JJNY : 4in1 ชาวโคราชนับร้อยต้องการเข็ม2เป็นแอสตร้าฯ│ชาวนนท์โวย!โดนเปลี่ยนสูตร│หมอจบใหม่ติดแม้ฉีดครบ│ชี้ศก.เสี่ยงขาลงหนัก

ชาวโคราชนับร้อยต้องการปรับสูตรเข็ม 2 เป็นแอสตร้าฯ ไม่ยอมฉีดกลัวภูมิไม่ขึ้น
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6507399
 
ชาวโคราชนับร้อยต้องการปรับสูตรเข็ม 2 เป็นแอสตร้าฯ แต่วัคซีนมีจำกัด บางคนไม่ยอมฉีดกลัวภูมิไม่ขึ้น เข็ม 3 ต้องการฉีดวัคซีนทางเลือกที่มีคุณภาพที่ดี
เมื่อวันที่ 13 ก.ค.64 ที่โคราชฮอลล์ ชั้น 4 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซ่า จ.นครราชสีมา สถานที่ให้บริการฉีดวัคซีนของโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา พบประชาชนที่ได้คิวฉีดวัคซีนชิโนแวคและแอสตร้าเซนเนก้า ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มครอบครัวและผู้สูงอายุ ที่มีบุตรหลานคอยดูแลอย่างใกล้ชิด ทยอยเดินทางมาแสดงตน ขอเข้าฉีดวัคซีนทั้ง 2 ชนิด ซึ่งมีทั้งเข็มแรกและเข็ม 2 จนเต็มห้องฉีดและล้นออกมาด้านหน้า

บางรายถ่ายเซลฟี่คู่กับป้ายข้อความเป็นสีสัน อาทิ #ฉีดเข็มสองแล้วนะ, พวกเราฉีดวัคซีนเข็มสองแล้วเด้อ #เซ็นทรัลโคราช, ฉีดแล้วสบ๊ายยยย ฯลฯ ส่วนหนึ่งฉีดเข็มแรกฉีดซิโนแวคแต่เข็ม 2 ต้องการแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อกระตุ้นภูมิคุ้มกัน แต่บุคลากรไม่สามารถจัดเตรียมวัคซีนได้ตามที่ต้องการ จึงมีส่วนหนึ่งเดินทางกลับ

นายแพทย์เจษฎ์ บุณยวงศ์วิโรจน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการภารกิจด้านอำนวยการโรงพยาบาลมหาราช นครราชสีมา เปิดเผยว่า ภารกิจนัดคิวการฉีดวัคซีน 1,600 คน ซึ่งมีผู้ตัดสินใจฉีดซิโนแวคเข็ม 2 ประมาณ 50 คน ที่เหลือจำนวนต้องการรอฉีดแอสตร้าเซนเนก้า สำหรับสูตรการเปลี่ยนแปลงวัคซีนถือเป็นการเพิ่มภูมิคุ้มกัน เนื่องจากสายพันธุ์เดลต้าเข้ามาระบาด ส่งผลให้ประสิทธิของวัคซีนซิโนแวค 2 เข็ม ไม่สามารถต้านทานเชื้อกลายพันธุ์นี้ได้ ขณะนี้สถานะหลายแห่งมีวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงชี้แจงสร้างการรับรู้ ทำความเข้าใจข้อเท็จจริง เพื่อให้ประชาชนรับทราบและตัดสินใจด้วยตัวเอง
 
ด้านนายปรีชา ศรีโสตถิกุล อายุ 70 ปี ชาว ต.ในเมือง อ.เมือง นครราชสีมา กล่าวว่า ตนและภรรยามาฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มที่ 2 กรณีต้องการเปลี่ยนวัคซีนเข็มที่ 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า ต้องรอวันได้ จึงตัดสินใจฉีดมิเช่นนั้นต้องรอนาน และไม่ต้องการเดินทางบ่อยๆ ยอมรับกังวลเชื้อโรคกลายพันธุ์ทำให้วัคซีน 2  เข็มไม่น่าเพียงพอทำให้ปลอดภัย หากเป็นไปได้เข็มที่ 3 ต้องการฉีดวัคซีนทางเลือก หรือ MRNA ที่มีคุณภาพที่ดีกว่า
 


ชาวนนท์โวย! เดิมนัดฉีดแอสตร้าฯ โดนเปลี่ยนสูตร ซิโนแวค+แอสตร้าฯ
https://www.matichon.co.th/region/news_2827771

ชาวนนท์โวย! เดิมนัดฉีดแอสตร้าฯ โดนเปลี่ยนสูตรผสม ซิโนแวค โอดยอมทิ้ง ซิโนฟาร์ม กลับมาเจอซิโนแวค ลั่นไม่ฉีด
 
