คนส่วนใหญ่ก็จะรู้จักนักบินกามิกาเซ่ในนามเด็กหนุ่มที่มีหน้าที่ที่ต้องขับเครื่องบินไปชนเรือรบข้าศึกในทางทฤษฎีแล้วนักบินเหล่านี้สามารถทำลายเป้าหมายได้แม่นยำกว่าการทิ้งระเบิดทั่วไปและความเชื่อที่ว่าการกระทำของฝูงบินกามิกาเซ่จะทำให้ข้าศึกเสียขวัญจนไม่กล้าสู้รบ
ประสิทธิภาพของฝูงบินกามิกาเซ่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันจนถึงทุกวันนี้แต่อีกหัวข้อที่ไม่มีคนกล่าวถึงคือจะเกิดอะไรขึ้นหากภารกิจล้มเหลว?
แต่ก่อนเข้าเนื้อหาเรามาดูพื้นหลังกันก่อน หลังจากปี 1944 สถานการณ์ไม่ค่อยจะเข้าข้างญี่ปุ่นสิ่งเดียวที่จะหยุดหรือชะลอการมาถึงของอเมริกาได้คือการทำลายเรือหลวงของอเมริกาที่สำคัญสุดคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน และการทิ้งระเบิดทั่วไปก็ไม่สามารถทำความเสียหายให้เรือเหล่านั้นได้ เพราะฉะนั้นจึงเกิดแนวความคิดการนำเครื่องบินบรรทุกระเบิดแล้วบินชนเรือข้าศึกจึงเกิดขึ้น และนักบินที่ถูกเลือกก็ไม่ใช่ทหารเกณฑ์ทั่วไปแต่เป็นทหารที่มีความสามารถสูงที่สุดเท่าที่กองทัพจะหาได้ การฝึกก็จะค่อนข้างโหดแต่อาหารการกินจะดีกว่าหน่วยอื่น ทหารหน่วยนี้ถูกสอนให้เตรียมตัวรับความตายสำหรับภารกิจที่จะมาถึง
แต่บางครั้งความรักชาติกับการฝึกก็ไม่มากพอที่จะโน้มน้าวใจนักบินให้ไปบินชนกับเรืออเมริกาและส่วนใหญ่ก็ถูกยิงตกก่อนจะเข้าไปใกล้เป้าหมายและส่วนที่บินเข้าใกล้ก็ชนผิดส่วนของเรือหรือไปจูบกับผิวน้ำซะส่วนใหญ่และเครื่องที่ตกลงน้ำถ้าหากรอดก็จะถูกช่วยเหลือโดยลูกเรืออเมริกา
แต่ต้องเข้าใจก่อนว่ายังมีความเชื่อที่ผิดๆที่กล่าวว่านักบินจะได้น้ำมันเพียงครึ่งถังเพื่อตัดโอกาศการบินกลับซึ่งไม่จริงและการบินกลับโดยมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือนั้นสามารถทำได้เพราะการเสียนักบินไปเพราะเครื่องบินนั้นเสียเองก็ย่อมเป็นการสูญเปล่าและการที่มีไอเดียเกี่ยวกับโครงการนี้ก็มาจากการที่ญี่ปุ่นมีทรัพยากรรวมถึงนักบินไม่พอนั่นเองเพราะฉะนั้นนักบินที่บินกลับเพราะเครื่องบินมีปัญหาหรือสภาพอากาศไม่ดีนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะมันไม่ใช่ความผิดของเขา "ขอให้โชคดีคราวหน้าและมันจะมีคราวหน้าแน่นอน" แต่นักบินที่บินกลับด้วยเหตุผลแปลกๆเช่นข้าศึกเยอะเกินหรือหาเป้าหมายไม่เจอก็จะถูกลงโทษและวิธีแก้คือส่งนักบินไปเป็นกลุ่มแล้วมอมเหล้านักบินเพื่อไม่ให้นักบินสนใจเรื่องความตายมากนัก
แต่หากทั้งฝูงบินนั้นออกไปแล้วมีเพียงลำเดียวที่บินกลับมาก็ดูน่าสงสัยแต่ก็ต้องพึงนึกไว้ว่าทรัพยากรนักบินนั้นมีค่าเพราะฉะนั้นญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้นักบินทุกนายให้คุ้มค่าที่สุดเพราะฉะนั้น "ไม่มีการลงโทษ กลับไปบินใหม่นะ" แต่มันก็มีขีดจำกัดในการบินกลับมาเหมือนกันยกตัวอย่างเช่นมีนักบินนายหนึ่งบินกลับมาที่ฐานถึง 9 รอบก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิตในความผิดฐานขี้ขลาด
โดยสรุปคือการทำภารกิจล้มเหลวแล้วบินกลับของฝูงบินกามิกาเซ่นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกและเกิดขึ้นได้การกระทำเหล่านี้จะไม่ส่งผลให้นักบินถูกประหารหรือขังคุกเพราะนักบินเหล่านี้คือทรัพยากรที่มีค่าของญี่ปุ่นและญี่ปุ่นต้องการที่จะใช้ทรัพยากรเหล่านี้คุ้มค่าทุกนายถ้าหากต้องการจะแข่งขันกับอุตสาหกรรมของกองทัพอเมริกา
จะเกิดอะไรขึ้นถ้านักบินกามิกาเซ่ทำภารกิจล้มเหลว
ประสิทธิภาพของฝูงบินกามิกาเซ่ก็ยังเป็นที่ถกเถียงกันจนถึงทุกวันนี้แต่อีกหัวข้อที่ไม่มีคนกล่าวถึงคือจะเกิดอะไรขึ้นหากภารกิจล้มเหลว?
