TimeLine แห่ง หายนะ

กระทู้สนทนา
 





.... สถานการณ์การระบาดของไวรัส Covid 19 นับจากปลายปีคริสต์ศักราช 2019 มาจนถึงเดือนมิถุนายน คริสต์ศักราช 2021 เป็นเวลาเกือบปีครึ่ง หรือ 500 กว่าวันแล้ว ขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าเหตุนี้จะจบลงได้ นับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ข้าพเจ้าก็ได้พยายามใช้โหราศาสตร์ทดสอบเรื่องที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นการพิสูจน์วิชาโหราศาสตร์จากการตั้งสมมุติฐาน ทดสอบ และทดลอง จากสถานการณ์จริง มีการทดสอบย้อนหลังไปในอดีต หาเหตุการณ์ต่างๆมาเทียบเคียง จนสามารถตั้งสมมุติฐานได้ว่า ดาวมฤตยู ๐ และดาวเสาร์ ๗ เป็นต้นเหตุของหายนะนี้
.... ในบทความตอนนี้ขอใช้ Time line ของตำแหน่งดวงดาวในจักราศี หรือดาวที่โคจรอยู่บนท้องฟ้า โดยคำนวณจากตำราสุริยยาตร์ที่ได้แก้ไขความคลาดเคลื่อนในการคำนวณแล้วหรือสุริยยาตร์มหานาฑี ซึ่งมีผลใกล้เคียงกับตำราสุริยยาตร์ดั้งเดิมที่สยามใช้อยู่ ทั้งนี้เพื่อพยากรณ์เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นต่อไปจนจบหายนะในครั้งนี้ เพื่อว่าท่านที่สนใจ จะได้นำไปใช้ในการกำหนดอนาคตหรือวางแผนการณ์ล่วงหน้าให้กับชีวิตของท่านได้ สำหรับท่านที่มิได้สนใจ หรือมีปัญหาเกี่ยวกับความเชื่อประการใด กรุณาผ่านบทความนี้ไป จะเป็นพระคุณยิ่ง
..... กราฟจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในประเทศไทย ข้าพเจ้านำมาจากกูเกิ้ล ซึ่งผู้อ่านอาจะหากราฟเดียวกันนี้ได้โดยใช้ key word "สถิติของโคโรนาไวรัส ใน ประเทศไทย" ซึ่งจะอธิบายประกอบกับ Time line การโคจรของดาวซึ่งเสนอในรูปดวงชะตาจักราศี และได้กำหนดแต่ละระยะเอาไว้เพื่อให้การอ่านสะดวก
..... รหัสของดาวนั้น อธิบายได้ว่า ดาวมฤตยู ๐ ได้โคจรอยู่ในราศีเมษมาระยะหนึ่งแล้ว (ตำแหน่งราศีดูได้จากในรูปดวงชะตา) ต่อมาดาวเสาร์ ๗ ได้โคจรเข้าในราศีมังกร ซึ่งตำแหน่งสองราศีนี้เป็นตำแหน่งพิเศษในจักราศี นั่นคือราศีเมษมีราศีมังกรเป็นตำแหน่งองค์เกณฑ์ และราศีมังกรมีราศีเมษเป็นตำแหน่งองค์เกณฑ์ ซึ่งลักษณะพิเศษนี้มีเพียงหนึ่งเดียว ทำให้ดาวที่โคจรอยู่ในสองราศีนี้ต่างส่งกำลังถึงกันได้ และมีคุณสมบัติพิเศษคือส่งกำลังได้อย่างมั่นคงรุนแรง เสมือนหนึ่งอยู่ร่วมราศีเดียวกัน ผลที่เกิดขึ้นก็คือ ดาวมฤตยู ๐ และดาวเสาร์ ๗ ซึ่งต่างก็เป็นบาปเคราะห์ด้วยกันทั้งคู่ รวมกำลังส่งผลร้ายให้กับดวงชะตา โดยเฉพาะราศีเมษและมังกร ซึ่งราศีเมษนั้นเป็นราศีของโลก และราศีมังกรนั้นเป็นราศีประจำทวีปยุโรป (อ่านราศีประจำประเทศได้จากตอนก่อนๆ)
