ครบรอบ 35 ปี Aliens 2 ฝูงมฤตยูนอกโลก


หากว่าหนังภาคแรกคือการบุกเบิกและรังสรรค์ตำนาน Alien ขึ้นมาเป็นดาวประดับโลกภาพยนตร์ที่พร้อมเติบโตต่อไป หนังภาคนี้ก็คงเป็นสิ่งที่ทำให้ตำนานนั้นเติบใหญ่แข็งแรงคงอยู่เรื่อยมา ประหนึ่งสองพี่น้องต่างนิสัยต่างสไตล์ แต่สมควรได้รับความรักจากผู้ชมไปไม่น้อยกว่ากัน

“คุณสามารถแยกแยะเอกลักษณ์ระหว่างหนังทั้งสองภาคได้อย่างชัดเจน ซึ่งก็บ่งบอกว่าเป็นความตั้งใจของเรามาแต่แรก ที่ไม่เน้นระทึกขวัญ แต่หันไปใส่ความเร้าใจ” ผู้กำกับ เจมส์ คาเมรอน กล่าว


หลังจาก Alien (1979) ประสบความสำเร็จอย่างเหนือความคาดหมายและฉายแววตั้งตัวเป็นแฟรนไชส์ ค่ายหนังจึงพยายามผลักดันหนังภาคต่อออกมา หลายปีผ่านไปพวกเขายังย่ำอยู่กับที่ จนกระทั่งคาเมรอนแจ้งเกิดกับ The Terminator (1984) ทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เพราะเขาคือชายแปลกหน้าที่เคยเขียนบทหนังภาคต่อของ Alien ส่งไปให้พิจารณา ความสำเร็จของ “คนเหล็ก” จึงเป็นข้อพิสูจน์ว่าผู้กำกับคนนี้พร้อมทำงานใหญ่

และคุณความดีแรกของคาเมรอนนับตั้งแต่ได้กุมบังเหียนก็คือการยืนหยัดย้ำชัดว่าต้องการผลักดัน ซิกอร์นีย์ วีฟเวอร์ เจ้าของบท เอลเลน ริปลีย์ ให้เป็นตัวเอก ในขณะที่คนอื่นปรามาสเธอ มองข้ามความสำคัญของตัวละครมนุษย์หนึ่งเดียวซึ่งรอดชีวิตจาก แอลวี-426 คาเมรอนผู้เป็นแฟนบอยเชื่อว่าหนังชุดนี้จะเดินหน้าได้ก็ต่อเมื่อมีเธอเป็นหัวใจหลักเท่านั้น

“เพราะงั้น ตราบเท่าที่มันเป็นความรับผิดชอบของผม หนังก็ต้องเริ่มด้วยชะตากรรมของเธอต่อจากช่วงท้ายภาคแรก” คาเมรอนอธิบาย “เพราะนี่คือเรื่องราวของเธอ เราต้องต่อสู้อย่างหนักเพื่อเปลี่ยนใจใครต่อใคร และเพื่อให้ซิกอร์นีย์ได้เล่น”


กลายเป็นการผจญภัยสุดระทึกครั้งใหม่เมื่อริปลีย์ตื่นจากจำศีลและต้องกลับไปยังแดนมรณะพร้อมทหารกลุ่มเล็กๆ เพื่อรับมือกับ “ซีโนมอร์ฟ” ที่คราวนี้มีมาเป็นฝูง แน่นอนว่าเงื่อนไขเรื่องราวได้เปลี่ยนไป ผู้คนรับรู้ถึงการมีอยู่ของเครื่องจักรสังหารแห่งอวกาศ มีการเตรียมพร้อมจัดหนักจัดเต็ม แปรเปลี่ยนสู่โหมดแอ็คชั่นยิงเดือด ล่าโหด กระนั้น ยังมีอารมณ์เคร่งเครียดลุ้นตัวเกร็งโดยอาศัยกลไกความเสียเปรียบต่างๆ ยัดใส่กลุ่มตัวเอกให้อ่อนล้าทั้งจำนวน กำลัง และจิตใจ

ขณะเดียวกัน ทีมนักแสดงที่ระดมมาสร้างสีสันในภาคนี้ได้เน้นที่สายลุยสมกับหน่วยนาวิกฯเดนตาย ไม่ว่าจะเป็น ไมเคิล บีห์น, บิลล์ แพ็กซ์ตัน และ เจเนตต์ โกลสตีน มี แลนซ์ เฮนริกเซน มาสวมบทมนุษย์สังเคราะห์น่าสงสัยตัวใหม่ แต่ที่เซอร์ไพรส์กว่าใครก็คือ แคร์รีย์ เฮนน์ ผู้รับบท นิวท์ เด็กสาวปริศนาที่ผูกสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับริปลีย์ ทั้งฝีมือการแสดงและเคมีกับซิกอร์นีย์ล้วนสำคัญ เพราะสาวน้อยคือตัวแปรที่งัดเอาความเป็นแม่ของริปลีย์ออกมาส่งเสริมให้ยิ่งดูกล้าแกร่ง

“น้องเก่งมาก จดจำบทพูดของตัวเองในทุกฉากไว้ล่วงหน้าเสมอ” คาเมรอนกล่าวชม “แล้วพอเป็นฉากที่ต้องออกเรี่ยวแรงก็ขอเล่นเองหมดทั้งที่เราใช้สตันท์ได้”


อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางตัวละครฝั่งมนุษย์ที่เขียนไว้ดีมีสมดุล ไฮไลต์เพื่อตอบโจทย์ความต้องการจริงๆ อยู่ที่ฝ่ายนักล่าต่างดาว งานนี้พวกเขาเล่นประเคนเอเลี่ยนนางพญาตัวมหึมาสำหรับไคลแม็กซ์สุดมัน ทั้งได้ขายความตื่นตาและโชว์งานสเปเชียลเอฟเฟกต์ไปพร้อมกัน

“โจทย์ข้อสำคัญคือต้องมีสิ่งที่ดูล้ำกว่าภาคแรก” ผู้กำกับบรรยาย “ต่อให้ใส่เอเลี่ยนมาเป็นฝูง แต่พวกมันคือของเดิมที่คุณกิเกอร์ออกแบบไว้ เราจึงต้องนึกหาสิ่งใหม่ที่พัฒนาขึ้น อย่างกลไกเชิงสังคมของพวกมัน จนทำให้ผมคิดถึงตัวนางพญา”

Aliens (1986) หรือที่ผู้ชมทั่วไปเรียกกันง่ายๆ ว่า Aliens 2 ยังคงประสบความสำเร็จไล่เลี่ยกับภาคแรกหลังทำเงินทั่วโลกกว่า 131 ล้านดอลลาร์จากทุนสร้าง 18 ล้าน เปลี่ยนโหมดมาเป็นยิงๆ ลุยๆ และลุ้นๆ ตามสไตล์ถนัดของคาเมรอน เน้นขายความโครมคราม ความบันเทิงย่อยง่าย ซึ่งกลายเป็นแนวทางที่ดึงดูดผู้ชมได้เพิ่มขึ้นตามกาลเวลา และที่สำคัญ หนังเรื่องนี้ได้ส่งให้บท เอลเลน ริปลีย์ ก้าวขึ้นเป็นตัวละครหญิงเหล็กในตำนาน

ขอขอบพระคุณบทความจากเพจ Vintage Motion

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่