กระทู้นี้เป็นทัศนส่วนตัวนะครับ อาจจะยาวนิดนึง จะพูดถึงความรู้สึกตอนดูบอลนัดชิงบอลรายการเมเจอร์ทัวร์นาเมนท์ซึ่งก็คือบอลโลก และบอลยูโร ( โคปาอเมริกาไม่ค่อยได้ดู ) ตั้งแต่ปี 2010 ที่ผ่านมาว่ารู้สึกยังไง อาจจะไม่ครบทุกประเด็น เพราะใช้ความรู้สึกเป็นหลัก สำหรับบอลยูโรปีนี้ก็เดินทางมาถึงนัดชิงแล้ว ซึ่งอังกฤษ ทีมชาติสากลเบอร์หนึ่งในใจผม ( ทีมชาติไทยเชียร์อยู่แล้ว ) ก็ได้เข้าไปชิงกับอิตาลี่แล้ว โดยรวมรู้สึกทีมเวิร์คยังไม่ค่อยดี เหมือนเน้นลากบอลเข้าไป ทั้งหน้า กลาง และหลังเลย แต่ยังไงก็เชียร์ และทำใจไว้ครึ่งหนึ่ง แพ้นัดชิงเจ็บเสมอ
กลับไปที่ประเด็นของกระทู้ เริ่มที่บอลโลกปี 2010 นัดชิง สเปน – ฮอลแลนด์
ส่วนตัวแอบเชียร์ฮอลแลนด์ เพราะชอบร๊อบเบน กับชไนจ์เดอร์ แล้วคิดว่าปีนั้นต้องได้แน่ ๆ เข้าทาง Third Time Lucky ( เข้าชิงบอลโลกเป็นครั้งที่ 3 ) ส่วนสเปนนั้นเข้าชิงบอลโลกเป็นครั้งแรก แต่ได้แชมป์ยูโร 2008 มาก่อนแล้ว ด้วยรูปแบบการเล่นบอลที่ผมชอบมากที่สุดทีมนึง คือต่อบอลแบบ Tiki Taka และ False 9 ยุคนั้นสเปนและบาซ่าครองวงการมาก สำหรับรูปเกมเป็นไปอย่างสูสีมาก ทีมนึงจี้ดจ้าด อีกทีมก็ทีมเวิร์คดีมาก แล้วก็มามีประตูชัยช่วงท้ายของต่อเวลาโดยอิเนสต้า โดยรวมเป็นนัดชิงที่สนุกสูสีมาก วัดกันที่จังหวะและความเด็ดขาดจริง ๆ สเปนชุดนั้นผมว่าเป็นทีมชาติที่เก่งที่สุดในโลกทีมนึงเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะวิธีการเล่นตื่นตามาก
บอลยูโรปี 2012 นัดชิง สเปน - อิตาลี่
ก็ยังเป็นยุคของความยิ่งใหญ่ของสเปน ต่อเนื่องมาตั้งแต่บอลยูโรปี 2008 ได้แชมป์เมเจอร์ 3 ครั้งติดกัน ส่วนอิตาลี่วันนั้นดูเป็นทีมพิการไปเลย หลังจากบาโลเตลี่อย่างโหดในรอบรอง รอบชิงหายจากเกมไปเลย ก็โดนถล่มไป 4 – 0 ตามระเบียบ เป็นนัดชิงที่เละเทะที่สุดที่เคยดูมานัดนึง บอลไม่สนุกเลย เหมือนดูสเปนซ้อมบอล อิตาลี่สู้ไม่ได้ในทุกกระบวน เกมค่อนข้างน่าเบื่อ ขาดลอยตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว เหมือนเอาทีดีที่สุดของยุค มาเจอกับทีมที่เล่นดีแต่โชคร้ายเจ็บ และไม่สมบูรณ์ค่อนทีม ไม่ค่อยมีอะไรให้พูดเยอะ สั้น ๆ คือสเปนสุดยอด
บอลโลกปี 2014 นัดชิง เยอรมัน - อาเจนติน่า
