มิตรรัก นักแฟนตาซียูโร : ตัวเด็ดร่วงระนาว! จะมีตัวช่วยหรือไม่มี ลุยต่อยังไงมาดู!

จบรอบ 16 ทีมสุดท้าย หรือ Matchday 4 ไปเรียบร้อย เรียกว่ากุนซือแฟนตาซีจุกกันระนาว เพราะมีหลายทีมที่คาดหวังระยะยาวร่วงตกรอบไป เน้นๆ ก็คงเป็นฮอลแลนด์ และฝรั่งเศส เมื่อบวกกับโปรตุเกส, เยอรมัน, สวีเดน เล่นเอาหลายคนกุมขมับ

นอกจากทีมมหาชนฮอลแลนด์ แชมป์โลกฝรั่งเศส ก็เจอทีเด็ดสวิสเขี่ยตกรอบไปด้วย

เหมือนที่ผ่านมา เราจะพูดถึงเคสที่ทั้งมีตัวช่วย และไม่มีตัวช่วย กันทั้ง 2 ส่วน โดยเฉพาะคนที่ไม่มีตัวช่วยแล้ว อย่างที่แชร์ไปว่า รอบน็อคเอาท์จะสุ่มเสี่ยงมาก กับการพลิกล็อคจนทีมที่ไว้ใจกระเด็นตกรอบไป ซึ่งก็เป็นความเสียหายที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ในส่วนของคนมีตัวช่วย อย่างผมที่เหลือ Wildcard อันที่จริงอยากใช้ในรอบรองชนะเลิศ (Matchday 6) ด้วยซ้ำ เพราะรอบ 8 ทีม จะมีหลายแมทช์ที่ก้ำกึ่ง และคาดเดาตัวเข้ารอบต่อไปยาก แต่ในเมื่อสถานการณ์รอบ 16 ทีมเป็นแบบนี้ เราก็มีหน้าที่ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้ดีที่สุดต่อไป รายละเอียดทั้งหมดจะเป็นอย่างไร ไปไล่ติดตามกันเลยฮะ

สรุปผลประกอบการ

วันสุดท้ายมีสโตนส์ และฟอร์สเบิร์ก ช่วยทำให้คะแนนพอไปวัดไปวาได้

คะแนน Matchday 4 : 56 คะแนน
คะแนนรวม : 238 คะแนน

อันดับโลก : 80,634 (ขึ้นมาจาก 101,175)
อันดับไทย : 315 (ขึ้นมาจาก 371)
อันดับ The.Macho EURO League : 128 (ขึ้นมาจาก 140)

การมี unlimited transfer เป็นดาบสองคมอย่างที่เคยพูดถึงใน EP ที่แล้วนะฮะ โดยทีมที่ผมเลือก ผมก็พยายามเลือกนักเตะ ที่ควรจะได้ไปต่อในรอบ 8 ทีม หรือ Matchday 5 เพราะผมเองเหลือแค่ Wildcard การใช้ในรอบ 8 ทีม ก็ยังสุ่มเสี่ยงที่จะมีตัวตกรอบไปอีก

ฟอร์สเบิร์กโชว์ฟอร์มเด็ด ยิงประตูที่ 4 ของตัวเอง แต่สุดท้ายสวีเดนก็ตกรอบไปซะแล้ว

อย่างไรก็ดี ตัวที่คิดว่าอยู่ยาวได้แน่ เช่น การอัดฮอลแลนด์ 4 ตัว หรือการมีตัวฝรั่งเศส กลับกลายเป็นร่วงตกรอบไปกันหมด ผสมกับฟอร์สเบิร์ก, เปริซิซ (รายนี้หนักตรงเป็นโควิด ไม่ได้ลุ้นแต้มเลย), โรนัลโด้ เท่ากับผมมีตัวตกรอบ 8 ตัวแน่ะ

ความจริงคะแนนวันแรกๆ ถือว่าแย่มาก เพราะเลือกอิมโมบิเล่ มาแทนเบนเซม่า และเปริซิซ มาแทนซาราเบีย ยังดีที่ฟอร์สเบิร์ก และสโตนส์ มาเก็บแต้มวันสุดท้ายได้โอเค เลยทำให้อันดับขยับขึ้นมาเล็กน้อย

แนวคิดสำหรับ Matchday 5

เหมือนเช่นเดิมครับ ผมจะแบ่งเคสเป็นกรณีมีตัวช่วย และไม่มีตัวช่วยแล้ว เพราะคาดว่ากุนซือแต่ละท่านเจอสถานการณ์ไม่เหมือนกัน ใครเจอแบบไหน ก็ลองเสพข้อมูลที่เตรียมมาเพื่อปรับให้เข้ากับทีมของคุณครับ

[กรณีเหลือตัวช่วย]

เคสนี้ขอพูดรวมไปเลย ทั้งคนที่เหลือตัวช่วยทั้ง 2 อัน และเหลือตัวช่วยอันเดียว (เหลืออันเดียว ผมจะโฟกัสที่เหลือ Wildcard เนอะ น่าจะมีมากกว่า) โดยจะพยายามตอบคำถามให้ได้ไอเดียไปจัดแจงทีมกันต่อ

เหลือ 2 ตัวช่วย ใช้อะไรก่อนดี?

