สุดเศร้า มิถุนายน เดือนเดียว พบผู้ติดโควิดเสียชีวิตพุ่ง 992 ศพ
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6481852
สุดเศร้า มิ.ย.เดือนเดียว พบผู้ติดเชื้อ โควิด เสียชีวิตรวม 992 ศพ หลังจาก ศบค. รายงานสถานการณ์ล่าสุดวันนี้ พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 53 ราย
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่ระลอกเดือนเม.ย.2564 เป็นต้นมา พบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงผู้เสียชีวิต และยังไม่มีท่าทีว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งเฉพาะในเดือนมิ.ย.64 มีตัวเลขผู้ป่วยใหม่พุ่งขึ้นหลัก 2,000 ราย บางวันสูงถึง 5,000 กว่าราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 30 มิ.ย.2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ระบุว่า เบื้องต้นมีผู้ป่วยใหม่ 4,786 ราย หายป่วยกลับบ้าน 2,415 ราย หายป่วยสะสม 180,053 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมระลอกเดือนเม.ย. จำนวน 230,438 ราย เสียชีวิต
เพิ่ม 53 ราย
ทั้งนี้ สำหรับยอดผู้เสียชีวิตวันที่ 30 มิ.ย.2564 ถือว่าเป็นตัวเลขนิวไฮ ซึ่งหากย้อนดูตัวเลขผู้เสียชีวิตเฉพาะเดือนมิ.ย.นี้ จะพบว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตแล้ว 992 ราย ดังนี้
• 1 มิ.ย. เสียชีวิต 38 ราย
• 2 มิ.ย. เสียชีวิต 38 ราย
• 3 มิ.ย. เสียชีวิต 39 ราย
• 4 มิ.ย. เสียชีวิต 31 ราย
• 5 มิ.ย. เสียชีวิต 36 ราย
• 6 มิ.ย. เสียชีวิต 23 ราย
• 7 มิ.ย. เสียชีวิต 33 ราย
• 8 มิ.ย. เสียชีวิต 28 ราย
• 9 มิ.ย. เสียชีวิต 35 ราย
• 10 มิ.ย. เสียชีวิต 43 ราย
• 11 มิ.ย. เสียชีวิต 27 ราย
• 12 มิ.ย. เสียชีวิต 29 ราย
• 13 มิ.ย. เสียชีวิต 18 ราย
• 14 มิ.ย. เสียชีวิต 17 ราย
• 15 มิ.ย. เสียชีวิต 19 ราย
• 16 มิ.ย. เสียชีวิต 40 ราย
• 17 มิ.ย. เสียชีวิต 30 ราย
• 18 มิ.ย. เสียชีวิต 22 ราย
• 19 มิ.ย. เสียชีวิต 32 ราย
• 20 มิ.ย. เสียชีวิต 20 ราย
• 21 มิ.ย. เสียชีวิต 29 ราย
• 22 มิ.ย. เสียชีวิต 35 ราย
• 23 มิ.ย. เสียชีวิต 51 ราย
• 24 มิ.ย. เสียชีวิต 31 ราย
• 25 มิ.ย. เสียชีวิต 44 ราย
• 26 มิ.ย. เสียชีวิต 51 ราย
• 27 มิ.ย. เสียชีวิต 42 ราย
• 28 มิ.ย. เสียชีวิต 22 ราย
• 29 มิ.ย. เสียชีวิต 36 ราย
• 30 มิ.ย. เสียชีวิต 53 ราย
กักตัว30เด็กนร.กลุ่มเสี่ยง หลังพ่อมาเยี่ยมลูกติดโควิดดับ
https://www.dailynews.co.th/regional/853315
สุรินทร์ กักตัวเด็ก นร.กลุ่มเสี่ยง 30 คน หลังพ่อกลับมาเยี่ยมลูกแล้วเสียชีวิตด้วยโควิด-19 ด้าน ผอ.รร.ประสาทวิทยาคาร สั่งปิดเรียนออนไลน์ หวั่นโควิดระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.การเฝ้าระวังการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ยังคงเข้มงวด โดยเฉพาะหลังมีการประกาศปิดแคมป์คนงานในจังหวัดพื้นที่เสี่ยง ซึ่งส่งผลให้มีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากต้องเดินทางขอกลับประเทศทางด้านประตูด่าน จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็มีแรงงานก่อสร้างชาวไทยกลับภูมิลำเนาใน จ.สุรินทร์ เช่นกัน ซึ่งจากข้อมูลของ จ.