.
ในสถานการณ์ที่เชื้อโควิด19 กำลังระบาดหนัก หลายคนอาจจะมีคำถามว่า “เราติดหรือยัง” แต่ก็ไม่ใช่ว่าทุกคนจะสามารถตรวจหาเชื้อโควิด19 ได้ เพราะผู้ที่สามารถตรวจหาเชื้อโควิด19 ได้จะต้องเป็นผู้ที่เข้าเกณฑ์ดังนี้
- มีไข้ตั้งแต่ 37.5 องศาขึ้นไป
หรือมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น
- ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย หายใจลำบาก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
นอกจากนี้อาการโควิด19 ระลอกใหม่ที่ระบาดในช่วงเดือน เม.ย.64 นี้ พบผู้ป่วยมีอาการทางผิวหนังเพิ่มเติม ได้แก่
- มีผื่นขึ้นที่เท้า หรือนิ้วเท้า โดยมีลักษณะเฉพาะเป็นตุ่มหรือผื่นแดง ลักษณะคล้ายตาข่าย หรือเส้นใยเล็ก ๆ ขึ้นที่เท้า หรือบริเวณผิวหนังส่วนอื่น ๆ มักพบในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มาก
ข้อสังเกต ผื่นโควิด19
**มีผื่นแดง ลักษณะคล้ายตาข่าย
**มีจุดเลือดออก
**มีผื่นบวมแดงคล้ายโรคลมพิษ
**บางรายอาจมีลักษณะตุ่มน้ำคล้ายโรคสุกใส
**ซึ่งจะเกิดอาการฉับพลัน ร่วมกับอาการมีไข้ ไอ จาม และระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ
- บางรายอาจมีอาการเกี่ยวกับตา เช่น เยื่อบุตาอักเสบหรือบวม ,ตาแดง,น้ำตาไหล,ระตายเคืองตา,คันตา,มีขี้ตา,ตาสู้แสงไม่ได้
- ผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรค หรือพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง
- ประกอบอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรค หรือพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง
- เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่สงสัย หรือผู้ป่วยยืนยันว่าเป็นโควิด19
- เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน
.
ประชาชนทั่วไปเมื่อไหร่ ต้องไปตรวจโควิด19 แบบเข้าใจง่าย ๆ เป็นกรณี
กรณีที่ 1 : ไม่มีอาการ ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด19 และไม่ได้กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
>> ไม่ต้องไปตรวจ
.
กรณีที่ 2 : ไม่มีอาการ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด19 และกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
>>>> ยังไม่ต้องไปตรวจ “กักตัวเอง 14 วัน” สังเกตอาการตัวเอง หากมีไข้สูงขึ้น ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อยให้ไปตรวจ
กรณีที่ 3 : มีไข้ ไอ มีน้ำมูก แต่ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด19 และไม่ได้กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
>> ยังไม่ต้องไปตรวจ “กักตัวเอง 14 วัน” สังเกตอาการตัวเอง หากมีไข้สูงขึ้น ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อยให้ไปตรวจ
กรณีที่ 4 : มีอาการเล็กน้อย มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด19 และกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
>> ให้รีบไปตรวจหาเชื้อโควิด19
กรณีที่ 5 : มีไข้สูง ไอ หอบเหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หรือมีอาการตาแดง เป็นผื่น
>> ให้รีบไปตรวจหาเชื้อโควิด19
กรณีที่ 6 : มีไข้สูง ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย + เป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว และมีอาการเจ็บหน้าอกเฉียบพลัน
>
> ให้รีบไปตรวจหาเชื้อโควิด19
.
เมื่อสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ควรทำอย่างไร?