คำถามนี้น่าจะถูกถามกันเยอะสำหรับใครที่เหลือตัวช่วยครบมือ ซึ่งโดยธรรมชาติของ Wildcard และ Limitless ส่วนตัวผมมองว่าต้องใช้ Limitless ก่อน และตามด้วย Wildcard ใน Matchday ต่อไปทันที จะเหมาะสมที่สุด

ในหน้า Transfer จะแสดงสถานะตัวช่วยที่มีให้ดูชัดเจน อย่าลืมวางแผน

ที่แนะนำแบบนั้น เพราะ Limitless จะทำให้ทีมเรากลับมาเหมือนเดิมหลังผ่าน MD ที่ใช้ไป ดังนั้นรอบน็อคเอาท์มีโอกาสทำให้นักเตะบางราย (หรือหลายราย) ที่ตกรอบ เด้งกลับมาเต็มทีมใน MD ต่อไป ดังนั้นการใช้ Limitless ก่อน แล้วต่อด้วย Wildcard ทันที จึงเปรียบเหมือนการจัดทีมได้แบบ unlimited transfer ถึง 2 จาก 3 MD ที่เหลือ ค่อนข้างจัดการสบาย

โดยการใช้ที่เหมาะที่สุด น่าจะเป็น Limitess กับ MD5 และ Wildcard ต่อใน MD6 เพราะรอบชิงเรามี Free Transfer อยู่ 5 ตัว และนักเตะคิดคะแนนแค่ 11 ตัว (นัดชิงเตะนัดเดียวจบ) ดังนั้นเราน่าจะจัดแจงการเปลี่ยนตัวได้ไม่ยากกับ MD7

เหลือ Wildcard ใช้เมื่อไหร่ดี?

ความจริงถ้าสามารถจัดการทีมสำหรับเล่น Matchday 5 ได้พอ การใช้ Wildcard ใน MD6 น่าจะดีที่สุด เพราะรอบ 8 ทีม อาจเจอผลการแข่งขันที่ยากคาดเดาอยู่ อย่างไรก็ดี ด้วยเหตุการณ์ใน MD4 ที่โหดร้าย ทำให้เลี่ยงจะใช้ Wildcard กับ MD5 ยาก

หากใช้ Wildcard การเลือกนักเตะจากแมทช์ที่สูสี ย่อมต้องประเมินให้ดี

ข้อดีสำคัญของการใช้ Wildcard ใน MD5 คือความได้เปรียบเหนือคนที่ไม่เหลือตัวช่วยแล้ว เพราะบางคนเหลือนักเตะไม่ตกรอบแค่ 7-8 คนเท่านั้น ใช้ Free transfer หมด ก็มีนักเตะไม่ครบ จะติดลบเยอะ ก็ไม่คุ้ม ดังนั้นใครที่เหลือตัวช่วย ใช้ความได้เปรียบตรงนี้ซะ

อย่างไรก็ดี ต้องไม่ลืมกะเก็งตัวเข้ารอบต่อไปไว้ด้วย ถ้าเลือกแม่น ก็ยิ่งทำให้เราได้เปรียบในรอบรองชนะเลิศ (MD6) ไปด้วยในตัว

กลยุทธ์เลือกตัวเมื่อเหลือแค่ Wildcard

หนทางที่เหลืออยู่ ยังถือว่าสุ่มเสี่ยง เพราะ MD5 และ 6 จะมีทีมตกรอบไปทีละครึ่งโดยตลอด ยิ่งกับรอบ 8 ทีมสุดท้าย เบลเยียม-อิตาลี, เช็ก-เดนมาร์ก ผลอาจจะออกหน้าไหนก็ได้ ส่วนสวิส-สเปน และอังกฤษ-ยูเครน ดูเผินๆ ทีมใหญ่จะได้เปรียบ แต่ก็ประมาททีมรองบ่อนกว่าไม่ได้ รอบ 16 ทีมก็มีตัวอย่างให้เห็นแล้ว

อังกฤษเป็นทีมยอดนิยมแน่นอนสำหรับคนใช้ Wildcard ลองประเมินว่าจะเลือกกี่ตัว

กลยุทธ์ในการเลือกนักเตะสำหรับการใช้ Wildcard ใน MD5 จึงต้องประเมินให้ดี วิธีเบสิกคือเลือกทีมที่เข้ารอบให้ถูก อันนี้ก็แล้วแต่ความมั่นใจของแต่ละคน แต่ยังมีอีกวิธี นั่นคือการเลือกกระจายความเสี่ยง

ใน MD6 เราสามารถใช้ Free transfer ได้ 5 ตัว ดังนั้นเราอาจจะต้องเลือกตัวที่เข้ารอบต่อให้ถูกประมาณ 10 ตัว โดยหากมั่นใจกับทีมไหนเป็นพิเศษ เช่น อังกฤษ จะเลือก 3-5 ตัวก็แล้วแต่ แต่กับทีมที่ก้ำกึ่ง อย่างเดนมาร์ก, เช็ก, อิตาลี, เบลเยียม อาจจะเลือกแบบผสมผสานป้องกันไว้ เช่น มีทีมละไม่เกิน 2 ตัว เป็นต้น