สุรินทร์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่แล้วหลายราย ทำให้จังหวัดต้องออกประกาศเข้มงวดในการเฝ้าระวัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนประสาทวิทยาคาร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบกลุ่มเสี่ยงซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนกว่า 30 คน ที่มีประวัติสัมผัสกับเพื่อนนักเรียนที่ผู้ปกครอง ซึ่งเป็นบิดากลับมาจากจังหวัดในภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง เพื่อมาเยี่ยมลูก 2 วัน จากนั้นบิดา ได้กลับไปเสียชีวิตด้วยอาการป่วยจากไวรัสโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ กลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นเด็กนักเรียน ทั้ง 30 คน ต้องถูกกักตัวดูอาการ และไล่เลี่ยกันพบว่าแม่ค้าขายลูกชิ้นนึ่ง หน้าโรงเรียนประสาทวิทยาคาร ก็ติดเชื้อโควิดเช่นกัน
ขณะที่ นาย
อภินันท์ จันทเขต ผอ.โรงเรียนประสาทวิทยาคาร ได้ออกประกาศ เรื่องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยให้ปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ออนแอร์ ออนดีมานด์ ออนแฮนด์ หรือวิธีที่คุณครูผู้สอนเห็นว่าเหมาะสมตามตางรางที่วิชาการได้กำหนดไว้ ตั้งแต่วันอังคารที่ 29 มิ.ย.64 ถึงวันศุกร์ที่ 2 มิ.ย.64 และให้มาเรียนตามปกติในวันจันทร์ที่ 5 ก.ค.64
ในขณะเดียวกันตามสถานศึกษาต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้มีการกำชับเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะโรงเรียนตามชุมชนหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีกลุ่มเสี่ยงหรือแรงงานเดินทางกลับเข้าในพื้นที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 1 ได้มีการกำชับให้ฝ้าระวังอย่างเต็มที่ในเรื่องความปลอดภัยของเด็กและครู บุคลากรทางการศึกษา ให้มีการบริหารข้อมูลร่วมมือกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล สาธารณสุขอำเภอ นายอำเภอและผู้นำชุมชน ให้มีการวิเคราะห์กลุ่มเสี่ยง ให้ ผอ.โรงเรียนแต่ละแห่งใช้ดุลพินิจให้สามารถจัดการการเรียนการสอนได้ถ้าปลอดภัยในช่วงออนไซต์ ถ้าข้อมูลเปลี่ยนไปก็สามารถจัดการสอนในรูปแบบออนไลน์หรือออนแฮนด์ได้
ล่าสุดมีโรงเรียนประถมขนาดใหญ่ รอบๆ ตัวเมือง ก็ได้ปรับการสอนจากให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียนเป็นรูปแบบเรียนที่บ้านหรือแบบออนแฮนด์และออนไลน์แทน และอีกหลายแห่งนับ 10 โรงแล้วที่ปรับเปลี่ยนการสอน เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกลุ่มเสี่ยงส่วนมากเป็นผลมาจากการประกาศปิดแคมป์คนงานที่ผ่านมา ทำให้มีกลุ่มเสี่ยงเดินทางกลับบ้านเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก
อยุธยาผวา บุคลากรแพทย์ ติดโควิดสายพันธุ์เดลต้า7ราย พบฉีดซิโนแวค ครบแล้ว2เข็ม
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6481991
พบบุคลากรโรงพยาบาลอยุธยาติดเชื้อโควิด สายพันธ์เดลต้า 7 ราย หลังพบแพร่เชื้อไว บางรายฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว
วันที่ 30 มิ.ย. 64 นายแพทย์
พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด สายพันธุ์
