อยากขายที่ดินพ่อแม่เสียชีวิตหมดแล้ว ขอคำปรึกษาไม่คิดเล็กคิดน้อยที(ลึกๆเกรงใจแม่)

ตอนนี้ผมเหลือพี่สาว1คน แม่เสียชีวิตได้10ปีแล้ว พ่อเสียชีวิต4ปีที่แล้ว ปัญหาคือเราไม่มีพ่อแม่คอยซัพพอร์ตเหมือนคนอื่น การศึกษา ผมมีแค่วุฒม.3 พี่สาวเรียนปวส.แต่ไม่น่าจบเพราะไม่มีตังเรียนต่อ ตั้งแต่แม่เสียอยู่กับป้าได้แค่5ปี และก็มีปัญหาเรื่องมรดกแม่กับป้า พี่สาวก็ออกไปอยู่ข้าง ผมก็กลายเป็นคนเร่ร่อน ก็เหมือนตัดหางปล่อยวัดแหละเพราะเขาก็มีลูกเขาอยู่แล้ว ปัจุบันผมอายุ20 พี่สาว23 ผมตัวคนเดียวมา5ปี ผมกับพี่สาวไม่ได้อยู่ด้วยกัน ผมปรึกษากับพี่สาวว่าต้อง all in สักทีแล้วแหละ เลยคิดจะขายที่ดินมาตั้งหลักสร้างอนาคต ทุกวันนี้กับญาติไม่ได้คุยกันเลย ญาติพี่น้องพึ่งไม่ได้สักคน เห็นแก่ตัวทุกคน ขนาดที่ดินยังสลับของแม่ผม ตอนแบ่งกันเค้าก็จับฉลากกันหมด แต่แม่ผมบังเอิญจับได้ที่แปลงสวยติดถนนหลัก ผมก็ต้องไปโอนคืน ถ้าขายผมก็จะให้สิทธิญาติตัวเองก่อนอยู่แล้ว แต่ก็กลัวจะมีปัญหาเรื่องราคา กดราคาเรา ราคาญาติอีก ปัญหาจะตามมาก็คือขี้ปากญาติตัวเอง ทุกวันนี้ที่ดินนั้นก่อนแม่เสีย แม่ได้สั่งปลูกยางพาราไว้ แล้วกรีดมาได้หลายปีแล้ว ผลประโยชน์ไม่ได้มาถึงผมกับพี่สาว ไม่ได้มาจุนเจือเลยสักบาท เวลาพี่สาวหรือผมมีปัญหาเรื่องเงิน หันหน้าเข้าหาญาติคนไหนไม่ได้สักตัว เพราะบั้นปลายผมกับพี่สาวไม่กลับไปทำไร่ทำนาอยู่แล้ว ปล่อยไว้เงินมันก็ไม่ได้งอกมาให้ ทุกวันนี้เศรษฐกิจแบบนี้ ผมคิดถึงแค่ปัจจุบันก่อน เลยคิดอนาคตถ้ามีตังค่อยซื้อเก็บไว้ใหม่ ผมรู้สึกว่าชีวิตผมลำบากตั้งแต่แม่เสีย อยากได้อะไรหาซื้อเอง มันไม่มีฟิวแบมือขอตังพ่อแม่เหมือนเด็กคนอื่นแล้ว มีปัญหาก็ปรึกษาพ่อแม่ เด็กคนนี้ต้องเก็บไว้ในใจคุยกันได้แค่2คน หลักๆก็เกรงใจแม่ กับขี้ปากญาติตัวเอง ไอคำที่ว่าไอเด็ก2คนนี้ขายไปใช้เงินไม่เป็นแปปเดียวเดี๋ยวก็หมด คำพวกมันบั่นทอนจิตใจตัวเอง🙇‍♂️🙇‍♂️✌ #ขาดตกบกพร่องตรงไหนขออภัยด้วยครับ #พูดไม่ถูกใจใครก็ขอโทษด้วยนะครับ
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 11
เมื่อไหร่ที่คุณเลิกสนใจกับคำว่าขี้ปากได้ ชีวิตคุณจะรู้แล้วว่าต้องใส่ใจกับอนาคตตัวเอง
ทีนี้คุณจะวางแผนชีวิตได้ง่ายขึ้น เพราะไม่มีขี้ปากชาวบ้านมาช่วยตัดสินใจ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 4
ชีวิตเรา เราเลือกเองคับ
อย่างพี่ มีแม่ มีพ่อเลี้ยง
แต่หาเงินเองเพื่อจ่ายค่าห้อง ค่าเรียน ค่ากินต่างๆเองเกือบ ทั้งหมด
(สมัยนั้นพี่ต้องทนอยู่กับพ่อเลี้ยงสองคน เพราะแม่ทำงานอยู่คนละอำเภอ
ถูกด่าคำหยาบทุกวัน บางวันพังข้าวของ อาระวาดใส่ ร้องให้คิดถึงแม่ทุกวัน น้อยใจชีวิตเมื่อว่าทำไม เราถึงไม่มีพ่อแม่คอยดูแลเหมือนเพื่อนๆ)

