แม่มีกิ๊กแล้วพ่อจับได้ แต่สุดท้ายพ่อยอมอยู่ในสถานะอะไรก็ได้ เพื่อให้แม่มีความสุข เราควรจะจัดการกับความรู้สึกยังไงดี

นี่คงเป็นกระทู้แรกของเราและอาจยาวนิดนึงนะคะ ถ้าผิดพลาดตรงไหนขออภัยด้วยค่ะ  คือบ้านเรามีพี้น้องรวมเราก็ 3คน อายุ 25 22 และ19ปี
   พ่อแม่อยู่ด้วยกันไม่เคยทะเลาะกันเลย แต่พักหลังๆช่วงเราเรียนมหาลัยเมื่อ3ปีก่อน เราเห็นพฤติกรรมแม่เปลี่ยนไป เก็บตัวในห้องบ้าง ปิดเสียงโทรศัพท์บ้าง  และนั่งลบแชท ถ่ายรูปตัวเองในชุดชั้นใน และใส่หูฟังตลอดเวลา และมีอะไรอีกมากมาย เลยคาดเดาว่าน่าจะมีคนคุยในเฟสและไลน์  แต่ช่วงนั้นไม่กล้าบอกพ่อ เราก็ได้แต่เสียใจมาโดยตลอด พอเรียนจบกลับมาบ้านเกิดเหตุการณ์ที่แม่โดนจับโป๊ะเพราะมีคนโทรมา แล้วพ่อรับสาย เลยรู้ว่าเป็นกิ๊ก แล้วแม่ก็บอกพ่อว่าไม่อยากอยู่บ้านแล้วอยากไปอยู่กับกิ๊ก(ที่เพิ่งคุยกันได้2เดือน) พ่อทำใจไม่ได้นั่งร้องไห้หนักมาก เราก็เพิ่งเคยเห็นพ่อร้องไห้ แต่พ่อไม่ได้ทำอะไรแม่เลย วันนั้นเป็นวันที่ชีวิตดาวน์มาก  เรากับพี่ก็ได้แต่พูดให้แม่ได้สติ (แล้วรู้อีกเรื่องว่าแม่เคยโอนตังค์ให้หนุ่มไหนไม่รู้หมื่นนึง ที่รู้เพราะแม่ไปโอนที่ร้านแล้วลืมเอาสลิป พอพ่อไปร้านเจ้าของร้านเลยฝากสลิปมาให้แม่) และเรื่องนั้นก็ผ่านไปแบบจบไม่สวยเพราะแม่ขอคุยกับกิ๊กต่อ พ่อก็จำใจยอม เพราะไม่อยากเสียแม่ไป  เรื่องก็ผ่านไปได้1เดือน  พ่อก็หลุดปากพูดถึงเรื่องสถานะประมาณว่าพ่อกับแม่เหมือนแค่ทำหน้าที่เลี้ยงลูก และคงให้แม่มีความสุขกับการคุยกับคนอื่น เพื่อที่แม่จะได้ไม่หนีพ่อไปไหน แบบนี้เราจะจัดการความรู้สึกตัวเองยังไงดีคะ สงสารพ่อมากๆ อาจจะไม่ได้ลงรายละเอียดเยอะ แต่ที่พ่อทำไปบางส่วนเราพอเข้าใจได้ค่ะ  และที่สำคัญแม่เป็นคนที่พูดกล่อมคนได้เก่งมาก และเป็นคนเจ้าอารมณ์ด้วย
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
เรื่องที่คุณเจอ มันหนัก และจัดการกับความรู้สึกยากจริงๆค่ะ

_ความสั่นคลอนในครอบครัว ทำให้มี ความผิดหวังต่อมารดา (ผู้ซึ่งควรทำตัวให้น่าเคารพและเป็นเยี่ยงอย่าง)

_ความสงสาร เห็นใจ และทุกข์ใจแทนบิดา ทำให้คุณเจ็บมากกว่าเดิม เมื่อรู้ว่าท่านเจ็บช้ำมากเพียงใด

เรื่องเหล่านี้ คนในวัยคุณ ซึ่งยังผ่านประสบการณ์ชีวิตมาน้อย จะรู้สึกเหมือนทางตัน หาทางออกไม่ได้

ลองมองมุมนี้ดูนะคะ แม้จะยากสักหน่อย แต่จะช่วยบรรเทาความเสียใจ และเป็นหลักใจให้คุณได้ค่ะ

1. พ่อของคุณรักครอบครัว และเข้าใจความหลง ที่แม่ของคุณกำลังเผชิญ

ที่ท่านไม่ทิ้ง ไม่อยากแตกหัก เพราะที่ผ่านมา เมื่อมองภาพรวมของครอบครัว
พ่อเห็นว่า มีความสุข มากกว่าทุกข์ ...