เดลต้า (อินเดีย) กลุ่มผู้ติดเชื้อของบุคลากรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จำนวน 7 ราย จากการสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อ 17 ราย โดยในกลุ่มบุคลากรของโรงพยาบาลที่ติดเชื้อ รวมทั้งสิ้น 28 ราย ซึ่งติดเชื้อภายในกลุ่มที่มีการสัมผัสกันอย่างรวดเร็ว จึงเกิดข้อสงสัย และนำตัวอย่างส่งไปตรวจหาการกลายพันธุ์ของเชื้อที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต 4 สระบุรี เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 64 ที่ผ่าน และผลการตรวจแจ้งกลับมาวันที่ 28 มิ.ย. 64
โดยพบว่ามีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) จำนวน 7 ราย สายพันธุ์อัลฟ่า 2 ราย ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นสายพันธุ์ไหน 8 ราย ซึ่งกลุ่มบุคลากรของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทั้งหมดได้รับการรักษา ควบคุม ตามมาตรฐานของกรมการควบคุมโรคและรักษาหายครบตามระยะเวลาเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้อีกข้อสังเกตคือกลุ่มผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า มีบางส่วน ได้รับการฉีดวัคซีนชิโนแวค ครบ 2 เข็ม
ซึ่งการรับวัคซีนครบ 2 เข็ม ทำให้ไม่เกิดอาการรุนแรง หรือเสียชีวิต และทางสาธารณสุขได้ควบคุมการแพร่ระบาดไว้ในวงจำกัดแล้ว ทั้งนี้แม้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการ เว้นระยะห่าง ล้างมือ งดสังสรรค์ สวมหน้ากากอนามัย ใช้แอปพลิเคชั่น ไทยชนะ หมอชนะ รวมถึงเฝ้าระวังสังเกตอากาป่วยของตนเองและคนรอบข้าง หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีอาการทางเดินหายใจ ให้ รีบพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาในทันที
JJNY : สุดเศร้ามิ.ย.เดือนเดียว ติดโควิด992ศพ│กักตัว30เด็กนร.กลุ่มเสี่ยง│อยุธยาผวา บุคลากรแพทย์ติดเดลต้า│ผลสำรวจซีอีโอ
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6481852
สุดเศร้า มิ.ย.เดือนเดียว พบผู้ติดเชื้อ โควิด เสียชีวิตรวม 992 ศพ หลังจาก ศบค. รายงานสถานการณ์ล่าสุดวันนี้ พบผู้เสียชีวิตเพิ่มอีก 53 ราย
จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ตั้งแต่ระลอกเดือนเม.ย.2564 เป็นต้นมา พบว่ามีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง รวมถึงผู้เสียชีวิต และยังไม่มีท่าทีว่าสถานการณ์จะดีขึ้น ซึ่งเฉพาะในเดือนมิ.ย.64 มีตัวเลขผู้ป่วยใหม่พุ่งขึ้นหลัก 2,000 ราย บางวันสูงถึง 5,000 กว่าราย ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดวันที่ 30 มิ.ย.2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ระบุว่า เบื้องต้นมีผู้ป่วยใหม่ 4,786 ราย หายป่วยกลับบ้าน 2,415 ราย หายป่วยสะสม 180,053 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมระลอกเดือนเม.ย. จำนวน 230,438 ราย เสียชีวิต
เพิ่ม 53 ราย
ทั้งนี้ สำหรับยอดผู้เสียชีวิตวันที่ 30 มิ.ย.2564 ถือว่าเป็นตัวเลขนิวไฮ ซึ่งหากย้อนดูตัวเลขผู้เสียชีวิตเฉพาะเดือนมิ.ย.นี้ จะพบว่า มีผู้ติดเชื้อโควิด-19 เสียชีวิตแล้ว 992 ราย ดังนี้
• 1 มิ.ย. เสียชีวิต 38 ราย
• 2 มิ.ย. เสียชีวิต 38 ราย
• 3 มิ.ย. เสียชีวิต 39 ราย
• 4 มิ.ย. เสียชีวิต 31 ราย
• 5 มิ.ย. เสียชีวิต 36 ราย
• 6 มิ.ย. เสียชีวิต 23 ราย
• 7 มิ.ย. เสียชีวิต 33 ราย
