ช่วงนี้รถผมพังจากการขับไปชนท้ายแทกซี่กำลังซ่อมสีอยู่ที่อู่ ช่วงนี้เลยต้องยืมรถน้องใช้ยาวๆครับ เป็นรถ Mazda 2 1.3 เบนซิน ทุกเช้าผมจะขับไปส่งแฟนขึ้นรถไฟฟ้า BTS โดยขับบนเส้นรามอินทราที่กำลังสร้างรถไฟฟ้าเลยมีความขรุขระหน่อย ใช้ความเร็วไม่มากครับ 60+- ช่วงทางเรียบรถว่างอย่างเร็วก็ 100 ช่วงสั้นๆนิดเดียว บวกกับเมื่อวานผมมาพาแม่ไปทำธุระที่ต่างจังหวัด (ธุระจริงๆครับ ไม่ได้แวะนอกเส้นทางเลย) เลยได้ลองขับทางไกลใช้ความเร็วประมาณ 100+- และยังเจอฝนตกตลอดทางขากลับด้วยครับ
ลิสต์ของยางที่ผมเคยใช้มาทั้งหมดครับ..
1. Maxxis MA-P1 = 195/60/15
2. Maxxis MS800 = 195/60/15
3. Yokohama A.Drive = 195/65/15
4. Bridgestone Turanza GR100 = 195/60/15
5. Michelin Primacy 3ST = 195/60/15 อ่านต่อ..
https://ppantip.com/topic/37866119
6. Otani EK1000 = 195/65/15 อ่านต่อ..
https://ppantip.com/topic/37890490
7. Toyo Proxes C1S (นำเข้าจากญี่ปุ่น) = 195/65/15
8. Apollo Alnag 4G = 195/60/15 (ยังใช้อยู่ในอัลติส)
9. Dunlop Enasave EP300 = 185/65/15 (ยางติดรถ Mazda 2)
10. BRIDGESTONE ECOPIA EP150 = 185/65/15 (ที่กำลังรีวิวอยู่)
(หมายเหตุ: 1-8 ใช้ในอัลติส อยู่กับมันทุก กม. ตลอดอายุยาง ส่วน 9-10 ใช้ใน Mazda 2 ยืมรถน้องใช้นานๆครั้งจึงไม่ได้อยู่กับยางทุกๆ กม. ครับ)
รีวิวนี้ เป็นการรีวิวจากการใช้งานในช่วงสั้นๆ ยางชุดนี้เพิ่งเปลี่ยนมายังไม่ถึง 1 หมื่น กม. และเป็นความรู้สึกส่วนตัวของคนใช้งานคนหนึ่งเท่านั้น ประสบการณ์และความรู้สึกอาจแตกต่างจากท่านอื่นๆก็เป็นไปได้นะครับ รอบนี้ยางชุดนี้ใส่อยู่ในรถน้องผมคือ Mazda 2 Skyactiv 1.3 เบนซิน เดิมๆทั้งช่วงล่างและล้อ ยางเดิมติดรถเป็น Dunlop Enasave EC300 ซึ่งผมก็เคยใช้ขับรถน้องผ่านทางขรุขระ และเคยขับทางไกลโดยใช้เส้นทางเดียวกันกับรีวิวครั้งนี้ครับ ยางชุดใหม่นี้ยังคงใช้ไซส์เดิมเหมือนของติดรถคือ 185/60/15 ครับ และเติมลมยางเท่าเดิมคือ 36/33 ครับ
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับยาง
ยี่ห้อ/รุ่น : BRIDGESTONE ECOPIA EP150
ขนาด : 185/65/15
ประเภท : ยางประหยัดน้ำมัน
ดีชนีย์น้ำหนัก : 88 (560 กก./เส้น)
ดีชนีย์ความเร็ว : S (180 กม./ชม.)
