JJNY : 4in1 สู้แล้วแต่ไม่ไหว รปภ.ผูกคอตาย│ตัดพ้อเถียงนาโมเดล│กมธ.นัดประชุมออนไลน์จ่อผ่านงบเรือดำน้ำ│เชียงใหม่สูญ6หมื่นล.

สู้แล้วแต่ไม่ไหว รปภ.ตกงานมาขายกวยจั๊บแต่เจ๊ง ไม่มีเงินใช้หนี้ผูกคอตาย
https://www.thairath.co.th/news/local/northeast/2142190
 
 
พิษโควิด-19 ทำกระทบชีวิต ลุงอุดรฯ วัย 53 อดีต รปภ.ตกงาน กู้เงินมาทำทุนฮึดสู้หันมาขายกวยจั๊บขายดีมีกำลังใจ แต่พอระลอก 2 และ 3 มาก็เจ๊งสนิท ไม่มีเงินใช้หนี้ เครียดตัดสินใจผูกคอตายหนีปัญหา
 
เมื่อเวลา 07.30 น. วันที่ 16 กรกฎาคม 2564 ร.ต.อ.วรวิทย์ ซุยลา รอง สว.(สอบสวน) สภ.เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งเหตุ คนผูกคอเสียชีวิต ที่บ้านร้างท้ายบ้านดงเค็ง หมู่ 4 ต.บ้านจั่น จึงพร้อมด้วยแพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรธานี อาสากู้ภัยมูลนิธิส่งเสริมธรรม รุดไปตรวจสอบ ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ชั้นเดียว ใต้ถุนสูง เป็นบ้านร้างไม่มีคนอยู่อาศัย บริเวณใต้ถุนพบศพนายธนากร เสนาเจริญ อายุ 53 ปี อยู่ในพื้นที่ ต.บ้านจั่น อ.เมือง จ.อุดรธานี ใช้เชือกไนลอนสีแดง ผูกคอกับคานใต้ถุนบ้าน มีเก้าอี้พลาสติกสีน้ำเงินอยู่ปลายเท้า สภาพไม่สวมเสื้อ นุ่งกางเกงขาสั้นลายสก๊อต เจ้าหน้าที่นำร่างลงมา จากการชันสูตร ไม่พบร่องรอยถูกทำร้าย เสียชีวิตเนื่องจากขาดอากาศหายใจ 2-3 ชม.
 
สอบสวนนางจิตรา เสนาเจริญ 48 ปี ภรรยาผู้ตาย ให้การทั้งน้ำตานองหน้าว่า ผู้ตายเคยทำงานเป็น รปภ. โรงงานดอกไม้แห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี หลังจากโควิดระบาดรอบแรก โรงงานปิดและเลิกจ้าง ผู้ตายก็ได้ไปกู้เงินมาลงทุนขายกวยจั๊บที่ตลาดคำกลิ้ง ต.บ้านจั่น ซึ่งระยะแรกขายดีทำให้มีเงินมาใช้หนี้ แต่พอโควิดมารอบสองและรอบสามต่อเนื่องกัน ทำให้ขายไม่ได้เลย และไม่มีเงินไปใช้หนี้ที่ยืมมา ทำให้ผู้ตายเครียดมาก
 
ก่อนเกิดเหตุ เมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.วานนี้ ได้เรียกสามีมากินข้าว แต่ผู้ตายไม่กิน และบอกว่าต่อไปติดต่อไม่ได้อีกแล้วนะ เพราะเอาโทรศัพท์มือถือไปจำนำใช้หนี้แล้ว จากนั้นก็เข้านอน กระทั่งเวลา 04.00 น. ผู้ตายตื่นขึ้นมาบอกว่าจะเข้าห้องน้ำ ตนเห็นว่าผู้ตายเข้าห้องน้ำนานประมาณ 1 ชม. จึงบอกให้ลูกไปดูก็ไม่เห็น ลูกสาวบอกว่าจะเดินไปดูที่บ้านน้า แต่พอเดินมาได้ประมาณ 100 เมตร ผ่านบ้านร้าง ก็พบผูกคอตาย จึงรีบวิ่งเข้าไปนำเก้าอี้ที่ล้มอยู่ปลายเท้ามาวางใส่เท้าผู้ตายหวังจะเพื่อช่วย แต่ก็ไม่ทันแล้ว สาเหตุน่าจะเกิดจากเครียดที่ไม่มีเงินไปใช้หนี้
 
