เรื่องมันเริ่มต้นจากเรื่องเล็กๆค่ะ จนรามไปถึงขั้นตัดแม่ตัดลูก คือวันนั้นเรานั่งกินผลไม้อยู่ที่บ้านตรงโต๊ะกินข้าวค่ะแม่ก็มานั่งทำงานใกล้ๆ แล้วเหมือนเขาโทรไปหาคอลเซ็นเตอร์อะไรสักอย่าง แม่ก็บอกให้เรามาทำให้เขาหน่อย ซึ่งทำอะไรเราเองก็ยังไม่รู้เลยค่ะ เราเลยถามเขาไปว่าทำอะไร แม่ก็บอกว่าเนี่ยทำอันนี้ มาฟัง เราก็เลยบอกเขาว่าแม่ก็ฟังสิ เดี๋ยวช่วยฟังอยู่ตรงนี้ (ด้วยความที่กำลังกินของอยู่เลยไม่อยากลุกอ่ะค่ะ)
เขาก็คะยันคะยอให้เราลุกมาฟังอย่างเดียว เราก็ตอบแบบเดิมค่ะ จนเขาโมโห แล้วจู่ๆก็ตวาดใส่เราค่ะ เราตกใจและงงมากทำไมต้องขึ้นเสียงแล้วตะโกนใส่เราขนาดนี้ แล้วจากนั้นเขาก็ด่าสาดสีเทสีใส่เราเลยค่ะ ด้วยความที่เขาเป็นคนปากร้ายก็งัดทุกสารพัดสรรหาคำมาด่าเรา คำหยายต่างๆนาๆ จนเราทนไม่ไหวเลยขึ้นเสียงใส่เขาบ้าง แม่ก็เลยเหน็บแนมเราด้วยการบอกว่าอย่าคิดว่าหาเงินเองได้แล้วจะทำมาเป็นเก่งนะ กูเหมือนส่งควายเรียน นี่มันโง่ดักดานจริงๆ สัตว์นรก อะไรประมาณนี้ค่ะ ด่าสะจนเราคิดว่าเราคงไม่ใช่ลูกเขาแล้ว เราก็เลยเดินหนีขึ้นห้องเลยค่ะเพื่อตัดปัญหา แต่แม่ก็ยังส่งข้อความมาด่าเรามาทำให้เรารู้สึกผิดที่เป็นลูกแย่ เป็นลูก
อ่ะค่ะ พอเราปิดแจ้งเตือนไม่อ่านข้อความแม่ก็โทรมาค่ะ เราเลยไม่รับและพยายามไม่สนใจไม่เก็บเอามาคิดค่ะ พอวันต่อมาเรามีเรียนออนไลน์เช้า เลยตื่นมาเรียนพอเสร็จก็นอนต่อค่ะ แล้วก็ตื่นอีกทีประมาณ 11 โมง เลยลงมาข้างล่างแต่ไม่เจอใครเลย ก็ทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองไปค่ะ แล้วก็ไปทำงานพิเศษตอนบ่าย (เราทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยค่ะ) ในระหว่างทำงานแม่ก็โทรหาเราค่ะ แต่เราไม่ว่างรับ ก็ไม่ได้อะไรค่ะ (ยอมรัยว่าไม่คิดจะโทรกลับเพราะยังไม่อยากคุยค่ะ)
พอใกล้เวลาเลิกงานเผอิญว่าวันนี้เลิกช้ากว่าทุกวันหน่อยเพราะงานเหลือเยอะ แล้วมันใกล้จะเคอร์ฟิลแล้ว ( 2 ทุ่มกว่าๆ ปกติเลิกงาน 2 ทุ่มครึ่ง ) พอเสร็จงานทุกคนก็กลับบ้านค่ะเราถึงบ้านประมาณ 2 ทุ่ม 45 แม่ก็มานั่งรอเราอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวค่ะ เห็นเขาคุยโทรศัพท์อยู่ เราเดินเข้าบ้านและเอากับข้าวที่ซื้อมาวางไว้ เพราะยังไม่ได้กินเลย แต่พอได้ยินแม่พูดว่าถึงแล้วค่ะ พึ่งกลับมา เรารู้เลยทันทีว่า เขาโทรหาผจก.