และทุกข์ครั้งนี้ พ่อก็มีความหวัง ว่ามันจะจืดจาง และหายไป ตามกาลเวลา ยังมีความหวัง ว่าจะได้ครอบครัว กลับมาเหมือนเดิม

2. พ่อคุณต้องการกำลังใจค่ะ
แต่กำลังใจที่ต้องการ คือ ความรักที่บริสุทธิ์จากลูกๆ ที่จะทำให้ท่านรู้ว่า แม้ครอบครัวมีรอยแตกร้าวเพราะแม่
แต่ลูกจะช่วยเยียวยาให้ ซ่อมแซมให้ เพราะมีความเชื่อมั่น เช่นเดียวกัน ว่า จะกลับมาดีดังเดิม หรือ กระทั่งดีกว่าเดิมได้

ตรงนี้สำคัญมากค่ะ การอยู่เป็นเพื่อนพ่อ / โทรหา แสดงว่าแคร์ เป็นห่วง สนใจ ใส่ใจท่านมากกว่าปกติ
ให้ท่านรู้สึกอบอุ่นใจ โดยปราศจากการตำหนิ หรือพูดถึง หรือวิจารณ์ พฤติกรรมของแม่ไปเลยค่ะ

“ อย่าไปยุให้พ่อ เลิกกับแม่เด็ดขาด “

อย่าไปซ้ำเติมท่าน ด้วยความคิดของคุณ ว่าแบบไหนจะดีกว่า  ชีวิตคู่ของท่าน ท่านมีสิทธิ์เลือกทางเอง
ขอเพียงเคารพการตัดสินใจของท่าน อยู่ข้างๆท่าน ในวันที่ท่านอ่อนแอ / ร้าวรานกว่าที่เคย ก็พอ

3. ทำให้แม่ละอายใจ โดยดีกับแม่ค่ะ

มองในแง่ ว่าแม่คุณป่วยนะคะ กำลังถูกเชื้อโรค (คือกิเลส) เล่นงานโดยตรง และภูมิต้านทานทางใจของแม่น้อยไป
ไม่อาจรักษาใจตัวเองได้

ความรัก ความลุ่มหลง รุนแรงเพียงใด หากคุณไม่เคยรัก คุณอาจจะจินตนาการลำบาก
แต่คุณจะพอหาอ่านได้ จากข่าวคราว จำพวก หึงโหด / ถูกหลอกให้โอนเงินหมดตัว / ฆ่าตัวตายเพราะช้ำรัก ... ฯลฯ
คุณจะพออนุมานได้ว่า อานุภาพกิเลสตัวนี้มันแรง เพียงใด

แม่ของคุณติดเชื้อมา ส่วนลึกแล้ว ท่านไม่อยากเลวค่ะ
ไม่อยาก ทำร้ายสามี ไม่อยาก ถูกมองด้วยสายตาดูแคลนจากลูกๆ

เมื่อคนที่เรารักป่วย มิใช่ควรทิ้ง แต่ควรรักษา แล้วเชื่อมั่นเหมือนที่พ่อคุณเชื่อ ว่าวันหนึ่งจะหายดี

แต่ทว่า ... ทุกคนมีกรรมเป็นของตนอยู่แล้ว
แม้แม่คุณจะมีพฤติกรรมไม่ดีเพียงใด  ขอคุณ อย่าเอาความเลวบางเรื่องของท่านไปทำลายความดีในฐานะแม่
ที่ท่านเคยดีกับพวกคุณมา ... สิ่งเหล่านั้น มันมากพอ ที่คุณจะเอามาหักกลบลบหนี้รัก แล้วจะให้อภัยท่านได้ค่ะ

ชวนท่านคุย / ชวนท่านทำกิจกรรมครอบครัว ดูแลท่านเหมือนเดิม ให้ท่านรู้สึกว่า
ความรัก และ ความอบอุ่นในครอบครัว มีพลังมากพอ ที่จะฉุดแม่คืนจากด้านมืด ที่แม่เองเผลอใจเข้าไปสัมผัสมาค่ะ

