นายกฯ เผยไม่ล็อกดาวน์ กทม. แต่สั่งปิดแคมป์คนงานพื้นที่กรุงเทพฯ ปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้ 1 เดือน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เผยหลังประชุมร่วมกับคณะที่ปรึกษาด้านการสาธารณสุขในศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 ว่ารัฐบาลและหลายฝ่ายเป็นห่วงสถานการณ์โควิด-19 ในช่วงนี้ เนื่องจากการแพร่ระบาดสูงขึ้น ซึ่งมาจากการตรวจสอบเชิงรุกด้วย ที่ประชุมได้หารือเรื่องการบริหารจัดการวัคซีน ซึ่งรัฐบาลมีการเจรจาจัดหาเพิ่มเติมแล้ว ซึ่งในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงสิงหาคมนี้จะเร่งฉีดวัคซีนให้กับผู้สูงอายุและ 7 กลุ่มโรคที่เป็นกลุ่มเป้าหมายเดิมให้หมด

สถานการณ์แพร่ระบาดในแคมป์ที่พักคนงานต่างๆ ได้ตกลงที่จะต้องปิดแคมป์เหล่านี้ 1 เดือน เพื่อระงับการแพร่ระบาด โดยกระทรวงแรงงานจะดูแลรับผิดชอบ

ส่วนโรงงานที่ยังประกอบการได้ ต้องมีการ Bubble & Seal โดยเฉพาะ กทม. และปริมณฑล และ 4 จังหวัดภาคใต้ ปัตตานี ยะลา สงขลา นราธิวาส รวมทั้งจะพิจารณากิจการที่มีความเสี่ยงต่อการติดโรค ซึ่งไม่เป็นการปิดทั้งหมด แต่จะมีมาตรการเฉพาะออกมาเป็นการชั่วคราว โดยรัฐบาลจะดูแลเป็นพิเศษทั้งหมดทั้งกิจการ พื้นที่ และคลัสเตอร์ รวมถึงโครงการการจ้างงานของรัฐขณะนี้ ขอให้หยุดชั่วคราวก่อน 1 เดือนเช่นกัน โดยจะมีการยืดเวลาให้ออกไป

มาตรการจำกัดการเคลื่อนย้ายไปมา ขณะนี้ยังไม่จำกัดการเดินทาง แต่ในพื้นที่แต่ละจังหวัดก็จะมีมาตรการอยู่แล้วตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ขอความร่วมมือประชาชนอย่าเพิ่งเดินทางไป-มาข้ามพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้นำเชื้อโรคเข้ามาติดต่อกับบุคคลที่อยู่ในบ้าน

มาตรการในการดูแลร้านอาหารต่างๆ รัฐบาลก็มีการดูแลอยู่แล้วเช่นกัน ยืนยันขณะนี้ยังไม่มีเคอร์ฟิว สิ่งสำคัญ คือ ต้องเร่งฉีดวัคซีนให้ได้มากที่สุด และจะมีการจัดสรรวัคซีนเพิ่มขึ้น

ด้านเตียงคนไข้ ได้สั่งการกระทรวงสาธารณสุข กรุงเทพมหานคร จัดหาเตียงเพิ่มขึ้นประมาณ 100 เตียง เพื่อสร้างเป็น ICU ส่วนการแก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนบุคลากรทางการแพทย์ จะมีการปรับโยกสับเปลี่ยนบุคลากรทางการแพทย์ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม รวมถึงการนำนักศึกษาของราชวิทยาลัยฯ ที่กำลังจะจบใหม่เข้ามาช่วยดูแลผู้ป่วยในส่วนนี้ด้วย ผลการประชุมวันนี้จะมีการสรุปเพื่อออกเป็นมาตรการปฏิบัติในวันที่ 28 มิถุนายนนี้   
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/6402819553076844

นายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุมวัคซีนและการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโควิด - 19 วันที่ 25 มิถุนายน 2564

นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมวัคซีนและการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของ
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด - 19) ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล วันที่ 25 มิถุนายน 2564


[LIVE] นายกรัฐมนตรีแถลงภายหลังการประชุมหารือวาระเร่งด่วน ภายใต้ศูนย์ปฎิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด–19 และที่ปรึกษาด้านสาธารณสุข ศูนย์โควิด-19 ณ ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/videos/488678462223568/ (มีคลิป)