น.ส.ปริชาติ เสนาเจริญ อาย 26 ปี ลูกสาวผู้ตาย เล่าว่า แม่บอกว่าพ่อไปเข้าห้องน้ำแต่หายไปนานเกินไปผิดสังเกต ตนจึงเดินไปดูที่ห้องน้ำแต่ก็ไม่พบ จึงเดินอ้อมบ้านไปดูที่บ้านญาติ ก็พบพ่อผูกคอตาย จึงรีบวิ่งมาเอาเก้าอี้ที่ล้มอยู่ปลายเท้าพ่อขึ้นมารองเท้าพ่อไว้ เพราะคิดว่าพ่อยังไม่ตาย ด้วยความตกใจจึงรับโทรศัพท์ไปบอกแม่ ส่วนสาเหตุน่าจะมาจากพ่อเครียดเรื่องหนี้สินที่ไปยืมมาลงทุนค้าขายหลายครั้งและหลายคน พอโควิด-19 ระบาดพ่อขายของไม่ได้ ไม่มีเงินใช้หนี้เลยเครียด
 
เบื้องต้นตำรวจสันนิษฐานว่า ผู้ตายเครียดไม่มีเงินใช้หนี้ที่ไปยืมมาลงทุนค้าขาย จึงผูกคอตายหนีปัญหา ญาติไม่ติดใจ จึงมอบศพให้ญาตินำไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณี ต่อไป.
 

 
หนุ่มตัดพ้อ “เถียงนาโมเดล” กักตัวเอง 12 วัน ไร้คนดูแล
https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/151871
 
จากแนวคิด “เถียงนาโมเดล” ของ ศบค. ที่ให้ผู้ป่วยโควิดอาการไม่รุนแรง ไปกักตัวที่บ้านเกิดต่างจังหวัดโดยใช้เถียงนา เป็นสถานที่กักตัวเพื่อดูอาการ 14 วัน
 
ล่าสุดทีมข่าวไปพบข้อมูลผู้ที่กักตัวในเถียงนาจริงๆ ได้โพสต์ข้อความตัดพ้อระบายความในใจ บอกว่าให้มากักตัวเถียงนาก็มากักแล้ว อยู่มาตั้งหลายวันแต่ไม่มีใครมาเหลียวแล มีเพียงแม่ที่คอยส่งข้าวส่งน้ำให้ ส่วนทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แม้แต่คนที่จะวัดไข้หรือให้ยารักษายังไม่มีเลย ไปฟังคลิปบางช่วงบางตอนกัน
 
นี่เป็นบรรยากาศภายในเถียงนา ของชาวบ้านใน ต.สำโรงปราสาท อ.ปรางค์กู่ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งชายหนุ่มรายนี้ได้กักตัวที่เถียงนาขนาดเล็กภายในจังหวัดบ้างเกิด
 
โดยเถียงนาทำด้วยสังกะสีเก่าๆ มีสภาพผุพังทรุดโทรม ภายในเถียงนามี มุ้ง หมอน และผ้าห่ม รวมถึงอุปกรณ์ที่ใช้ในการดำรงชีวิตเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
 
ทีมข่าวได้พูดคุยกับ นายอัมรินทร์ ระยับศรี เล่าให้ฟังว่า ตนเองใช้ชีวิตที่เถียงนาแห่งนี้ได้ 12 วันแล้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ไม่ให้เคลื่อนย้ายไปไหน ช่วงนี้ค่อนข้างลำบากเพราะมีฝนตกหนักทุกวัน และเถียงนาของตนเองก็ไม่มีสายล่อฟ้าทำให้ค่อนข้างอันตรายเวลาที่ฝนตก อีกทั้งความรุนแรงของพายุก็อาจทำให้เถียงนาพังเสียหายได้ บางคืนต้องลุกขึ้นมานั่งประกอบสังกะสี เพราะลมพายุพัดเเรงทำให้สังกะสีหลุดกระเด็นออกไป
 