4. ดูไว้เป็นบทเรียน ความรัก เมื่อ กลายเป็นความร้าย สร้างทุกข์ให้ใจมากมายเพียงใด
เมื่อคุณจะมีความรักของตนเองในภายหน้า คุณจะฉลาดพอที่จะมองนิสัย และรู้เท่าทันคน ด้วยประสบการณ์ตรงอันล้ำค่านี้ค่ะ

เม่าฝึกจิต
ความคิดเห็นที่ 19
แม่คุณมีความเป็นผู้นำ  มั่นใจในตนเอง  .. คนแบบนี้ไม่สามารถพูดให้เปลี่ยนความคิดได้  ต้องเจอด้วยตนเอง
ตรงข้าม  พ่อคุณเป็นผู้ตาม  กลัว อ่อนแอ หมุนรอบคนอื่น ... ต้องย้ายให้พ่อหันมาหมุนรอบตัวลูกๆ ยึดลูกเป็นศูนย์กลางแทน
เป็นไปได้สูง ว่าพ่ออับอายสังคม  และเพื่อปกป้องลูกๆ  ..จึงรับมือด้วยการยอมนิ่งเงียบ
---------
สำหรับเรา  เราจะขอให้แม่ออกจากบ้านไป ... ยิ่งเห็นพ่อยิ่งเจ็บ  แล้วซึมเศร้าจะมา ..ไม่เห็นยังจะดีกว่า
เพราะคนอย่างแม่  ต้องออกไปเจอความจริงด้วยตนเอง ... ยิ่งไปขลุกด้วยกัน  ความท้าทายไม่เหมือนเดิม  ธาตุแท้จะมาเร็วขึ้น
เรามั่นใจว่า  หญิงวัย45up ที่แก่แล้วยังไม่ทันโลก  แยกแยะไม่ได้ (คนเราพลาดได้  แต่ถูกจับได้ ต้องได้สติ ต้องเข้าที่ค่ะ)   คนแบบนี้จะต้องกลับมาในวันที่ล้มพัง   และการให้ออกไปคือเร่งวันให้ถึงจุดหักเห .. ถ้ายังได้ทั้งสองคน  ความย่ามใจก็ขยายเวลาให้ยาวนาน

การแยกออกไป ไม่จำเป็นต้องประกาศความจริงแก่สังคม ... ตอนนี้มีสารพัดเหตุที่จะอ้าง  กักตัว  โควิด  ไปดูแลตายาย
บอกเหตุผลไปเรื่อยๆ  เดี๋ยวคนก็ลืม!!!

ถ้าแม่คุณไม่ค่อยมีต้นทุน  เช่นไม่สวยหุ่นดี  ไม่ค่อยมีเงิน  งานไม่ดี  เพื่อนน้อย  ขี้เหงา  นิสัยวีน
ไม่เกิน 2 ปี แม่ก็กลับมา   (ถ้ามีเยอะ ก็นานหน่อย)
วันนั้นเค้าจะกลับมาอย่างได้สติ  Mature   เป็นคนใหม่ที่ดีกว่าเดิม

คุณบอกพ่อว่า  "หนูเองก็ไม่อยากเห็นเรื่องราวนี้ทุกวัน  หนูขอให้บ้านเป็นที่หนูอยากล้มตัวลงอย่างมีความสุข กับพ่อ
พ่อไม่ต้องห่วงพวกหนูนะ  พวกหนูคุยกันแล้ว .. มันดีกับเราทุกคน "

เอาใจช่วยนะคะ !!
ความคิดเห็นที่ 79
ถึงกับ log in เข้ามาตอบเลยค่ะ
นี่มันชีวิตเราในอดีตชัดๆ ขอตอบในฐานะคนที่ผ่านมาแล้ว ขอบอกเลยว่า ตอนนี่ยิ้มมีความสุขมากๆ^^

