หลังจากรับมือโดยไม่มีวัคซีนมานานร่วมปีในที่สุดสัญญาณทุกอย่างก็แสดงเหมือนว่าเปรูได้ภูมิคุ้มกันหมู่แล้วจากการติดเชื้อ
แลกด้วยชีวิตของประชากร 5000 คนต่อล้าน โดยที่วัคซีนในตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นฉีดไปได้ไม่มาก
ในทางทฤษฏีจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ประชากรต้องติดเชื้อกันไปแล้ว 60 - 70% ขึ้นอยู่กับว่าไวรัสติดง่ายแค่ไหน เดลต้าอาจ 70%
การดูจากจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันไม่ได้บอกจำนวนผู้ติดเชื้อจริงแน่ๆว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่
ประชาชนในอเมริกามีภูมิคุ้มกันต่อโควิดสูงถึง 49.1% ตั้งแต่เพิ่งเริ่มฉีดเช่นกัน
เมื่อเดือนมีนาคม ตอนที่อเมริกาเพิ่งเริ่มต้นฉีดได้ไม่มาก มีคนฉีดครบ 2 เข็มแค่ 5%
เมื่อนำเลือดของผู้บริจาคจำนวน 133,370 คนไปตรวจภูมิคุ้มกัน พบว่า 49.1% มีภูมิคุ้มกันต่อโควิด
ติดไปเรียบร้อยแล้ว ห่างจากตัวเลขรายงาน 4 - 5 เท่า
https://covid.cdc.gov/covid-data-tracker/#nationwide-blood-donor-seroprevalence
สอดคล้องกับงานวิจัยของมหาลัยโคลัมเบียที่ทำโมเดลประมาณไว้ตัวเลขใกล้เคียงกันคือ 4 - 5 เท่าในอเมริกา
https://www.npr.org/sections/health-shots/2021/02/06/964527835/why-the-pandemic-is-10-times-worse-than-you-think
ดังนั้นการดูจากจำนวนการตายก็อาจเป็นอีกวิธีที่น่าเชื่อถือกว่า เพียงแต่เราไม่รู้ว่าต้องตายเท่าไหร่
จากกรณีเปรูพบว่าพอยอดการตายแตะแถวๆ 6000 คนต่อประชากร 1 ล้านคน จำนวนคนตายเพิ่มก็น้อยลงจนเหมือนหยุดนิ่งแล้ว
ถ้าดูประเทศอื่นๆที่มีประชากรเกิน 10 ล้านคน มีการฉีดวัคซีนไปได้ยังไม่มาก แต่มีจำนวนยอดตายสะสมเกิน 2000 คนต่อ 1 ล้าน
ก็จะเจอประเทศอื่นๆเช่น บราซิล โคลัมเบีย อเจนติน่า ซึ่งล้วนแต่อยู่ในทวีปอเมริกาใต้
พอไปดูยอดจำนวนติดเชื้อใหม่รายวันก็จะพบกว่าล้วนแล้วแต่มีแนวโน้มลดลงแล้วทั้งสิ้น
สำหรับไทยเราเริ่มต้นฉีดไปแล้วในขณะที่ยอดก็กำลังขึ้น กำลังฉีดแข่งกับเดลต้า ด้วยอัตราที่ช้าเพราะได้แค่ประมาณ 10 ล้านทั้งที่มีกำลังฉีดได้ 20 ล้าน
เรากำลังจะมีภูมิคุ้มกันหมู่จากการติดจริงควบคู่กับฉีดวัคซีนไปพร้อมๆกัน ความสูญเสียไม่อยากประเมินจะมีกี่พันต่อล้านคน
ขอเป็นกำลังใจให้หน้างานทุกคน อัตราฉีดตอนนี้กว่าจะได้ 100 ล้านโดสก็อีก 9 เดือน แล้วไปลุ้นอีกทีว่าจะหยุดได้รึเปล่า
[covid-19] เปรูคือตัวอย่างของจุดจบการระบาดแบบไม่ต้องมีวัคซีน
แลกด้วยชีวิตของประชากร 5000 คนต่อล้าน โดยที่วัคซีนในตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นฉีดไปได้ไม่มาก
ในทางทฤษฏีจะเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ ประชากรต้องติดเชื้อกันไปแล้ว 60 - 70% ขึ้นอยู่กับว่าไวรัสติดง่ายแค่ไหน เดลต้าอาจ 70%
การดูจากจำนวนผู้ป่วยใหม่รายวันไม่ได้บอกจำนวนผู้ติดเชื้อจริงแน่ๆว่าเป็นจำนวนเท่าไหร่
ประชาชนในอเมริกามีภูมิคุ้มกันต่อโควิดสูงถึง 49.1% ตั้งแต่เพิ่งเริ่มฉีดเช่นกัน
เมื่อเดือนมีนาคม ตอนที่อเมริกาเพิ่งเริ่มต้นฉีดได้ไม่มาก มีคนฉีดครบ 2 เข็มแค่ 5%
เมื่อนำเลือดของผู้บริจาคจำนวน 133,370 คนไปตรวจภูมิคุ้มกัน พบว่า 49.1% มีภูมิคุ้มกันต่อโควิด
ติดไปเรียบร้อยแล้ว ห่างจากตัวเลขรายงาน 4 - 5 เท่า
https://covid.cdc.gov/covid-data-tracker/#nationwide-blood-donor-seroprevalence
สอดคล้องกับงานวิจัยของมหาลัยโคลัมเบียที่ทำโมเดลประมาณไว้ตัวเลขใกล้เคียงกันคือ 4 - 5 เท่าในอเมริกา
https://www.npr.org/sections/health-shots/2021/02/06/964527835/why-the-pandemic-is-10-times-worse-than-you-think
ดังนั้นการดูจากจำนวนการตายก็อาจเป็นอีกวิธีที่น่าเชื่อถือกว่า เพียงแต่เราไม่รู้ว่าต้องตายเท่าไหร่
จากกรณีเปรูพบว่าพอยอดการตายแตะแถวๆ 6000 คนต่อประชากร 1 ล้านคน จำนวนคนตายเพิ่มก็น้อยลงจนเหมือนหยุดนิ่งแล้ว
ถ้าดูประเทศอื่นๆที่มีประชากรเกิน 10 ล้านคน มีการฉีดวัคซีนไปได้ยังไม่มาก แต่มีจำนวนยอดตายสะสมเกิน 2000 คนต่อ 1 ล้าน
ก็จะเจอประเทศอื่นๆเช่น บราซิล โคลัมเบีย อเจนติน่า ซึ่งล้วนแต่อยู่ในทวีปอเมริกาใต้
พอไปดูยอดจำนวนติดเชื้อใหม่รายวันก็จะพบกว่าล้วนแล้วแต่มีแนวโน้มลดลงแล้วทั้งสิ้น
สำหรับไทยเราเริ่มต้นฉีดไปแล้วในขณะที่ยอดก็กำลังขึ้น กำลังฉีดแข่งกับเดลต้า ด้วยอัตราที่ช้าเพราะได้แค่ประมาณ 10 ล้านทั้งที่มีกำลังฉีดได้ 20 ล้าน
เรากำลังจะมีภูมิคุ้มกันหมู่จากการติดจริงควบคู่กับฉีดวัคซีนไปพร้อมๆกัน ความสูญเสียไม่อยากประเมินจะมีกี่พันต่อล้านคน
ขอเป็นกำลังใจให้หน้างานทุกคน อัตราฉีดตอนนี้กว่าจะได้ 100 ล้านโดสก็อีก 9 เดือน แล้วไปลุ้นอีกทีว่าจะหยุดได้รึเปล่า