วันนี้พาแฟนไปกินไอศกรีม สเวนเซ่น สาขาโลตัส อ่อนนุช มาครับ
บอกเลยว่า ไม่ได้เข้าสเวนเซ่นมานานหลายเดือน แล้ว ช่วงหลังเดินผ่านเห็นป้ายโฆษนา ไอติมทุเรียน เลยคิดอยากลอง
วันนี้เลยเกี่ยวก้อยพาแฟนเข้าไปกินติมกันตอน 2ทุ่มครึ่ง ผมสั่ง เมนูทุเรียนโบ้ท ราคา 109 บาท รสชาติก็งั้นๆนะครับ แนะนำให้ไปซื้อทุเรียนจริงๆกินจะได้อารมณ์มากกว่า
ทีนี้ไฮไลท์มันอยู่ที่เมนูของแฟนครับ นางสั่งไอติมช็อคโกแลต ลาวา ราคา159บาท มากิน พอสั่งเมนูเสร็จ พนักงานที่รับออร์เดอร์ก็รีบเสนอขายบัตรสมาชิกทันที ซึ่งเราก็ปฏิเสธไปครับ เราอยากกินตอนไหนก็จะกิน ดีกว่ามีตารางโปรโมชั่นมาผูกมัด
เมื่อไอติมที่สั่งมาเสิร์ฟ เราสองคนก็กินไปปกติ แต่เมื่อผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งชาม แฟนผมก็ชี้ให้ดูว่าในไอติมนี้มัน "เส้นผม" ใช่หรือไม่ ผมเลยเอามือดึงเส้นสีดำออกมาจากก้อนไอติม เป็นเส้นสีดำสั้นประมาน5เซ็นต์ เลยวางไว้บนบิลที่พนักงานเอามาให้ พร้อมกับยกมือเรียกพนักงาน
น้องพนักงานก็รีบเดินมาหา ผมเลยพูดไปว่า "ขอโทษจริงๆนะครับน้อง พี่เจอเส้นนี้ในไอติมน่ะครับ" พร้อมชี้วัตถุพยานให้น้องเขาดู
น้องพนักงาน หน้าซีดเลยครับ พูดคำแรกว่า "ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆค่ะ" "เอางี้นะคะ เดี๋ยวหนูไปทำให้ใหม่นะคะ" ทางผมและแฟนรีบปฏิเสธไป เพราะตอนนั้นกินอะไรไม่ลงแล้ว เพราะมัวแต่ถกกันว่า นี่มันเส้นอะไร?จนหมดอารมณ์กิน เราบอกน้องไปว่า "พี่อิ่มแล้วครับ"พร้อมยิ้มให้กำลังใจน้อง เพราะชื่นชมที่เขากล้าตัดสินใจในการรับผิดชอบเหตุการณ์เฉพาะหน้าแบบนี้
น้องพนักงานก็เสนอทางออกว่า "เอางี้นะคะ เดี๋ยวหนูทำให้ใหม่พร้อมกับแพ็คกลับบ้านให้พี่เลยดีกว่า" พูดจบไม่ฟังเราเลย นางรีบเอาบิลที่มีเส้นสีดำปริศนานั้น ไปปรึกษาผจก.ร้าน(ผมไม่รู้ว่าตำแหน่งเขาคืออะไรนะครับ แต่เขาแต่งกายต่างจากพนักงงานทั่วไป ดูมีคลาสมากกว่า อ้อ เป็นผู้ชายด้วย)
จากนั้นน้องพนักงานคนนี้ก็วนเวียนมาที่โต๊ะเราบ่อยมาก และจะขอโทษทุกครั้งที่หยุดทักเรา จนเราบอกว่า "เฮ้ย น้อง เลิกขอโทษได้แล้ว(ว้อย) เรื่องแบบนี้มันมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ มันคือความผิดพลาดที่ไม่แปลกเลย ต่อไปแค่ระมัดระวังให้มากขึ้นก็พอนะ" เท่านั้นแหละ น้องแกน้ำตาคลอเลย รีบขอบคุณและขอโทษอีกยกใหญ่ (ฮ่วย บอกว่าไม่ต้องขอโทษแล้วว้อย)
