พอดีวันนี้สั่งของผ่าน เดลิเวอรี่ 11.34 น. ในบิลมีสั่ง รายการ(ที่เป็นปัญหา ) ครีมซองละ 15 บาท 4ซอง
แต่พอของมาส่งการเป็นตัวเซรั่ม ซองละ 29 มาแทน โดยที่เราก็ไม่ได้ตรวจสอบดูอย่างละเอียดจนน้องคนส่งกลับไปแล้วถึงได้มาดูบิล ( หักเงินผ่านทรูมันนี่วอยเล็ตไม่ได้จ่ายเงินสด ) เลยทำการโทรกลับไปที่สาขา 12.41 น. แจ้งพนักงานว่าน้องส่งของให้พี่ผิด พี่สั่งครีมไม่ได้สั่งเซรั่ม น้องให้ ผจก.คุย
ผจก.ถามว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น
เราเลยอธิบายว่าส่งของมาให้ผิด ถ้าของหมดทำไมไม่แจ้ง
ผจก. : ถ้าผิด ลูกค้าก็คืนได้นี่
เรา :ก็นี่ไง ถึงโทรมา
ผจก.วางสาย
( ประเด็นคือ มันเป็นปัญหาของลูกค้าหรือพนักงาน ที่จะหยิบผิด เอามาผิด คิดเงินเกิน คุณจะไม่ดูในระบบเลยเหรอว่ายอดลูกค้าในแอฟ 230 บาท แต่ในบิล 277 บาท แสดงว่าไม่ตรวจสอบก่อนมา มันผิดที่ทางคุณ หรือลูกค้า แถมน้ำเสียงที่ใช้กับลูกค้า แม้แต่คำขอโทษยังไม่มี เอาจริงๆ ถ้าคุณแค่พูดว่า ต้องขอโทษด้วยนะคะ พนักงานจัดผิด หยิบผิด ลูกค้ายังจะซอฟท์ลงกว่านี้ ไม่ใช่ใช้น้ำเสียงไม่ดีกับลูกค้า ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า แต่ลูกค้าก็ไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์พนักงานเช่นกัน นะคะคุณ ผจก. )
12.50 น. ผจก.ให้ลูกน้องที่เป็นคนจัดของโทรมา เราเลยแจ้งว่าน้องเอาของมาให้พี่ผิด น้องเลยบอกว่าพอดีผมหยิบผิดครับ ต้องขออภัยลูกค้า เราเลยบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเอามาเปลี่ยนให้พี่ได้มั้ย น้องตอบว่าได้
แต่ตอนนั้นเราโทรหา คอลเซนเตอร์เรียบร้อยแล้ว ก่อนน้องพนักงานสาขาติดต่อมา เลยแจ้งคอลว่า ผจก.พูดกับลูกค้าด้วยน้ำเสียงไม่ดี
เลยค่ะ แค่นั้น
13.15 น้องพนักงานเอาของมาเปลี่ยน เราก็คิดว่าจะจบ
13.44 ผจก. โทรมาถามว่า ลูกค้าได้รับของหรือยัง
เรา : ได้แล้ว
ผจก. : ได้แล้ว แล้วโทรหาส่วนกลางทำไม
เรา : โทรเพราะผจก. พูดไม่ดีค่ะ ไม่ได้โทรว่าไม่ได้รับของ
ผจก. วางสาย
สรุปคือ ?? นี่คือการปฏิบัติงานของ ผจก.
