ดิฉันกับสามีเป็นมนุษย์เงินเดือนคะ ระดับผู้จัดการทั้งคู่ มีลูกเล็กๆ 1คน

เรื่องค่าใช้จ่ายต่างๆ แยกคนละกระเป๋าคะ สามีรับผิดชอบเรื่องค่าผ่อนบ้านกับพวกค่าน้ำ ไฟ โทรศัพท์ internet ส่วนฉันรับเรื่อง ค่าผ่อนคอนโด ค่าของกินของใช้ ค่าเรียนลูก และค่าใช้จ่ายอื่นๆทั้งหมด

จริงๆตอนแต่งงานกันใหม่ๆ ฉันรับค่าผ่อนบ้านด้วย เพราะสามีมีหนี้บัตรอยู่ประมาณ 4 แสน ตกลงกันว่าถ้าเคลียร์หมดจะรับผ่อนค่าบ้าน ฉันผ่อนบ้านเองอยู่ประมาณ 2-3 ปี สามีก็รับค่าบ้านไปผ่อนต่อ ก็คิดเอาเองว่า เค้าน่าจะเคลียร์หนี้ได้หมดแล้ว

หลังจากผ่านมา3ปีคือปีนี้ สามีมักจะมาขอยืมเงินบ่อยๆ สองหมื่นบ้าง สามหมื่นบ้าง จึงเริ่มสงสัยเลยแอบดูบิลต่างๆ
แม่เจ้า!! บวกไปบวกมา หนี้บัตรร่วม 5 แสน หนี้ส่วนบุคคลอีก6 แสน

----เหมือนฟ้าผ่ามากลางหัว มึนไปหมด------ แต่ไม่มีน้ำตา มันจุกๆ หัวหมุนติ้วๆ เหมือนมันใช้ความคิดตลอดเวลา
เข้าใจคนที่เป็นหนี้แล้วฆ่าตัวตายเลยนะ ว่ารู้สึกอย่างไร

เรียกสามีเคลียร์ว่าทำให้เกิดแบบนี้ได้ยังไง เค้าบอกว่าได้พยายามแล้วที่จะแก้ไขแต่มันไม่ดีขึ้น จริงๆเค้าเพิ่งได้เงินจากประกันชีวิตที่ครบกำหนดเมื่อปีที่แล้วมาร่วมสี่แสน นำมาปิดบางส่วนแล้ว และเอาบางส่วนมาโปะบ้าน!! บ้าไปแล้วทำไมมันคิดไม่ได้ว่ะ ว่าต้องเอาไปปิดที่ดอกสูงก่อน บ้านแค่ 4% บัตร 24%
เพิ่งรู้ว่าสามีมีบัตรเครดิตร่วม 20 ใบ ใช้ทุกใบ วงเงินเต็มทุกใบ จ่ายขั้นต่ำทุกใบ หนี้ส่วนบุคคลอีก 8 ที่

ฉันใช้เวลาไม่นานในการบอกเค้าว่า ขอยึดอำนาจการเงินทั้งหมด ริบทุกอย่างทั้ง เอทีเอ็ม บัตรเครดิต password เข้า internet banking
- - - รับหนี้ทั้งหมดมาเพื่อเคลียร์ - - - ฉันบ้าไปแล้วหรือเปล่า

" คงเป็นเพราะลูกสินะ ที่ทำให้ฉันเลือกทางนี้"

ฉันต้องยอมขายกองทุน ร่วมครึ่งล้านเพือมาปิดบัตร พูดแล้วเศร้า กว่าฉันจะเก็บได้ขนาดนี้ ใช้เวลาตั้งหลายปี
ต้องยอมเอาคอนโดที่ผ่อนจะหมดแล้ว ไปรีไฟแนนซ์เพื่อกู้เพิ่ม

ตอนนี้ก็อยู่ในขั้นตอนของการดำเนินการแก้ไขต่างๆ หวังว่าทุกอย่างจะดีขึ้น ลูกโตขึ้นทุกวันค่าใช้จ่ายก็มากขึ้น

ต้องขอบคุณเพื่อนๆที่เข้ามาอ่าน อาจเขียนยาวไปนิดเพราะไม่รู้จะคุยกับใคร ปรึกษาใครไม่ได้เลย อึดอัดมาก
หากมีคำแนะนำ ยินดีรับฟังนะคะ เพราะไม่แน่ใจเหมือนกันว่าทำถูกหรือเปล่า

ขอบคุณคะ