แบกเป้เที่ยวสถานที่(ไม่)ลับ

สวัสดีสมาชิกทุกท่านค่ะ เราจะมาแชร์การไปเที่ยวทิพย์ค่ะ ฉบับอยากไปเที่ยวกับเพื่อน แต่ไปเที่ยวไม่ได้ค่ะ ภาพประกอบการอธิบายเพื่อการศึกษาและให้ทุกคนเห็นภาพค่ะ เราจะอ้างอิงใต้รูปนะคะเพราะเราไม่ได้ไปเที่ยวเองค่ะ เป็นงานการเขียนบล็อกการฝึกเป็นบล็อกเกอร์เพื่อนๆพี่ๆน้องๆลองอ่านดูนะคะว่าพวกเราเป็นบล็อกเกอร์ได้มั้ยยยยยยย
ยิ้มออกทะเล
มาเริ่มกันเลยนะคะ
การออกเดินทางของแต่ละคนนั้นอาจมีจุดมุ่งหมายที่แตกต่างกัน บ้างออกเดินทางเพื่อหาความสุขใส่ตัว และกลับกันก็มีคนที่เดินทางเพื่อหนีจากความทุกข์ แต่ละจุดมุ่งหมายก็จะมีวิธีการเดินทางที่แตกต่างกันไปตามรูปแบบของจุแต่ละคน แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกการเดินทางต้องมีคือความทรงจำ วันนี้พวกเราทั้งสี่คนกำลังจะเดินทางเพื่อสร้างความทรงจำที่ดี(หรือเปล่า?) ด้วยการเดินทางไปเที่ยวสถานที่ที่เขาว่ากันว่าหากไปแล้วจะได้รับความสบายใจกลับมาเป็นกอง
เท่าภูเขาที่นั่นเลย ซึ่งสถานที่นั้นก็คือ ม่อนหมอกตะวัน อำเภอพบพระ จังหวัดตากเพี้ยนแคปเจอร์อ้างอิงรูป : TrueID travel
การเดินทางในครั้งนี้เป็นการเดินทางจาก ลำปาง-ตาก พวกเราเดินทางตั้งแต่เช้าตรู่ โดยการไปด้วยรถยนต์ส่วนตัว ม่อนหมอกตะวันอยู่ห่างจากจังหวัดลำปางเป็นระยะทางราวๆ 200 กิโลเมตรจะใช้เวลาในการเดินทางประมาณ2-3 ชั่วโมง ทางถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ สายลำปาง – งาว/ถนนพหลโยธิน
 เมื่อถึงแม่สอดจะใช้ถนนหมายเลข 1090 เพื่อมุ่งสู่อำเภอพบพระ เลยน้ำตกพาเจริญมาไม่ไกลทางด้านซ้ายมือจะมีป้ายของน้ำตกป่าหวายก็จะขับตามทางไปประมาณ 13 กิโลเมตร แล้วจะเจอกับถนนคอนกรีตตลอดทางจนมาถึงที่จุดกางเต็นท์(รถทุกชนิดมามารถขึ้นมาได้ แต่ต้องขับขี่อย่างระมัดระวัง)เม่านักช้อปเพี้ยนแว๊น
อ้างอิงรูป : เพจphotographer.case
ว่าด้วยเรื่องที่พัก ในที่นี่ขอกล่าวถึงรีสอร์ทไร่ลมหนาว-บ้านป่าหวาย บริเวณใกล้กับม่อนหมอกตะวัน โดยมีวิวด้านหน้าที่สวยงาม ไม่มีวิวอื่นมาบดบังเลย โดยเริ่มจากที่พักจะมีเป็น 2 แบบ นั่นคือ เป็นแบบบ้าน และแบบกางเต็นท์นอนนั่นเอง โดยที่พักแบบนั้นจะอยู่ด้านบนมีราคาอยู่ที่ประมาณ 999-1,500 บาทต่อหลัง แถมมีหมูกระทะให้ 1 ชุด ข้าวต้มมื้อเช้าอีกมื้อฟรีๆ แกทั้งยังมีที่ว่าระหว่างบ้านให้เป็นส่วนกิจกรรมสังสรรค์ได้อีกด้วย แต่ต้องเตรียมของไปเองนะ โดยที่พักแบบบ้านนั้น จะมีให้เลือกอยู่ด้วยกัน 2 แบบ นั่นคือ แบบบ้านใบไม้ (ตองตึง) ทรงเอ และแบบมีระเบียงหน้าบ้านทรงชายคา ปล.