เมื่อไม่ถึง10ปีที่แล้ว แม่เรานอกใจพ่อค่ะ ทางเฟสทางเบอร์โทร แอบโกหกครอบครัวว่าไปดูงานที่จริงไปอยู่กับกิ๊กอายุ 3x+ คือกิ๊กแม่ก็หน้าด้านมากค่ะ ตือเราเคยแอดเฟส โทรไปหาเขาบอกให้เลิก เขาเพิกเฉยค่ะ เราทำทุกวิถีทางเพื่อให้ครอบครัวอยู่กันอย่างมีความสุข โดยการปกปิดความลับนี้ไว้ไม่ให้พ่อทราบ  ตอนนั้นพ่อแม่อายุ 50+ ค่ะ เราทราบเพราะแม่ชอบแอบคุย เราก็ดักฟัง ตอนนั้น #ยอมรับเลยเสียความรู้สึกทำไมว่ะทำไมมันต้องเป็นครอบครัวเราที่มีเหตุการณ์แบบนี้# ปกปิดนานมาก จนกระทั่งวันหนึ่ง พ่อจับได้ ว่าแม่มีกิ๊ก   นั้นแหละค่ะ บ้านแตกสาแหรกขาด อายคนทั้งหมู่บ้าน เพราะข่าวโตมาก คนนอกดูในบ้าน้ราคือครอบครัวที่อบอุ่น ใครๆก็อิจฉา แต่หารู้ไม่ หึหึ  แต่แม่ยังไม่หยุดค่ะ แม่ได้แต่บ่นว่า ฉันไม่ผิด คุณไม่เคยใส่ใจฉันเอง (ยอมรับเลยตอนนั้นโครตเกลียดแม่แต่ก็รักแม่?) คือแม่เป็นคนที่เราสนิทที่สุดค่ะ เราไว้ใจทุกเรื่อง เชื่อกระทั่งว่าเขาไปดูงานทั้งๆที่อยู่กับกิ๊ก หลอกตัวเองทั้งๆที่รู้TT พอพ่อรู้เข้าทึกคนในบ้านแตกแยกกันค่ะ คือทานข้าวคนละมุมเลย จากที่ครอบครัวอบอุ่น ไปไหนมาไหนด้วยกันพร้อมหน้า  ตอนนี้คือตัวใครตัวมัน พ่อกับแม่ก็มาระบายกับเราว่า พ่อแม่อยู่เพราะสงสารลูก ตอนนั้นมีการขอหย่า แต่ราห้ามไว้ซึ่งพ่อแม่เคารพการตัดสินใจของเรา พ่อเอาแต่ร้องไห้ทึกคืน ว่าทำไมต้องเป็นพ่อ คนที่พ่อรักถึงนอกใจ พ่อสวดมนต์ทุกคืน ภาวนาขอให้เรื่องร้ายๆผ่านไป   ในใจเรา โคตรสงสารพ่อเลย หัวหน้าครอบครัวทำทุกอย่าง เพื่อเมียและลูก

ตอนนั้นจำได้เราจิตตก เครียด เป็นซึมเศร้า อยากตาย มันทรมานมาก เป็นช่วงเวลาที่ ยิ้มสุดๆในชีวิตเลยค่ะ ไป รพ ทุกอาทิตย์เพื่อไปหาหมอบอกหมอว่าปวดหัว แต่ขอยานอนหลับ เพราะวันไหนไม่ทานยานอนหลับเราจะคิดแต่เรื่องนี้ซ้ำๆ จนหมอสงสัย เราเริ่มบังคับตัวเองหยุดทานยานอนหลับ จนมันเริ่มบรรเทา แรกๆก็ทรมาน ซึมเศร้าจนตอนนี้ได้โรคใหม่คือ ไมเกรน มาจนถึงปัจจุบัน ยิ้ม  เพราะเราคิดซะว่า "อะไรมันก็เกิดก็ให้มันเกิด" "ฟ้าหลังฝนสวยงามเสมอ" บอกเลยนะคะ ช่วงนั้นเป็นช่วงที่เราได้เกรดต่ำสุดในชีวิต เกือบใจแตกเพราะคิดว่าครอบครัวตัวเองเฮงซวย  แอบอิจฉาเพื่อนที่มีครอบครัวรักกันดี  

ตอนนั้นพ่อตัดสินใจจะบวชไม่ศึก  หัวอกคนเป็นลูกใจจะแตกเพราะความฝันสูงสึดของเราคือเห็นะอแม่อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ตอนนั้นอ้อนวอนพ่อมากว่าอย่าบวชเถอะ อยู่กับลูก ลูกจะดูแลเอง (พูดไงก็ได้ว่า ถ้ามันแย่ยังมีลูกที่อยู่ข้างพ่อนะ)

