💚มาลาริน/ไม่อยากให้หลงทาง...หมอ" ตอกกลับ "สรยุทธ-ดารา call out"

อย่าเยอะหมอ" ตอกกลับ "สรยุทธ-ดารา call out"


 
 
เฟซบุ๊ก Nongnalinee Jaisin ของ พญ.นงนลินี จัยสิน โพสต์ข้อความ ระบุว่า...👇

"ต้องถามคุณสรยุทธกลับ ถามดาราคอลเอาท์ ถามหมอที่เอาแต่วิจารณ์ ถามทุกคนที่สร้างเฟคนิวส์มาตั้งแต่ต้น และถามนักการเมืองที่ใจดำคอยขัดขวางการทำงานทุกอย่าง ทั้งฝ่ายรัฐและฝ่ายค้าน

ดิฉันเพิ่งมีโอกาสได้ไปอาสาที่ กทม. เมื่อไม่นาน สิ่งที่เห็นคือคนไข้ส่วนใหญ่ที่เข้าถึงบริการคือกลุ่มสีเขียว กลุ่มคนในค่ายในแคมป์ของเจ้าของกิจการ ที่เข้าถึงบริการง่ายและหน่วยงานรับน้ำท่วมปาก ทำไมคุณเป็นนักข่าวไม่ไปเจาะลึกว่าคนไข้ใน รพ.สนาม แต่ละวันรับคนไข้กลุ่มไหน รับมาแล้วต้องอยู่ถึง 14 วัน ขณะที่คนติดเชื้อเพิ่มขึ้นทุกวัน

คุณเห็นแค่ปลายทางที่คนไข้หนัก คุณร้องไห้ คุณประสานผู้บริหาร สปสช. กรมการแพทย์ที่ อยากเอายามาแจกคนไข้หนักเสียเอง โชคดีบังเอิญที่ดิฉันได้รับรู้ควาพยายามอันนี้ จึงพยายามโพสต์ พยายาม โทร.เข้ากรมการแพทย์ เพื่อมิให้พวกคุณนำยานำออกซิเจนมาแจกเสียเอง เพราะอะไร?

เพราะคนเหนื่อยไม่ต้องการแค่ยาไม่ต้องการออกซิเจน ต้องการการประเมินดูแลอย่างใกล้ชิด ต้องการยาลดการอักเสบที่ใช้ฉีดเอา มิได้กินเอา ถ้ารักษาคนไข้หนักกันเอาเอง เราก็จะเหมือนอังกฤษ ที่ช่วงนึงคนตายเยอะมากเพราะแจกยาต้าน
ไวรัสและสเตียรอยด์ ผลที่ตามมาคือได้พันธุ์ไวรัสเป็นของตัวเอง

ดิฉันห้ามมิใช่ว่าเรื่องการเมือง เพราะดิฉันไม่เคยได้ผลประโยชน์จากการบริหารบิ้กตู่สักบาท ดิฉันไม่เคยถามว่าเรามาถึงจุดนี้ได้อย่างไร แต่อยากจะบอกว่าเราจะไม่มีวันมาถึงจุดนี้เลยถ้าเราไม่อคติต่อกัน เอาเรื่องการเมืองนำ เราควรจะได้นักข่าวที่ช่วย รพ.สนามเต็มที่ เราควรจะได้นักข่าวที่เป็นกระบอกเสียงแทน และกดดัน รพ.สนาม ให้รับคนไข้หนักมากกว่าคนไข้ครองเตียงเพื่อประกัน

เราควรจะได้ดาราที่ช่วยกันบริจาคเพื่อ รพ. หรือเพื่อ ปชช. ที่ตกงาน หรืออย่างน้อยแรงจิตอาสาก็ยังดี ในการช่วยดูแลคนไข้สีเขียวแบ่งเบาภาระสาธารณสุข

ดาราเป็นจิตอาสา ความเป็นบุคคลสาธารณะ ทำให้คนฮึกเหิมอยากอาสามากขึ้น ความเป็นดารา ความเป็นนักข่าวที่เป็นบุคคลสาธารณะ คุณได้จากสังคมมากมายยามบ้านเมือง