กลุ่มที่ 1 : ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คือมีโอกาสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อ มีการพูดคุยกันตั้งแต่ 5 นาทีขึ้นไป โดยที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย มีการไอ จามใส่กัน มีการกินอาหารจาน ช้อน หรือดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกัน หรืออยู่ในห้องเดียวกัน นานกว่า 15 นาทีโดยที่อากาศไม่ถ่ายเท และไม่มีการใส่หน้ากากอนามัย
สิ่งที่ต้องดำเนินการ
-กักตัว 14 วัน จะเป็นแบบกักตัวเองที่บ้าน หรือในสถานที่ราชการกำหนด (แล้วแต่กรณี)
-ตรวจหาเชื้อโควิด19
ครั้งที่ 1 หลังจากที่ทราบว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แม้ว่าผลการตรวจในครั้งแรกจะเป็นลบ ก็ยังไม่ได้บอกว่าจะปลอดภัย ขอให้กักตัวอยู่ที่บ้าน และใส่หน้ากากอนามัยให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ไม่ควรอยู่ที่ชุมชน หรือพบปะบุคคลอื่นเด็ดขาด
ครั้งที่ 2 หลังจากตรวจครั้งที่ 1 ไปแล้ว 7 วัน
ครั้งที่ 3 หากมีข้อสงสัยหรือมีอาการ สามารถตรวจเพิ่มเติมได้
.
กลุ่มที่ 2 : ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ สามารถทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิตปกติได้ แต่แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการพบปะคนหมู่มาก และสังเกตอาการตัวเอง
.
สำหรับผู้ที่ไปตรวจหาเชื้อโควิด19 ระหว่างรอผลตรวจควรทำอย่างไร
1. งดออกจากที่พัก หรือจังหวัดที่อาศัย
2. งดไปสถานที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด หรือมีคนเยอะ
3. งดใกล้ชิดครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก
4. ใส่หน้ากากอนามัยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
5. กักตัวต่อให้ครบ 14 วัน
.
.
เพราะเราไม่อยากให้ทุกคนป่วย
ติดตามบทความดี ๆ จาก
รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขมได้ในบทความต่อไปครับ
เมื่อไหร่ต้องไปตรวจโควิด19
- มีไข้ตั้งแต่ 37.5 องศาขึ้นไป
หรือมีอาการอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น
- ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย หายใจลำบาก จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส
นอกจากนี้อาการโควิด19 ระลอกใหม่ที่ระบาดในช่วงเดือน เม.ย.64 นี้ พบผู้ป่วยมีอาการทางผิวหนังเพิ่มเติม ได้แก่
- มีผื่นขึ้นที่เท้า หรือนิ้วเท้า โดยมีลักษณะเฉพาะเป็นตุ่มหรือผื่นแดง ลักษณะคล้ายตาข่าย หรือเส้นใยเล็ก ๆ ขึ้นที่เท้า หรือบริเวณผิวหนังส่วนอื่น ๆ มักพบในผู้ป่วยที่ไม่มีอาการหรือมีอาการไม่มาก
ข้อสังเกต ผื่นโควิด19
**มีผื่นแดง ลักษณะคล้ายตาข่าย
**มีจุดเลือดออก
**มีผื่นบวมแดงคล้ายโรคลมพิษ
**บางรายอาจมีลักษณะตุ่มน้ำคล้ายโรคสุกใส
**ซึ่งจะเกิดอาการฉับพลัน ร่วมกับอาการมีไข้ ไอ จาม และระบบทางเดินหายใจอื่น ๆ
- บางรายอาจมีอาการเกี่ยวกับตา เช่น เยื่อบุตาอักเสบหรือบวม ,ตาแดง,น้ำตาไหล,ระตายเคืองตา,คันตา,มีขี้ตา,ตาสู้แสงไม่ได้
- ผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรค หรือพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง
- ประกอบอาชีพที่สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่เดินทางมาจากเขตติดโรค หรือพื้นที่ที่มีการระบาดต่อเนื่อง
- เป็นผู้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยที่สงสัย หรือผู้ป่วยยืนยันว่าเป็นโควิด19
- เป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่สัมผัสกับผู้ป่วยยืนยัน
.
ประชาชนทั่วไปเมื่อไหร่ ต้องไปตรวจโควิด19 แบบเข้าใจง่าย ๆ เป็นกรณี
กรณีที่ 1 : ไม่มีอาการ ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด19 และไม่ได้กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
>> ไม่ต้องไปตรวจ
.