จากกรณีที่ประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อเห็นชอบการฉีดวัคซีนโควิด-19 สลับชนิด โดยเข็มที่ 1 เป็นซิโนแวค เข็มที่ 2 เป็นแอสตร้าเซนเนก้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันเชื้อโควิด-19 สายพันธุ์เดลต้าโดยให้โรงพยาบาลต่างๆดำเนินการทันทีนั้น
 
ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรีได้นำนโยบายดังกล่าวไปใช้แล้ว โดยพบว่ามีการปรับสูตรการฉีดใหม่ทั้งหมด แม้กระทั่งผู้ที่ได้รับการจองจัดสรรวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 2 เข็ม ก็ถูกเปลี่ยนเป็นการฉีดวัคซีน ซิโนแวค 1 เข็ม และแแอสตร้าเซนเนก้า 1 เข็ม แทน ซึ่งสร้างความไม่พอใจให้กับประชาชนเป็นจำนวนมาก
 
ทั้งนี้โพสต์ประกาศแจ้งนัดฉีดวัคซีนกับ “นนท์พร้อม” เมื่อวันที่ 12 กรกฎาคม มีการระบุยี่ห้อวัคซีนที่จะได้รับในแต่ละศูนย์ฉีดวัคซีนเช่น ที่แจ้งวัฒนะฮอล เซ็นทรัลแจ้งวัฒนะ จะมีการฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าจำนวน 5,000
 
ก่อนที่ล่าสุดสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนนทบุรี จะโพสต์ข้อความ แจ้งนัดฉีดวัคซีนกับ นนท์พร้อม ในวันที่ 13 กรกฎาคม โดยระบุว่ามีการ 

ปรับสูตรใหม่ ตามมติคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ เริ่มตั้งแต่ 13 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป โดยเข็ม 1 จะเป็นวัคซีน Sinovac และเข็ม 2 AstraZeneca

ทั้งนี้มีประชาชนที่ได้รับนัดฉีดวัคซีนกับนนท์พร้อมเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะผู้ที่เดิมได้รับการจองวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเอาไว้ บ้างก็ประกาศว่าจะไม่ฉีดแน่นอน เนื่องจากรอมานานแต่มาถูกเปลี่ยนกลางคัน บางรายระบุว่า ยอมทิ้งคิวจองวัคซีนซิโนฟาร์ม เพื่อมาฉีดแอสตร้าเซนเนก้า แต่กลับถูกเปลี่ยนภายหลังก่อนฉีด
 
https://www.facebook.com/permalink.php?story_fbid=1725007884362595&id=944802815716443
 


พบ “หมอจบใหม่” ติดโควิด-19 หลังช่วยงาน 2 สัปดาห์ แม้ฉีดวัคซีนครบ
https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/151623

มติที่จะกระตุ้นภูมิคุ้มกัน เข็มที่ 3 ให้บุคลากรทางการแพทย์ ด้วยวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า แทนวัคซีน mRNA ที่บุคลากรร้องขอ ถูกตั้งคำถามจากกลุ่มบุคลากรด่านหน้า และ ประชาชน ล่าสุด ทีมข่าวสัมภาษณ์เปิดใจ บุคลากรด่านหน้า ซึ่งเป็นหมอจบใหม่ ที่เพิ่งถูกขอให้ไปช่วยงานดูแลโควิดได้แค่ 2 สัปดาห์ ติดโควิดทั้งที่ฉีดวัคซีนครบ 2 โดส คุณหมอบอกว่า วัคซีนเชื้อตายไม่ทำให้สถานการณ์ดีขึ้น และ อาจหากแพทย์ติดโควิดจะทำให้ผู้ป่วยโรคอื่นเสี่ยงไปด้วย
 
นายแพทย์ ณัฐพล นุ่มอ่อน เป็นแพทย์อายุรแพทย์ชำนาญการ โรงพยาบาลชัยนาทนเรนทร จังหวัดชัยนาท ตั้งแต่ต้นปี 2564 คุณหมอณัฐพล เข้ากทม.เพื่อเรียนต่อเฉพาะทางเกี่ยวกับโรคระบบทางเดินหายใจ แต่หลังสถานการณ์โควิดวิกฤต ถูกขอให้อยู่ช่วยดูแลผู้ป่วยโควิด /ทำงานในแผนกผู้ป่วยวิกฤตทางเดินหายใจ โรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ได้ 2 สัปดาห์ ก็พลาดติดเชื้อ ทั้งที่ฉีดวัคซีนซิโนแวค ครบ 2 เข็มแล้ว โดยตอนนี้ติดเชื้อนาน 5 วัน รักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์ ซึ่งเป็นที่ทำงาน แต่ตอนนี้เปลี่ยนสถานะเป็นคนไข้แทน
        
