🏭🏭🏭
เป็นซีรี่ส์อีกเรื่องที่ผมดองเอาไว้ข้ามปีข้ามชาติกันเลย เรื่องนี้ผมตั้งใจจะดูนานมากแล้วแต่ก็ลืมไป จนเมื่มานั่งดูลิสท์ตัวเองอีกที ถึงได้จำได้ว่ายังไม่ได้ดูเรื่องนี้เลย เรื่องนี้เป็น Mini Series ที่มีแค่ 5 ตอน ฉายทาง HBO ในปี 2019 ความน่าสนใจของมันคือเป็นหนังที่ตีแผ่เหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดขึ้นในปี 1986 ซึ่งเป็นข่าวดังและมีผลกระทบไปทั่วโลก
🏭🏭🏭
เนื้อเรื่องเป็นเรื่องของการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ชื่อเชอร์โนบิล ในปี 1986 ไฟไหม้นั้นรุนแรงและไม่สามารถดับด้วยน้ำได้ รวมถึงสารเคมีที่รั่วไหลทั้งเมือง สหภาพโซเวียต ในฐานะมหาอำนาจฝ่ายคอมมิวนิสต์ ไม่สามารถให้ชาวโลกเห็นถึงความล้มเหลวของตน พวกเขาตัดสินใจปิดเมือง ปล่อยประชาชนให้เจ็บปวดล้มตายอยู่ภายในนั้น
🏭🏭🏭
จะว่าไปการเล่าเรื่องของหนังมันคงหนีไม่พ้นลักษณะรูปแบบที่เราเคยเห็นกันจากหนังภัยพิบัติต่างๆ หรือหนังที่มีการตีแผ่เรื่องราวความจริงในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จะว่าไปก็มีส่วนคล้ายกับหนังที่ตีแผ่คดี Dark Waters อยู่เหมือนกันทั้งเรื่องราวและการเดินเรื่อง ซึ่งเนื้อเรื่องจะเริ่มจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ก่อนจะมีทีมแก้ปัญหา และทีมนี้ก็จะเป็นทีมที่สืบค้นความจริงจนความจริงปรากฏ
🏭🏭🏭
แต่ด้วยความที่ Chernobyl เป็นซีรี่ส์ 5 ตอน และแต่ละตอนก็มีความยาวถึงเกือบ 1 ชั่วโมง ทำให้ความได้เปรียบของ Chernobyl คือการมีพื้นที่โชว์ของเยอะมากขึ้น รายละเอียดต่างๆ ถูกนำมาใส่ให้คนดูได้เสพย์จนอินกับเนื้อหา ก่อนที่จะตบกลับมาสู่ต้นตอความจริงว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร และสรุปปิดจบได้อย่างลงตัว แถมไอ้รายละเอีดยเนื้อหาที่ใส่เข้ามาเยอะแยะ มันไม่ได้ทำให้ดูยืดยาวเลย แตยิ่งกลับทำให้มมีรายละเอียดที่เป็นจุดเสริมของเรื่องราวมีมากขึ้นอีกด้วย
🏭🏭🏭
นอกจากเนื้อหาแล้ว ฉากแต่ละฉากที่ทำออกมาให้คนดูได้ดู มันช่างมีพลังและสร้างอารมณ์ให้กับคนดูได้มากมาย ในฉากแต่ละฉาก ไม่ว่าจะเป็นตอนระเบิด ตอนเห็นระเบิด ตอนคนโดนรังสี ตอนเข้าโรงพยาบาล แต่ละฝ่ายช่วยเหลือกันและทำให้มันออกมาแฝงไปด้วยพลังแห่งอารมณ์ร่วมเยอะมาก แต่ละ EP มันค่อยๆ build อารมณ์ร่วมให้พีคจนถึงสุดแล้วก็ตัดจบให้อยากดูตอนต่อไป ซึ่งต้องบอกว่าทำได้ไม่มีที่ติ
🏭🏭🏭
เรียกว่าเป็นซีรี่ส์ที่คุ้มค่าแก่การดูมากๆ แค่ 5 ตอนอาจจะใช้เวลาดูไม่เยอะ อารมณ์ไม่ขาดหรือไม่ดร็อปลง ซึ่งถ้ายาวกว่านี้อาจจะไม่ impact เท่านี้ก็เป็นได้ อันนี้เหมือนถูกวางแผนมาอย่างดีว่า เอาให้มันพีคสุดไปภายใน 5 ตอนแล้วจบเลย เรื่องนี้แนะนำเลยครับ
ชอบอ่านรีวิวหนัง มาพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ >>>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] Chernobyl - Mini Series ที่ตีแผ่เรื่องราวอันน่าสะพรึงกลัวออกมาได้อย่างทรงพลัง