ของภายในบ้านที่มีมาให้จะมีหมอน ผ้าห่ม มุ้ง ที่นอน และที่ขาดไปไม่ได้เลย คือ ไฟโซล่าเซลล์ 1 ดวงจุก ๆ กันไปเลยจ้า มาต่อกันด้วยที่พักแบบกางเต็นท์นอนกัน ถ้าพูดถึงเรื่องวิวจะบอกว่าไม้แพ้กันเลย ความสวยงามระดับ 4k กันเลยทีเดียว พื้นที่กว้างขวางในราคาเพียง 200 บาทเท่านั้น และสิ่งที่ควรเตรียมไฟคือไฟฉายนะ เนื่องจากบนนู้นไม่มีไฟฟ้าใช้นะ ปล.2 ห้องน้ำเป็นแบบรวมนะ แยกฝั่งชาย-หญิง อยู่ใกล้บ้านพักแต่ยังคงคอนเซปวิวสวย เนื่องจากมีช่อง
อ้างอิงรูป :  https://ppantip.com/topic/40262691
ให้มองเห็นทิวเขาอีกด้วยจ้า ปล.3 มีร้านค้า ร้านหารด้านบนนู้นด้วยนะเธอนานาเที่ยวไทยเพี้ยนผิดห้องเพี้ยนฝันดี
ม่อนหมอกตะวัน อ.พบพระ จุดชมวิว360 องศา ของบ้านป่าหวายเป็นแหล่งดึงดูดนักท่องเที่ยวอย่างพวกเรา  มีทะเลหมอกที่สวยงามในช่วงเช้า ชมพระอาทิตย์ขึ้น หน้าที่พัก  และพระอาทิตย์ตกยามเย็น พร้อมสวนดอกไม้สวยงาม ช่วงที่พวกเราไปเป็นหน้าหนาว พวกเราค้างคืนที่บ้านพัก ด้านบนมีจุดชมวิวอยู่บนยอดเขาโดยความสูงกว่า 1,100 เมตร จึงทำให้สภาพอากาศมีความหนาวเย็น แต่ความหนาวเย็นไม่ทำให้เรารู้สึกเหงาหรือเดียวดายเกินไป
อ้างอิงรูป : WRITTEN BY ADMIN ON
เมื่อมีเพื่อนร่วมทาง ม่อนหมอกตะวันมีร้านกาแฟเปิดอยู่หลายร้าน แต่ส่วนใหญ่ก็จะเป็นกาแฟทรีอินวันกับน้ำร้อน มีอยู่ร้านนึงที่เห็นแล้วโดนมาก มีกาแฟสดกับกาแฟดริปเองด้วย คอกาแฟอย่างพวกเราจึงไม่พลาด เช้าที่ไม่มีกาแฟ ก็เหมือนเช้าที่ยังตื่นไม่เติมที่ เหมือนร่างกายทำงานทั้งที่ยังหลับฟิน
อ้างอิงรูป : Akkasid Tom Wisesklin
ในช่วงหน้าหนาว จะมีหมอกอยู่ทางด้านตะวันออก ชมวิวที่สวยงาม วิวด้านหน้าไม่มีใครบดบัง บนนี้มีทั้งความเงียบสงบ ไร้ความวุ่นวาย ต่างจากเมืองใหญ่ที่ พวกเราเคยอยู่ ทริปของพวกเรา มีกิจกรรมเล็กน้อยช่วงเย็น เสียงไม่ดัง เราเตรียมอาหารมาปิ้งย่าง ยามเย็นพร้อมนั่งชมวิว กินหมูกระทะไปด้วย จิบเครื่องดื่มเย็นๆ นั่งชิว มองดูวิวด้านหน้า พร้อมเก็บบรรยากาศ แบบสวยๆเย็นสบายๆ บรรยากาศที่ทำให้รู้ว่ามองด้วยตาเปล่ามันสวยกว่ามองในมือถือหรือกล้อง
