[Review] หุ่นยนต์ดูดฝุ่น iRobot Roomba i3+ สุดยอดตัวช่วยแม่บ้านยุคใหม่ ไม่มีไม่ได้แล้ว



เชื่อมั้ยว่าตั้งแต่เราได้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น ของ iRobot มาใช้งาน...ทางเรานี่อยากจะทำเรื่องอวยยศไปให้ผู้คิดค้นนวัตกรรมนี้จริงๆเลย 😂 
เห้ยมันดีมากกกกอ่ะ มันสะดวกและประหยัดเวลาแม่มากจริงๆ และเหตุด้วยที่คุณพี่แม่บ้านลาออก 
แล้วเราก็ยังไม่อยากหาแม่บ้านใหม่ในช่วงโควิดแบบนี้ เพราะไม่รู้ว่าใครเป็นใคร 



ดังนั้นเราจึงต้องหาตัวช่วยด่วนๆ มาช่วยงานบ้านก่อน จึงได้ หุ่นยนต์ดูดฝุ่น Roomba i3+ ตัวนี้มาครอบครอง 
แล้วก็ค้นพบว่ามันคือสิ่งประดิษฐ์ที่ช่วยแบ่งเบาภาระแม่บ้านได้ดีมากจริงๆ 😅 
แค่ออกคำสั่งเค้าก็เดินทำความสะอาดรอบๆบ้านไปเรื่อยๆ แล้วยังฉลาดอีกนะ ตรงไหนฝุ่นเยอะกว่าปกติ 
ก็จะมี sensor ตรวจจับฝุ่นได้อี้กกก นางก็จะทำความสะอาดบริเวณนั้นๆย้ำๆเพิ่มขึ้นด้วย


อย่างที่รู้ๆกันว่าแบรนด์ iRobot เค้าเป็นแบรนด์ชั้นนำเบอร์ต้นๆ ของโลก และรุ่น iRobot Roomba i3+ ตัวนี้ก็มียอดขายอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่นเลยนะ   
ฟังก์ชั่นและประสิทธิภาพมาแบบจัดครบ จัดเต็ม และราคาก็เอื้อมถึงได้ง่ายด้วย เรามาดูกันตั้งแต่เปิดกล่องเลยค่าาา


ความดีไซน์ของนางแค่จับดูก็รู้เลยว่าเป็นสินค้า Hi-End เพราะลวดลายและวัสดุที่ออกแบบมานั้นเพื่อให้ลดลอยนิ้วมือและฝุ่นบนตัวเครื่อง 
วัสดุหนาแน่น ดูแข็งแรง ทนทาน ไม่ก๊องแก๊งแต่อย่างใด ความพิเศษของรุ่นนี้คือ เค้าจะมาพร้อมกับแท่นกำจัดขยะอัตโนมัติ 
สามารถทำความสะอาดถังขยะในตัวหุ่นยนต์ด้วยการดูดฝุ่น และสิ่งสกปรกไปเก็บไว้ในถุง AllergenLock™ 
ในแท่นที่ปิดอย่างมิดชิดที่ใช้วัสดุที่สามารถล็อกสารก่อภูมิแพ้ได้ 99% ด้วยความหนาถึง 4 ชั้น !!! 
แถมยังเก็บสิ่งสกปรกได้นานถึง 60 วัน หยิบไปทิ้งก็ง่าย แบบมือไม่ต้องเลอะฝุ่นแม้แต่น้อย


การทำงานของเค้า ก็รองรับได้ถึง 150 ตร.ม. ทำความสะอาดได้หลายห้องในครั้งเดียว และทำงานได้บนหลากหลายพื้นผิว 
ความฉลาดของนางคือ ถ้าเราปล่อยให้นางทำงานในหลายๆห้องจนแบตหมด นางก็จะกลับไปยังแท่นเพื่อชาร์จไฟให้เต็มก่อน 
แล้วค่อยกลับมาทำงานต่อจากจุดเดิมอัตโนมัติหากยังทำความสะอาดไม่ครบพื้นที่ (ฉลาดมากเว่อร์)

การทำงานของรุ่นนี้จะเป็นการนำทางแบบใหม่ที่เป็นระบบมากขึ้น เดินทำงานเป็นเส้นตรงด้วยเซ็นเซอร์ตรวจจับพื้นผิว 
ที่ทำงานร่วมกับเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่น 💨 ที่คอยตรวจจับฝุ่นและเน้นทำความสะอาดมากขึ้นบนพื้นที่ที่มีความสกปรกมาก 
(เราว่า #เซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่น นี่เป็นอีกคุณสมบัติที่ดีเมื่อคิดจะหาซื้อหุ่นยนต์ดูดฝุ่นเลยนะ)


เค้าจะมีการทำความสะอาดถึง 3 ขั้นตอนคือ ปัด-ตัก-ดูด ที่มีชุดแปรงยางคู่ แปรงที่หนึ่งสะกิดสิ่งสกปรกที่ติดแน่นออกจากพื้น 
แปรงที่สองตักฝุ่นเข้าเก็บในถังขยะ ทำงานคู่กัน เพื่อเก็บสิ่งสกปรกที่ซ่อนอยู่ทั้งพื้นเนื้อแข็งหรือพรมได้ดีกว่าแปรงเดียว เราชอบตรงที่ฟังก์ชั่นนี้จะไม่ทำให้พวกเส้นผม หรือขนสัตว์พันกันได้ด้วยแระ ถูกใจแม่มากกก

แล้วก็ไม่ต้องกลัวเลยนะ ว่าน้องโรบอทเค้าจะตกบันได หรือจะไปกระแทกขอบเตียงแล้วเครื่องพัง 😣 เพราะเค้ามีเซ็นเซอร์ตรวจจับพื้นที่แคบ เพื่อเลี่ยงการติดใต้เฟอร์นิเจอร์ที่มีความสูงไม่มาก พร้อมเซ็นเซอร์ที่กันชนหน้าเพื่อเข้าทำพื้นที่พิเศษที่มีลักษณะเป็นกำแพง เช่น ผ้าม่าน ชายผ้าตามเฟอร์นิเจอร์ ซึ่งเป็นแหล่งสะสมฝุ่น ไรฝุ่น และเซ็นเซอร์กันตกจากที่สูง (สูงมากกว่า 10 ซ.ม.)


ความสะดวกขั้นสุดก็คือ เราสามารถสั่งงานผ่านแอพ iRobot HOME ได้เลยค่ะ ไม่ว่าจะตั้งวัน เวลาในการทำความสะอาดก็ได้ ในแอพจะมี Smart Mapping บอกซึ่งจะดูได้ว่าเครื่องทำงานไปที่ไหนบ้าง เป็นแผนที่การทำความสะอาดในบ้านเลย นอกจากนี้ยังสามารถสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant อีกด้วยนะ ล้ำมากกกก



และในตัวเค้าจะมาพร้อมกับ Imprint Link ที่สามารถแปะมือสลับการทำงานคู่กับหุ่นยนต์ถูพื้น Braava jet m6 ได้อัตโนมัติ เพื่อการทำความสะอาดแบบครบวงจรด้วยการดูดฝุ่นก่อนแล้วจึงสลับกับการถูพื้นแบบเปียกโดยอัตโนมัติ (โดนป้ายยาอีกแล้ววว >.< ) สรุปคือ … น่าซื้อ น่าลงทุนค่ะ สำหรับเราเรามองว่าคุ้มค่านะ กับการใช้งานและ Lifestyle ของบ้านเรา ที่สำคัญประหยัดงบจ้างแม่บ้านไปเยอะเลย 😂