ชีวิตลำบาก เก็บกด ไร้ที่พึ่ง ไม่มีอะไรเลย
แต่พี่อะฝันไว้หลายอย่าง อยากมีชีวิตดีๆ ถ้าพี่ไม่สู้ต่อ
อนาคตต่อไปพี่คงไม่ได้ใช้ชีวิตแบบที่คิดที่ฝันแน่ๆ  จากนั้นพี่ก็พยามมองหาโอกาสเท่าที่พี่มี
--------------------
พี่เริ่มขายของออนไลน์ ตั้งแต่อายุ 15-16 ปี
สมัยได้คอมมือสองเครื่องแรกในชีวิตมา ตอนนั้นไม่มีเงิน ไม่มีทุนเลย 0฿ มีแค่คอม

เริ่มจากเงิน 0฿ พี่เริ่มยังไง?
พี่เริ่มจาก หาของมาโพสขาย โดยดูราคาตลาด  เช่นหลายร้านขาย 100-200บาท แต่เจออีกร้านหนึ่งขาย 50 บาท
พี่โพสขายเลย 90-190 บาท  เมื่อมีคนสั่งของโอนเงินให้พี่ พี่ก็โอนไปสั่งต่อและใส่ที่อยู่เป็นของลูกค้า สรุปได้กำไร 40-140 บาทเลย

ตอนนั้นได้เงินเข้าวันละหลักร้อยดีใจมากๆ ภูมิใจตัวเองสุดๆ และทำเรื่อยๆมา จนมีทุนซื้อของมาและส่งให้ลูกค้าด้วยตัวเอง
ชีวืตก็ล้มบ้าง ลุกบ้าง ถูกโกงบ้าง ถูกหลอกบ้าง ท้อแท้หลายรอบ
กลับไปเริ่มต้นใหม่หลายรอบมากๆ แต่มันทำให้เราเรียนรู้หลายๆอย่างๆ

ณ ปัจจุบัน พี่มีบ้าน มีรถยุโปร มีเงินเก็บ โดยทุกอย่างพี่เริ่มด้วยตัวเอง ส่วนที่บ้านพี่ก็ห่างเหินมากตั้วแต่อายุ 15-16 เลย (แต่ก็ยังส่งเสียให้แม่)
------------------
สิ่งที่เราควรทำเบื้องต้น
- อย่างไปน้อยใจกับชีวิต มันจะได้เป็นพลังบวกให้เราเอง (คิดซะว่าคนแย่ๆกว่าเรามีอีก)
- ตอนนี้เรามี วุฒิ ม.3 ให้ไปสมัคร กศน ไว้ เอาวุฒิ ม.6 ติดตัวไว้ตอนนี้ (เราต้องไปสมัครเอง คิดซะว่าเราโตแล้ว หรือจิ๊บๆ)
  เมื่อเราโตขึ้นอายุมากขึ้น เรามีงาน อยากเรียน ป.ตรี ก็จะได้สมัครเรียนต่อได้ (เรียนพวก เสาร์ อาทิตย์ หริอออนไลน์เอาก็ได้)
- ส่วนเรื่องที่ดิน เราจะขายก็เป็นสิทธิ์ของเรา อย่าไปแคร์ญาติ หรือคนที่ไม่เคยช่วยเหลือเรา (เหนื่อยตัวเองเฉยๆ)
  แต่พี่มีคำเตือนคือ  ที่ดินตรงนี้มันคือโอกาสของเรา อาจกำหนดอนาคตของเราได้เลย
  ฉนั้นเราต้องมั่นใจว่าเมื่อเราขายที่ดิน และได้เงินมา เราสามารถสร้างเงิน สร้างอนาคต ต่อยอดได้จากจุดนี้!
  หากยังไม่รู้จะทำอะไร ยังไม่มั่นใจ โปรดเก็บมันไว้ รอ รอ รอจนเราเติบโต เรียนรู้ และเห็นโอกาสของการเติบโตโดยใช้ที่ดินหรือเงินจากจุดนี้!
- ตอนนี้อายุ 20 วุฒิ ม.3 ให้เราสมัครทำงาน ไม่ต้องอาย ไม่ต้องกลัว อายุเท่านี้มีหลายคนทำงานเยอะแยะ
  (เมื่อเราทำงาน เราจะมีสังคม มีเพื่อนจากที่ทำงาน ตอนนั้นเราก็จะไม่เหงา แต่สิ่งสำคัญ ให้เรามองหาสังคมทำงานที่มันไปในทางดี ไม่ใช่กลุ่มทำงานเลิกงานละชวนกินเหล้าเมายา เป้าหมายเราคือเก็บเงินต่อยอด ถ้าคิดไม่ออกก็แนวๆพวก Part-time เช่น 7-11 ก็ได้ )
- เรามีพี่สาว เรากับพี่สาวอาจแย่พอกัน ฉนั้นถ้าอยู่ใกล้กันได้ให้อยู่ไกล้กัน ทำงานใกล้กันได้ให้ทำงานไกล้กัน
  (ถ้าอยู่ไกล คนละจังหวัด เราก็ต้องคุยกับพี่สาวว่าจะไปอยู่ไกล้ๆกันดีไหม มีอะไรจะได้ช่วยเหลือกัน วันไหนไม่มีกำลงใจ อยู่ไกล้กันก็ยังไปเจอกันเห็นหน้ากันได้)

ตั้งเป้า ทำงานๆ เก็บเงินๆ  
ส่วนชีวิตแบบอื่นๆ กิน เที่ยว ตามประสาวัยรุ่น คิดซะว่ามีเงินละค่อยทำก็ไม่สาย ช่วงนี้เราจะสร้างอนาคตให้มันดีที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่