เป็นนัดชิงที่ดูสมศักดิ์ศรีมาก และเป็นขาประจำรอบลึกบอลโลกทั้งคู่ เคยผลัดกันแพ้ชนะมาแล้วคนละครั้งในช่วงปี 86 และ 90 นัดนี้ก็เป็นการรีแมทช์กันอีกครั้ง ของสุดยอดทีมจากยุโรป และอเมริกาใต้ ( ตอนนั้นอาเจนดูดีกว่าบราซิลพอตัว ) บอลสองสไตล์มาเจอกัน นักเตะที่ดีที่สุดของโลกคนหนึ่งยุคนี้กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ กับเยอรมันยุคที่โคตรแข็งแกร่งยุคหนึ่ง และรอบรองทำโคตรแสบกับบราซิลไว้ จำไม่ลืมแน่นอน เกมนี้คล้ายนัดชิงบอลโลกปี 2010 มาก ทั้งรูปเกม และนาทีที่ยิงประตู น่าเสียดายแทนอาเจนติน่ามากที่มีโอกาสมากกว่า ทั้งเยอรมันคืนหลังพลาด แต่อิกวาอินก็ไม่นิ่งพอ แถมมียิงเข้าแล้วล้ำหน้าด้วย อย่างว่าฟุตบอลคือชีวิต ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บทจะเจ็บ เจ็บมากอยู่ ต้องชื่นชมเยอรมันที่เล่นดีมากด้วย
บอลยูโรปี 2016 นัดชิง โปรตุเกส - ฝรั่งเศส
เป็นนัดชิงที่ใคร ๆ ก็บอกว่าฝรั่งเศสได้แน่นอน จากหลายปัจจัยทั้งเล่นในบ้าน ฟอร์มการเล่น อ่านทั้งหนังสือพิมพ์ และออนไลน์ไปทางฝรั่งเศสทั้งหมด ถ้าโปรตุเกสจะทำได้มันต้องปาฏิหาริย์ และมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ ด้วย ถึงแม้จะมีสุดยอดนักเตะของโลกอีกคน แต่ปีนั้นบาดเจ็บ แถมนัดชิงเล่นได้แป๊บเดียวด้วย ทุกอย่างไม่เข้าทางเลย ไม่มีอะไรเป็นใจกับโปรตุเกสเลย รูปเกมนี่คือเหมือนเล่นรอโดน สู้ได้บ้างแต่ไม่สุด แถมก่อนหมดเวลาช่วงทดเวลาใน 90 นาที กองหน้าที่คนไม่ค่อยรู้จักอย่างชิญัก ( Gignac ) หลอกกองหลังหัวทิ่ม และได้ยิงจ่อ ๆ บอลชนเสา ลูกนี้จำได้ดีมาก ถ้าเข้านี่จบเลย เพราะก็ทดเวลาแล้วด้วย
จากนั้นช่วงต่อเวลาก็เป็นเอแดร์ (Eder) ยิงเข้าไปเฉยเลย เพราะกองหลังโดนใบเหลืองเลยไม่กล้าเข้าหนัก ( เป็นใครก็ไม่รู้อยู่ทีมรอง ๆ แต่ยิงลูกที่โลกจำ ) ปีนั้นได้เห็นโรนัลโด้ในฐานะคล้าย ๆ โค้ช คือกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม แพสชั่นแรงมาก ขนลุกเลยตอนนั้น เหมือนสวรรค์ฟ้าลิขิตมาให้ได้จริง ๆ เป็นนัดชิงที่สนุกตื่นเต้น บทละครเขียนไว้ หักปากกาเซียนทั้งโลกจริง ๆ เป็นครั้งนึงที่บอลรอง ( อาจไม่ได้รองมาก ) ทำได้ ( อารมณ์เหมือนเดนมาร์ก กรีซ ในยูโร 1992 , 2004 และเลสเตอร์ กับพรีเมียร์ลีกในปีเดียวกัน 2016 ) โดยรวมเป็นเกมที่โคตรดี
บอลโลกปี 2018 โครเอเชีย - ฝรั่งเศส