ที่ตนเองตัดสินใจโพสต์เฟซบุ๊กในทำนองตัดพ้อ เพราะว่ารู้สึกน้อยใจที่ตั้งแต่มาอยู่ในเถียงนาแห่งนี้ตามมาตรการ เพราะหวังอยากจะเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับชาวบ้าน แต่กลับไม่มีใครมาสนใจ มีเพียงแม่ที่คอยเดินส่งข้าว-ส่งน้ำให้ทุกวัน บางวันที่ฝนตกหนักตนเองก็จะเป็นห่วงแม่ เพราะท่านเป็นผู้สูงอายุแล้ว อีกทั้งพื้นที่ส่วนใหญ่จะเป็นดินโคลนจึงเกรงว่าอาจจะเกิดอุบัติเหตุได้
 
ส่วนเจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรับปากว่าจะมาดูแล แต่พอถึงเวลาจริงๆ กลับไม่มีเจ้าหน้าที่มาเลยซักคน มีเพียงอาสาสมัครของหมู่บ้านที่มาคอยวัดไข้ แต่ก็ไม่ได้มาทุกวัน โดยจะเข้ามาประมาณ 3วัน/ต่อครั้ง แต่ละครั้งที่มาก็ไม่ได้ถามไถ่สารทุกข์สุขดิบอะไรมาก จะอยู่เถียงนาแค่ไม่เกิน 5นาที เสร็จแล้วก็เดินทางกลับไปทันที ทำให้ตนเองรู้สึกน้อยใจที่ถูกทอดทิ้งทั้งๆที่พยายามทำตามมาตรการ ศบค. อย่างเคร่งครัด พร้อมอยากขอวอนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือเร่งด่วน
 


กมธ.อ้างโควิด นัดประชุมออนไลน์ จ่อผ่านงบซื้อเรือดำน้ำ 2.2 หมื่นล้าน 19 ก.ค.นี้
https://www.matichon.co.th/politics/news_2833340
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันจันทร์ที่ 19 กรกฎาคม เวลา 09.00 น. คณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สภาผู้แทนราษฎร ได้นัดประชุมคณะใหญ่แบบออนไลน์ โดยมีวาระสำคัญ อาทิ การพิจารณางบประมาณของกระทรวงกลาโหม ในส่วนของการจัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน จำนวน 2 ลำ วงเงินกว่า 22,500 ล้านบาท ตามที่รัฐบาลพยายามผลักดันให้ครบตามจำนวน หลังยอมถอนออกการพิจารณางบประมาณ เมื่อปีงบประมาณ 2564 เนื่องจากถูกกระแสโจมตีอย่างหนักในการใช้งบประมาณจัดซื้ออาวุธในขณะที่ประกาศประสบวิกฤตโควิด
 
ทั้งนี้ ในช่วงเช้าที่ผ่านมา กมธ.งบประมาณ ในสัดส่วนของพรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวตั้งข้อสังเกตต่อการพิจารณางบประมาณที่มีกมธ.ซีกรัฐบาล ได้นัดประชุมคณะใหญ่แบบออนไลน์ ตามมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อระบาดโควิด-19 โดยได้ยกเว้นไม่ต้องให้หัวหน้าส่วนราชการเข้าชี้แจงด้วยตนเอง ทั้งๆที่มีงบประมาณหลายส่วนที่มีจำเป็นต้องสอบถามหัวหน้าสวนราชการถึงความจำเป็น ทำให้ กมธ.ซีกฝ่ายค้านทำงานยากลำบาก ในการพิจารณาตัดงบประมาณที่ไม่จำเป็นออก โดยเฉพาะงบของกระทรวงกลาโหม ที่รัฐบาลยังจะเดินหน้าจัดซื้อเรือดำน้ำ 2 ลำ โดยที่ผู้นำเหล่าทัพไม่จำเป็นต้องมาชี้แจงด้วยตนเอง
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่