🏭🏭🏭
เป็นซีรี่ส์อีกเรื่องที่ผมดองเอาไว้ข้ามปีข้ามชาติกันเลย เรื่องนี้ผมตั้งใจจะดูนานมากแล้วแต่ก็ลืมไป จนเมื่มานั่งดูลิสท์ตัวเองอีกที ถึงได้จำได้ว่ายังไม่ได้ดูเรื่องนี้เลย เรื่องนี้เป็น Mini Series ที่มีแค่ 5 ตอน ฉายทาง HBO ในปี 2019 ความน่าสนใจของมันคือเป็นหนังที่ตีแผ่เหตุการณ์โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ระเบิดขึ้นในปี 1986 ซึ่งเป็นข่าวดังและมีผลกระทบไปทั่วโลก
🏭🏭🏭
เนื้อเรื่องเป็นเรื่องของการระเบิดของโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ชื่อเชอร์โนบิล ในปี 1986 ไฟไหม้นั้นรุนแรงและไม่สามารถดับด้วยน้ำได้ รวมถึงสารเคมีที่รั่วไหลทั้งเมือง สหภาพโซเวียต ในฐานะมหาอำนาจฝ่ายคอมมิวนิสต์ ไม่สามารถให้ชาวโลกเห็นถึงความล้มเหลวของตน พวกเขาตัดสินใจปิดเมือง ปล่อยประชาชนให้เจ็บปวดล้มตายอยู่ภายในนั้น
🏭🏭🏭
จะว่าไปการเล่าเรื่องของหนังมันคงหนีไม่พ้นลักษณะรูปแบบที่เราเคยเห็นกันจากหนังภัยพิบัติต่างๆ หรือหนังที่มีการตีแผ่เรื่องราวความจริงในสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จะว่าไปก็มีส่วนคล้ายกับหนังที่ตีแผ่คดี Dark Waters อยู่เหมือนกันทั้งเรื่องราวและการเดินเรื่อง ซึ่งเนื้อเรื่องจะเริ่มจากภัยพิบัติที่เกิดขึ้น ก่อนจะมีทีมแก้ปัญหา และทีมนี้ก็จะเป็นทีมที่สืบค้นความจริงจนความจริงปรากฏ
🏭🏭🏭
แต่ด้วยความที่ Chernobyl เป็นซีรี่ส์ 5 ตอน และแต่ละตอนก็มีความยาวถึงเกือบ 1 ชั่วโมง ทำให้ความได้เปรียบของ Chernobyl คือการมีพื้นที่โชว์ของเยอะมากขึ้น รายละเอียดต่างๆ ถูกนำมาใส่ให้คนดูได้เสพย์จนอินกับเนื้อหา ก่อนที่จะตบกลับมาสู่ต้นตอความจริงว่าสาเหตุที่แท้จริงคืออะไร และสรุปปิดจบได้อย่างลงตัว แถมไอ้รายละเอีดยเนื้อหาที่ใส่เข้ามาเยอะแยะ มันไม่ได้ทำให้ดูยืดยาวเลย แตยิ่งกลับทำให้มมีรายละเอียดที่เป็นจุดเสริมของเรื่องราวมีมากขึ้นอีกด้วย
🏭🏭🏭
นอกจากเนื้อหาแล้ว ฉากแต่ละฉากที่ทำออกมาให้คนดูได้ดู มันช่างมีพลังและสร้างอารมณ์ให้กับคนดูได้มากมาย ในฉากแต่ละฉาก ไม่ว่าจะเป็นตอนระเบิด ตอนเห็นระเบิด ตอนคนโดนรังสี ตอนเข้าโรงพยาบาล แต่ละฝ่ายช่วยเหลือกันและทำให้มันออกมาแฝงไปด้วยพลังแห่งอารมณ์ร่วมเยอะมาก แต่ละ EP มันค่อยๆ build อารมณ์ร่วมให้พีคจนถึงสุดแล้วก็ตัดจบให้อยากดูตอนต่อไป ซึ่งต้องบอกว่าทำได้ไม่มีที่ติ
🏭🏭🏭
เรียกว่าเป็นซีรี่ส์ที่คุ้มค่าแก่การดูมากๆ แค่ 5 ตอนอาจจะใช้เวลาดูไม่เยอะ อารมณ์ไม่ขาดหรือไม่ดร็อปลง ซึ่งถ้ายาวกว่านี้อาจจะไม่ impact เท่านี้ก็เป็นได้ อันนี้เหมือนถูกวางแผนมาอย่างดีว่า เอาให้มันพีคสุดไปภายใน 5 ตอนแล้วจบเลย เรื่องนี้แนะนำเลยครับ
ชอบอ่านรีวิวหนัง มาพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ >>> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้