หลังจากพ่อจับได้แม่ก็ไม่ค่อยได้เจอกับเขาอีกเลย เขามาหลอกเอาเงินแม่ไปด้วย หลายบาทอยู่ จีบได้เลยตอนนั้นขับรถข้ามจังหวัด เพื่อจะไปคุยกับกิ๊กแม่ แต่เขาหนีทัน

คือพ่อแม่อยู่บ้านด้วยกัน แต่ไม่คุยกันถึง3ปี มาเริ่มคุยกันได้ไม่นานมานี้ ตอนงานวันเกิดเรา ที่แม่ชวนพ่อคุยว่า มา HBD ลูกหน่อย   ตอนนั้นพ่อก็ตอบแม่ว่า เอ่อ  ##วินาทีนี้คือเหมือนโล่งใจอีกนิดที่เห็นพ่อคุยกับแม่ ถึงแม้จะคำเดียวก็ตาม## แต่ช่วงที่ผ่านมา แม่ก็แอบซื้อของกินให้พ่อ แต่แม่ก็ไม่กล้าคุยกับพ่อ

มีครั้งหนึ่งแม่เกิดอุบัติเหตุเล็กน้อย แต่ก็ต้องมีคนดูแล ซึ่งเราทำหน้าที่นี้เอง อยู่ดีๆแม่เกิดสำนึกขึ้นมาว่าไม่มีใครรักแม่เท่าลูก/ครอบครัวนี้แล้ว แม่เลยเริ่มกลับใจ

_____ใช้วลานานมากที่จะฟื้นฟูสุขภาพจิตให้ดีทั้งครอบครัว คือเรามองว่ามันคือปัญหา ที่ทดสอบว่าครอบครัวเราแข็งแรง รักกันขนาดไหน เจออะไรแย่ๆมารับมือได้ไหมมากกว่า แต่ตอนนั้นก็แอบท้อ อยากตาย เหมือนกันเพราะมันยากมาก กว่าจะจูนพ่อกับแม่ให้ไม่หย่ากัน ให้คุยกัน_____

จนปัจจุบันนี้ ครอบครัวกลับมามีความสุขอีกครั้งแล้วค่ะ เรายึดหลัก "อดีตคืออดีตปล่อยมันไปอย่ายึดติด ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด" มันคือบทเรียนอันล้ำค่ากับเรามาก จนตอนนี้เราเริ่มแกร่งขึ้น ใครหน้าไหนจะกิ๊กพ่อกิ๊กแม่ก็มาเถอะค่ะ ถึงกระไรคนที่รักพ่อแม่ที่สุดก็คือลูก สาบานเลย  และพ่อแม่ก็ได้รับพลังความรักจากเราทุกๆวัน  


#เราอาจจะเล่าไม่ละเอียดแต่ใครอยากรู้เพิ่มเติมจากที่เขียน ก็หลังไมค์ได้นะคะ มันยาวมากกก(ก ล้านตัว) อยากให้ทุกคนอดทน ปล่อยวาง เพราะผลลัพธ์มันดีเสมอ
ความคิดเห็นที่ 49
ปล่อยให้เป็นเรื่องระหว่างพ่อกับแม่ค่ะ เป็นเราจะถอยออกมาไม่รับรู้ แต่เตือนพ่อไว้เรื่องเงินทองเอกสารที่ดินฉโนดให้เป็นชื่อพ่อหรือชื่อลูกไว้

ให้ความรักความอบอุ่นกับพ่อ คุยกันดีๆ แต่อย่าไปคุยเรื่องแม่ค่ะ เพราะความรู้สึกโกรธ ไม่ชอบใจบุพการีมันทรมาน และถอนตัวยากมาก เพราะฉะนั้นอย่าปล่อยให้เกิดขึ้นค่ะ ห่างๆแม่เอาก็ได้ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 37
ชีวิตแม่ เป็นของแม่ครับ คุณมีหน้าที่แค่ไปเตือน ถ้าแม่ไม่ฟังก็แล้วแต่แม่ครับ ส่วนพ่อก็แล้วแต่แก ถ้าแกมีความสุขที่อยู่แบบนี้ก็ปล่อยแกไป คุณเองก็ตั้งใจเรียน ทำงาน เก็บเงินไว้ดูแลตัวเองและพ่อแม่ตามที่คุณเห็นสมควร
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่