หลังจากดูซีซั่นแรกแล้วติดใจ The Naked Director
เราก็เลยตามดูซีซั่น 2 จนจบ
รู้สึกคล้าย ๆ กับที่หลายเจ้ารีวิวไปแล้ว เนื้อหาและโทนของภาคนี้แตกต่างจากภาค 1 อย่างชัดเจน
-
ภาค 1 ฟีลแบบ The Wolf of Wall Street เวอร์ชั่นญี่ปุ่น เราได้เสพความบันเทิง การพุ่งทะยานในวงการหนัง AV และความบ้าบิ่นของ ผกก. โทรุ มุรานิชิ ได้เต็มอิ่มกับฉาก sex เร่าร้อนถึงใจ ได้รู้เกร็ดและเบื้องหลังวงการ AV ไปพร้อม ๆ กับสอดแทรกซีนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในช่วงยุค 80's
-
ภาค 2 เหมือนหนังคนละม้วน ใน 3 EP แรกเรายังได้บันเทิงไปกับความทะเยอทะยาน บ้าบิ่นของ ผกก. โทรุ ที่เที่ยวนี้ฝันใหญ่กว่าเดิม เขาตั้งค่ายใหม่ 'Diamond Visual' ตั้งใจจะขยายตลาด AV จากวิดีโอ ไปสู่ทีวีดาวเทียม (แบบที่โทรุชอบปล่อยมุก
"ผมจะเผยแพร่ความหื่นให้โปรยปรายลงมาจากอวกาศ") และผงาดขึ้นเป็นค่ายเบอร์ 1 ในช่วงต้นยุค 90's
แต่ในช่วงครึ่งหลัง ซีรี่ส์กลับมุ่งสู่โทนดราม่า เล่าเรื่องจุดตกต่ำของ ผกก. โทรุ ไปพร้อม ๆ กับเส้นเรื่องของมิตรสหายอย่าง "โทชิ" ที่พัวพันอยู่ในแวดวงยากูซ่า และหนุ่มจืด "คาวาดะ" ที่ถูกทิ้งไว้กลางทาง แต่เขาก็ค่อย ๆ ค้นพบตัวเอง และประคับประคองให้กิจการของค่าย Sapphire ไปตลอดรอดฝั่งได้
ให้คะแนน
สำหรับภาคแรก หลังดูจบครบทุก EP เราให้คะแนน 8.5 / 10 เลย ชอบมากกกก
สำหรับภาค 2 ช่วงแรก ๆ ที่ดู (3 EPแรก) แล้วก็ skip ดูแบบผ่าน ๆ ไปจนจบ เราตัดคะแนนจนเหลือ 6.5 เลยทีเดียว เพราะมันไม่สะใจ ไม่ entertain เหมือนภาคแรก
แต่พอค่อย ๆ ทยอยดูแบบเก็บรายละเอียดไปวันละ 1-2 ตอน เราคิดว่าในส่วนของ drama มันก็ทำได้ดีมาก ๆ และให้แง่คิดบางอย่าง คือเหมือนถ้าภาคแรก
เป็นการเกิด การพุ่งทะยาน ภาค 2
ก็สะท้อนถึงวัฎจักร ช่วงตกต่ำ และตั้งคำถามถึงการมีอยู่ เลยปรับคะแนนใหม่ให้เป็น 7.5 (น่าเสียดายตรงที่ว่า มันผิดความคาดหวังไง แล้วก็แบบที่บางเพจบอกไปแล้ว มันให้ฟีลแบบเทศนาไปนิด และเหมือน 3 ตอนแรกปูทางเรื่องธุรกิจ tv satellite มาซะดิบดี แต่พอครึ่งหลังซีรี่ส์กลับไม่ได้เล่าเรื่องกลยุทธ์ธุรกิจสักเท่าไหร่ แต่กลับโยนให้เป็นเรื่องของการฉ้อโกง และปมขัดแย้งกับยากูซ่าแทน)
ภาค 2 ยังคงมีการเล่าเกร็ดเกี่ยวกับวงการ AV ที่น่าสนใจ เช่น ที่มาหรือ gimmick ของฉากดังต่าง ๆ ที่ปรากฏในหนัง AV หรือเรื่องราวการแตกไลน์ของ genre หรือแนวเรื่องใหม่ ๆ (เช่น แนวกีฬาสี, เลสเบี้ยน ฯลฯ)