เอาจริงๆ คือไม่ได้โกรธน้องพนักงานเลยนะ ผิด ก็ยอมรับผิด น้องขอโทษ เอามาเปลี่ยน เราก็ว่าดี น้องคือมาแบบรู้สึกผิด
แต่ ผจก. คุยด้วยสองครั้ง น้ำเสียงอารมณ์ไม่ดีใส่ลูกค้าสองครั้ง
ในมุมของลูกค้า ก็ลูกค้าสั่งอย่าง ได้อย่าง โทรไปแจ้งขอโทษเอามาเปลี่ยนก็จบ
แต่การคุยกับ ผจก. น้ำเสียงไม่ดีทั้งสองครั้งเลย หงุดหงิด แล้วสุดท้ายมาลงว่าโทรหาคอลฯ ทำไม
พนักงานเซเว่น
แต่พอของมาส่งการเป็นตัวเซรั่ม ซองละ 29 มาแทน โดยที่เราก็ไม่ได้ตรวจสอบดูอย่างละเอียดจนน้องคนส่งกลับไปแล้วถึงได้มาดูบิล ( หักเงินผ่านทรูมันนี่วอยเล็ตไม่ได้จ่ายเงินสด ) เลยทำการโทรกลับไปที่สาขา 12.41 น. แจ้งพนักงานว่าน้องส่งของให้พี่ผิด พี่สั่งครีมไม่ได้สั่งเซรั่ม น้องให้ ผจก.คุย
ผจก.ถามว่าเกิดปัญหาอะไรขึ้น
เราเลยอธิบายว่าส่งของมาให้ผิด ถ้าของหมดทำไมไม่แจ้ง
ผจก. : ถ้าผิด ลูกค้าก็คืนได้นี่
เรา :ก็นี่ไง ถึงโทรมา
ผจก.วางสาย
( ประเด็นคือ มันเป็นปัญหาของลูกค้าหรือพนักงาน ที่จะหยิบผิด เอามาผิด คิดเงินเกิน คุณจะไม่ดูในระบบเลยเหรอว่ายอดลูกค้าในแอฟ 230 บาท แต่ในบิล 277 บาท แสดงว่าไม่ตรวจสอบก่อนมา มันผิดที่ทางคุณ หรือลูกค้า แถมน้ำเสียงที่ใช้กับลูกค้า แม้แต่คำขอโทษยังไม่มี เอาจริงๆ ถ้าคุณแค่พูดว่า ต้องขอโทษด้วยนะคะ พนักงานจัดผิด หยิบผิด ลูกค้ายังจะซอฟท์ลงกว่านี้ ไม่ใช่ใช้น้ำเสียงไม่ดีกับลูกค้า ลูกค้าไม่ใช่พระเจ้า แต่ลูกค้าก็ไม่ใช่ที่รองรับอารมณ์พนักงานเช่นกัน นะคะคุณ ผจก. )
12.50 น. ผจก.ให้ลูกน้องที่เป็นคนจัดของโทรมา เราเลยแจ้งว่าน้องเอาของมาให้พี่ผิด น้องเลยบอกว่าพอดีผมหยิบผิดครับ ต้องขออภัยลูกค้า เราเลยบอกว่า ไม่เป็นไรค่ะ งั้นเอามาเปลี่ยนให้พี่ได้มั้ย น้องตอบว่าได้
แต่ตอนนั้นเราโทรหา คอลเซนเตอร์เรียบร้อยแล้ว ก่อนน้องพนักงานสาขาติดต่อมา เลยแจ้งคอลว่า ผจก.พูดกับลูกค้าด้วยน้ำเสียงไม่ดี
เลยค่ะ แค่นั้น
13.15 น้องพนักงานเอาของมาเปลี่ยน เราก็คิดว่าจะจบ
13.44 ผจก. โทรมาถามว่า ลูกค้าได้รับของหรือยัง
เรา : ได้แล้ว
ผจก. : ได้แล้ว แล้วโทรหาส่วนกลางทำไม
เรา : โทรเพราะผจก. พูดไม่ดีค่ะ ไม่ได้โทรว่าไม่ได้รับของ
ผจก. วางสาย
สรุปคือ ?? นี่คือการปฏิบัติงานของ ผจก.
เอาจริงๆ คือไม่ได้โกรธน้องพนักงานเลยนะ ผิด ก็ยอมรับผิด น้องขอโทษ เอามาเปลี่ยน เราก็ว่าดี น้องคือมาแบบรู้สึกผิด
แต่ ผจก. คุยด้วยสองครั้ง น้ำเสียงอารมณ์ไม่ดีใส่ลูกค้าสองครั้ง
ในมุมของลูกค้า ก็ลูกค้าสั่งอย่าง ได้อย่าง โทรไปแจ้งขอโทษเอามาเปลี่ยนก็จบ
แต่การคุยกับ ผจก. น้ำเสียงไม่ดีทั้งสองครั้งเลย หงุดหงิด แล้วสุดท้ายมาลงว่าโทรหาคอลฯ ทำไม