คุณหมอณัฐพล เล่าว่า ตอนที่ทำงานช่วยผู้ป่วยโควิด เขามีหน้าที่ดูแล ทำหัตถการให้ผู้ป่วยโควิดอาการหนัก 11 คน ทั้ง ใส่ท่อช่วยหายใจ เจาะเส้นเลือดดำ รวมไปถึงประเมินอาการอย่างใกล้ชิด งานทั้งหมดเป็นงานเสี่ยงสูงที่อาจติดเชื้อได้ตลอดเวลา โดยอาการเริ่มแรก ของคุณหมอณัฐพล คือ ไอ เจ็บคอ แต่ไม่ตัวร้อน ตอนแรกคิดว่าเกิดจากอาการภูมิแพ้ แต่จากนั้นพบมีแพทย์ในแผนกติดเชื้อ จึงไปตรวจและพบว่า เขาก็ติดเชื้อเช่นกัน
 
“มันมีเรื่องของการทำงานที่ต้องเข้าไปด้านในครับ เช่น ต้องไปทำหัตถการผู้ป่วยครับ ไปใส่ท่อช่วยหายใจ ไปใส่เส้นเลือดดำอะไรอย่างนี้ครับ ต้องไปทำหัตถการใดๆ ข้างใน มันก็มีโอกาสที่จะติดเชื้อในนั้นได้เหมือนกันครับ เพราะว่า คือเราป้องกันตัวไปดีอย่างนี้ครับ มันก็จะมีปัญหาในเรื่องของระหว่างทำงาน แบบบางทีมันมีอุบัติเหตุมีAccident เกิดขึ้นได้”
 
ทั้งนี้คุณหมอณัฐพล แสดงความเห็น กรณีที่ กระทรวงสาธารณสุข เตรียมฉีดวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า เป็นวัคซีนเข็มที่ 3 ให้กับบุคลากรทางการแพทย์  โดยบอกว่า มองว่าอยากให้ฉีดวัคซีน mRNA ให้มากกว่า เพราะ วัคซีนที่ทำจากเชื้อตาย ทั้ง ซิโนแวค และ แอสตร้าเซนเนก้า ไม่สามารถป้องกับการติดเชื้อได้ ทำได้แค่ลดความรุนแรงของโรค มองว่า หากกลุ่มบุคลากรด่านหน้าติดโควิดอาจทำให้การรักษาผู้ป่วยลำบากขึ้น และ อาจทำให้ผู้ป่วยกลุ่มอื่นที่ไม่ใช่โควิด ติดเชื้อเพิ่มไปด้วย  นอกจากนี้ยังบอกอีกว่า เมื่อบุคลากรทางการแพทย์ติดเชื้อ 1 คน ทำให้เพื่อนคนอื่น ๆ ทำงานหนักมากขึ้น
 
“ ทางแพทย์และทีมรักษา สิ่งที่กังวลมากกว่าการติดเชื้อ ก็คือเรื่องของการนำเชื้อไปสู่ผู้ป่วยนะครับ เพราะว่าในส่วนของ mRNA เนี่ย มันสามารถป้องกันที่เราจะสามารถนำติดเชื้อ แล้วนำเชื้อไปสู่ผู้ป่วยได้ครับ ในส่วนของซิโนแวคเอง มันสามารถลดการติดเชื้อได้จริง แต่ว่าเท่าที่เห็นก็คือ มันยังเกิดการติดเชื้อโดยเฉพาะสายพันธุ์ใหม่ ที่เกิดจากสายพันธุ์เดลต้านะครับ”
        
สำหรับภาพรวมการติดเชื้อและเสียชีวิตของบุคลากรทางการแพทย์ที่ฉีดวัคซีนในประเทศ มีข้อมูลจากศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ที่จัดทำขึ้นเมื่อวานนี้(12ก.ค.) ระบุว่า ในไทย  มีบุคลากรทางการแพทย์ทั้งหมด 721,000 คน ได้รับการฉีดวัคซีน 700,000 คน ในจำนวนนี้พบการติดโควิด 707 คน  ส่วนบุคลากรที่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน มี 21,000 คน พบการติดเชื้อโควิด 173 คน /ข้อมูลนี้ถูกสรุปว่า ผู้ที่ไม่ฉีดวัคซีน มีโอกาสติดเชื้อมากกว่าคนที่ฉีดวัคซีนแล้ว 8 เท่า
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่