ในปัจจุบันที่เชื้อ Covid-19 ยังระบาดหนัก ทุกคนต้องใช้ชีวิตอยู่ในบ้านร่วมกันมากขึ้น หากให้ทายว่าห้องใดในบ้านที่มีเชื้อโรคมากที่สุด คิดว่าน่าจะมีคนไม่น้อยที่ตอบว่า
“ห้องน้ำ” ใช่ไหมล่ะครับ ซึ่งตรงกับผลการทดสอบของนักวิทยาศาสตร์และนักสาธารณสุขที่ได้ทำการเช็ดพื้นผิว 30 พื้นที่ในบ้าน 22 หลังแล้วนำมาตรวจสอบ พบว่ามีเชื้อโรคถึง 660 ชนิด โดยห้องครัวและห้องน้ำเป็นจุดที่มีเชื้อโรคสะสมมากที่สุด และยังเป็นจุดที่สมาชิกทุกคนในบ้านมีการใช้ของร่วมกันและหมุนเวียนใช้งานตลอดทั้งวันอีกด้วย
และจากการอ่านข้อมูลของคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดลเพิ่มเติม พบว่าจุดที่มักพบเชื้อโรคในห้องน้ำมีอยู่หลายจุดด้วยกัน เช่น ลูกบิด กลอนประตู ชักโครก สายฉีดน้ำชำระ ขวดสบู่เหลวและฝักบัวอาบน้ำพลาสติก ซึ่งเป็นจุดเล็ก ๆ ที่เรามักคิดไม่ถึง เนื้อหานี้ SCG HOME Expert จึงขอนำเคล็ดวิธีการตกแต่งรวมถึงการเลือกใช้วัสดุอุปกรณ์ในห้องน้ำให้ถูกสุขลักษณะ เพื่อลดเชื้อ ห่างไกลจากโรคภัยมาฝากกันครับ
1. มีช่องรับแสงและระบายอากาศ
อย่างที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ความอับชื้นเป็นที่มาของการเกิดเชื้อโรคสะสม ห้องน้ำที่ดีจึงควรมีช่องแสงหรือช่องระบายอากาศที่ขนาดใหญ่เพียงพอ เพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามาช่วยฆ่าเชื้อโรคและลดความชื้น แต่ห้องน้ำบางห้องในบ้านหรือห้องน้ำในคอนโดมิเนียมอาจมีข้อจำกัดไม่สามารถใส่ช่องเปิดได้ อาจแก้ไขโดยการติดตั้งพัดลมดูดอากาศไว้บนเพดานหรือผนังห้องแล้วแต่ความเหมาะสม เพื่อช่วยทำหน้าที่ระบายอากาศแทนช่องหน้าต่าง
2. แบ่งโซนเปียก-โซนแห้ง ช่วยลดเชื้อสะสม
บ้านทั่วไปมักจะแบ่งพื้นที่สำหรับห้องน้ำเป็นส่วนที่เล็กที่สุด และด้วยขนาดที่จำกัดทำให้ต้องรวมการใช้งานส่วนอาบน้ำกับโถสุขภัณฑ์เข้าด้วยกัน ทุกครั้งที่อาบน้ำจึงเปียกไปทั้งห้อง ยิ่งบ้านที่มีสมาชิกหลายคนมีการหมุนเวียนใช้งานห้องน้ำตลอดทั้งวัน ทำให้พื้นเปียกชื้นตลอดเวลา นอกจากทำให้เชื้อโรคเติบโตได้ดีแล้วยังเสี่ยงต่อการลื่นล้มเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายด้วย ดังนั้น เพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาดังกล่าวจึงควรแยกโซนเปียก-โซนแห้งออกจากกัน ด้วยการติดตั้งผ้าม่านชนิดกันน้ำ ใส่ฉากกั้นอะคริลิคใส หรือติดตั้งตู้อาบน้ำ เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำกระเซ็นไปทั่วทั้งห้องและยังช่วยให้ทำความสะอาดได้ง่ายกว่าเดิมด้วย
3. กระเบื้องปูพื้นชนิดยับยั้งแบคทีเรีย