ก็เป็นปีที่ม้ามืดเข้าชิงกับยอดทีม โครเอเชีย ในนามทีมชาติตัวเองไม่เคยเข้าชิงใด ๆ รายการเมเจอร์เลย ( ไม่รวมตอนเป็น Yugoslavia ) ปีนั้นลูก้า โมดริช ฟอร์มดีมาก ( ได้บัลลงดอร์ในปีนั้นด้วย ) แต่ฟุตบอลมันดีคนเดียวไม่พอ ถึงแม้จะมีเปริซิช ที่ดูดีมากด้วย แต่ฝรั่งเศสก็มี เอ็มบัปเป้ ( โคตรเด็กนรกในปีนั้น แจ้งเกิดเต็มตัว ) กรีซมัน ป๊อกบา รูปเกมก็ทุกอย่างไม่เป็นใจกับโครเอเชียเลยสักนิดเดียว เป็นหนังที่ดราม่ารันทดหดหู่มาก โดนฟรีคิกแฉลบเข้า , จุดโทษจากบอลโดนมือแบบไม่ได้ตั้งใจ , บล็อกลูกยิงได้ เข้าทางโดนยิงซ้ำอีก ฯลฯ เป็นเกมที่ไม่สนุกเอามาก ๆ เลยเพราะมันเข้าทางฝรั่งเศสไปซะทุกอย่าง เกมจบตั้งแต่ 4-1 ( ได้ปรอบใจมาลูกนึง โกลฝรั่งเศสแจก เป็น 4-2 ) ซึ่งเหลือเวลาเยอะมาก แต่รูปเกมมันสู้ไม่ได้แล้ว ก็จบไปที่บอลรองแพ้ไปตามระเบียบไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น โดยรวมความรู้สึกเหมือนของบอลยูโร 2012 คือน่าเบื่อมาก ชอบบอลสูสี
โดยรวมก็ประมาณนั้นครับ ความคาดหวังของนัดชิงยูโรปีนี้คือขอให้เป็นนัดชิงที่สมศักดิ์ศรี เพราะดูจากฟอร์มไม่มีใครเหนือกว่าใครเลย และอีกรายการที่ขนานกันก็คือโคปาอเมริกา ก็อยากจะเห็นเมซซี่สมหวังกับเค้าสักที ไม่ได้ปีนี้ก็คงไม่ได้ถ้วยเมเจอร์แล้วมั้ง บอลโลกปีหน้าดูจะยังยากไป ถ้าเจ้าตัวยังจะไหวมาลุ้นอยู่ ทีมฝั่งยุโรปดูเหนือกว่านิด ๆ จากฟอร์มการเล่นที่ติดตามมา แต่อย่างไรก็ตามบอลลูกกลม ๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ประกอบกับอีกหลายปัจจัย
ความรู้สึกของบอลนัดชิงรายการเมเจอร์ ตั้งแต่ปี 2010
กลับไปที่ประเด็นของกระทู้ เริ่มที่บอลโลกปี 2010 นัดชิง สเปน – ฮอลแลนด์
ส่วนตัวแอบเชียร์ฮอลแลนด์ เพราะชอบร๊อบเบน กับชไนจ์เดอร์ แล้วคิดว่าปีนั้นต้องได้แน่ ๆ เข้าทาง Third Time Lucky ( เข้าชิงบอลโลกเป็นครั้งที่ 3 ) ส่วนสเปนนั้นเข้าชิงบอลโลกเป็นครั้งแรก แต่ได้แชมป์ยูโร 2008 มาก่อนแล้ว ด้วยรูปแบบการเล่นบอลที่ผมชอบมากที่สุดทีมนึง คือต่อบอลแบบ Tiki Taka และ False 9 ยุคนั้นสเปนและบาซ่าครองวงการมาก สำหรับรูปเกมเป็นไปอย่างสูสีมาก ทีมนึงจี้ดจ้าด อีกทีมก็ทีมเวิร์คดีมาก แล้วก็มามีประตูชัยช่วงท้ายของต่อเวลาโดยอิเนสต้า โดยรวมเป็นนัดชิงที่สนุกสูสีมาก วัดกันที่จังหวะและความเด็ดขาดจริง ๆ สเปนชุดนั้นผมว่าเป็นทีมชาติที่เก่งที่สุดในโลกทีมนึงเลยก็ว่าได้ โดยเฉพาะวิธีการเล่นตื่นตามาก