จากนั้นเราก็ไปเช็คบิล ผจก.ก็ขอมาเช็คบิลด้วยตัวเอง พร้อมบอกว่า "ผมลดให้พี่อีก10%นะครับ" เราสวนทันทีว่า "เฮ้ย ไม่ต้องลด ของซื้อของขาย ที่สำคัญคุณก็ทำใหม่ให้แล้ว" ผจก.ระล่ำละลักตอบว่า "ให้ผมลดให้เถอะครับ เพื่อความสบายใจของพวกเราในร้าน นะครับ" เราถอนหายใจ "เอาเถอะครับ ทำตามที่เห็นสมควรเถอะ" จากนั้นเราก็จากร้านสเวนเซ่น โลตัสอ่อนนุช มาด้วยความประทับใจ แฟนผมบอกว่า "ต่อไปถ้าจะกินอีก ต้องมาที่นี่ที่เดียวเท่านั้น" พะน่ะ
สรุปเลยนะครับว่า เรื่องเจอวัตถุแปลกปลอมในอาหารนั้นเป็นเรื่องที่คนเป็นลูกค้ารับไม่ได้จริงๆ แต่ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกร้าน ที่ผมประทับใจก็คือ น้องพนักงานคนนั้น(ไม่ได้ถามชื่อ) ตัดสินใจแก้ปัญหาได้ดีมาก ขอโทษนำก่อนเลย ตัดสินใจให้ทางร้านทำให้ใหม่โดยทันที อีกทั้งทำหน้าแบบรู้สึกผิดจริงๆ น้องคนนี้ไปอยู่ที่ไหนก็จะเจริญแน่นอนครับ ความรับผิดชอบต่องาน และสกิลในการแก้ปัญหาสูงจริงๆ ส่วนคุณผจก.ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ใจเย็นมาก รับฟังปัญหา และรับผิดชอบต่อลูกค้าได้ดีมาก
อ่า.....ลงรูปเซ็ตไอติมที่ทางร้านทำมาให้ และรูปใบเสร็จไม่ได้อ่ะ มันบอกว่าไฟล์ภาพเกิน700k
สเวนเซ่น สาขาโลตัสอ่อนนุช พนักงานและผจก.ทำไมทำกันแบบนี้!!!
บอกเลยว่า ไม่ได้เข้าสเวนเซ่นมานานหลายเดือน แล้ว ช่วงหลังเดินผ่านเห็นป้ายโฆษนา ไอติมทุเรียน เลยคิดอยากลอง
วันนี้เลยเกี่ยวก้อยพาแฟนเข้าไปกินติมกันตอน 2ทุ่มครึ่ง ผมสั่ง เมนูทุเรียนโบ้ท ราคา 109 บาท รสชาติก็งั้นๆนะครับ แนะนำให้ไปซื้อทุเรียนจริงๆกินจะได้อารมณ์มากกว่า
ทีนี้ไฮไลท์มันอยู่ที่เมนูของแฟนครับ นางสั่งไอติมช็อคโกแลต ลาวา ราคา159บาท มากิน พอสั่งเมนูเสร็จ พนักงานที่รับออร์เดอร์ก็รีบเสนอขายบัตรสมาชิกทันที ซึ่งเราก็ปฏิเสธไปครับ เราอยากกินตอนไหนก็จะกิน ดีกว่ามีตารางโปรโมชั่นมาผูกมัด
เมื่อไอติมที่สั่งมาเสิร์ฟ เราสองคนก็กินไปปกติ แต่เมื่อผ่านไปยังไม่ถึงครึ่งชาม แฟนผมก็ชี้ให้ดูว่าในไอติมนี้มัน "เส้นผม" ใช่หรือไม่ ผมเลยเอามือดึงเส้นสีดำออกมาจากก้อนไอติม เป็นเส้นสีดำสั้นประมาน5เซ็นต์ เลยวางไว้บนบิลที่พนักงานเอามาให้ พร้อมกับยกมือเรียกพนักงาน
น้องพนักงานก็รีบเดินมาหา ผมเลยพูดไปว่า "ขอโทษจริงๆนะครับน้อง พี่เจอเส้นนี้ในไอติมน่ะครับ" พร้อมชี้วัตถุพยานให้น้องเขาดู
