😇😇😇
เมื่อช่วงนี้โรงหนังยังไม่เปิดให้บริการ ไอ้คนชอบดูหนังอย่างเราก็ทำได้แค่เพียง ไม่ Netflix ก็ Mono 29 หรือช่องอื่นๆ ที่มีหนังและซีรี่ส์ให้ดู ตอนนี้กระแส Disney+ HotStar กำลังมาแรง แต่ก็ยังไม่ได้สมัครกับเค้า ผมเลยมีเวลาเอาซีรีส์ที่ดองๆ ไว้ออกมาดู เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่นานนัก กระแสดีทีเดียว แล้วก็ตัวพล็อตเรื่องก็ดูไม่จำเจ และมีแค่ 10 ตอน ก็เลยหยิบมันออกมาดู
😇😇😇
เรื่องราวเล่าถึง ฮันกือรูคือเด็กหนุ่มผู้มีอาการแอสเพอร์เกอร์ เขาทำงานเป็นพนักงานเก็บกวาดที่เกิดเหตุหลังความตายกับฮันจองอูผู้เป็นพ่อทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัทเก็บกวาดที่เกิดเหตุ “มูฟทูเฮฟเวน” (Move to Heaven) แต่แล้วกือรูต้องเหลือตัวคนเดียวในโลกใบนี้ หลังการจากไปอย่างกะทันหันของพ่อ ทำให้โจซังกู อาของเขาที่เพิ่งพ้นโทษจำคุกกลายมาเป็นผู้ปกครอง และเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้งคู่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน
😇😇😇
ผมว่าคอนเซ็ปต์ของพล็อตเรื่องมันน่าสนใจดีนะครับ การเอาเรื่องราวของคนที่เสียชีวิตไปแล้วมาบอกต่อคนที่ยังมีชีวิตอยู่ให้รับรู้ว่า ผู้เสียชีวิตต้องการจะบอกอะไรกับคนที่ยังอยู่ว่าพวกเขาคิดยังไงรู้สึกยังไง ตอนแรกยังไม่ค่อยมีอะไรมากนัก เพราะเป็นการปูทางให้กับความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัว แต่สิ่งที่เอามาเชื่อมโยงตัวละครเข้าด้วยกัน คือเหตุการณ์ของผู้เสียชีวิต และความคิดความรู้สึกที่ต้องสื่อออกมาผ่านสิ่งของเพียงไม่กี่ชิ้นที่ดูไม่มีค่านี่แหละ ตัวซีรี่ส์สื่อออกมาได้อย่างมีคุณค่ามหาศาล ทำให้ความรู้สึกในตอนดูแต่ละตอนจบไป มันทั้งอิ่มเอมใจ ทั้งเศร้า และบางตอนก็ยังรู้สึกรันทดและสงสารตัวละครด้วยซ้ำ
😇😇😇
ซึ่งถ้าซีรี่ส์เล่าเรื่องราวลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ แยกเป็น 1 ตอนต่อ 1 เหตุการณ์ แล้วทำออกมาให้ดีเป็น 10 ตอน ผมจะชอบซีรี่ส์เรื่องนี้มาก เสียแต่ว่า เกาหลีก็ยังคงความเป็นเกาหลีเอาไว้ เพราะตอนกลางๆ เรื่อง บทละครกลับใส่เรื่องดราม่าของตัวละครเข้ามาแทรกคอนเซ็ปต์ที่ตั้งต้นไว้ ซึ่งกินเวลาถึง 2 ตอนเลยทีเดียว ตรงจุดนี้ขัดใจผมพอสมควร เพราะผมคิดว่าพล็อตที่ปูไว้มันดีอยู่แล้ว น่าจะไปให้สุดทาง
😇😇😇
แต่ก็ยังดีที่ตัดสรุปดราม่าเรื่องราวตรงนั้นไปได้อย่างรวดเร็ว และสองตอนท้าย เนื้อเรื่องตลบกลับมาสรุปเรื่องราวด้วยคอนเซ็ปต์ Move To Heaven ได้เหมือนเดิม และจบได้ดีซะด้วย ซีรี่ส์สรุปจบได้ดี เข้ากับเรื่องคาวความสัมพันธ์ของตัวละครทุกตัวที่เรื่องราวที่ดำเนินมาสร้างพัฒนาการให้แต่ละคนจนกลายเป็นความทรงจำที่ดีได้อย่างยอดเยี่ยม
😇😇😇
ปกติผมจะไม่ค่อยอินอะไรกับดราม่าของ K-Series สักเท่าไหร่ เรื่องนี้เลยขอหักคะแนนเล็กน้อยตรงช่วงกลางเรื่องที่ใส่ดราม่าเข้ามาตั้ง 2 ตอนเต็มๆ แต่กับตอนอื่นที่เล่นกับเรื่องราวของกล่องความทรงจำ ผมว่าดูเรื่องนี้จบแล้ว คงได้ข้อคิดเกี่ยวกับการเก็บความทรงจำเพื่อมูฟออนได้เป็นอย่างดี
ชอบบทความ สามารถตามไปพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ >>
https://www.facebook.com/DooNangGunMai