บอลยูโรปี 2012 นัดชิง สเปน - อิตาลี่
ก็ยังเป็นยุคของความยิ่งใหญ่ของสเปน ต่อเนื่องมาตั้งแต่บอลยูโรปี 2008 ได้แชมป์เมเจอร์ 3 ครั้งติดกัน ส่วนอิตาลี่วันนั้นดูเป็นทีมพิการไปเลย หลังจากบาโลเตลี่อย่างโหดในรอบรอง รอบชิงหายจากเกมไปเลย ก็โดนถล่มไป 4 – 0 ตามระเบียบ เป็นนัดชิงที่เละเทะที่สุดที่เคยดูมานัดนึง บอลไม่สนุกเลย เหมือนดูสเปนซ้อมบอล อิตาลี่สู้ไม่ได้ในทุกกระบวน เกมค่อนข้างน่าเบื่อ ขาดลอยตั้งแต่ครึ่งแรกแล้ว เหมือนเอาทีดีที่สุดของยุค มาเจอกับทีมที่เล่นดีแต่โชคร้ายเจ็บ และไม่สมบูรณ์ค่อนทีม ไม่ค่อยมีอะไรให้พูดเยอะ สั้น ๆ คือสเปนสุดยอด
บอลโลกปี 2014 นัดชิง เยอรมัน - อาเจนติน่า
เป็นนัดชิงที่ดูสมศักดิ์ศรีมาก และเป็นขาประจำรอบลึกบอลโลกทั้งคู่ เคยผลัดกันแพ้ชนะมาแล้วคนละครั้งในช่วงปี 86 และ 90 นัดนี้ก็เป็นการรีแมทช์กันอีกครั้ง ของสุดยอดทีมจากยุโรป และอเมริกาใต้ ( ตอนนั้นอาเจนดูดีกว่าบราซิลพอตัว ) บอลสองสไตล์มาเจอกัน นักเตะที่ดีที่สุดของโลกคนหนึ่งยุคนี้กำลังจะสร้างประวัติศาสตร์ กับเยอรมันยุคที่โคตรแข็งแกร่งยุคหนึ่ง และรอบรองทำโคตรแสบกับบราซิลไว้ จำไม่ลืมแน่นอน เกมนี้คล้ายนัดชิงบอลโลกปี 2010 มาก ทั้งรูปเกม และนาทีที่ยิงประตู น่าเสียดายแทนอาเจนติน่ามากที่มีโอกาสมากกว่า ทั้งเยอรมันคืนหลังพลาด แต่อิกวาอินก็ไม่นิ่งพอ แถมมียิงเข้าแล้วล้ำหน้าด้วย อย่างว่าฟุตบอลคือชีวิต ไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ บทจะเจ็บ เจ็บมากอยู่ ต้องชื่นชมเยอรมันที่เล่นดีมากด้วย
บอลยูโรปี 2016 นัดชิง โปรตุเกส - ฝรั่งเศส
เป็นนัดชิงที่ใคร ๆ ก็บอกว่าฝรั่งเศสได้แน่นอน จากหลายปัจจัยทั้งเล่นในบ้าน ฟอร์มการเล่น อ่านทั้งหนังสือพิมพ์ และออนไลน์ไปทางฝรั่งเศสทั้งหมด ถ้าโปรตุเกสจะทำได้มันต้องปาฏิหาริย์ และมันก็เกิดขึ้นจริง ๆ ด้วย ถึงแม้จะมีสุดยอดนักเตะของโลกอีกคน แต่ปีนั้นบาดเจ็บ แถมนัดชิงเล่นได้แป๊บเดียวด้วย ทุกอย่างไม่เข้าทางเลย ไม่มีอะไรเป็นใจกับโปรตุเกสเลย รูปเกมนี่คือเหมือนเล่นรอโดน สู้ได้บ้างแต่ไม่สุด แถมก่อนหมดเวลาช่วงทดเวลาใน 90 นาที กองหน้าที่คนไม่ค่อยรู้จักอย่างชิญัก ( Gignac ) หลอกกองหลังหัวทิ่ม และได้ยิงจ่อ ๆ บอลชนเสา ลูกนี้จำได้ดีมาก ถ้าเข้านี่จบเลย เพราะก็ทดเวลาแล้วด้วย