กรณีที่ 2 : ไม่มีอาการ สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด19 และกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
>>>> ยังไม่ต้องไปตรวจ “กักตัวเอง 14 วัน” สังเกตอาการตัวเอง หากมีไข้สูงขึ้น ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อยให้ไปตรวจ
กรณีที่ 3 : มีไข้ ไอ มีน้ำมูก แต่ไม่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด19 และไม่ได้กลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
>> ยังไม่ต้องไปตรวจ “กักตัวเอง 14 วัน” สังเกตอาการตัวเอง หากมีไข้สูงขึ้น ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อยให้ไปตรวจ
กรณีที่ 4 : มีอาการเล็กน้อย มีไข้ ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ ไปสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ป่วยโควิด19 และกลับมาจากพื้นที่เสี่ยง
>> ให้รีบไปตรวจหาเชื้อโควิด19
กรณีที่ 5 : มีไข้สูง ไอ หอบเหนื่อย จมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รับรส หรือมีอาการตาแดง เป็นผื่น
>> ให้รีบไปตรวจหาเชื้อโควิด19
กรณีที่ 6 : มีไข้สูง ไอ มีน้ำมูก เจ็บคอ หอบเหนื่อย + เป็นผู้สูงอายุ มีโรคประจำตัว และมีอาการเจ็บหน้าอกเฉียบพลัน
>> ให้รีบไปตรวจหาเชื้อโควิด19
.
เมื่อสัมผัสกับผู้ติดเชื้อ ควรทำอย่างไร?
กลุ่มที่ 1 : ผู้สัมผัสเสี่ยงสูง คือมีโอกาสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อ มีการพูดคุยกันตั้งแต่ 5 นาทีขึ้นไป โดยที่ไม่ใส่หน้ากากอนามัย มีการไอ จามใส่กัน มีการกินอาหารจาน ช้อน หรือดื่มเครื่องดื่มแก้วเดียวกัน หรืออยู่ในห้องเดียวกัน นานกว่า 15 นาทีโดยที่อากาศไม่ถ่ายเท และไม่มีการใส่หน้ากากอนามัย
สิ่งที่ต้องดำเนินการ
-กักตัว 14 วัน จะเป็นแบบกักตัวเองที่บ้าน หรือในสถานที่ราชการกำหนด (แล้วแต่กรณี)
-ตรวจหาเชื้อโควิด19
ครั้งที่ 1 หลังจากที่ทราบว่าเป็นผู้สัมผัสเสี่ยงสูง แม้ว่าผลการตรวจในครั้งแรกจะเป็นลบ ก็ยังไม่ได้บอกว่าจะปลอดภัย ขอให้กักตัวอยู่ที่บ้าน และใส่หน้ากากอนามัยให้มากที่สุดเท่าที่เป็นไปได้ ไม่ควรอยู่ที่ชุมชน หรือพบปะบุคคลอื่นเด็ดขาด
ครั้งที่ 2 หลังจากตรวจครั้งที่ 1 ไปแล้ว 7 วัน
ครั้งที่ 3 หากมีข้อสงสัยหรือมีอาการ สามารถตรวจเพิ่มเติมได้
.
กลุ่มที่ 2 : ผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ สามารถทำกิจกรรมหรือใช้ชีวิตปกติได้ แต่แนะนำให้ใส่หน้ากากอนามัย หลีกเลี่ยงการพบปะคนหมู่มาก และสังเกตอาการตัวเอง
.
สำหรับผู้ที่ไปตรวจหาเชื้อโควิด19 ระหว่างรอผลตรวจควรทำอย่างไร
1. งดออกจากที่พัก หรือจังหวัดที่อาศัย
2. งดไปสถานที่ชุมชน หรือสถานที่แออัด หรือมีคนเยอะ
3. งดใกล้ชิดครอบครัว โดยเฉพาะผู้สูงอายุและเด็ก
4. ใส่หน้ากากอนามัยให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
5. กักตัวต่อให้ครบ 14 วัน
.
รพ.วิชัยเวชฯ หนองแขมได้ในบทความต่อไปครับ