[CR] [#Review] Netflix Move To Heaven - เมื่อความทรงจำถูกเก็บใส่กล่องแล้วส่งต่อ เพื่อชีวิตที่ต้อง Move On
😇😇😇
เมื่อช่วงนี้โรงหนังยังไม่เปิดให้บริการ ไอ้คนชอบดูหนังอย่างเราก็ทำได้แค่เพียง ไม่ Netflix ก็ Mono 29 หรือช่องอื่นๆ ที่มีหนังและซีรี่ส์ให้ดู ตอนนี้กระแส Disney+ HotStar กำลังมาแรง แต่ก็ยังไม่ได้สมัครกับเค้า ผมเลยมีเวลาเอาซีรีส์ที่ดองๆ ไว้ออกมาดู เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ไม่นานนัก กระแสดีทีเดียว แล้วก็ตัวพล็อตเรื่องก็ดูไม่จำเจ และมีแค่ 10 ตอน ก็เลยหยิบมันออกมาดู
😇😇😇
เรื่องราวเล่าถึง ฮันกือรูคือเด็กหนุ่มผู้มีอาการแอสเพอร์เกอร์ เขาทำงานเป็นพนักงานเก็บกวาดที่เกิดเหตุหลังความตายกับฮันจองอูผู้เป็นพ่อทั้งยังเป็นเจ้าของบริษัทเก็บกวาดที่เกิดเหตุ “มูฟทูเฮฟเวน” (Move to Heaven) แต่แล้วกือรูต้องเหลือตัวคนเดียวในโลกใบนี้ หลังการจากไปอย่างกะทันหันของพ่อ ทำให้โจซังกู อาของเขาที่เพิ่งพ้นโทษจำคุกกลายมาเป็นผู้ปกครอง และเป็นจุดเริ่มต้นให้ทั้งคู่ต้องมาใช้ชีวิตอยู่ใต้หลังคาเดียวกัน
😇😇😇
ผมว่าคอนเซ็ปต์ของพล็อตเรื่องมันน่าสนใจดีนะครับ การเอาเรื่องราวของคนที่เสียชีวิตไปแล้วมาบอกต่อคนที่ยังมีชีวิตอยู่ให้รับรู้ว่า ผู้เสียชีวิตต้องการจะบอกอะไรกับคนที่ยังอยู่ว่าพวกเขาคิดยังไงรู้สึกยังไง ตอนแรกยังไม่ค่อยมีอะไรมากนัก เพราะเป็นการปูทางให้กับความสัมพันธ์ของตัวละครแต่ละตัว แต่สิ่งที่เอามาเชื่อมโยงตัวละครเข้าด้วยกัน คือเหตุการณ์ของผู้เสียชีวิต และความคิดความรู้สึกที่ต้องสื่อออกมาผ่านสิ่งของเพียงไม่กี่ชิ้นที่ดูไม่มีค่านี่แหละ ตัวซีรี่ส์สื่อออกมาได้อย่างมีคุณค่ามหาศาล ทำให้ความรู้สึกในตอนดูแต่ละตอนจบไป มันทั้งอิ่มเอมใจ ทั้งเศร้า และบางตอนก็ยังรู้สึกรันทดและสงสารตัวละครด้วยซ้ำ
😇😇😇
ซึ่งถ้าซีรี่ส์เล่าเรื่องราวลักษณะนี้ไปเรื่อยๆ แยกเป็น 1 ตอนต่อ 1 เหตุการณ์ แล้วทำออกมาให้ดีเป็น 10 ตอน ผมจะชอบซีรี่ส์เรื่องนี้มาก เสียแต่ว่า เกาหลีก็ยังคงความเป็นเกาหลีเอาไว้ เพราะตอนกลางๆ เรื่อง บทละครกลับใส่เรื่องดราม่าของตัวละครเข้ามาแทรกคอนเซ็ปต์ที่ตั้งต้นไว้ ซึ่งกินเวลาถึง 2 ตอนเลยทีเดียว ตรงจุดนี้ขัดใจผมพอสมควร เพราะผมคิดว่าพล็อตที่ปูไว้มันดีอยู่แล้ว น่าจะไปให้สุดทาง
😇😇😇
แต่ก็ยังดีที่ตัดสรุปดราม่าเรื่องราวตรงนั้นไปได้อย่างรวดเร็ว และสองตอนท้าย เนื้อเรื่องตลบกลับมาสรุปเรื่องราวด้วยคอนเซ็ปต์ Move To Heaven ได้เหมือนเดิม และจบได้ดีซะด้วย ซีรี่ส์สรุปจบได้ดี เข้ากับเรื่องคาวความสัมพันธ์ของตัวละครทุกตัวที่เรื่องราวที่ดำเนินมาสร้างพัฒนาการให้แต่ละคนจนกลายเป็นความทรงจำที่ดีได้อย่างยอดเยี่ยม
😇😇😇
ปกติผมจะไม่ค่อยอินอะไรกับดราม่าของ K-Series สักเท่าไหร่ เรื่องนี้เลยขอหักคะแนนเล็กน้อยตรงช่วงกลางเรื่องที่ใส่ดราม่าเข้ามาตั้ง 2 ตอนเต็มๆ แต่กับตอนอื่นที่เล่นกับเรื่องราวของกล่องความทรงจำ ผมว่าดูเรื่องนี้จบแล้ว คงได้ข้อคิดเกี่ยวกับการเก็บความทรงจำเพื่อมูฟออนได้เป็นอย่างดี
ชอบบทความ สามารถตามไปพูดคุยกันได้ที่เพจนะครับ >> https://www.facebook.com/DooNangGunMai
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้