แม่เราเอาใบโฉนดที่ดินที่อยู่อาศัย(มีห้องเช่าด้วย)ค้ำกู้สินเชื่อเพื่อธุรกิจกับแบงค์นึงรายได้หลักที่ยื่นไปคือค่าเช่าห้อง 9 ห้องห้องละ 2000 มีห้องนึงที่เป็นร้านค้า 3500 แต่แม่เราไม่ได้เดินสเตทเม้นเลยเพราะเขาให้เป็นเงินสดแต่หลังๆอาจจะมีโอนให้บ้าง 2-3 ห้อง
ภาระหนี้แต่ละเดือนก็มีแค่ส่งค่ารถที่แม่เคยเอารถยนต์ไปเข้ากับธนาคารนี้เดือนละ
4000 (ก่อนหน้านี้จ่ายเดือนละ 7000 แต่ทำสัญญาใหม่เหลือเดือนละ 4000) แม่คิดว่าจะกู้ครั้งนี้มาปิดรถแล้วก็เอาเงินมาทำปรับปรุงห้องเช่าใหม่ด้วย
พนง สาขา(คนเดียวกับที่เคยทำสินเชื่อรถยนต์ให้แม่) เขาก็รับเรื่องขอเอกสารคัดใบโฉนด ใบเสียภาษี เอกสารบิลค่าน้ำค่าไฟย้อนหลัง 6 เดือนและสมุดจดค่าน้ำค่าไฟค่าห้อง หลังจากนั้นก็รอผลจน สนง ใหญ่ โทรมาถามเรื่องใบที่ของแม่ก็รอผลอีกอาทิตย์ พนง สาขาก็แจ้งผลว่าเขาให้หาคนมากู้ร่วมเพราะรายได้ของแม่ไม่พอเพราะเหมือนจะมีปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างห้องเช่า 5 ห้องยังเป็นของยายอยู่ (คือก่อนที่ยายจะแบ่งที่ให้ลูกๆยายไปขอใบอนุญาตสิ่งปลูกสร้างก่อนแล้วถึงมาแบ่งที่ให้แม่แล้วแม่เราได้โฉนดใหม่ทำให้เลขที่ในใบขออนุญาตสิ่งปลูกสร้างตอนนั้นไม่ตรงกับเลขที่ใบโฉนดปัจจุบันของแม่)
สรุปคือสิ่งปลูกสร้าง 5 ห้องยังเป็นชื่อยายเลยต้องพายาไปโอนสิ่งปลูกสร้างให้แม่ (เสีย 1% จากราคาประเมิน) แล้วอีก 4 ห้องสมัยก่อนมาสร้างหลังจาก 5 ห้องนั้นเลยมีใบอนุญาตสิ่งปลูกสร้างแต่เป็นชื่อแม่กับอาธนาคารเขาเลยคำนวณรายได้แม่ได้แค่ 2 ห้องทำให้รายได้ไม่พอต้องหาคนมากู้ร่วมหรือต้องหาหลักฐานไปอ้างอิงว่าห้องเช่านั้นเป็นของแม่จริงๆ(คือต้องพายายไปโอนสิ่งปลูกสร้างให้แม่)
แต่ พนง สาขาก็บอกว่าถ้าส่งหลักฐานไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะผ่านไหมถึงถ้าผ่านแม่ก็ต้องหาเงินมาปิดหนี้ที่หยุดชำระ 6 เดือนด้วย
คำถามคือ
1.ถ้าพายายไปโอนสิ่งปลูกสร้างให้แม่แล้วจะยื่นหลักฐานกับธนาคารได้เลยไหมคือมันจะมีผลเลยไหม?
2.ถ้ายื่นหลักฐานไปแล้วเพื่อนๆคิดว่าจะมีเปอร์เซ็นผ่านมากน้อยแค่ไหนหรือจริงๆแล้วเพราะแม่ไม่มีสเตทเม้นรึป่าวเขาเลยต้องหาคนมากู้ร่วม?