เราที่ทำงานค่ะ คือมันเกินไปไหมคะ เราไม่ได้กลับช้าขนาดนั้นเลย หลังจากแม่คุยกับผจก. เสร็จเขาก็พูดเปิดประเด็นเลยค่ะ จะเอายังไง โทรไปก็ไม่รับ คิดว่ากูเป็นแม่อยู่ไหม เราก็เลยไม่ตอบเขาค่ะ แล้วเก็บกับข้าวเข้าตู้เย็น คิดว่าคงไม่ได้กินแล้วล่ะ เราเลยเดินตรงไปห้องน้ำแล้วอาบน้ำค่ะ ในระหว่างเราอยู่ในห้องน้ำก็ตะโกนอะไรของเขาก็ไม่รู้ พอเราออกมาแม่ก็พูดแบบเดิมค่ะ เราเลยเดินหนีขึ้นห้องเป็นทางที่ดีที่สุด คราวนี้แม่ขึ้นมาตามค่ะ แล้วถามเหมือนเดิมจะเอายังไง จะไม่ให้กูยุ่งกับแล้วใช่ไหมเกลียดกูใช่ไหม พูดมาเลย กูจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับอีก จะได้ตัดแม่ตัดลูกกันไป เราก็เงียบค่ะ ไม่ตอบ แม่ก็ถามคำถามเดิมๆ แล้วขุดแต่เรื่องเก่าๆมาด่าเรา เราอยากจะใจแข็งนะคะแต่กลั้นน้ำตาไม่อยู่จริง มันเสียความรู้สึกมาก เราเลยพูดกับเขาไปว่าถ้าจะมาด่ากันขนาดนี้ก็ไม่ต้องมาคุยกันดีๆ ไม่ต้องมองว่าหนูเป็นลูกแล้ว แม่ก็ยังไม่หยุดค่ะ พูดพยายามให้เรารู้สึกผิด บอกว่าเราไม่ยอมขอโทษ เถียงฉอดๆ แล้วเราผิดอะไรคะ แม่บอกว่าผิดไม่ผิดก็ต้องขอโทษ กูเป็นแม่กูเป็นคนเลี้ยง กูมีบุญคุณกับแค่ไหน แล้วยังพูดว่ากูรู้ว่าอยากจะไปจากบ้านนี้ใจจะขาด พูดสิ่งที่ใจคิดสิ พูดมา คนอื่นมองว่าเป็นเด็กดี ถุ้ย เด็กดีที่ไหน เราเลยบอกเขาไปว่า ก็แม่ไม่ใช่หรอที่ไปบอกคนอื่นว่าหนูเป็นเด็กดี ทำงานพิเศษหารายได้ให้ครอบครัวเราไม่เคยอยากให้คนอื่นมองว่าเราเป็นอย่างนั้นเลย แม่ยังคงด่าเราไม่หยุดและถามย้ำๆจะเอายังไงเราก็เงียบเหมือนเดิมจนสุดท้ายเขาก็ยอมถอยแล้วพูดออกมาว่าโถ่ เสียเวลาว่ะ นึกว่าจะแน่ ทำเป็นเก่ง เก่งไม่จริงนิ แล้วเขาก็ไปค่ะ เราผิดมากเลยหรอคะ แล้วกับเขาที่พูดอะไรไม่สนใจความรู้สึกเราล่ะคะ เขาจะทำอะไรก็ได้เพียงเพราะเราเป็นลูกหรอคะ แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่เป็นแบบนี้ เป็นมาหบายครั้งแล้วค่ะ แต่เราก็ไม่ชินกับการถูกด่าสักที คนแื่นด่าไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่คำด่าที่ออกมาจากปากคนที่เรารักมันเจ็บกว่าร้อยเท่า มีครั้งนึงหนักสุดคือเราเกือบหนีออกจากบ้านค่ะ แต่แม่ก็รั้งเราไว้เราเลยยอมให้อภัยเขา เราถูกแม่กดดันและคาดหวังตั้งแต่เด็กต้องกลัวว่าจะไม่มีเงินเรียน ไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน เราทำงานพิเศษตั้งแต่อยู่ม.2 เพราะพ่อเสีย จนตอนนี้ครอบครัวมั่นคงแล้ว เรายอมรับเลยค่ะบางทีอยากตายไปอยู่กับพ่อด้วยซ้ำ แต่ก็ห่วงแม่ค่ะ ถึงยังไงแม่ก็คือแม่ เรารักแม่นะคะ แต่เราจะยอมตลอดไปกลายเป็นบ้านไม่ใช่ที่ที่มีความสุข ไม่ใช่เซฟโซนอีกแล้ว เราจะทำยังไงดีคะ เคยลองเปิดใจพูดกับแม่เรื่องการพูดการจากับแม่แล้ว คือดีขึ้นไปช่วงนึงค่ะแต่ก็กลับมาเป็นอีก ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงแล้ว บางทีก็คิดว่าตัวเองอาจจะเป็นโรคซึมเศร้า ช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ...