.... Time line ของดาวในภาพบนสุดก่อนเข้าระยะที่ 1 เป็นภาพวันก่อนที่ดาวร้ายทั้งสองจะเข้าร่วมกำลัง ซึ่งเกิดการะบาดของไวร้สในจีนมาแล้วเกือบหนึ่งเดือน แต่ยังถือว่าเป็นการระบาดในท้องถิ่น จนมาถึงระยะที่ 1 ตามภาพ เป็นการเริ่มการร่วมกำลังกันของทั้งสองดาว ซึ่งเริ่มในวันที่ 26 มกราคม 2563 แต่ในไทยนั้นพบผู้ป่วยรายแรกในวันที่ 13 มกราคม 2563 ใกล้เคียงกับการเริ่มระยะที่ 1 แต่อย่างไรก็ตามในภาพระยะที่ 1 นั้นแสดงให้เห็นว่าดาวพฤหัสบดี ๕ โคจรอยู่ในราศีธนู ซึ่งเป็นตำแหน่งตรีโกณฑ์ร่วมธาตุกับราศีเมษ ลัคนาดวงเมืองบางกอก แปลได้ว่าดาวพฤหัสบดี ๕ ประธานแห่งดาวศุภเคราะห์ ส่งกำลังมาช่วยเหลือบางกอกอยู่ ในระยะที่ 1 นี้เหตุในบ้านเราจึงยังไม่รุนแรง
... ระยะที่ 2 เริ่มต้นในวันที่ 22 มีนาคม 2563 เมื่อดาวอังคาร ๓ บาปเคราะห์อีกดาวหนึ่งโคจรเข้าราศีมังกร เกิดการรวมกำลังระหว่าง ๓ + ๗ + ๐ ซึ่งรุนแรงมาก ทั้งๆที่พฤหัสบดี ๕ ยังคงโคจรอยู่ราศีธนู แต่เมื่อดูจากกราฟจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในประเทศไทย จะเห็นได้ว่าในระยะที่ 2 และ ระยะที่ 3 นี้ เริ่มมีจำนวนทั้งผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มขึ้นจนเห็นบนกราฟได้ ระยะที่ 3 นั้นมีการย้ายราศีของดาวพฤหัสบดีจากราศีธนูมายังราศีมังกร ซึ่งมาร่วมวงจรรวมกำลังด้วย แต่ถึงกระนั้นอิทธิพลของ ๓ + ๗ + ๐ ก็ทำให้ดาวพฤหัสบดี ๕ ช่วยได้ไม่มาก
.... ในระยะที่ 4 และ ระยะที่ 5 ดาวอังคาร ๓ หลุดจากการร่วมกำลังไปแล้ว จะเห็นในกราฟจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในประเทศไทยว่าเส้นกราฟเริ่มราบเรียบ รวมไปถึงระยะที่ 6 ซึ่งดาวอังคาร ๓ โคจรไปร่วมกำลังอีกครั้งในราศีเมษ แต่ดาวพฤหัสบดี ๕ นั้นถอยหลังมาที่ราศีธนู และเอาอยู่ จำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในประเทศไทยจึงไม่มากนัก อนึ่งตำแหน่งพฤหัสบดีในราศีธนูนั้นมีตำแหน่งเป็นดาวเกษตร แปลว่ามีกำลังมาก แต่ในราศีมังกรนั้นมีตำแหน่งเป็น นิจ แปลว่ามีกลำงน้อยที่สุดเท่าที่ดาวนั้นจะมีได้ หรือไร้กำลัง จึงจะเห็นได้ว่าในขณะที่ดาวอังคาร ๓ มาร่วมกำลังสองหนที่ผ่านมา เมื่อดาวพฤหัสบดี ๕ มีกำลังก็เอาอยู่ เมื่อไม่มีกำลังก็เอาไม่อยู่