น้องพนักงาน หน้าซีดเลยครับ พูดคำแรกว่า "ขอโทษค่ะ ขอโทษจริงๆค่ะ" "เอางี้นะคะ เดี๋ยวหนูไปทำให้ใหม่นะคะ" ทางผมและแฟนรีบปฏิเสธไป เพราะตอนนั้นกินอะไรไม่ลงแล้ว เพราะมัวแต่ถกกันว่า นี่มันเส้นอะไร?จนหมดอารมณ์กิน เราบอกน้องไปว่า "พี่อิ่มแล้วครับ"พร้อมยิ้มให้กำลังใจน้อง เพราะชื่นชมที่เขากล้าตัดสินใจในการรับผิดชอบเหตุการณ์เฉพาะหน้าแบบนี้
น้องพนักงานก็เสนอทางออกว่า "เอางี้นะคะ เดี๋ยวหนูทำให้ใหม่พร้อมกับแพ็คกลับบ้านให้พี่เลยดีกว่า" พูดจบไม่ฟังเราเลย นางรีบเอาบิลที่มีเส้นสีดำปริศนานั้น ไปปรึกษาผจก.ร้าน(ผมไม่รู้ว่าตำแหน่งเขาคืออะไรนะครับ แต่เขาแต่งกายต่างจากพนักงงานทั่วไป ดูมีคลาสมากกว่า อ้อ เป็นผู้ชายด้วย)
จากนั้นน้องพนักงานคนนี้ก็วนเวียนมาที่โต๊ะเราบ่อยมาก และจะขอโทษทุกครั้งที่หยุดทักเรา จนเราบอกว่า "เฮ้ย น้อง เลิกขอโทษได้แล้ว(ว้อย) เรื่องแบบนี้มันมีโอกาสเกิดขึ้นได้เสมอ มันคือความผิดพลาดที่ไม่แปลกเลย ต่อไปแค่ระมัดระวังให้มากขึ้นก็พอนะ" เท่านั้นแหละ น้องแกน้ำตาคลอเลย รีบขอบคุณและขอโทษอีกยกใหญ่ (ฮ่วย บอกว่าไม่ต้องขอโทษแล้วว้อย)
จากนั้นเราก็ไปเช็คบิล ผจก.ก็ขอมาเช็คบิลด้วยตัวเอง พร้อมบอกว่า "ผมลดให้พี่อีก10%นะครับ" เราสวนทันทีว่า "เฮ้ย ไม่ต้องลด ของซื้อของขาย ที่สำคัญคุณก็ทำใหม่ให้แล้ว" ผจก.ระล่ำละลักตอบว่า "ให้ผมลดให้เถอะครับ เพื่อความสบายใจของพวกเราในร้าน นะครับ" เราถอนหายใจ "เอาเถอะครับ ทำตามที่เห็นสมควรเถอะ" จากนั้นเราก็จากร้านสเวนเซ่น โลตัสอ่อนนุช มาด้วยความประทับใจ แฟนผมบอกว่า "ต่อไปถ้าจะกินอีก ต้องมาที่นี่ที่เดียวเท่านั้น" พะน่ะ
สรุปเลยนะครับว่า เรื่องเจอวัตถุแปลกปลอมในอาหารนั้นเป็นเรื่องที่คนเป็นลูกค้ารับไม่ได้จริงๆ แต่ความผิดพลาดนั้นเกิดขึ้นได้เสมอ เกิดขึ้นได้ทุกที่ ทุกร้าน ที่ผมประทับใจก็คือ น้องพนักงานคนนั้น(ไม่ได้ถามชื่อ) ตัดสินใจแก้ปัญหาได้ดีมาก ขอโทษนำก่อนเลย ตัดสินใจให้ทางร้านทำให้ใหม่โดยทันที อีกทั้งทำหน้าแบบรู้สึกผิดจริงๆ น้องคนนี้ไปอยู่ที่ไหนก็จะเจริญแน่นอนครับ ความรับผิดชอบต่องาน และสกิลในการแก้ปัญหาสูงจริงๆ ส่วนคุณผจก.ก็ยอดเยี่ยมไม่แพ้กัน ใจเย็นมาก รับฟังปัญหา และรับผิดชอบต่อลูกค้าได้ดีมาก
อ่า.....ลงรูปเซ็ตไอติมที่ทางร้านทำมาให้ และรูปใบเสร็จไม่ได้อ่ะ มันบอกว่าไฟล์ภาพเกิน700k