การเลือกแบบกระจายความเสี่ยง ทำให้เรามีโอกาสเจอปัญหาตัวเล่นไม่ครบใน MD6 ได้น้อยลง และสามารถเลือกนักเตะที่ชนกันเองได้ หากเราประเมินแล้วว่าเราจะใช้ Free transfer จัดการได้

[กรณีไม่เหลือตัวช่วย]

เจอผลการแข่งขันจาก Matchday 4 ไป มันก็เลี่ยงยากแหละครับ ที่จะปวดหัวกับตัวที่เหลือเข้ารอบอยู่แค่ราวครึ่งทีมเท่านั้น และใน MD5 ก็มี Free transfer ให้ใช้แค่ 3 ตัวเท่านั้น

สิ่งแรกที่ต้องประเมินก่อนเลย ว่าเราซีเรียสกับคะแนนและอันดับมากแค่ไหน ใครที่ขับเคี่ยวกับเพื่อนในลีกย่อย หรือลุ้นรางวัลในลีกใหญ่ๆ ต้องระมัดระวังอย่าติดลบจนเกินไป ส่วนตัวผมมองว่ารับได้สูงสุดราว -4 หรือ -8 เท่านั้น

นักเตะเดนมาร์กน่าสนใจ แต่หากเทียบกับโอกาสตกรอบที่ก้ำกึ่ง ก็อาจจะไม่เหมาะในเคสนี้

ทีนี้ ถ้าตั้งเกณฑ์ไว้ซัก -4 เท่ากับเราสามารถเปลี่ยนตัวได้ 4 ตัว จึงต้องมาลำดับความสำคัญให้ดี เพื่อจะมีตัวทำแต้มให้มากที่สุด โดยเราต้องทำหน้าที่หมอดูที่แม่นพอสมควร พยายามเลือกนักเตะที่น่าจะผ่านเข้ารอบรองฯ ไปให้ได้ ตัวไหนสุ่มเสี่ยง อาจจะต้องมองข้ามไปบ้าง

อย่างเช่น ถ้าเรามั่นใจอังกฤษมากๆ ก็อาจจะเลือกเอานักเตะสิงโตคำรามเข้ามา 2-3 คน และคาดหวังให้พวกเขาเข้ารอบต่อไป เพื่อเราจะได้เอาโควตา Free transfer ใน MD6 ไปใช้ปรับตัวที่ตกรอบ ที่ยังค้างอยู่ในทีม

กับ 3 FT ที่มี อาจจะประเมินยอมแค่ -4 แล้วเลือกถอดตัวราคาแพงมากกว่าออก

นอกจากจะต้องคาดเดาให้แม่นแล้ว สิ่งที่แนะนำคือเปลี่ยนตัวราคาแพงที่ตกรอบไปแล้วออกก่อน เพื่อให้เรามีงบประมาณไปหมุนเอานักเตะพรีเมียมที่มีลุ้นทำคะแนนเข้ามา เพื่อจะได้เลือกเป็นกัปตัน และลุ้นแต้มตรงนี้ไปแข่งกับคนที่มีตัวช่วยอยู่ในมือ

[ใบเหลืองคาดโทษ]

สิ่งที่หลายคนอาจจะมองข้าม นั่นคือการสะสมใบเหลือง และสุ่มเสี่ยงจะติดโทษแบน โดยยูโร 2020 จะล้างใบเหลืองกันหลังจบรอบ 8 ทีม หรือจบ Matchday 5 ดังนั้นระหว่าง MD1-5 หากใครโดนใบเหลืองครบ 2 ใบปุ๊บ จะโดนแบนในรอบต่อไปทันที

ใบเหลืองมีช่วงสะสมยาวมาก Matchday 1-5 ใครสะสมครบ 2 ใบ จะโดนแบนรอบต่อไป

รูปแบบการล้างใบเหลืองช้านี้ เหตุผลหลักคือความพยายามไม่ให้เกิดเหตุนักเตะต้องพลาดลงเล่นนัดชิงเพราะติดแบน (ยกเว้นจะโดนไล่ออกในรอบรองฯ) มันเลยทำให้ช่วงเวลาก่อนล้างใบเหลือง ค่อนข้างกว้างเอามากๆ นักเตะที่สะสมมาแล้ว 1 ใบ ก็ต้องระวังว่าโดนเพิ่มใน MD5 ซึ่งจะทำให้พลาดรอบรองฯ (MD6) ทันที

รายชื่อนักเตะที่ติดคาดโทษใบเหลืองอยู่ ก็มีหลายคนทีเดียว ขออนุญาตแปะลิงค์ทางการให้ไปดูต่อ ตามไปโดย >> คลิกที่นี่ได้เลย <<

(ขออนุญาตต่อส่วนที่เหลือในคอมเมนท์ครับ)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่