แต่ก่อนเข้าเนื้อหาเรามาดูพื้นหลังกันก่อน หลังจากปี 1944 สถานการณ์ไม่ค่อยจะเข้าข้างญี่ปุ่นสิ่งเดียวที่จะหยุดหรือชะลอการมาถึงของอเมริกาได้คือการทำลายเรือหลวงของอเมริกาที่สำคัญสุดคือ เรือบรรทุกเครื่องบิน และการทิ้งระเบิดทั่วไปก็ไม่สามารถทำความเสียหายให้เรือเหล่านั้นได้ เพราะฉะนั้นจึงเกิดแนวความคิดการนำเครื่องบินบรรทุกระเบิดแล้วบินชนเรือข้าศึกจึงเกิดขึ้น และนักบินที่ถูกเลือกก็ไม่ใช่ทหารเกณฑ์ทั่วไปแต่เป็นทหารที่มีความสามารถสูงที่สุดเท่าที่กองทัพจะหาได้ การฝึกก็จะค่อนข้างโหดแต่อาหารการกินจะดีกว่าหน่วยอื่น ทหารหน่วยนี้ถูกสอนให้เตรียมตัวรับความตายสำหรับภารกิจที่จะมาถึง
แต่บางครั้งความรักชาติกับการฝึกก็ไม่มากพอที่จะโน้มน้าวใจนักบินให้ไปบินชนกับเรืออเมริกาและส่วนใหญ่ก็ถูกยิงตกก่อนจะเข้าไปใกล้เป้าหมายและส่วนที่บินเข้าใกล้ก็ชนผิดส่วนของเรือหรือไปจูบกับผิวน้ำซะส่วนใหญ่และเครื่องที่ตกลงน้ำถ้าหากรอดก็จะถูกช่วยเหลือโดยลูกเรืออเมริกา
แต่ต้องเข้าใจก่อนว่ายังมีความเชื่อที่ผิดๆที่กล่าวว่านักบินจะได้น้ำมันเพียงครึ่งถังเพื่อตัดโอกาศการบินกลับซึ่งไม่จริงและการบินกลับโดยมีเหตุผลที่น่าเชื่อถือนั้นสามารถทำได้เพราะการเสียนักบินไปเพราะเครื่องบินนั้นเสียเองก็ย่อมเป็นการสูญเปล่าและการที่มีไอเดียเกี่ยวกับโครงการนี้ก็มาจากการที่ญี่ปุ่นมีทรัพยากรรวมถึงนักบินไม่พอนั่นเองเพราะฉะนั้นนักบินที่บินกลับเพราะเครื่องบินมีปัญหาหรือสภาพอากาศไม่ดีนั้นก็ไม่ใช่ปัญหาเพราะมันไม่ใช่ความผิดของเขา "ขอให้โชคดีคราวหน้าและมันจะมีคราวหน้าแน่นอน" แต่นักบินที่บินกลับด้วยเหตุผลแปลกๆเช่นข้าศึกเยอะเกินหรือหาเป้าหมายไม่เจอก็จะถูกลงโทษและวิธีแก้คือส่งนักบินไปเป็นกลุ่มแล้วมอมเหล้านักบินเพื่อไม่ให้นักบินสนใจเรื่องความตายมากนัก
แต่หากทั้งฝูงบินนั้นออกไปแล้วมีเพียงลำเดียวที่บินกลับมาก็ดูน่าสงสัยแต่ก็ต้องพึงนึกไว้ว่าทรัพยากรนักบินนั้นมีค่าเพราะฉะนั้นญี่ปุ่นจำเป็นต้องใช้นักบินทุกนายให้คุ้มค่าที่สุดเพราะฉะนั้น "ไม่มีการลงโทษ กลับไปบินใหม่นะ" แต่มันก็มีขีดจำกัดในการบินกลับมาเหมือนกันยกตัวอย่างเช่นมีนักบินนายหนึ่งบินกลับมาที่ฐานถึง 9 รอบก่อนที่เขาจะถูกประหารชีวิตในความผิดฐานขี้ขลาด
โดยสรุปคือการทำภารกิจล้มเหลวแล้วบินกลับของฝูงบินกามิกาเซ่นั้นไม่ใช่เรื่องแปลกและเกิดขึ้นได้การกระทำเหล่านี้จะไม่ส่งผลให้นักบินถูกประหารหรือขังคุกเพราะนักบินเหล่านี้คือทรัพยากรที่มีค่าของญี่ปุ่นและญี่ปุ่นต้องการที่จะใช้ทรัพยากรเหล่านี้คุ้มค่าทุกนายถ้าหากต้องการจะแข่งขันกับอุตสาหกรรมของกองทัพอเมริกา