อ้างอิงรูป : Phongsak Kongkaew
ถ่ายรูป การได้มาเองเก็บบรรยายกาศเองมันดีกว่าการฟังรีวิวจากใครๆ บรรยากาศที่ต่อให้ดูรีวิวแค่ไหนก็รู้สึกไม่ได้อย่างนี้เพี้ยนต้มน้ำรอ
เราตื่นมาในช่วงเช้า ยังคงมีความสงบที่ไม่เงียบเหงาเกินไป ซึ่งหาจากในเมืองไม่ได้ ข้าวต้มร้อนๆกับพระอาทิตย์ที่กำลังทำงาน เป็นสิ่งที่เตือนพวกเราว่าการเดินทางในวันใหม่กำลังจะเริ่มต้นขึ้น
อ้างอิงรูป : Phongsak Kongkaew
หลังจากพวกเราลงมาจากม่อนหมอกตะวันเราก็เลี้ยวซ้ายไปไม่ไกลประมาณ 1.44 กิโลเมตร เราจะเจอน้ำตกที่สวยงาม น้ำตกป่าหวาย ตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านป่าหวาย ตำบลคีรีราษฎร์ อำเภอพบพระ จังหวัดตาก เป็นน้ำตกหินปูนสีส้ม  ที่ตั้งชื่อตามสภาพที่มีต้นหวายขึ้นเป็นจำนวนมาก น้ำตกป่าหวาย แต่ละชั้นมีสายน้ำไหลฟูฟ่องลดหลั่นลงมาตามชั้นหินน้อยใหญ่จัดว่าเป็นน้ำตกที่มีจำนวนชั้นมากกว่า 100 ชั้น หลังจากที่เที่ยวและถ่ายรูปกับน้ำตกสีแปลกตาเสร็จพวกเราก็เดินทางกลับลำปาง เพราะเกรงว่ามันจะมืดเอาถ้ากลับช้า การเดินทางครั้งนี้ของพวกเราก็ได้จบลงแล้ว แต่พวกเราไม่เสียใจหรอกค่ะ เพราะนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการเดินทางใหม่ๆของพวกเราทั้ง 4 คน  ม่อนหมอกตะวัน สักครั้งที่ต้องมาสัมผัส สถานที่(ไม่)ลับ แล้วพบกันใหม่ สวัสดีและลาก่อนพาพันชอบ
อ้างอิงรูป : blog.bangkokair.com
ทริคคูลๆ สำหรับชาวเราระหว่างเดินทาง
พกเท่าที่จำเป็น
การเดินทางของเราในทริปนี้คือการเดินทางไปกับพวกเราเพื่อนสาว 4  ซึ่งที่ที่เราไปเที่ยวนั้นเป็นการไปจังหวัดตาก พวกเราเลือกไปกันที่ “ม่อนหมอกตะวัน”เป็นจุดชมทะเลหมอกสุดลับของจังหวัดตาก ซึ่งเราจะขึ้นดอยกัน เราเลือกที่จะพกของไปน้อย พกไปที่จำเป็น เน้นใส่ง่ายแห้งไว เพราะเราไปกันหน้าหนาว บนดอยไม่มีที่อำนวยความสะดวกเยอะ อาจจจะเอาอุปกรณ์อาบน้ำ มาม่า ไฟฉายติดมาด้วยนะ  ซึ่งพวกเราเป็นคนชอบถ่ายรูปอาจจะแอบเอาเสื้อผ้า
อ้างอิงรูป : ผู้หญิงคนเดียวก็เที่ยวได้
ไปหลายชุดนิดนึง อย่าลืมปลั๊กไฟ และยาให้พร้อมด้วยนะ เพี้ยนมโน
หัวเราะดีกว่าอารมณ์เสีย
