อยู่บ้านสามีแล้วอึดอัดเพราะพ่อแม่เขาทิ้งตัวทิ้งภาระให้ทำไงดีคะ

หลังจากเรากับแฟนโดนทางครอบครัวเรากดดันให้แต่งแล้วแต่งให้เป็นพิธีเรียบร้อยจบ ก็ไม่มีปัญหาจากทางบ้านเราแล้ว
ต่อมาคือ ปัญหาจากพ่อแม่แฟนค่ะ เราเข้าใจนะคะว่าช่วงนี้โควิดพ่อสามีอายุ63โดนลดเงินเดือน ทำงานเหลือสิบวันได้เงินเดือนเดือนละหมื่นต้นๆ 
ส่วนแม่แฟน แฟนก็ให้เดือนละ4,000 ได้จากพ่อแฟน 2,500 แถมแฟนจ่ายค่าน้ำค่าไฟ ค่าเช่าบ้าน ค่าเน็ต ค่าอื่นๆ
สนนค่าใช้จ่ายแฟนประมาณ20,000กว่าบาทต่อเดือน ซึ่งเราก็ช่วยทั้งค่าน้ำค่าไฟไปด้วย และของใช้อะไรในบ้านหมดเราซื้อเข้าไปเติมตลอด
ของกินขนมนมเนยซื้อคอยซื้อเข้าไปตลอดดูแลทั้งบ้านเราและบ้านแฟนค่ะ

ฟังดูเหมือนจะอยู่อย่างมีความสุข
แต่วันนึงแฟนก็โดนลดเงินเดือนเช่นกันแหละค่ะ
จากเฉียดแสนเหลือเกือบๆห้าหมื่น บางเดือนเหลือสามหมื่นก็มี(แฟนทำงานกินค่าคอม100%ไม่มีฐานเงินเดือน)
ยุคนี้สมัยนี้เข้าใจ แฟนพยายามจะหาเงินมาจ่ายให้ได้ทุกเดือนและเราก็ช่วยไปตามที่เคยทำ 

ว่าแล้วปัญหาเรื่องใหญ่ก็แดงขึ้นมาค่ะ
ยิ่งนับวันพ่อแม่แฟนยิ่งทิ้งตัวให้แฟนเลี้ยงหนักกว่าเดิม เข้าใจนะคะว่าอายุเยอะกันแล้ว
แต่ช่วงนี้ทุกคนต้องช่วยกันให้อยู่รอดนี่ดีที่สุดค่ะ แม่แกทำอาหารอร่อยเรากับแฟนก็เสนอ
ให้พ่อกับแม่เปิดร้านขายอาหารส่งแกรปมั้ย ทำที่บ้านไม่ต้องเหนื่อยมาก เดี้ยวลงทุนให้ จะได้มีตังกินใช้เก็บกันเองบ้าง ช่วยๆกัน
เขาก็ตอบว่า"ยุคนี้สมัยนี้ ทำอะไรก็ไม่ดีหรอก เจ๊งขึ้นมาเหนื่อยเปล่า อยู่เฉยๆอย่าลงทุนอะไรดีที่สุด" ซึ่งก็จบเรื่องนี้ไป 
แล้วนอกจากนี้เขายังมีพฤติกรรมอื่นๆ เช่น เรา/ม่เคยรับปากว่าจะต้องมาเป็นหน้าที่เราที่ต้องมารับผิดชอบซื้อของใช้แทนแม่เขา 
ทั้งๆที่เราอยู่บ้านเขาก็ตาม เพราะทุกอย่างเรามีของเราเองไม่ต้องไปใช้กับเขา ครั้งแรกเราซื้อมห้เพราะไม่คิดอะไร แต่ให้ครั้งแรกต้องมีครั้งต่อไปค่ะ 
ยิ่งพ่อแม่เขาเห็นเรางานดีเงินดีด้วย แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเราต้องรับผิดชอบแทนลูกเขาใช่มั้ยคะ เพราะทางเราครอบครัวเราก็ค่าใช้จ่ายเยอะมากกว่าบ้านเขาอีก นี่เราซื้อนั่นนี่มาให้ก็ถือว่าดีมากแล้ว 
วันดีคืนดีก็จะให้ลูกชายเสียตังซื้อนั่นซื้อนี่บลาๆๆๆๆ
ตัวเองนอนอยู่บ้านเฉยๆไม่ต้องรับผิดชอบอะไรยังไม่พอ ยังจะเอานั่นนี่จากลูก นอนเล่นหวย เลี้ยงนกไปวันวัน

แล้วเราโดนแฟนมาว่าทีหลังด้วยค่ะว่าเราคิดเล็กคิดน้อยเรื่องซื้ออะไรเข้าบ้าน แต่เขาก็รู้นะคะว่าพ่อแม่เค้าเป็นยังงัย
แล้วยอมรับด้วย ว่าพวกเขาเป็นคนเห็นแก่ได้ 

ออกมาอยู่แยกกันก็แยกไม่ได้ค่ะ พ่อแม่เขาจะตรอมใจตายเพราะอยากเจออยากอยู่กับลูกทุกวัน

เราเอือมมากๆแล้วค่ะตอนนี้ แฟนพยายามจะดัดนิสัยพ่อแม่โดยการด่าแรงๆ จนพ่อแม่คิดจะหนี (แต่ก็หนีไม่ได้เพราะไม่มีที่ไป)
แล้วต่อไปเค้าก็ดีกันค่ะ พ่อแม่ลูกตัดกันไม่ขาดค่ะ แต่จากนี้ไปพ่อแม่สามีเค้าคงเกลียดเราแล้วค่ะพยายามเลี่ยงที่จะเจอหน้าเรา

