ถ้าจำวันที่ นายก ขี้อาย ไปญี่ปุ่น
ในวันที่ไปเจรจา  ของโค้ชญี่ปุ่นมาช่วยทีมไทย  ผ่านสมาคมบอลญี่ปุ่น

สถารการณ์มันไม่ได้ราบรื่น
กว่าจะแถลงการณ์ได้ในข้อตกลง

ว่าง่าย ๆ คือ มันแปร่ง ๆตั้งแต่วันแรกในการเจรจา

และแฟนบอลแบบผม ยิ่งตกใจไปอีก  เมื่อเซนเซมาคนเดียว....
จ๊ากกกกเลย   มันไม่มีใคร คนไหน จะเก่ง จะเทพแบบข้ามาคนเดียวแล้วจบ

ผมมองว่า  โค้ช นิชิโน๊ะ  แกไม่ได้อยากมาทำงานนี้ ตั้งแต่แรก
แต่โดน ทั้งสองสมาคม  กดดัน + บังคับให้ทำงานนี้

แต่ผมก็คิดว่า  ด้วยสายเลือด บูชิโด
อ.โน๊ะ  คงทำงานได้ตามมาตรฐานคนแจแปน

ผมเอง เป็นลูกหม้อคนแจแปน  มี อ.เป็นคนญี่ปุ่น เคยไปดูงานญี่ปุ่น เคยไปฝึกงานญี่ปุ่น
และทำงานพัวพันกับคนญี่ปุ่นมาเกิน 10 ปี  ถึงได้แอบมั่นใจนิดว่า  
ยังไงซะ  อ.โน๊ะแกน่าจะมีแนวทางการทำงาน  และรักษามาตรฐานได้แบบคนเลือด บูชิโด..

แต่ผ่านมาหลายปี   ผมไม่ได้เห็นอะไร  
ในแบบที่ผมเคยเห็นในการทำงานของคนญี่ปุ่น
ผมจึงสรุปเองครับว่า   แกไม่ได้มีใจตั้งแต่วันแรก ผมคงต้องทำใจยอมรับสภาพ

มองไปข้างหน้ากันเถิดครับ แฟนบอลไทย...หาคนที่ใช่  คนที่อยากทำงานเพื่อพัฒนาบอลไทยจริง ๆ และเป็นคนที่มีฝีมือ
และ..เป็นโค้ชที่ผู้เล่นพร้อมที่จะใส่เกิน 100 ในทุกเกมส์ วิ่งเป็นม้า ตลอด 90 + นาทีเถิด

ผมว่าเราห่างหายรูปแบบเกมส์แบบนั้น  ตั้งแต่ ขงเบ้ง รา เย วัช  มาทำทีมแล้วหล่ะ   มันกี่ปีแล้วหล่ะ ??