่งปีเป็นหนึ่งวันแล้วฤดูใบไม้ร่วงก็เป็นเหมือนยามเย็น ซึ่งเป็นเวลาแห่งการเดินทางกลับบ้านไปเจอครอบครัว
ตัวอิทสึกิเองก็เป็นคนที่คอยคลายความเดือดเนื้อร้อนใจให้พระเอกหลายครั้ง และมีความสนิทสนมจนเหมือนจะกลายเป็นคนในครอบครัวพระเอกไปแล้ว
อิซุมิกับฤดูร้อน
ฤดูร้อนเป็นฤดูกาลที่จัดได้ว่าเป็นฤดูที่เซ็กซี่ที่สุด เพราะจะเป็นเวลาที่คนใส่ชุดแบบเปิดเผยเนื้อตัวร่างกายมากที่สุด
ฤดูร้อนเป็นฤดูกาลที่มีความสดใส แต่ด้วยอากาศที่ร้อนแรงก็ทำให้อยู่ได้แบบไม่ค่อยสบายเนื้อสบายตัวนัก
อิซุมิก็คล้ายๆกัน ตรงที่มีความสดใส เซ็กซี่ แต่ก็มีเรื่องวุ่นๆตามมาด้วยจากความร้อนแรงของเธอนั่นเอง
ไอโกะกับฤดูหนาว
ฤดูหนาวเป็นฤดูกาลที่แห้งแล้ง แต่ในวันที่หิมะตกขาวโพลนนั้น
ความงามของหิมะนั้นก็เป็นสิ่งที่ให้ความรู้สึกสงบ เรียบง่าย ชำระจิตใจ
พระเอกนั้นได้เจอไอโกะหลังจากที่ตัวเองต้องเผชิญโลกของผู้ใหญ่ จะสนุกแบบนักเรียน เจอเพื่อนและคนรักบ่อยๆไม่ได้แล้ว
นับเป็นช่วงเวลาอันแห้งแล้งของชีวิต การมาของไอโกะนั้น แม้จะไม่มีความหวือหวา ช่วงเวลาที่เจอกับพระเอกก็ทำแต่กิจกรรมธรรมดาทั่วไป
แต่ก็ทำให้พระเอกรู้สึกดีได้
นอกจากนี้ สีขาวของหิมะนั้น ก็สะท้อนให้เห็นจิตใจอันบริสุทธิ์และเต็มไปด้วยความหวังดีของเธอด้วย
ในท้ายที่สุด การจากไปของไอโกะโดยที่ไม่เหลือข้อมูลให้ติดต่อไปหานั้น ก็เหมือนกับหิมะที่ละลายหายลับไปโดยไม่ทิ้งร่องรอย
ผมก็ขอจบกระทู้แต่เพียงเท่านี้ และขอเชิญชวนให้แฟนๆมาติดตามฉบับละครคนแสดงกันครับ
เท่าที่ทราบในตอนนี้ ใน Netflix ของไทย น่าจะยังไม่มีละครเรื่องนี้ฉายอยู่ อย่างไรก็ตาม ก็ได้ข่าวว่ามีคนทำซับไทยออกมาแล้ว10 ตอนจาก 13 ตอนครับ
I"s Live Action (2018) - รื้อฟื้นตำนานการ์ตูนรักยุค 90 ที่แม้จะวาบหวิวน้อยลง แต่ก็ยังคงความประทับใจ
ช่วงปลายๆสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ไปเจอซีรี่ย์ญี่ปุ่นเรื่อง I"s เข้าที่ Netflix (ญี่ปุ่น)
เนื่องจากซีรี่ย์เรื่องนี้ ดัดแปลงมาจากการ์ตูนในความทรงจำของผมเรื่องหนึ่ง ที่โด่งดังมากๆในยุค 90
ผมจึงตัดสินใจลองเปิดรับชมดูครับ
ตอนที่เริ่มดูนั้น ผมก็ลุ้นอยู่เหมือนกันว่า ละครเรื่องนี้จะออกมารุ่งหรือร่วง เพราะแค่เห็นหน้าพระเอกโผล่มา ความรู้สึกอยากดูต่อนี่ก็ลดลงไปพอสมควร
แต่พอเห็นเพลงเปิดละครที่ทำออกมาได้สวยละเมียดละไม ก็เลยตัดสินใจยอมดูต่อก็ได้ พอดูจบตอนแรกก็รู้สึกติดหนึบทันที และดูต่อมาเรื่อยๆ จนจบตอนที่ 13 เมื่อวานนี้เองครับ
ในภาพรวมนั้น ผมเห็นว่าละครเรื่องนี้ทำออกมาได้เยี่ยมเลยทีเดียว ถึงแม้จะเป็นคนที่ไม่ได้รู้จักฉบับการ์ตูนมาก่อน ก็น่าจะตกหลุมรักละครเรื่องนี้ได้ไม่ยากนัก
ความเห็นที่ผมมีต่อ I"s ฉบับคนแสดง มีดังต่อไปนี้ครับ