เราควรคิดอยู่เสมอว่าการเดินทางมักเจอเรื่องไม่คาดฝันระหว่างทางได้ตลอดเวลาต่อให้วางแผนมาดีแค่ไหน  แต่อย่าลืมนะคะ หนังสือแนะนำการท่องเที่ยวกับสถานการณ์จริงอาจจะสวนทางกัน ยังสามารถเกิดเหตุการณ์ที่เราควบคุมไม่ได้ เช่น รถเสียระหว่างทาง เดินหลงทาง ตกรถ โดนหลอกโกงเงิน เมื่อเจอเหตุการณ์เหนือความคาดหมาย ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะหงุดหงิด แต่ถ้าเรามัวแต่หัวเสียอาจจะพาลทำให้ทั้งทริปกร่อยได้ สู้เอาเวลาไปเที่ยวต่อให้สนุกดีกว่า ถ้าเจอเรื่องแบบนี้ให้หัวเราะกับตัวเอง ยิ้มให้กับเพื่อน แล้วคิดว่าเป็นเรื่องราวความทรงจำที่ตื่นเต้น (อีกแบบ) ระหว่างทางเอากลับมาเล่าให้เพื่อนฟังค่ะ เพี้ยนเซ็งเป็ดอ้างอิงรูป : เพจphotographer.case
เข้าเมืองตาหลิ่วต้องหลิ่วตาตาม
ว่ากันว่า ตอนไปเที่ยว เราสามารถเป็นอีกคนหนึ่งได้ แนะนำว่า เวลาเดินทางไปที่ไหน ก็ให้ลองทำตัวกลมกลืนกับที่นั้นดูค่ะ ลองลืมความเคยชิน ลืมความสะดวกสบายที่บ้านไปก่อน แล้วเปิดใจเรียนรู้เรื่องราวตรงหน้า ได้ลองชิมอาหารท้องถิ่นดู ที่สำคัญแต่ละที่ที่สาว ๆ เดินทางไปย่อมมีวัฒนธรรมธรรมเนียมปฏิบัติของตัวเอง เพราะฉะนั้นเราควรหาข้อมูลก่อนไปสักนิดนะคะ ซึ่งเมืองตากมีเมี่ยงเต้าเจี๊ยวขึ้นชื่อ เราไม่ค่อยชอบกิน แต่ลองเปิดใจ ซึ่งค้นพบว่ามันอร่อยมากมากมากเลยค่ะ
อ้างอิงรูป : http://suthidamaleesrisuksai.blogspot.comเพี้ยนส่อง
คนท้องถิ่นคือเพื่อนเรา
เคยได้ยินไหมคะ? มิตรภาพไร้พรมแดน โดยส่วนมากคนท้องถิ่นจะยินดีต้อนรับนักท่องเที่ยวและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มใจ ข้อดีของการเปิดโอกาสพูดคุยกับคนในท้องถิ่นนอกจากจะเรียนรู้วัฒนธรรมโดยตรงแล้ว เราก็จะได้รับคำแนะนำเรื่องที่พัก ร้านอาหาร หรือสถานที่ท่องเที่ยวที่รีวิวไม่เคยบอกไว้ และได้บรรยากาศท้องถิ่นจริง ๆ ซึ่งพวกเราเป็นคนลำปางพูดภาษาเหนือได้ ลำปางกับตากก็อยู่ใกล้ๆกันเนาะ แหะๆ เค้าจะฟังเราไม่รู้เรื่องมากกว่าค่ะ นี่น้องเพี้ยนเอง

อ้างอิงรูป : เพจphotographer.case
ช้าบ้างก็ดี
ทิ้งนิสัยรีบร้อนไว้ที่บ้านและรีแลกซ์นะคะ เรามาชาร์จแบตกันให้เต็มที่ ค่อย ๆ ละเลียดใช้เวลาซึมซับสิ่งรอบตัว เสียงนกเสียงไม้อย่างมีความสุข เราควรเก็บเกี่ยวความทรงจำ เดินชื่นชมช้า ๆ อย่างสุขใจกับเพื่อนค่ะ สุดท้ายก็ขอให้ทุกคน enjoy นะคะเพี้ยนลอย
อ้างอิงรูปด้านหลัง : Phongsak Kongkaew
อ้างอิงรูปด้านหน้า : แมงปอ วิว อ๋อมแอ๋ม เครส
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่