Treadwear : 380 (สึกช้า)
Traction : B (เบรคบนถนนเปียกได้ดีปานกลาง)
Tempurature : B (ต่อต้านการเกิดความร้อนได้ดีปานกลาง)
ราคา/เส้น: 2800 (เช็คจากเว็บร้านยางชื่อดังย่านติวานนท์)
credit: รูปจาก Shoppee
รีวิวยาง BRIDGESTONE ECOPIA EP150
ความนุ่มสบาย - ผมว่า EP150 เป็นยางที่บุคลิกออกไปทางแน่นเฟิร์ม และติดกระด้างหน่อยๆตามแบบฉบับของ Bridgestone ครับ ขับเส้นรามอินทราที่ขรุขระเล็กน้อยตลอดทาง มีความกระด้างและสะเทือนกว่ายางเส้นเดิมคือ Dunlop Enasave พอประมาณ แต่พอตกหลุมใหญ่ขึ้น มันก็ไม่ได้กระแทกแรงขึ้น แต่กลับกระด้างประมาณเท่าๆเดิม ผมเองก็งงกับความรู้สึกนี้อยู่เหมือนกันครับ
ความเงียบสงบ - ด้วยความที่ Mazda 2 อาจจะเก็บเสียงดีกว่ารถ Altis ผมนิดๆ ทั้งทางขรุขระและทางเรียบเสียงเงียบดีครับ แต่ที่แปลกใจคือไม่มีแม้แต่เสียงหอนเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อยเลยครับ ปกติแล้วผมจะมีถนน 2 เส้น ที่ช่วยฟ้องความหอนของยางเป็นพิเศษ ยาง comfort รุ่นท้อปๆจะเริ่มมีเสียงหอนเบาๆเมื่อใช้งานเกินหมื่นโล ยางอินเดียผมหอนครั้งแรกตั้งแต่ 3 พันโลแรก ซึ่ง EP150 นี้ยังใช้มาไม่ถึงหมื่นโล ยังไม่มีเสียงหอน ก็อนุมานได้ว่าดีกว่ายางอินเดีย แต่จะดีเท่ายาง comfort รุ่นท้อปไหมตอนนี้ยังบอกไม่ได้ครับ
การเกาะถนนแห้ง - ผมรู้สึกว่าเกาะถนนกลางๆครับ เกาะด้อยกว่า Dunlop Enasave ตัวติดรถแบบพอรู้สึกได้ เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้นรู้สึกว่าเริ่มดูดถนนน้อยลงทีละนิดๆ แต่คิดว่าก็ยังเกาะกว่ายางไทยกับยางอินเดียหน่อยๆนะครับ การโยกเปลี่ยนเลนมีความรู้สึกว่ากระชับ แต่มีความรู้สึกลื่นๆให้เสียวเล็กน้อย การหักเลี้ยวให้ความรู้สึกที่ไม่คมคายนัก รู้สึกมันทื่อๆหน่อย และส่งฟีดแบคให้เรารับรู้ถึงความมากน้อยในการหักเลี้ยวได้ไม่ดีนักครับ
การเกาะถนนเปียก - ผมขับด้วยความเร็วไม่มาก ประมาณ 60-80 ตลอดทางเปียก รู้สึกว่าขับทางเปียกได้โอเคเลยครับ ไม่ถึงกับว่าไม่เสียวเลยแต่ก็ไม่ถึงมีอะไรให้รู้สึกแย่ ลองขับตั้งใจลงแอ่งให้น้ำบานเล่น ก็พบว่ารีดน้ำได้ดีกว่าที่คิดครับ ลงน้ำที่ความเร็ว 70-80 มีอาการดึงชัดเจน แต่ไม่มีอาการหน้าส่ายหรือรถหันซ้ายหันขวาเลยแม้แต่น้อย รีดน้ำได้ดีเกือบๆเท่ายาง comfort รุ่นท้อป ดีกว่ายางไทยมาก และดีกว่ายางอินเดียแบบพอรู้สึกได้ครับ