• 8 มิ.ย. เสียชีวิต 28 ราย
• 9 มิ.ย. เสียชีวิต 35 ราย
• 10 มิ.ย. เสียชีวิต 43 ราย
• 11 มิ.ย. เสียชีวิต 27 ราย
• 12 มิ.ย. เสียชีวิต 29 ราย
• 13 มิ.ย. เสียชีวิต 18 ราย
• 14 มิ.ย. เสียชีวิต 17 ราย
• 15 มิ.ย. เสียชีวิต 19 ราย
• 16 มิ.ย. เสียชีวิต 40 ราย
• 17 มิ.ย. เสียชีวิต 30 ราย
• 18 มิ.ย. เสียชีวิต 22 ราย
• 19 มิ.ย. เสียชีวิต 32 ราย
• 20 มิ.ย. เสียชีวิต 20 ราย
• 21 มิ.ย. เสียชีวิต 29 ราย
• 22 มิ.ย. เสียชีวิต 35 ราย
• 23 มิ.ย. เสียชีวิต 51 ราย
• 24 มิ.ย. เสียชีวิต 31 ราย
• 25 มิ.ย. เสียชีวิต 44 ราย
• 26 มิ.ย. เสียชีวิต 51 ราย
• 27 มิ.ย. เสียชีวิต 42 ราย
• 28 มิ.ย. เสียชีวิต 22 ราย
• 29 มิ.ย. เสียชีวิต 36 ราย
• 30 มิ.ย. เสียชีวิต 53 ราย
กักตัว30เด็กนร.กลุ่มเสี่ยง หลังพ่อมาเยี่ยมลูกติดโควิดดับ
https://www.dailynews.co.th/regional/853315
สุรินทร์ กักตัวเด็ก นร.กลุ่มเสี่ยง 30 คน หลังพ่อกลับมาเยี่ยมลูกแล้วเสียชีวิตด้วยโควิด-19 ด้าน ผอ.รร.ประสาทวิทยาคาร สั่งปิดเรียนออนไลน์ หวั่นโควิดระบาดเป็นคลัสเตอร์ใหญ่
เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.การเฝ้าระวังการป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ จ.สุรินทร์ ยังคงเข้มงวด โดยเฉพาะหลังมีการประกาศปิดแคมป์คนงานในจังหวัดพื้นที่เสี่ยง ซึ่งส่งผลให้มีแรงงานชาวกัมพูชาจำนวนมากต้องเดินทางขอกลับประเทศทางด้านประตูด่าน จุดผ่านแดนถาวรช่องจอม ต.ด่าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ จำนวนมาก ในขณะเดียวกันก็มีแรงงานก่อสร้างชาวไทยกลับภูมิลำเนาใน จ.สุรินทร์ เช่นกัน ซึ่งจากข้อมูลของ จ.สุรินทร์ พบผู้ติดเชื้อรายใหม่แล้วหลายราย ทำให้จังหวัดต้องออกประกาศเข้มงวดในการเฝ้าระวัง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า โรงเรียนประสาทวิทยาคาร อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พบกลุ่มเสี่ยงซึ่งส่วนใหญ่เป็นเด็กนักเรียนกว่า 30 คน ที่มีประวัติสัมผัสกับเพื่อนนักเรียนที่ผู้ปกครอง ซึ่งเป็นบิดากลับมาจากจังหวัดในภาคกลางซึ่งเป็นพื้นที่เสี่ยง เพื่อมาเยี่ยมลูก 2 วัน จากนั้นบิดา ได้กลับไปเสียชีวิตด้วยอาการป่วยจากไวรัสโควิด-19 เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ กลุ่มเสี่ยง ซึ่งเป็นเด็กนักเรียน ทั้ง 30 คน ต้องถูกกักตัวดูอาการ และไล่เลี่ยกันพบว่าแม่ค้าขายลูกชิ้นนึ่ง หน้าโรงเรียนประสาทวิทยาคาร ก็ติดเชื้อโควิดเช่นกัน
ขณะที่ นายอภินันท์ จันทเขต ผอ.โรงเรียนประสาทวิทยาคาร ได้ออกประกาศ เรื่องปรับเปลี่ยนรูปแบบการเรียนการสอน ให้สอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 โดยให้ปรับเปลี่ยนการเรียนการสอนแบบออนไลน์ ออนแอร์ ออนดีมานด์ ออนแฮนด์ หรือวิธีที่คุณครูผู้สอนเห็นว่าเหมาะสมตามตางรางที่วิชาการได้กำหนดไว้ ตั้งแต่วันอังคารที่ 29 มิ.ย.64 ถึงวันศุกร์ที่ 2 มิ.ย.64 และให้มาเรียนตามปกติในวันจันทร์ที่ 5 ก.ค.64