.... ระยะที่ 7 และ ระยะที่ 8 ดาวอังคาร ๓ หลุดไปนอกวงจรการรวมกำลัง และดาวพฤหัสบดี ๕ ย้ายราศีแบบถาวรจากธนูมามังกร ในสองระยะนี้เหลือเพียงดาวมฤตยู ๐ และดาวเสาร์ ๗ ที่รวมกำลังกัน และดาวพฤหัสบดี ๕ ส่งกำลังถึงราศีเมษทั้งสองระยะ เอาอยู่ กราฟจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในประเทศไทยค่อนข้างราบเรียบ
.... ระยะที่ 9 ดาวอังคาร ๓ โคจรเข้าราศีเมษ เข้าวงจรการรวมกำลังอีกหน และดาวพฤหัสบดี ๕ อยู่ราศีมังกร เป็นนิจ มีกำลังน้อย ผลจึงปรากฏว่ากราฟจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในประเทศไทยพุ่งทยานขึ้น เป็นการระบาดในวงกว้างครั้งแรก และแทบจะเอาไม่อยู่
.... ระยะที่ 10 ดาวอังคาร ๓ ออกจากวงจรการรวมกำลัง สถานการณ์ก็ดีขึ้น
.... ระยะที่ 11 ดาวพฤหัสบดี ๕ โคจรออกจากราศีมังกรไปยังราศีกุมภ์ เป็นตำแหน่งที่ส่งกำลังไปช่วยเหลือที่ราศีเมษได้น้อยมาก และดาวอังคาร ๓ เองก็ไม่ได้ส่งกำลังเข้ามาร่วมวงจรหายนะนี้ แต่เนื่องจากดาวพฤหัสบดี ๕ ช่วยเหลือไม่ได้ เพียงสองดาว ๗ + ๐ ก็ทำให้กราฟจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตในประเทศไทยพุ่งทยานขึ้น
.... ระยะที่ 12 ดาวอังคาร ๓ โคจรเข้าราศีกรกฏ เล็งดาวเสาร์ ๗ เข้าวงจรร่วมกำลังอีกครั้ง ผลคือจากระยะที่ 11 ต่อระยะที่ 12 หายนะนั้นมีต่อเนื่อง และนี่คือสถานการณ์ในวันนี้ วันที่ระบบสาธารณสุขของไทยจวนจะล่ม เตียงรับผู้ป่วยเต็ม และจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูงมาก
.... 12 ระยะที่กล่าวมาแล้ว ทั้งสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับตำแหน่งของดวงดาวและวิธีอ่านตามระบบโหราศาสตร์ไทยปกติ แสดงให้เห็นว่าเราอาจจะใช้ตำแหน่งของดวงดาวและวิธีการของโหราศาสตร์ไทย พยากรณ์เหตุต่อไป เพื่อป้องกัน เตรียมตัว หรือ ทำใจ ก็แล้วแต่ศรัทธาจะนำไปใช้ในทางใด
..... ทฤษฏีที่กล่าวมาทั้งหมดสรุปได้ว่า ตราบใดที่ดาวมฤตยู ๐ และดาวเสาร์ ๗  มารวมกำลังกัน จะก่อให้เกิดโรคระบาดได้ หรือมันอาจจะก่อให้เกิดเหตุการณ์ร้ายอื่นๆก็ได้ เช่นภูเขาไฟระเบิด แผ่นดินไหว ภิบัติภัยต่างๆ แต่จากสถิติที่ข้าพเจ้านำเสนอไว้ในหลายตอนของบทความ จะเห็นได้ว่า ครั้งโรคระบาดทำให้พระเจ้าอู่ทองต้องย้ายเมืองหลวงมาสร้างกรุงศรีอยุธยา ครั้งโรคระบาดที่สมเด็จพระบรม​ราชาหน่อพุทธางกูรสวรรคต และการระบาดของไข้หวัดสเปนในสมัยรัชกาลที่ ๖ แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ล้วนแล้วแต่เกิดจากดาวร้ายคู่นี้ทั้งสิ้น การจะหมดไปของหายนะในครั้งนี้ ก็ด้วยหมดพลังของการรวมกำลังดังกล่าว
.... แต่ก่อนที่มันจะหมดไป มันจะต้องแผลงฤทธิ์ร้าย ตามระยะต่างๆที่จะนำเสนอนี้