ระยะเบรค - อาจจะเพราะเบรคของมาสด้า 2 และช่วงล่างค่อนข้างดีประกอบกัน เลยทำให้ระยะเบรคทำได้ดี ไม่มีอาการย้วยหรือไถลเลยครับ ไม่ว่าจะมาคนเดียว มา 2 คน หรือนั่งถึง 3 คน ก็เบรคได้ดีไม่มีอาการไถลให้เสียวไส้
ความขับสนุก - เป็นยางที่เน้นความแน่นเฟิร์มซึ่งมันก็ขับสนุกกว่ายางนุ่มย้วยแน่ๆครับ เพียงแต่ยังขาดในเรื่องการเกาะถนนไปนิดหน่อย ทำให้ไม่ค่อยเชิญชวนให้ขับบู๊ขับสนุกมากเท่าไรครับ ยังต้องขับแบบประคองๆยั้งๆ ถึงแม้ว่ารถ Mazda 2 1.3 จะเครื่องไม่ได้แรงอะไรเลยก็ตาม
สรุปผลการใช้งาน
ยาง Bridgestone Ecopia EP150 เป็นยางรุ่นเล็กที่สมรรถนะไม่ได้ดีโดดเด่นเท่ายาง comfort หรือยาง sport แต่ยอมรับว่ายังรักษามาตรฐานในเรื่องของความเกาะถนน ระยะเบรค และการรีดน้ำไว้ดีพอสมควร ทำให้รู้สึกขับแล้วมีความปลอดภัยและมั่นใจมากกว่ายางราคาถูกครับ
สุดท้ายนี้ หวังว่ารีวิวฉบับนี้จะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจครับ ผมเป็นเพียงคนใช้รถใช้ถนนธรรมดาอาจไม่ได้มีความรู้ในเชิงลึก และสิ่งที่เขียนไป เขียนบนพื้นฐานของความรู้สึกของผมเองเท่านั้น อาจจะไม่ตรงกับความรู้สึกของท่านอื่นๆนะครับ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ..
คะแนนความถึงพอใจ:
นุ่มเงียบ: 6/10
ทางแห้ง: 6.5/10
ทางเปียก: 6.5/10
คงคุณภาพ: -
ความคุ้มราคา: -
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
[CR] รีวิวสามัญชน: ยาง Bridgestone Ecopia EP150
ลิสต์ของยางที่ผมเคยใช้มาทั้งหมดครับ..
1. Maxxis MA-P1 = 195/60/15
2. Maxxis MS800 = 195/60/15
3. Yokohama A.Drive = 195/65/15
4. Bridgestone Turanza GR100 = 195/60/15
5. Michelin Primacy 3ST = 195/60/15 อ่านต่อ.. https://ppantip.com/topic/37866119
6. Otani EK1000 = 195/65/15 อ่านต่อ.. https://ppantip.com/topic/37890490
7. Toyo Proxes C1S (นำเข้าจากญี่ปุ่น) = 195/65/15
8. Apollo Alnag 4G = 195/60/15 (ยังใช้อยู่ในอัลติส)
9. Dunlop Enasave EP300 = 185/65/15 (ยางติดรถ Mazda 2)
10. BRIDGESTONE ECOPIA EP150 = 185/65/15 (ที่กำลังรีวิวอยู่)
(หมายเหตุ: 1-8 ใช้ในอัลติส อยู่กับมันทุก กม. ตลอดอายุยาง ส่วน 9-10 ใช้ใน Mazda 2 ยืมรถน้องใช้นานๆครั้งจึงไม่ได้อยู่กับยางทุกๆ กม. ครับ)