1. ความครบ/ซื่อสัตย์ต่อเนื้อเรื่อง
จะว่าไปแล้ว ผมต้องยอมรับสารภาพว่า ในตอนที่เริ่มดูละครเรื่องนี้ ผมจำเนื้อเรื่อง I"s ได้ไม่มากนัก
ในตอนที่ผมเจอกับการ์ตูนเรื่องนี้ในสมัยประถมปลายๆ ซึ่งเป็นยุคที่ผมเจอการ์ตูนดีๆหลายเรื่อง แต่อ่านไม่เคยจบสักเล่ม
ในสมัยนั้น ธุรกิจร้านเช่าหนังสือการ์ตูนยังไม่บูม เงินค่าขนมที่ผมได้ก็น้อยเกินที่จะไปไล่เก็บหนังสือการ์ตูนอ่านด้วย โดยมากแล้ว ผมจึงอาศัยอ่านการ์ตูนเอาจากเพื่อนร่วมใช้ ในรถโรงเรียน หรือในร้านตัดผม เนื้อหาที่ได้อ่านจึงจำได้ไม่ละเอียดนอกจากฉาก Service (ฮั่นแน่! ) เด่นๆ ครั้นกาลเวลาได้ผ่านไปจนถึงยุคที่มีร้านเช่าหนังสือการ์ตูนแล้ว ผมก็เน้นอ่านการ์ตูนบู๊ๆเป็นหลัก มากกว่าที่จะไปอ่านการ์ตูนโรแมนติกที่มีฉากพูดเยอะๆ
อย่างไรก็ตาม พอได้ดูฉบับละครคนแสดงแล้ว ฉากต่างๆที่อยู่ในความทรงจำจากการอ่านผ่านๆ ก็มีอยู่ในละครครบ ไม่ว่าจะเป็น ฉากนางแบบวาดรูปคลาสศิลปะ ฉากเกมพระราชา ฉากเรียงก้อนหินทำนายรัก หรือฉากซ่อนสาวที่ออนเซ็น และพอได้ลองหาข้อมูลตามเว็บภาษาญี่ปุ่นและอังกฤษ แฟนๆก็ชมกันว่าภาคคนแสดงนี่ซื่อสัตย์กับต้นฉบับมาก เก็บเนื้อหามาได้ค่อนข้างครบ ซึ่งต่างจาก ver. OVA ที่มีการตัดเนื้อหาของไอโกะกับจุนออกไปอย่างน่าเสียดาย
2. ฉากเซ็กซี่
เมื่อพูดถึงการ์ตูนเรื่อง I"s แฟนๆการ์ตูนส่วนใหญ่ก็คงนึกถึงฉาก Service สุดแซบเป็นแน่แท้
ในฉบับละครนั้น ความเซ็กซี่ต่างๆนั้นก็ยังคงมีอยู่ แต่ก็จะลดระดับลงมาเป็นเซ็กซี่แบบแบาๆแทน
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
โดยส่วนตัวผมว่า การทำอย่างนี้ถือเป็นสิ่งที่ดีนะ เพราะทำให้ละครเข้าถึงกลุ่มคนดูมากขึ้น
อีกทั้งยังทำให้ฉากระหว่างพระเอกและนางเอกตอนหลังๆ (เช่นฉากแวะบ้านพระเอกช่วงคริสต์มาสอีฟ หรือฉากทริปหลังเรียนจบ) นี่มีความลุ้นและความฟินมากขึ้นเป็นทวีคูณ
3. ภาพและเพลง
ในส่วนของการถ่ายภาพและเพลงประกอบ ละครทำออกมาได้สวย ดูแพง ราวกับจะทำหนังชิงรางวัลอย่างไรอย่างนั้น
โดยเฉพาะในส่วนของเพลงเปิดเพลงปิด ที่ทำให้คนดูรู้สึกโหยหาอดีตตามยุคสมัยไปด้วย
ทั้งนี้ทั้งนั้น เพลงเปิดและเพลงปิดจะมีลูกเล่นนิดหน่อยตรงที่ พอเนื้อเรื่องเปลี่ยน มิวสิคก็จะเปลี่ยนตามไปด้วย
ในตอนแรกๆ จะมีอิโอริกับอิทสึกิเท่านั้น จากนั้นก็จะมีอิซุมิ และไอโกะเพิ่มเข้ามาตามลำดับ
ภาพแทรกของตัวละครสาวแต่ละคนในมิวสิคเพลงเปิด ก็มีการบอกนัยยะเกี่ยวกับความเป็นตัวละครแต่ละคนด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
4. Casting ฝ่ายชาย