เราควรทำไงดีคะ อยู่ไปก็อึดอัด แต่ถ้าออกมาเองคนเดียวก็ต้องเลิกกับแฟนค่ะ เพราะแฟนก็แค่อยากดัดนิสัยพ่อแม่ ไม่ได้อยากแยกออกมา
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 58
เรื่องอื่นข้ามไปก่อนนะ อยากบอกว่าใช้เงินทำอะไรกันเยอะแยะ แต่ก่อนเงินเดือนเกือบแสน ตอนนี้เหลือ ห้าหมืนบ้าง สามหมื่นบ้าง ถามหน่อยใช้ไรกันมากมาย แล้วก็ทำงานทั้งคู่หรือเปล่า พ่อแม่อายุเกษียณแล้วเขาไม่ทำงานก็ไม่ผิดอะไร ไม่อยากเลี้ยงดูก็ย้ายออกไปเถอะครับ เล่ามาแล้ว งง ใจ พ่อแม่สองคนเงินเดือนขนาดนี้เลี้ยงกันไม่ได้ แล้วตอนเกิดมา ทำไมพ่อแม่เลี้ยงมาได้ อย่ามีลูกกันเลยนะครับขอร้อง ท่าทางจะไม่รอด เดี๋ยวเป็นปัญหาสังคมอีก วิธีแก้ปัญหาคือต่างคนต่างอยู่นะครับ คุณก็ไปอยู่บ้านตัวเอง จะได้ไม่ต้องเจอเรื่องพวกนี้ อย่าทำให้พ่อแม่ลูกเขาผิดใจกันเลย บาปเปล่าๆ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
เอาจริงๆนะ ผมก้อว่าเหมือนที่แฟนคุณบอก คุณคิดเล็กคิดน้อยเกินไป เรื่องซื้อของเข้าบ้าน ถ้ามันไม่หนักหนาจนเกินไป ก้อทำไปเหอะ

ส่วนเรื่องหารายได้เพิ่ม คุณต้องทำให้เขาเห็นก่อน แล้วค่อยๆชวนเขาเข้ามาช่วย แล้วหลังจากนั้นค่อยปล่อยให้เขาทำกันเอง

คนอายุมากแล้ว เขาไม่ได้อยากเริ่มอะไรใหม่ๆอีกแล้ว เราต้องไกด์นำทางให้เขาไปก่อน ยกตัวอย่างบ้านผม สมัยก่อนเปิดเป็นร้านขายของ

แต่แล้วก้อปิดไป เพราะว่า พ่อแม่อายุมากแล้วอยากให้เขาหยุดพัก แต่พอเวลาผ่านไป เขาไปบอกกับคนอื่นว่า อยากขายของ

พูดอยู่หลายปี แต่ไม่ยอมเริ่มทำซักที ผมเลยจัดการเอาเงินของผมเองซื้อของเข้ามาให้เขาขาย เริ่มจากเล็กๆน้อยๆ

แล้วหลักจากนั้นพวกเขาก้อไปต่อยอดกันเอง จนทุกวันนี้ผมก้อปล่อยให้พวกเขาจัดการกันเอง แล้วผมก้อทำงานของผมต่อไป
ความคิดเห็นที่ 3
แอบไปเจือกย้อนหลัง เพราะไม่ค่อยเชื่อมู้ในพันทิปเท่าไหร่ว่าเป็นเรื่องจริง จากประวัติย้อนหลังเข้าใจว่าปัญหาน่าจะไม่ได้จากการต้องช่วยเรื่องค่าใช้จ่ายให้ครอบครัวแฟน จขกท. หรอก แต่น่าจะความรู้สึกอคติลึกๆของ จขกท.กับพ่อแม่สามีเลยละกันเนอะ เพราะแต่งงานกันไปแล้วนิ
ตอนแรกเราก็นึกสงสัยนะ กับการต้องเลี้ยงดูผู้สูงวัยที่ยังแข็งแรงอยู่ไม่ได้ป่วยกะเสาะกะแสะให้ต้องจ่ายพวกค่ารักษาพยาบาล ก็แค่ดูแลให้ได้กินอิ่มนอนหลับ จะใช้เงินสักเท่าไหร่เชียว อ้อ เดือนเกือบ 5 พันบาท ก็ไม่เยอะเมือเทียบว่า 2 คนก็เดือนละ 2พันหน่อยๆ และเป็นช่วงแรกๆที่ยังไม่รู้ใจพ่อแม่ฝั่งสามี ก็อาจมีซื้อมาไม่ถูกใจและทิ้งเสียเปล่า แต่ต่อๆไปก็น่าจะพอรู้ใจกันดีขึ้นว่าท่านชอบทานอะไควรซื้ออะไรไปให้ แต่จากประวัติย้อนหลัง เห็นแล้วว่า จขกท. คงหน้าจะรู้สึกไม่ ok กับการต้องเลี้ยงดูคนที่เคยทำไม่ดีใส่ แต่โห นี่ จขกท. ก็เลือกแต่งงานกันแล้ว คงต้องแก้ที่ความรู้สึก จขกท. แล้วแหละว่าจะทำลืมๆอดีตที่ผ่านๆมาไปบ้าง แล้วมองพ่อแม่สามีเป็นพ่อแม่ของตัวเอง ถ้าไม่ไหวก็แค่คุยกับสามี จขกท.ดีกว่า
ความคิดเห็นที่ 8
อย่าเพิ่งมีลูกนะ  เผื่อทนไม่ไหวจะได้ตัวใครตัวมัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่