มีปัญหากับแม่ค่ะ แม่เลยถามเราว่ายังอยากมีเขาเป็นแม่อยู่ไหม? จะตัดแม่ตัดลูกไปเลยไหม?
เขาก็คะยันคะยอให้เราลุกมาฟังอย่างเดียว เราก็ตอบแบบเดิมค่ะ จนเขาโมโห แล้วจู่ๆก็ตวาดใส่เราค่ะ เราตกใจและงงมากทำไมต้องขึ้นเสียงแล้วตะโกนใส่เราขนาดนี้ แล้วจากนั้นเขาก็ด่าสาดสีเทสีใส่เราเลยค่ะ ด้วยความที่เขาเป็นคนปากร้ายก็งัดทุกสารพัดสรรหาคำมาด่าเรา คำหยายต่างๆนาๆ จนเราทนไม่ไหวเลยขึ้นเสียงใส่เขาบ้าง แม่ก็เลยเหน็บแนมเราด้วยการบอกว่าอย่าคิดว่าหาเงินเองได้แล้วจะทำมาเป็นเก่งนะ กูเหมือนส่งควายเรียน นี่มันโง่ดักดานจริงๆ สัตว์นรก อะไรประมาณนี้ค่ะ ด่าสะจนเราคิดว่าเราคงไม่ใช่ลูกเขาแล้ว เราก็เลยเดินหนีขึ้นห้องเลยค่ะเพื่อตัดปัญหา แต่แม่ก็ยังส่งข้อความมาด่าเรามาทำให้เรารู้สึกผิดที่เป็นลูกแย่ เป็นลูก อ่ะค่ะ พอเราปิดแจ้งเตือนไม่อ่านข้อความแม่ก็โทรมาค่ะ เราเลยไม่รับและพยายามไม่สนใจไม่เก็บเอามาคิดค่ะ พอวันต่อมาเรามีเรียนออนไลน์เช้า เลยตื่นมาเรียนพอเสร็จก็นอนต่อค่ะ แล้วก็ตื่นอีกทีประมาณ 11 โมง เลยลงมาข้างล่างแต่ไม่เจอใครเลย ก็ทำกิจวัตรประจำวันของตัวเองไปค่ะ แล้วก็ไปทำงานพิเศษตอนบ่าย (เราทำงานไปด้วยเรียนไปด้วยค่ะ) ในระหว่างทำงานแม่ก็โทรหาเราค่ะ แต่เราไม่ว่างรับ ก็ไม่ได้อะไรค่ะ (ยอมรัยว่าไม่คิดจะโทรกลับเพราะยังไม่อยากคุยค่ะ)
พอใกล้เวลาเลิกงานเผอิญว่าวันนี้เลิกช้ากว่าทุกวันหน่อยเพราะงานเหลือเยอะ แล้วมันใกล้จะเคอร์ฟิลแล้ว ( 2 ทุ่มกว่าๆ ปกติเลิกงาน 2 ทุ่มครึ่ง ) พอเสร็จงานทุกคนก็กลับบ้านค่ะเราถึงบ้านประมาณ 2 ทุ่ม 45 แม่ก็มานั่งรอเราอยู่ตรงโต๊ะกินข้าวค่ะ เห็นเขาคุยโทรศัพท์อยู่ เราเดินเข้าบ้านและเอากับข้าวที่ซื้อมาวางไว้ เพราะยังไม่ได้กินเลย แต่พอได้ยินแม่พูดว่าถึงแล้วค่ะ พึ่งกลับมา เรารู้เลยทันทีว่า เขาโทรหาผจก.เราที่ทำงานค่ะ คือมันเกินไปไหมคะ เราไม่ได้กลับช้าขนาดนั้นเลย หลังจากแม่คุยกับผจก. เสร็จเขาก็พูดเปิดประเด็นเลยค่ะ จะเอายังไง โทรไปก็ไม่รับ คิดว่ากูเป็นแม่อยู่ไหม เราก็เลยไม่ตอบเขาค่ะ แล้วเก็บกับข้าวเข้าตู้เย็น คิดว่าคงไม่ได้กินแล้วล่ะ เราเลยเดินตรงไปห้องน้ำแล้วอาบน้ำค่ะ ในระหว่างเราอยู่ในห้องน้ำก็ตะโกนอะไรของเขาก็ไม่รู้ พอเราออกมาแม่ก็พูดแบบเดิมค่ะ เราเลยเดินหนีขึ้นห้องเป็นทางที่ดีที่สุด