สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
อาเขยเป็นแค่มาดอง ไม่ได้เป็นญาติแท้ ๆ
ถ้าเราเป็นเขาเราย้ายออกไปแล้ว
คุณเป็นเจ้าของบ้านและบอกว่าเป็นเจ้าบ้าน
แล้วทำไมไม่รู้ล่ะว่าเค้ามีชื่ออยู่หรือไม่
แต่ชื่อใครอยู่ไม่อยู่ไม่สำคัญหรอก
ปัญหาคือคุณอึดอัดที่ไม่มีปากมีเสียงในบ้านใช่มั้ย
งั้นเราจะไม่แนะนำให้พูดกับเค้าตรง ๆ หรอกนะ
ถ้าคุณกล้า คุณพูดไปนานแล้ว
นี่คงจะปากหนัก เกรงใจเขาล่ะสิ
งั้นไม่เป็นไรเนาะ แกล้งบอกเขาไป ว่าคุณจะรีโนเวทบ้าน
เพื่อลงทุนปล่อยเช่าหรือปล่อยขายก็แล้วแต่คุณ
ให้เค้าหาที่อยู่ใหม่ ให้เวลาเขาหาบ้านใหม่กี่วันก็บอกไป
พอเขาไปคุณก็อยู่เฉย ๆ ถ้าเค้าถามว่าอ้าว ไหนว่าจะรีโนเวท
ก็อ้างนู่นนี่ กู้ไม่ผ่าน , เปลี่ยนใจแล้ว ฯลฯ
ถ้าเราเป็นเขาเราย้ายออกไปแล้ว
คุณเป็นเจ้าของบ้านและบอกว่าเป็นเจ้าบ้าน
แล้วทำไมไม่รู้ล่ะว่าเค้ามีชื่ออยู่หรือไม่
แต่ชื่อใครอยู่ไม่อยู่ไม่สำคัญหรอก
ปัญหาคือคุณอึดอัดที่ไม่มีปากมีเสียงในบ้านใช่มั้ย
งั้นเราจะไม่แนะนำให้พูดกับเค้าตรง ๆ หรอกนะ
ถ้าคุณกล้า คุณพูดไปนานแล้ว
นี่คงจะปากหนัก เกรงใจเขาล่ะสิ
งั้นไม่เป็นไรเนาะ แกล้งบอกเขาไป ว่าคุณจะรีโนเวทบ้าน
เพื่อลงทุนปล่อยเช่าหรือปล่อยขายก็แล้วแต่คุณ
ให้เค้าหาที่อยู่ใหม่ ให้เวลาเขาหาบ้านใหม่กี่วันก็บอกไป
พอเขาไปคุณก็อยู่เฉย ๆ ถ้าเค้าถามว่าอ้าว ไหนว่าจะรีโนเวท
ก็อ้างนู่นนี่ กู้ไม่ผ่าน , เปลี่ยนใจแล้ว ฯลฯ
ความคิดเห็นที่ 4
เรามองโลกในแง่ร้ายนะคะ เราเดาว่าค่าใช้จ่ายในบ้านหลักๆก็คือคุณออกด้วยใช่ไหมคะ กรณีนี้ คุณควรรีบจัดการให้อาเขย+แฟนใหม่ออกไปอยู่ที่อื่นให้เร็วที่สุด
เอาจริงๆ คุณไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับ 2 คนนี้เลย ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาอยู่ร่วมบ้านกัน ที่สำคัญ อาเขยคุณไว้ใจได้ขนาดไหน เกิดคุณอยู่บ้านกับเค้า 2 คน สำหรับเรา 2 คนนี้คือคนแปลกหน้าค่ะ เราคงไม่ไว้ใจให้เค้ามาอยู่บ้านเดียวกันกับเราได้
เอาจริงๆ คุณไม่มีความเกี่ยวข้องใดๆกับ 2 คนนี้เลย ไม่มีความจำเป็นที่ต้องมาอยู่ร่วมบ้านกัน ที่สำคัญ อาเขยคุณไว้ใจได้ขนาดไหน เกิดคุณอยู่บ้านกับเค้า 2 คน สำหรับเรา 2 คนนี้คือคนแปลกหน้าค่ะ เราคงไม่ไว้ใจให้เค้ามาอยู่บ้านเดียวกันกับเราได้
แสดงความคิดเห็น
เป็นเจ้าของบ้านแต่รู้สึกว่าตัวเองมาขออาศัย