รีวิวนี้ เป็นการรีวิวจากการใช้งานในช่วงสั้นๆ ยางชุดนี้เพิ่งเปลี่ยนมายังไม่ถึง 1 หมื่น กม. และเป็นความรู้สึกส่วนตัวของคนใช้งานคนหนึ่งเท่านั้น ประสบการณ์และความรู้สึกอาจแตกต่างจากท่านอื่นๆก็เป็นไปได้นะครับ รอบนี้ยางชุดนี้ใส่อยู่ในรถน้องผมคือ Mazda 2 Skyactiv 1.3 เบนซิน เดิมๆทั้งช่วงล่างและล้อ ยางเดิมติดรถเป็น Dunlop Enasave EC300 ซึ่งผมก็เคยใช้ขับรถน้องผ่านทางขรุขระ และเคยขับทางไกลโดยใช้เส้นทางเดียวกันกับรีวิวครั้งนี้ครับ ยางชุดใหม่นี้ยังคงใช้ไซส์เดิมเหมือนของติดรถคือ 185/60/15 ครับ และเติมลมยางเท่าเดิมคือ 36/33 ครับ
ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับยาง
ยี่ห้อ/รุ่น : BRIDGESTONE ECOPIA EP150
ขนาด : 185/65/15
ประเภท : ยางประหยัดน้ำมัน
ดีชนีย์น้ำหนัก : 88 (560 กก./เส้น)
ดีชนีย์ความเร็ว : S (180 กม./ชม.)
Treadwear : 380 (สึกช้า)
Traction : B (เบรคบนถนนเปียกได้ดีปานกลาง)
Tempurature : B (ต่อต้านการเกิดความร้อนได้ดีปานกลาง)
ราคา/เส้น: 2800 (เช็คจากเว็บร้านยางชื่อดังย่านติวานนท์)
credit: รูปจาก Shoppee
รีวิวยาง BRIDGESTONE ECOPIA EP150
ความนุ่มสบาย - ผมว่า EP150 เป็นยางที่บุคลิกออกไปทางแน่นเฟิร์ม และติดกระด้างหน่อยๆตามแบบฉบับของ Bridgestone ครับ ขับเส้นรามอินทราที่ขรุขระเล็กน้อยตลอดทาง มีความกระด้างและสะเทือนกว่ายางเส้นเดิมคือ Dunlop Enasave พอประมาณ แต่พอตกหลุมใหญ่ขึ้น มันก็ไม่ได้กระแทกแรงขึ้น แต่กลับกระด้างประมาณเท่าๆเดิม ผมเองก็งงกับความรู้สึกนี้อยู่เหมือนกันครับ
ความเงียบสงบ - ด้วยความที่ Mazda 2 อาจจะเก็บเสียงดีกว่ารถ Altis ผมนิดๆ ทั้งทางขรุขระและทางเรียบเสียงเงียบดีครับ แต่ที่แปลกใจคือไม่มีแม้แต่เสียงหอนเล็ดลอดออกมาแม้แต่น้อยเลยครับ ปกติแล้วผมจะมีถนน 2 เส้น ที่ช่วยฟ้องความหอนของยางเป็นพิเศษ ยาง comfort รุ่นท้อปๆจะเริ่มมีเสียงหอนเบาๆเมื่อใช้งานเกินหมื่นโล ยางอินเดียผมหอนครั้งแรกตั้งแต่ 3 พันโลแรก ซึ่ง EP150 นี้ยังใช้มาไม่ถึงหมื่นโล ยังไม่มีเสียงหอน ก็อนุมานได้ว่าดีกว่ายางอินเดีย แต่จะดีเท่ายาง comfort รุ่นท้อปไหมตอนนี้ยังบอกไม่ได้ครับ