นายกฯ ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่เปิดให้บริการวันแรก โดยเป็นวัคซีนพระราชทาน แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ พร้อมรับฟังทุกข้อเสนอแนะ รวมถึงกรณีล็อกดาวน์ กทม. แต่ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ที่เปิดให้บริการวันแรก สำหรับการฉีดวัคซีนพระราชทานใน สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารีแก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้มีรายได้น้อย และชุมชนโดยรอบ จำนวน 6,400 ราย เนื่องในโอกาสทรงเจริญพระชนมายุ ครบ 64 พรรษา 4 กรกฎาคม 2564 ณ บมจ. โทรคมนาคมแห่งชาติ โดยศาสตราจารย์นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ให้การต้อนรับ

ทั้งนี้ ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์รับวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์มล็อตแรก 1 ล้านโดส จากประเทศจีนและดำเนินการ ส่งตรวจสอบคุณภาพโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เป็นที่เรียบร้อยแล้ว ก่อนกระจายสู่โรงพยาบาลต่างๆ โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ เป็นตัวแทนของรัฐบาลประเทศไทยในการดำเนินการประสานติดต่อและนำเข้าวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” จากจีนเข้ามาเพื่อสนับสนุนการทำงานของภาครัฐ ให้สำหรับองค์กรนิติบุคคลและหน่วยงานเป็นผู้สนับสนุนค่าวัคซีนให้กับกลุ่มบุคคลต่างๆ ได้เข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนฟาร์มโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยกำหนดอัตราค่าวัคซีนอยู่ที่ 888 บาทต่อโดส

นายกฯ กล่าวว่า สถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ยังพบผู้ติดเชื้อต่อเนื่อง ซึ่งขณะนี้มีข้อเสนอแนะจำนวนมาก ต้องเร่งหารือ กับ ศบค.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหามาตรการที่เหมาะสมและต้องคำนึงถึงผลกระทบอย่างรอบด้าน โดยเฉพาะข้อเสนอให้ล็อกดาวน์กรุงเทพมหานคร 7 วัน ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ ถึงเหตุผลและความจำเป็น
https://www.facebook.com/Sumnakkaow.PRD/posts/6401192973239502


[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้





นายกรัฐมนตรีและคณะ ร่วมเปิด "ศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม" ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ นำร่องฉีดวัคซีนพระราชทานในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ให้แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ และชุมชนโดยรอบโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ จำนวน 6,400 คน
-------------------------

วันนี้ (25 มิ.ย. 64) เวลา 09.30 น. ณ อาคาร 9 บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) สำนักงานแจ้งวัฒนะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ศาสตราจารย์พิเศษ ดร. เอนก เหล่าธรรมทัศน์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และคณะ ร่วมเปิด "ศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม" ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และให้กำลังใจบุคลากรทางการแพทย์และผู้ปฏิบัติงาน โดยมี ศาสตราจารย์ นายแพทย์นิธิ มหานนท์ เลขาธิการราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์และผู้อำนวยการโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เป็นประธานในพิธี

"ศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม" ของราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ จัดตั้งขึ้นเพื่อให้บริการฉีดวัคซีนตัวเลือก "ซิโนฟาร์ม" พระราชทานในสมเด็จเจ้าฟ้าฯ กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี สำหรับกลุ่มบุคคลในองค์กรต่างๆ ที่ได้รับการจัดสรรวัคซีน ระยะที่ 1 โดยได้เลือกโรงพยาบาลจุฬาภรณ์เป็นสถานพยาบาลให้บริการฉีดวัคซีน เนื่องด้วยมีศักยภาพรองรับการฉีดวัคซีนได้ถึง 5,000 คนต่อวัน ซึ่งในวันนี้เป็นการนำร่องให้บริการฉีดวัคซีน จำนวน 6,400 โดส ให้แก่ประชาชนผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ที่มีรายได้น้อย และชุมชนในพื้นที่โดยรอบโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ตามที่ได้โปรดให้มูลนิธิมหาราชานุสรณ์นำเงินทุนมาจัดซื้อวัคซีนจำนวนดังกล่าว และพระราชทานให้แก่โรงพยาบาลจุฬาภรณ์ เนื่องในโอกาสที่ทรงเจริญพระชนมายุครบ 64 พรรษา 4 กรกฎาคม 2564

โอกาสนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา พร้อมด้วย พลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา และคณะ ร่วมตรวจเยี่ยมการให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของ "ศูนย์ฉีดวัคซีนตัวเลือกซิโนฟาร์ม" ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ และร่วมพบปะประชาชนผู้เดินทางมาฉีดวัคซีนโควิด-19 ในบริเวณดังกล่าวด้วย

สำหรับวัคซีนตัวเลือกจากบริษัทซิโนฟาร์มที่ใช้ในประเทศไทยนั้น ผลิตโดยสถาบันชีววัตถุแห่งกรุงปักกิ่ง (BIBP) เป็นวัคซีนที่ได้รับการอนุมัติจากองค์การอนามัยโลก (WHO) โดยราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ซึ่งเป็นหน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ พ.ศ. 2559 ได้รับความเห็นชอบจากนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการประสานติดต่อและนำเข้าวัคซีน “ซิโนฟาร์ม” จากสาธารณรัฐประชาชนจีน เพื่อสนับสนุนการทำงานแก้ไขปัญหาการระบาดโรคโควิด-19 ของภาครัฐ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับวัคซีนสร้างภูมิคุ้มกันได้เร็วที่สุด อันเป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
https://www.facebook.com/realnewsthailand/posts/969927530506644


[LIVE] นายกรัฐมนตรีตรวจเยี่ยมศูนย์ฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ณ อาคาร 9 บมจ.โทรคมนาคมแห่งชาติ ถนนแจ้งวัฒนะ กรุงเทพฯ
https://www.facebook.com/ThaigovSpokesman/videos/256313102935713/ (มีคลิป)


นายก ฯ ค้านปรับแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 144 และ 185  เพราะถือเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันการทุจริตและปิดช่องว่างไม่ให้มีการแทรกแซงการจัดทำงบประมาณและการบริหารราชการแผ่นดิน

พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ยืนยันไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญปี 2560 มาตรา 144 และ 185 เนื่องจากบทบัญญัติดังกล่าวได้วางหลักการสำคัญ ห้ามมิให้ ส.ส. และ ส.ว. เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขเพิ่มเติมรายการหรือจำนวนในรายการของงบประมาณรายจ่ายประจำปี แต่สามารถลดหรือตัดทอนรายจ่ายได้เท่านั้น  ซึ่งถือว่าเป็นหัวใจสำคัญในการป้องกันการทุจริตคอร์รัปชันของรัฐธรรมนูญ 2560  นายกรัฐมนตรียังเห็นว่า การจัดทำข้อเสนอโครงการในแต่ละจังหวัด  ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมเสนอความคิดเห็นผ่านกระบวนในส่วนต่างๆ ได้   ในส่วนของมาตรา 185 ที่ระบุว่า ส.ส.หรือ ส.ว.ต้องไม่ใช้สถานะหรือตําแหน่งกระทําการใด ๆ อันมีลักษณะที่เป็นการก้าวก่ายหรือแทรกแซงเพื่อประโยชน์ของตนเอง ของผู้อื่น หรือของพรรคการเมือง ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อมนั้น นายกรัฐมนตรีเห็นว่าเป็นหลักการที่ถูกต้องแล้ว

นายกรัฐมนตรีได้ติดตามการอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญวาระ  และทราบว่า จะมีการเสนอขอแก้ไข ม.144 และ ม. 185  ดังนั้น ในฐานะนายกรัฐมนตรีและประชาชนคนหนึ่ง จึงไม่เห็นด้วยกับการเสนอให้แก้ไขในครั้งนี้  เนื่องจากรัฐธรรมนูญให้ความสำคัญกับการป้องกันการทุจริตและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในกระบวนการใช้จ่ายงบประมาณต้องมีความรับผิดชอบตามกฎหมายทั้งทางตรงทางอ้อม
https://www.facebook.com/anucha.b.dp/posts/4059584340787019