ปกติ คุณควรรัก ปชช. มากกว่าการเมือง นาทีนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือชีวิต ปชช. มิใช่คอลเอาท์หรือใครจะอยู่จะไป

หมอบางคนถูกยกย่องเป็นหมอแห่งประเทศเพราะด่ารัฐบาลได้สะใจ มากกว่าที่จะเสียสละทุ่มเทแบ่งเบาภาระคนหน้างาน ขนาดดิฉันไปอยู่แค่ 7 วันยังเปลี่ยนสีคนไข้ให้คนสนใจแล้วนำมาเป็นนโยบายได้ พวกคุณอยู่ กทม. ตลอดทำมาหากินร่ำรวยมีเครดิตทางสังคม หากคุณทุ่มเททำงานร่วมกับแพทย์ด่านหน้า คุณจะเห็นเหมือนสิ่งที่ดิฉันเห็น

แต่ถึงอย่างไรขอบคุณคุณสรยุทธคุณได๋ที่กลับลำ ไม่สร้างความลำบากใจให้แพทย์ที่อยู่ด่านหน้า ด้วยการดื้อดึงที่จะหายา favi (ยาฟาวิพิราเวียร์) และสเตียรอยด์มาแจกเอง เห็นตัวอย่างประเทศที่ทอดทิ้งคนไข้แจกยากินเองแม้ในคนไข้หนักไหมคะ?

ทั้งอังกฤษ ทั้งอินเดีย ทั้งอเมริกา เขามีสายพันธุ์เป็นของตัวเอง สาธารณสุขเราเข้มแข็งเพราะเราหล่อหลอมมาจากใจ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

มองตรงไหนเห็นปัญหา ปัญญาต้องตามมาค่ะ มิใช่ช่องทางจัดการรัฐบาลตามมา... นาทีนี้เราต้องช่วยกันเพื่อประเทศชาติของเรามิใช่เพื่อคุณประยุทธหรือคุณทักษิณค่ะ...

อยากฝากข้อคิดเรื่องเล่าเช้านี้ไว้

ว่าจะไม่พูดเรื่องการเมืองอดไม่ได้เหมือนสิ่งเสพติดมีแต่หา-ย-นะ

ขอโทษทุกคนที่เคยนำมาออกสื่อเล็กๆ ใน พท.ดิฉัน มิใช่การแฉ แต่คือการเตือนสติ จากพี่จากน้องจากคนนึงที่รักประเทศชาติไม่อยากให้พวกคุณหลงทาง..."

https://siamrath.co.th/n/264016

ดิฉันหลงรักหมอค่ะ....รักเลิฟถอดรหัสใจ

หมอชี้ทางให้คนมีสติ หมอรักชาติบ้านเมืองอย่างแท้จริง

เชื่อหมอ เรารอดแน่นอนค่ะ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ต้องขอบคุณหมอนะที่ออกมาเตือน

การให้ยาต้านไวรัสเอง โดยไม่มีความรู้ว่า จะต้องระวังเมื่อคนไข้มีโรคประจำตัวอะไรบ้าง มีข้อควรระวังอะไร การทำงานของตับไตเป็นอย่างไร มันอันตรายจริงๆ

และที่น่าเศร้ายิ่งกว่าก็คือ ถ้าคนไข้เป็นอะไรไป ก็กลายเป็นว่า ได้รับการรักษาช้า คนที่ให้โดยไม่มีความรู้นี่คือ ทำดีที่สุดแล้ว

ไม่ต้องพูดถึงเชื้อกลายพันธุ์ตัวใหม่ที่อาจเกิดขึ้น

และถ้า รพ.สนาม มีแต่คนที่มีประกันที่เข้าได้ทั้งที่ไม่จำเป็น คนที่หายแล้วแต่ไม่ยอมออก เพราะตกงาน ไม่มีบ้านให้กลับ คุณสรยุทธน่าจะช่วยเจาะข่าวกดดันและหาทางช่วยเหลือได้ตามทางวิชาชีพตัวเองได้ดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่