จากนั้นช่วงต่อเวลาก็เป็นเอแดร์ (Eder) ยิงเข้าไปเฉยเลย เพราะกองหลังโดนใบเหลืองเลยไม่กล้าเข้าหนัก ( เป็นใครก็ไม่รู้อยู่ทีมรอง ๆ แต่ยิงลูกที่โลกจำ ) ปีนั้นได้เห็นโรนัลโด้ในฐานะคล้าย ๆ โค้ช คือกระตุ้นเพื่อนร่วมทีม แพสชั่นแรงมาก ขนลุกเลยตอนนั้น เหมือนสวรรค์ฟ้าลิขิตมาให้ได้จริง ๆ เป็นนัดชิงที่สนุกตื่นเต้น บทละครเขียนไว้ หักปากกาเซียนทั้งโลกจริง ๆ เป็นครั้งนึงที่บอลรอง ( อาจไม่ได้รองมาก ) ทำได้ ( อารมณ์เหมือนเดนมาร์ก กรีซ ในยูโร 1992 , 2004 และเลสเตอร์ กับพรีเมียร์ลีกในปีเดียวกัน 2016 ) โดยรวมเป็นเกมที่โคตรดี
บอลโลกปี 2018 โครเอเชีย - ฝรั่งเศส
ก็เป็นปีที่ม้ามืดเข้าชิงกับยอดทีม โครเอเชีย ในนามทีมชาติตัวเองไม่เคยเข้าชิงใด ๆ รายการเมเจอร์เลย ( ไม่รวมตอนเป็น Yugoslavia ) ปีนั้นลูก้า โมดริช ฟอร์มดีมาก ( ได้บัลลงดอร์ในปีนั้นด้วย ) แต่ฟุตบอลมันดีคนเดียวไม่พอ ถึงแม้จะมีเปริซิช ที่ดูดีมากด้วย แต่ฝรั่งเศสก็มี เอ็มบัปเป้ ( โคตรเด็กนรกในปีนั้น แจ้งเกิดเต็มตัว ) กรีซมัน ป๊อกบา รูปเกมก็ทุกอย่างไม่เป็นใจกับโครเอเชียเลยสักนิดเดียว เป็นหนังที่ดราม่ารันทดหดหู่มาก โดนฟรีคิกแฉลบเข้า , จุดโทษจากบอลโดนมือแบบไม่ได้ตั้งใจ , บล็อกลูกยิงได้ เข้าทางโดนยิงซ้ำอีก ฯลฯ เป็นเกมที่ไม่สนุกเอามาก ๆ เลยเพราะมันเข้าทางฝรั่งเศสไปซะทุกอย่าง เกมจบตั้งแต่ 4-1 ( ได้ปรอบใจมาลูกนึง โกลฝรั่งเศสแจก เป็น 4-2 ) ซึ่งเหลือเวลาเยอะมาก แต่รูปเกมมันสู้ไม่ได้แล้ว ก็จบไปที่บอลรองแพ้ไปตามระเบียบไม่มีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น โดยรวมความรู้สึกเหมือนของบอลยูโร 2012 คือน่าเบื่อมาก ชอบบอลสูสี
โดยรวมก็ประมาณนั้นครับ ความคาดหวังของนัดชิงยูโรปีนี้คือขอให้เป็นนัดชิงที่สมศักดิ์ศรี เพราะดูจากฟอร์มไม่มีใครเหนือกว่าใครเลย และอีกรายการที่ขนานกันก็คือโคปาอเมริกา ก็อยากจะเห็นเมซซี่สมหวังกับเค้าสักที ไม่ได้ปีนี้ก็คงไม่ได้ถ้วยเมเจอร์แล้วมั้ง บอลโลกปีหน้าดูจะยังยากไป ถ้าเจ้าตัวยังจะไหวมาลุ้นอยู่ ทีมฝั่งยุโรปดูเหนือกว่านิด ๆ จากฟอร์มการเล่นที่ติดตามมา แต่อย่างไรก็ตามบอลลูกกลม ๆ อะไรก็เกิดขึ้นได้ ประกอบกับอีกหลายปัจจัย