ในส่วน ของCasting ตัวละครฝ่ายชาย เชื่อว่าคนดูส่วนใหญ่ อาจจะตะหงิดๆกับตัวพระเอกว่า หาที่หล่อกว่านี้ไม่ได้เหรอ/ ถ้าหาได้แบบนี้ ให้ข้าพเจ้าไปเล่นแทนดีกว่า อย่างไรก็ตาม พอดูไปเรื่อยๆ ก็จะเริ่มอินและเอาใจช่วยไปด้วยซะอย่างนั้น นอกจากนี้ผมเองก็เคยดูละครญี่ปุ่นอารมณ์ 'พระเอกหน้าธรรมดาๆ ถูกราย ล้อมด้วยสาวสวย' อย่าง One Million Dollar Women มาแล้ว เลยรับได้ครับ
จะว่าไปแล้ว การที่พระเอกจัดอยู่ในเกณฑ์ไม่ค่อยหล่อนี่ ก็ยิ่งทำให้ธีม 'ดอกฟ้ากับหมาวัด' นี่มี Impact ขึ้นไปอีก
5. Casting ฝ่ายหญิง
ในส่วน ของการ Casting ตัวละครฝ่ายหญิงนี่ ถือว่าทำได้ดีงามมากครับ แม้แต่ในบรรดาตัวละครเสริมฝ่ายหญิงนั้น นักแสดงที่เป็นนามิก็จัดว่าสวยแบบเปรี้ยวจี๊ด คนที่เป็นยูกะ แม้จะหน้าตาดูเป็นสาวธรรมดาๆหน่อย แต่ให้ความรู้สึกว่ามีจริตจะก้านน่ารักดี
6. ความรู้สึกเกี่ยวกับสาวๆใน I"s
- ตัวละครหญิงที่ผมขอยกให้เป็น MVP ในเรื่องนี้ ก็คือ Kato Konatsu ที่รับบทเป็นไอโกะ ครับ (เรื่อง I"s เป็นละครเรื่องแรกที่เธอแสดง)
ดูเผินๆจากภาพโปสเตอร์ ผมรู้สึกว่า ในบรรดาสาวๆสี่คนนี่ อิโอริ อิทสึกิ อิซุมิ สวยกว่า คนอื่นออกแนวตาโตหน้าหวาน แต่ไอโกะนี่ออกแนวอาหมวยไปเลย
แถมกว่าไอโกะจะปรากฎตัว ก็อยู่ในช่วงสามตอนสุดท้ายแล้ว
แต่ทันทีที่เธอเข้ามาในเนื้อเรื่องนี่ พลังการทำลายล้างสูงมาก ดูแค่ตอนเดียวแล้วตกหลุมรักอย่างจังในระดับไวฟุไปเลย สรุปว่าในบรรดาสาว 'I' ทั้งสี่คน
ผมชอบไอโกะมากที่สุด ในขณะเดียวกันก็สงสารเธอที่สุดด้วย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
- Shiraishi Sei เล่นเป็น อิโอริได้น่ารัก น่าทะนุถนอม จะว่าไปแล้ว มองในบางมุมตอนที่เธอไว้ผมยาวนี่ หน้าคล้าย Ayase Haruka เหมือนกัน
- ประทับใจกับความรักและความเสียสละของอิทสึกิเหมือนกันครับ
- อิซุมิ นี่อาจจะเป็นตัวละครที่มีหากมาอยู่ในละครไทยแนว Shadow Force II แล้ว ก็มีสิทธิเป็นตัวอิจฉาได้สูง
อย่างไรก็ตาม เธอก็ได้แสดงให้เห็นในเนื้อเรื่องว่า เธอเองก็มีเกียรติ และยินดีที่จะสนับสนุนความรักระหว่างพระเอกและอิโอริ
นี่ถือเป็นเสน่ห์ของละคร/ การ์ตูนแนวรักๆญี่ปุ่นส่วนใหญ่ ที่ให้ความสำคัญกับการนำผู้หญิงที่ดีคนละแบบมาเจอกันโดยไม่ต้องตบกัน
7. นัยยะเรื่องฤดูกาลทั้งสี่ กับสาวๆ ทั้งสี่คน
ผมไม่แน่ใจว่าในฉบับการ์ตูนมีการสื่อถึงประเด็นนี้ด้วยหรือเปล่า
แต่ผมรู้สึกว่าการแทนเหล่านางเอกในเรื่องทั้งสี่คน กับฤดูกาลทั้งสี่ของญี่ปุ่นนี่ นี่ก็เป็นอะไรที่ผมชอบมากเหมือนกัน
เพราะเมื่อดูจากเนื้อเรื่องแล้ว สาวทั้งสี่คนก็ให้ความรู้สึกของแต่ละฤดูกาลจริงๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ผมก็ขอจบกระทู้แต่เพียงเท่านี้ และขอเชิญชวนให้แฟนๆมาติดตามฉบับละครคนแสดงกันครับ
เท่าที่ทราบในตอนนี้ ใน Netflix ของไทย น่าจะยังไม่มีละครเรื่องนี้ฉายอยู่ อย่างไรก็ตาม ก็ได้ข่าวว่ามีคนทำซับไทยออกมาแล้ว10 ตอนจาก 13 ตอนครับ