พื้นห้องน้ำมักปูพื้นด้วยกระเบื้องซึ่งเป็นวัสดุที่มีรูพรุน จึงเป็นจุดที่สะสมเชื้อแบคทีเรียได้ง่ายมาก จำเป็นต้องใช้น้ำยาฆ่าเชื้อเป็นประจำ ซึ่งมีข้อด้อยที่น้ำยาฆ่าเชื้อจะหมดฤทธิ์ลงอย่างรวดเร็ว และบางผลิตภัณฑ์ก่อให้เกิดไอระเหยที่เป็นพิษในอากาศ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพผู้ใช้งานในระยะยาวได้ แต่ในปัจจุบันได้มีการพัฒนากระเบื้องที่ช่วยยับยั้งเชื้อแบคทีเรียได้ อย่าง กระเบื้องรุ่น Hygienic Tile ที่ยับยั้งการเกิดเชื้อแบคทีเรียด้วย Silver Nano ที่อยู่ในชั้นสีของกระเบื้อง ทำหน้าที่ส่งประจุบวกเพื่อกำจัดเชื้อแบคทีเรียอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถยับยั้งการติดเชื้อได้มากกว่า 90% ไม่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม ลดการสะสมคราบสกปรก ลดความเสี่ยงการได้รับเชื้อจากการสัมผัสและทำความสะอาดได้ง่าย รวมถึงในแง่ของดีไซน์ก็มีหลากสีสันให้เลือกใช้ ตามความเหมาะสมของแต่ละสไตล์ได้อีกด้วยครับ
4. สายชำระและฝักบัวเปลี่ยนมาใช้วัสดุโลหะ
สำหรับห้องน้ำที่ติดตั้งสายฉีดชำระที่ทำการจากพลาสติก ควรมองหารุ่นที่ระบุว่าผลิตจากวัสดุผสมสารยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย เพื่อช่วยลดแหล่งสะสมของเชื้อโรค สร้างสุขอนามัยที่ดีของผู้ใช้ หรือเปลี่ยนเป็นวัสดุที่ทำจากพลาสติกมาเป็นโลหะแทน เพราะโลหะช่วยลดการสะสมเชื้อแบคทีเรียได้ดีกว่าพลาสติก อีกทั้งยังมีความแข็งแรงและทนทานมากกว่าด้วยครับ
5. ลดการสัมผัสในห้องน้ำด้วยระบบอัตโนมัติ
หลายคนลืมไปว่าลูกบิดประตู ก๊อกน้ำ ฝาโถสุขภัณฑ์ เป็นจุดสำคัญที่ทุกคนต้องใช้มือจับสัมผัสเป็นประจำ การทำความสะอาดโดยเช็ดด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคตามปกติสัปดาห์ละ 1-2 ครั้งอาจไม่เพียงพอ เพราะอาจมีการปนเปื้อนสารคัดหลั่งติดเชื้อโดยไม่ทันรู้ตัว ปัจจุบันสุขภัณฑ์ในห้องน้ำมีการออกแบบให้ลดการสัมผัสด้วยระบบเซ็นเซอร์ ทำให้ไม่ต้องใช้มือ ช่วยเพิ่มความสะดวกและปลอดภัยในการใช้งาน
• โถสุขภัณฑ์อัตโนมัติ หนึ่งในสุขภัณฑ์ที่ช่วยให้ใช้ห้องน้ำได้สะดวกสบายขึ้น ไม่ต้องสัมผัสปุ่มชักโครก ไม่ต้องใช้สายฉีด สามารถชำระล้าง เป่าลม อุ่นฝารองนั่ง และฟลัชได้ตามคำสั่ง อย่างเช่น โถสุขภัณฑ์ รุ่นเวอร์โซ ออกแบบฟังก์ชันอย่างครบครัน โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีตรวจจับความเคลื่อนไหวผ่าน Microwave Technology ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมระบบเปิด/ปิดฝาอัตโนมัติ ทำให้มีความรวดเร็วและแม่นยำยิ่งขึ้น มีระบบชำระล้างอัตโนมัติ “Powerful Jet” ล้างรวดเร็ว หมดจด ทรงพลัง ด้วยน้ำเพียง 3.8 ลิตร นอกจากนี้ยังมีระบบฝารองนั่งอุ่น เพื่อความรู้สึกผ่อนคลายในระหว่างการใช้งานอีกด้วย