การเกาะถนนแห้ง - ผมรู้สึกว่าเกาะถนนกลางๆครับ เกาะด้อยกว่า Dunlop Enasave ตัวติดรถแบบพอรู้สึกได้ เมื่อความเร็วเพิ่มขึ้นรู้สึกว่าเริ่มดูดถนนน้อยลงทีละนิดๆ แต่คิดว่าก็ยังเกาะกว่ายางไทยกับยางอินเดียหน่อยๆนะครับ การโยกเปลี่ยนเลนมีความรู้สึกว่ากระชับ แต่มีความรู้สึกลื่นๆให้เสียวเล็กน้อย การหักเลี้ยวให้ความรู้สึกที่ไม่คมคายนัก รู้สึกมันทื่อๆหน่อย และส่งฟีดแบคให้เรารับรู้ถึงความมากน้อยในการหักเลี้ยวได้ไม่ดีนักครับ
การเกาะถนนเปียก - ผมขับด้วยความเร็วไม่มาก ประมาณ 60-80 ตลอดทางเปียก รู้สึกว่าขับทางเปียกได้โอเคเลยครับ ไม่ถึงกับว่าไม่เสียวเลยแต่ก็ไม่ถึงมีอะไรให้รู้สึกแย่ ลองขับตั้งใจลงแอ่งให้น้ำบานเล่น ก็พบว่ารีดน้ำได้ดีกว่าที่คิดครับ ลงน้ำที่ความเร็ว 70-80 มีอาการดึงชัดเจน แต่ไม่มีอาการหน้าส่ายหรือรถหันซ้ายหันขวาเลยแม้แต่น้อย รีดน้ำได้ดีเกือบๆเท่ายาง comfort รุ่นท้อป ดีกว่ายางไทยมาก และดีกว่ายางอินเดียแบบพอรู้สึกได้ครับ
ระยะเบรค - อาจจะเพราะเบรคของมาสด้า 2 และช่วงล่างค่อนข้างดีประกอบกัน เลยทำให้ระยะเบรคทำได้ดี ไม่มีอาการย้วยหรือไถลเลยครับ ไม่ว่าจะมาคนเดียว มา 2 คน หรือนั่งถึง 3 คน ก็เบรคได้ดีไม่มีอาการไถลให้เสียวไส้
ความขับสนุก - เป็นยางที่เน้นความแน่นเฟิร์มซึ่งมันก็ขับสนุกกว่ายางนุ่มย้วยแน่ๆครับ เพียงแต่ยังขาดในเรื่องการเกาะถนนไปนิดหน่อย ทำให้ไม่ค่อยเชิญชวนให้ขับบู๊ขับสนุกมากเท่าไรครับ ยังต้องขับแบบประคองๆยั้งๆ ถึงแม้ว่ารถ Mazda 2 1.3 จะเครื่องไม่ได้แรงอะไรเลยก็ตาม
สรุปผลการใช้งาน
ยาง Bridgestone Ecopia EP150 เป็นยางรุ่นเล็กที่สมรรถนะไม่ได้ดีโดดเด่นเท่ายาง comfort หรือยาง sport แต่ยอมรับว่ายังรักษามาตรฐานในเรื่องของความเกาะถนน ระยะเบรค และการรีดน้ำไว้ดีพอสมควร ทำให้รู้สึกขับแล้วมีความปลอดภัยและมั่นใจมากกว่ายางราคาถูกครับ
สุดท้ายนี้ หวังว่ารีวิวฉบับนี้จะมีประโยชน์สำหรับผู้ที่สนใจครับ ผมเป็นเพียงคนใช้รถใช้ถนนธรรมดาอาจไม่ได้มีความรู้ในเชิงลึก และสิ่งที่เขียนไป เขียนบนพื้นฐานของความรู้สึกของผมเองเท่านั้น อาจจะไม่ตรงกับความรู้สึกของท่านอื่นๆนะครับ ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดต้องขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วยครับ..
คะแนนความถึงพอใจ:
นุ่มเงียบ: 6/10
ทางแห้ง: 6.5/10
ทางเปียก: 6.5/10
คงคุณภาพ: -
ความคุ้มราคา: -
ฝากติดตามผลงานที่เพจ Need For Slow ด้วยครับ:
https://www.facebook.com/Needforslow247/
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้