คราวนี้แม่ขึ้นมาตามค่ะ แล้วถามเหมือนเดิมจะเอายังไง จะไม่ให้กูยุ่งกับแล้วใช่ไหมเกลียดกูใช่ไหม พูดมาเลย กูจะได้ไม่ต้องมายุ่งกับอีก จะได้ตัดแม่ตัดลูกกันไป เราก็เงียบค่ะ ไม่ตอบ แม่ก็ถามคำถามเดิมๆ แล้วขุดแต่เรื่องเก่าๆมาด่าเรา เราอยากจะใจแข็งนะคะแต่กลั้นน้ำตาไม่อยู่จริง มันเสียความรู้สึกมาก เราเลยพูดกับเขาไปว่าถ้าจะมาด่ากันขนาดนี้ก็ไม่ต้องมาคุยกันดีๆ ไม่ต้องมองว่าหนูเป็นลูกแล้ว แม่ก็ยังไม่หยุดค่ะ พูดพยายามให้เรารู้สึกผิด บอกว่าเราไม่ยอมขอโทษ เถียงฉอดๆ แล้วเราผิดอะไรคะ แม่บอกว่าผิดไม่ผิดก็ต้องขอโทษ กูเป็นแม่กูเป็นคนเลี้ยง กูมีบุญคุณกับแค่ไหน แล้วยังพูดว่ากูรู้ว่าอยากจะไปจากบ้านนี้ใจจะขาด พูดสิ่งที่ใจคิดสิ พูดมา คนอื่นมองว่าเป็นเด็กดี ถุ้ย เด็กดีที่ไหน เราเลยบอกเขาไปว่า ก็แม่ไม่ใช่หรอที่ไปบอกคนอื่นว่าหนูเป็นเด็กดี ทำงานพิเศษหารายได้ให้ครอบครัวเราไม่เคยอยากให้คนอื่นมองว่าเราเป็นอย่างนั้นเลย แม่ยังคงด่าเราไม่หยุดและถามย้ำๆจะเอายังไงเราก็เงียบเหมือนเดิมจนสุดท้ายเขาก็ยอมถอยแล้วพูดออกมาว่าโถ่ เสียเวลาว่ะ นึกว่าจะแน่ ทำเป็นเก่ง เก่งไม่จริงนิ แล้วเขาก็ไปค่ะ เราผิดมากเลยหรอคะ แล้วกับเขาที่พูดอะไรไม่สนใจความรู้สึกเราล่ะคะ เขาจะทำอะไรก็ได้เพียงเพราะเราเป็นลูกหรอคะ แล้วนี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่แม่เป็นแบบนี้ เป็นมาหบายครั้งแล้วค่ะ แต่เราก็ไม่ชินกับการถูกด่าสักที คนแื่นด่าไม่เท่าไหร่ค่ะ แต่คำด่าที่ออกมาจากปากคนที่เรารักมันเจ็บกว่าร้อยเท่า มีครั้งนึงหนักสุดคือเราเกือบหนีออกจากบ้านค่ะ แต่แม่ก็รั้งเราไว้เราเลยยอมให้อภัยเขา เราถูกแม่กดดันและคาดหวังตั้งแต่เด็กต้องกลัวว่าจะไม่มีเงินเรียน ไม่มีเงินจ่ายค่าบ้าน เราทำงานพิเศษตั้งแต่อยู่ม.2 เพราะพ่อเสีย จนตอนนี้ครอบครัวมั่นคงแล้ว เรายอมรับเลยค่ะบางทีอยากตายไปอยู่กับพ่อด้วยซ้ำ แต่ก็ห่วงแม่ค่ะ ถึงยังไงแม่ก็คือแม่ เรารักแม่นะคะ แต่เราจะยอมตลอดไปกลายเป็นบ้านไม่ใช่ที่ที่มีความสุข ไม่ใช่เซฟโซนอีกแล้ว เราจะทำยังไงดีคะ เคยลองเปิดใจพูดกับแม่เรื่องการพูดการจากับแม่แล้ว คือดีขึ้นไปช่วงนึงค่ะแต่ก็กลับมาเป็นอีก ไม่รู้ว่าต้องทำยังไงแล้ว บางทีก็คิดว่าตัวเองอาจจะเป็นโรคซึมเศร้า ช่วยให้คำแนะนำหน่อยค่ะ...