.... ระยะที่ 13 และ ระยะที่ 14 ดาวอังคาร ๓ จะโคจรอยู่ในสองราศีคือ ราศีสิงห์และราศีกันย์ ตั้งแต่วันที่ 21 กรกฏาคม 2564 ถึงวันที่ 22 ตุลาคม 2564 ซึ่งในระยะที่ 14 นั้นดาวพฤหัสบดี ๕ จะถอยหลังมายังราศีมังกรอีกหนเป็นครั้งสุดท้ายของรอบการโคจรนี้ ดังนั้นความรุนแรงต่างๆจะบรรเทาและลดลง โดยเฉพาะในระยะที่ 14 ซึ่งนานประมาณ 43 วัน ช่วงนี้เป็นช่วงที่ควรจะฟื้นฟู ซ่อมแซม เยียวยา หาทาง เอาตัวรอดสำหรับระยะต่อไป
.... ระยะที่ 15 ดาวอังคาร ๓ จะโคจรเข้าราศีตุลย์ เล็งดาวมฤตยู ๐ ที่ราศีเมษ เข้าร่วมกำลังอีกหน แต่ดาวพฤหัสบดี ๕ ยังคงโคจรคุมเชิงอยู่ที่ราศีมังกร ระยะนี้เรื่องร้ายๆจะเริ่มขึ้น แต่เหมือนจะมีความหวัง เหมือนจะเอาอยู่
.... ระยะที่ 16 ดาวพฤหัสบดี ๕ จากไปอย่างถาวรจากราศีมังกรไปยังราศีกุมภ์ ขณะที่ดาวรวมกำลังของ ๓ + ๗ + ๐ ยังคงอยู่ ระยะนี้เป็นเวลาสั้นๆเพียง 9 วัน แต่ก็จะมีเหตุร้ายพอสมควร
.... ระยะที่ 17 ดาวอังคาร ๓ โคจรจากราศีตุลย์ ไปยังราศีพิจิก และ ธนู ออกจากวงจรไป สถานการณ์จะดีขึ้น แต่ระยะนี้อาจจะมีอากาศยานตก หรือมีวาตะภัย อุทกภัย ได้
.... ระยะที่ 18 ดาวอังคาร ๓ โคจรเข้าราศีมังกรอีกครั้ง และในระยะนี้ คราสเกตุ ๙ เข้าร่วมกำลังในวงจรด้วย กลายเป็น ๓ + ๗ + ๙ + ๐ ความวุ่นวาย หายนะจะกลับมาอีกหน
.... ระยะที่ 19 ดาวอังคาร ๓ โคจรเข้าราศีกุมภ์ ไม่ร่วมกำลัง ระยะนี้สั้นๆ ยังไม่ส่งผลให้ดีขึ้นหรือเลวลง
.... ระยะที่ 20 คราสราหู ๘ ย้ายจากราศีพฤษภ เดินทวนวิถีจักรเข้าราศีเมษ เข้าร่วมวงจรรวมกำลัง ๗ + ๘ + ๐ ระยะนี้สั้นๆเพียง 15 วัน ซึ่งการรวมกำลังของสองดาวและหนึ่งคราสในราศีเมษ ราศีลัคนาของโลกนั้นเกิดขึ้นได้ยากมาก มันจะเป็นจุดเริ่มต้นของเหตุการณ์ต่อไป
.... ระยะที่ 21 ดาวเสาร์ ๗ ย้ายจากราศีมังกรไปยังราศีกุมภ์ หลุดจากวงจรรวมกำลัง อิทธิพลของไวรัสจะลดน้อยถอยลง

*****************

.... ระยะที่ 22 ดาวเสาร์ ๗ จะถอยหลังกลับมาราศีมังกรอีกครั้ง ขณะที่ดาวอื่นๆร่วมกำลังรออยู่ ๓ + ๗ + ๘ + ๐ สามดาวร้ายและหนึ่งคราสร้าย รวมกำลังกันแนบแน่น ซึ่งหาดูได้ยากในรอบพันปี การรวมกำลังครั้งนี้ยาวนาน 33 วัน ไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในระยะนี้ จากวันที่ 8 กรกฏาคม พุทธศักราช 2565 ถึงวันที่ 10 สิงหาคม พุทธศีกราช 2565 ดูจากช่วงเวลา ห่างจากวันนี้ไปปีกว่าๆ สถานการณ์ไวรัสน่าจะจัดการได้แล้ว หรือมันจะทิ้งท้ายอะไรให้กับเราอีก หรือมันจะแปรเปลี่ยนไปเป็นเรื่องอื่นๆ เหมือนตามที่เคยบอกไว้ว่า ดวงดาวย่อมมีหนทางของมัน อาจะเกิดความวุ่นวายอื่นๆขึ้นมาแทน ในระยะสั้นๆนี้น่าจับตาดูเป็นอย่างมาก เพระาอาจจะเป็นจุดเริ่มปะทุของระยะต่อไป