3.เพื่อนๆคิดว่าควรดำเนินต่อหรือหยุดแค่นี้ก่อนดี?
ยื่นกู้เงินกับแบงค์นึงแต่มีปัญหาเรื่องใบอนุญาตสิ่งปลูกสร้างขอความคิดเห็นของเพื่อนๆหน่อย
ภาระหนี้แต่ละเดือนก็มีแค่ส่งค่ารถที่แม่เคยเอารถยนต์ไปเข้ากับธนาคารนี้เดือนละ
4000 (ก่อนหน้านี้จ่ายเดือนละ 7000 แต่ทำสัญญาใหม่เหลือเดือนละ 4000) แม่คิดว่าจะกู้ครั้งนี้มาปิดรถแล้วก็เอาเงินมาทำปรับปรุงห้องเช่าใหม่ด้วย
พนง สาขา(คนเดียวกับที่เคยทำสินเชื่อรถยนต์ให้แม่) เขาก็รับเรื่องขอเอกสารคัดใบโฉนด ใบเสียภาษี เอกสารบิลค่าน้ำค่าไฟย้อนหลัง 6 เดือนและสมุดจดค่าน้ำค่าไฟค่าห้อง หลังจากนั้นก็รอผลจน สนง ใหญ่ โทรมาถามเรื่องใบที่ของแม่ก็รอผลอีกอาทิตย์ พนง สาขาก็แจ้งผลว่าเขาให้หาคนมากู้ร่วมเพราะรายได้ของแม่ไม่พอเพราะเหมือนจะมีปัญหาเรื่องกรรมสิทธิ์สิ่งปลูกสร้างห้องเช่า 5 ห้องยังเป็นของยายอยู่ (คือก่อนที่ยายจะแบ่งที่ให้ลูกๆยายไปขอใบอนุญาตสิ่งปลูกสร้างก่อนแล้วถึงมาแบ่งที่ให้แม่แล้วแม่เราได้โฉนดใหม่ทำให้เลขที่ในใบขออนุญาตสิ่งปลูกสร้างตอนนั้นไม่ตรงกับเลขที่ใบโฉนดปัจจุบันของแม่)
สรุปคือสิ่งปลูกสร้าง 5 ห้องยังเป็นชื่อยายเลยต้องพายาไปโอนสิ่งปลูกสร้างให้แม่ (เสีย 1% จากราคาประเมิน) แล้วอีก 4 ห้องสมัยก่อนมาสร้างหลังจาก 5 ห้องนั้นเลยมีใบอนุญาตสิ่งปลูกสร้างแต่เป็นชื่อแม่กับอาธนาคารเขาเลยคำนวณรายได้แม่ได้แค่ 2 ห้องทำให้รายได้ไม่พอต้องหาคนมากู้ร่วมหรือต้องหาหลักฐานไปอ้างอิงว่าห้องเช่านั้นเป็นของแม่จริงๆ(คือต้องพายายไปโอนสิ่งปลูกสร้างให้แม่)
แต่ พนง สาขาก็บอกว่าถ้าส่งหลักฐานไปแล้วก็ไม่รู้ว่าจะผ่านไหมถึงถ้าผ่านแม่ก็ต้องหาเงินมาปิดหนี้ที่หยุดชำระ 6 เดือนด้วย
คำถามคือ
1.ถ้าพายายไปโอนสิ่งปลูกสร้างให้แม่แล้วจะยื่นหลักฐานกับธนาคารได้เลยไหมคือมันจะมีผลเลยไหม?
2.ถ้ายื่นหลักฐานไปแล้วเพื่อนๆคิดว่าจะมีเปอร์เซ็นผ่านมากน้อยแค่ไหนหรือจริงๆแล้วเพราะแม่ไม่มีสเตทเม้นรึป่าวเขาเลยต้องหาคนมากู้ร่วม?
3.เพื่อนๆคิดว่าควรดำเนินต่อหรือหยุดแค่นี้ก่อนดี?