The Naked Director 2 - Like a rolling stone (ขึ้นให้สุดต้องลงให้มิด)
เราก็เลยตามดูซีซั่น 2 จนจบ
รู้สึกคล้าย ๆ กับที่หลายเจ้ารีวิวไปแล้ว เนื้อหาและโทนของภาคนี้แตกต่างจากภาค 1 อย่างชัดเจน
- ภาค 1 ฟีลแบบ The Wolf of Wall Street เวอร์ชั่นญี่ปุ่น เราได้เสพความบันเทิง การพุ่งทะยานในวงการหนัง AV และความบ้าบิ่นของ ผกก. โทรุ มุรานิชิ ได้เต็มอิ่มกับฉาก sex เร่าร้อนถึงใจ ได้รู้เกร็ดและเบื้องหลังวงการ AV ไปพร้อม ๆ กับสอดแทรกซีนประวัติศาสตร์ญี่ปุ่นในช่วงยุค 80's
- ภาค 2 เหมือนหนังคนละม้วน ใน 3 EP แรกเรายังได้บันเทิงไปกับความทะเยอทะยาน บ้าบิ่นของ ผกก. โทรุ ที่เที่ยวนี้ฝันใหญ่กว่าเดิม เขาตั้งค่ายใหม่ 'Diamond Visual' ตั้งใจจะขยายตลาด AV จากวิดีโอ ไปสู่ทีวีดาวเทียม (แบบที่โทรุชอบปล่อยมุก "ผมจะเผยแพร่ความหื่นให้โปรยปรายลงมาจากอวกาศ") และผงาดขึ้นเป็นค่ายเบอร์ 1 ในช่วงต้นยุค 90's
แต่ในช่วงครึ่งหลัง ซีรี่ส์กลับมุ่งสู่โทนดราม่า เล่าเรื่องจุดตกต่ำของ ผกก. โทรุ ไปพร้อม ๆ กับเส้นเรื่องของมิตรสหายอย่าง "โทชิ" ที่พัวพันอยู่ในแวดวงยากูซ่า และหนุ่มจืด "คาวาดะ" ที่ถูกทิ้งไว้กลางทาง แต่เขาก็ค่อย ๆ ค้นพบตัวเอง และประคับประคองให้กิจการของค่าย Sapphire ไปตลอดรอดฝั่งได้
ให้คะแนน
สำหรับภาคแรก หลังดูจบครบทุก EP เราให้คะแนน 8.5 / 10 เลย ชอบมากกกก
สำหรับภาค 2 ช่วงแรก ๆ ที่ดู (3 EPแรก) แล้วก็ skip ดูแบบผ่าน ๆ ไปจนจบ เราตัดคะแนนจนเหลือ 6.5 เลยทีเดียว เพราะมันไม่สะใจ ไม่ entertain เหมือนภาคแรก
แต่พอค่อย ๆ ทยอยดูแบบเก็บรายละเอียดไปวันละ 1-2 ตอน เราคิดว่าในส่วนของ drama มันก็ทำได้ดีมาก ๆ และให้แง่คิดบางอย่าง คือเหมือนถ้าภาคแรก เป็นการเกิด การพุ่งทะยาน ภาค 2 ก็สะท้อนถึงวัฎจักร ช่วงตกต่ำ และตั้งคำถามถึงการมีอยู่ เลยปรับคะแนนใหม่ให้เป็น 7.5 (น่าเสียดายตรงที่ว่า มันผิดความคาดหวังไง แล้วก็แบบที่บางเพจบอกไปแล้ว มันให้ฟีลแบบเทศนาไปนิด และเหมือน 3 ตอนแรกปูทางเรื่องธุรกิจ tv satellite มาซะดิบดี แต่พอครึ่งหลังซีรี่ส์กลับไม่ได้เล่าเรื่องกลยุทธ์ธุรกิจสักเท่าไหร่ แต่กลับโยนให้เป็นเรื่องของการฉ้อโกง และปมขัดแย้งกับยากูซ่าแทน)
ภาค 2 ยังคงมีการเล่าเกร็ดเกี่ยวกับวงการ AV ที่น่าสนใจ เช่น ที่มาหรือ gimmick ของฉากดังต่าง ๆ ที่ปรากฏในหนัง AV หรือเรื่องราวการแตกไลน์ของ genre หรือแนวเรื่องใหม่ ๆ (เช่น แนวกีฬาสี, เลสเบี้ยน ฯลฯ)