ในขณะเดียวกันตามสถานศึกษาต่างๆ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ก็ได้มีการกำชับเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะโรงเรียนตามชุมชนหมู่บ้านต่างๆ ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งมีกลุ่มเสี่ยงหรือแรงงานเดินทางกลับเข้าในพื้นที่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสุรินทร์เขต 1 ได้มีการกำชับให้ฝ้าระวังอย่างเต็มที่ในเรื่องความปลอดภัยของเด็กและครู บุคลากรทางการศึกษา ให้มีการบริหารข้อมูลร่วมมือกับโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบล สาธารณสุขอำเภอ นายอำเภอและผู้นำชุมชน ให้มีการวิเคราะห์กลุ่มเสี่ยง ให้ ผอ.โรงเรียนแต่ละแห่งใช้ดุลพินิจให้สามารถจัดการการเรียนการสอนได้ถ้าปลอดภัยในช่วงออนไซต์ ถ้าข้อมูลเปลี่ยนไปก็สามารถจัดการสอนในรูปแบบออนไลน์หรือออนแฮนด์ได้
ล่าสุดมีโรงเรียนประถมขนาดใหญ่ รอบๆ ตัวเมือง ก็ได้ปรับการสอนจากให้เด็กมาเรียนที่โรงเรียนเป็นรูปแบบเรียนที่บ้านหรือแบบออนแฮนด์และออนไลน์แทน และอีกหลายแห่งนับ 10 โรงแล้วที่ปรับเปลี่ยนการสอน เพื่อป้องกันการระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยกลุ่มเสี่ยงส่วนมากเป็นผลมาจากการประกาศปิดแคมป์คนงานที่ผ่านมา ทำให้มีกลุ่มเสี่ยงเดินทางกลับบ้านเข้ามาในพื้นที่จำนวนมาก
อยุธยาผวา บุคลากรแพทย์ ติดโควิดสายพันธุ์เดลต้า7ราย พบฉีดซิโนแวค ครบแล้ว2เข็ม
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6481991
พบบุคลากรโรงพยาบาลอยุธยาติดเชื้อโควิด สายพันธ์เดลต้า 7 ราย หลังพบแพร่เชื้อไว บางรายฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็มแล้ว
วันที่ 30 มิ.ย. 64 นายแพทย์พีระ อารีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดพระนครศรีอยุธยา เปิดเผยว่า จากกรณีที่มีการพบผู้ติดเชื้อโควิด สายพันธุ์
เดลต้า (อินเดีย) กลุ่มผู้ติดเชื้อของบุคลากรโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา จำนวน 7 ราย จากการสุ่มตรวจผู้ติดเชื้อ 17 ราย โดยในกลุ่มบุคลากรของโรงพยาบาลที่ติดเชื้อ รวมทั้งสิ้น 28 ราย ซึ่งติดเชื้อภายในกลุ่มที่มีการสัมผัสกันอย่างรวดเร็ว จึงเกิดข้อสงสัย และนำตัวอย่างส่งไปตรวจหาการกลายพันธุ์ของเชื้อที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์เขต 4 สระบุรี เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. 64 ที่ผ่าน และผลการตรวจแจ้งกลับมาวันที่ 28 มิ.ย. 64
โดยพบว่ามีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า (อินเดีย) จำนวน 7 ราย สายพันธุ์อัลฟ่า 2 ราย ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าเป็นสายพันธุ์ไหน 8 ราย ซึ่งกลุ่มบุคลากรของโรงพยาบาลพระนครศรีอยุธยา ทั้งหมดได้รับการรักษา ควบคุม ตามมาตรฐานของกรมการควบคุมโรคและรักษาหายครบตามระยะเวลาเรียบร้อยแล้ว ทั้งนี้อีกข้อสังเกตคือกลุ่มผู้ติดเชื้อสายพันธุ์เดลต้า มีบางส่วน ได้รับการฉีดวัคซีนชิโนแวค ครบ 2 เข็ม
ซึ่งการรับวัคซีนครบ 2 เข็ม ทำให้ไม่เกิดอาการรุนแรง หรือเสียชีวิต และทางสาธารณสุขได้ควบคุมการแพร่ระบาดไว้ในวงจำกัดแล้ว ทั้งนี้แม้รับการฉีดวัคซีนแล้ว ยังคงต้องปฏิบัติตามมาตรการ เว้นระยะห่าง ล้างมือ งดสังสรรค์ สวมหน้ากากอนามัย ใช้แอปพลิเคชั่น ไทยชนะ หมอชนะ รวมถึงเฝ้าระวังสังเกตอากาป่วยของตนเองและคนรอบข้าง หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีอาการทางเดินหายใจ ให้ รีบพบแพทย์ เพื่อรับการตรวจวินิจฉัยและรักษาในทันที