• ฝารองชักโครกอัตโนมัติ สบายที่สุดกับฝารองชักโครกที่ไม่ต้องใช้มือเปิดปิดเอง เป็นออฟชันเสริมที่สามารถซื้อมาติดตั้งเปลี่ยนเพิ่มภายหลังได้ อย่างเช่น ฝารองชักโครก รุ่นคอนวีนิค ชนิดใช้ไฟฟ้า C9203 THE CONVENIC ดีไซน์รูปแบบสวยงามดูหมดจดสไตล์มินิมอล ทำงานผ่านแผงควบคุมด้านข้าง (Side Panel) มาพร้อมก้านฉีดชำระแบบพิเศษที่มีระบบล้างก้านฉีดอัตโนมัติและสามารถปรับทิศทางก้านฉีดชำระได้ นอกจากนี้ยังมีระบบฝารองนั่งอุ่น ระบบเป่าลมอุ่น ระบบไฟกลางคืนแบบ LED ระบบป้องกันกระแสไฟฟ้ารั่วอัตโนมัติ โหมดประหยัดพลังงาน และฟังก์ชันอื่น ๆ มาอำนวยความสะดวกสบายของผู้ใช้งานแบบ Maximum Comfort
• ก๊อกน้ำระบบเซนเซอร์อัตโนมัติ ลืมก๊อกน้ำแบบหมุน แบบกด แบบปัดก้านไปก่อน เปลี่ยนมาใช้ก๊อกน้ำที่มีเซ็นเซอร์ติดตั้งในตัวจะสะดวกกว่า ก๊อกอัตโนมัติที่นิยมใช้เป็นระบบอินฟราเรด โดยมีสองแบบคือ แบบที่อาศัยพลังงานแบตเตอรี่และแบบที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการเปิด-ปิดน้ำ ใช้งานง่ายเพียงใช้มือผ่านไปที่ช่องเซนเซอร์ของอุปกรณ์ เมื่อไฟสีแดงขึ้นน้ำก็ไหลออกมาจากก๊อกน้ำและจะหยุดทำงานอัตโนมัติเมื่อเอามือออก โดยที่มือไม่จำเป็นต้องสัมผัสก๊อกน้ำ แถมยังไม่ต้องกังวลเรื่องการลืมปิดก๊อกหรือเปิดน้ำทิ้งไว้ ช่วยประหยัดน้ำได้ดี ยิ่งหากเปลี่ยนมาใช้คู่กับที่ใส่สบู่เหลวแบบระบบเซ็นเซอร์ที่มักใช้ในห้องน้ำสาธารณะ ก็จะลดความเสี่ยงในการสัมผัสขวดสบู่ได้ด้วยเช่นกัน
6. เลือกตะแกรงน้ำทิ้งที่กันกลิ่นยับยั้งแบคทีเรียได้
ไม่เฉพาะการจัดการเรื่องสุขภัณฑ์เท่านั้น แม้แต่ฝาท่อภายในห้องน้ำ ก็มีส่วนช่วยในการลดเชื้อโรคได้เช่นกัน ลองสังเกตดูฝาท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำที่บ้านมักมีเศษผม เศษผิวกำพร้า หนังศีรษะ รวมถึงคราบไขมัน สบู่ ติดเกรอะกรังอยู่บริเวณฝาตะแกรง เป็นอีกหนึ่งจุดที่ก่อเชื้อโรคได้ ความสกปรกหมักหมมยังทำให้มีแมลงสาบและสัตว์ชนิดอื่น ๆ ที่ชอบอยู่อาศัยในที่มืดอับชื้นมาอาศัยในท่อและออกมาหาเศษอาหาร เป็นพาหะนำโรคหลายชนิดเข้ามาในบ้าน จึงควรเลือกซื้อตะแกรงน้ำทิ้งที่มีคุณสมบัติกันกลิ่น ยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย (ANTI-BACTERIA) และกันแมลงมาใช้งาน
เป็นอย่างไรบ้างครับกับ 6 ทริคในการตกแต่งห้องน้ำ ครอบคลุมทั้งจุดเล็กและจุดใหญ่ ได้ความสะดวกสบายพร้อมทั้งรับมือกับเชื้อโรคสะสม ซึ่งเรียกได้ว่าเหมาะกับยุคในปัจจุบันนี้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว หากผู้อ่านท่านใดต้องการข้อมูลความรู้เพิ่มเติม สามารถดูเคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับเรื่องบ้านอีกมากมายได้ที่
https://bit.ly/36FuLDc
6 เคล็ดลับแต่งห้องน้ำ ลดเชื้อ ห่างโรค