..... ต่อเนื่องด้วย ระยะที่ 23  ดาวอังคาร ๓ โคจรออกจากการรวมกำลัง แต่... ดาวอังคาร ๓ ในจังหวะนี้ยาวนานถึง 160 กว่าวัน โคจรเดินหน้าถอยหลังและสลับหยุดนิ่งอยู่ที่สองราศี คือราศีพฤษภและราศีเมถุน ในขณะที่วงจรรวมกำลังของ ๗ + ๘ + ๐ ยังคงส่งกำลังแนบแน่น รหัสดาวแบบนี้ และการโคจรวิปริตของดาวอังคารแบบนี้ พยากรณ์ได้ว่า ตีกัน รบกัน ซึ่งคงจะต้องสันนิษฐานว่าในระยะดังกล่าว น่าจะมีการออกกำลังกันมากกว่าเรื่องของไวรัส สองระยะคือ 22 และ 23 ยาวนานเกือบ 200 วัน เตรียมรับมือให้ดี มันอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในการเมืองบองบางกอกครั้งใหญ่ด้วย

**********************

..... และระยะที่ 24 ระยะที่ผู้คนต่างรอคอย ดาวเสาร์ ๗ จะโคจรออกจากรวมกำลังเสียที แต่อย่างไรก็ตามดาวมฤตยู ๐ จะยังคงอยู่ในราศีเมษไปจนถึงพุทธศักราช 2568 และคราสราหู ๘ จะรวมกำลังอยู่ด้วยจนถึงพุทธศักราช 2566 ผลร้ายของการรวมกำลังนี้ ก็คือบาดแผลที่โควิด 19 ฝากไว้ให้ นั่นคือระยะรักษาอาการบาดเจ็บสาหัส จนกระทั่งดาวพฤหัสบดี ๕ จะโคจรเข้าราศีเมษในพุทธศักราช 2567 นั่นแหละ บาดแผลจึงจะค่อยๆหาย ยังเวลาอีกนานโข 
..... และรอเวลาการรวมกำลังรอบใหม่ของ ๗ + ๐ ซึ่งหลายท่านที่อ่านบทความนี้จะมีชีวิตอยู่ทันในวันนั้น เอาเหอะ ให้หายเจ็บกันก่อน แล้วจะมาเขย่าขวัญกันต่อไปว่า ครั้งต่อไปเมื่อไร และจะเตรียมรับมือกันอย่างไร พยายามหายใจเข้าไว้ จะได้อยู่เห็นด้วยกันนะ แถวๆ 100 ปีประชาธิปไตยไทยนั่นล่ะ นะ อยู่ก่อนนะ
----------
.... Time line ของดาว Time line ของกราฟเหตุการณ์ และบทความนี้ และตอนก่อนๆ ไม่สงวนลิขสิทธิ์ เชิญนำไปเผยแพร่ได้ และหวังว่าท่านจะอ่านด้วย เหตุ และ ผล และร่วมกันพิสูจน์ ด้วยวิธีการทางวิทยาศาสตร์ และหวังว่าท่านจะนำไปใช้กำหนดอนาคต วางเส้นทางที่จะเดิน เสมือนแผนที่และไฟส่องทาง ไม่ต้องเดินไปในความมืดมิด และไม่ต้องเดินทางไปโดยไม่รู้เส้นทางหรือจุดหมาย พวกเราบาดเจ็บล้มตายกันไปมาก ยิ้มขายตัวกันไปเยอะ หากบทความต่างๆที่ข้าพเจ้านำเสนอ จะช่วยใครสักคนได้สักนิด ก็สุดแสนจะปิติแล้ว
..... อ้อ ยังไม่หายไปไหนนะ จะยังคงอยู่เขย่าขวัญกันต่อไป 

***********

หากภาพ Time line ของดวงดูไม่ชัดเนื่องจากเล็ก มันเป็นด้วยระบบของบอร์ดที่ผู้โพส
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่