รัฐบาลญี่ปุ่นยอมถอยไม่ฉีดวัคซีนให้เยาวชน หลังผู้ปกครองค้านสนั่น
เผยแพร่: 24 มิ.ย. 2564 07:57 ปรับปรุง: 24 มิ.ย. 2564 07:57 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ตัดสินใจไม่ฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์” ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี หลังถูกผู้ปกครองคัดค้านอย่างหนักจากความกังวลผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการของญี่ปุ่นร่วมกันกำหนดแนวทางการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้เยาวชนอายุ 12-15 ปี โดยระบุว่า “ในขณะนี้ยังไม่สนับสนุนให้ฉีดวัคซีน” โดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถอธิบายกับบรรดาผู้ปกครองได้, ไม่อาจรับประกันว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนจะได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน, อาจก่อความกังวลให้ประชาชน และยังไม่มีมาตรการที่เหมาะสมหากเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน
รัฐบาลญี่ปุ่นเคยมีแนวคิดจะฉีดวัคซีนแบบกลุ่มให้กับนักเรียนมัธยม แต่ถูกผู้ปกครองต่อต้านอย่างหนักว่าจะก่อผลร้ายต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว เพราะยังไม่มีผลวิจัยที่ชัดเจนถึงความปลอดภัยของวัคซีน “ไฟเซอร์” ในกลุ่มเยาวชน
อย่างไรก็ตาม แนวทางของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ ก็อนุญาตให้ทางการท้องถิ่นต่าง ๆ จัดฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนได้หากพิจารณาสถานการณ์ในพื้นที่ว่ามีความจำเป็น โดยมีเงื่อนไขว่าต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ต้องให้ข้อมูลอย่างละเอียด ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง รวมทั้งต้องมีมาตรการป้องกันการเลือกปฏิบัติหรือข่มเหงรังแกที่เกิดจากการฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ หากทางการท้องถิ่นตัดสินใจฉีดวัคซีนให้กลุ่มนักเรียนจะต้องไม่เป็นการบังคับ และไม่ควรจัดฉีดวัคซีนในเวลาเรียน ควรจัดฉีดหลังเลิกเรียนหรือในวันหยุด
https://mgronline.com/japan/detail/9640000060901
สิงคโปร์-ญี่ปุ่น รายงานพบอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์
สิงคโปร์ยืนยันการตรวจพบชายวัยหนุ่ม 4 คนมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนโควิดของบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทค แต่ทุกคนอาการไม่รุนแรงและขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว
เดอะ สเตรทไทม์ สื่อท้องถิ่นของสิงคโปร์รายงานว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตรวจพบ อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) ในชาย 4 คนที่เพิ่งเข้ารับการ ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สอง โดยชายเหล่านี้มีอายุระหว่าง 18-30 ปี และเริ่มมีอาการหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองได้ 2-3 วันก่อนหน้านั้น
อย่างไรก็ตาม คณะผู้เชี่ยวชาญของโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุว่าประโยชน์ที่ได้จากการฉีดวัคซีนนั้นมีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการฉีด ทั้งนี้ มีแนะนำว่าประชาชนกลุ่มวัยหนุ่มสาวโดยเฉพาะผู้ชาย ไม่ควรทำกิจกรรมที่ออกกำลังหักโหมหรือหนักเกินไปในช่วง 1 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีนเข็มที่สอง
สิงคโปร์-ญี่ปุ่น รายงานพบอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์
นอกจากนี้ ในช่วงดังกล่าวหากมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจสั้นๆ หรือมีการเต้นหัวใจผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
“ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่มากนัก และสามารถรักษาหายได้ ไม่มีผลกระทบระยะยาว แต่ก็มีความเป็นไปได้ซึ่งน้อยมากๆ ที่อาการจะพัฒนารุนแรงจนสร้างความเสียหายให้กับกล้ามเนื้อหัวใจ” แถลงการณ์ของคณะผู้เชี่ยวชาญ สธ.สิงคโปร์ระบุ ทั้งยังเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนต่อไปเนื่องจากมีประโยชน์ที่จะได้รับมากกว่าความเสี่ยง โดยระบุยืนยันว่า วัคซีนป้องกันโควิดทำให้อัตราการติดเชื้อลดลง และแม้หากติดเชื้อโควิดแล้ว แต่วัคซีนจะช่วยลดความรุนแรงของอาการ
ทั้งนี้ สิงคโปร์อนุมัติวัคซีน 2 ตัว คือ วัคซีนไฟเซอร์ และโมเดอร์นา สำหรับฉีดให้กับประชาชน โดยวัคซีนทั้งสองตัวนี้ใช้เทคโนโลยีการผลิตเหมือนกัน คือเทคโนโลยี mRNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา สำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่นรายงานอ้างอิงแถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นที่เผยว่าพบคนญี่ปุ่นมีอาการ “กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ” และ “เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ” จำนวน 7 คน หลังจากที่บุคคลเหล่านี้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทคเป็นโดสที่ 2 เช่นกัน โดยรายงานระบุว่า ทั้ง 7 คนมีอายุระหว่าง 20-69 ปี เป็นชาย 6 คนหญิง 1 คน
อย่างไรก็ตามทุกคนมีอาการไม่รุนแรงนักและไม่น่าวิตก แต่ผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นจะติดตามเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนต่อไปทั้งที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบัน มีคนญี่ปุ่นฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ไปแล้วราว 9,760,000 คน (ข้อมูล ณ 30 พ.ค.)
ทั้งนี้ ในสหรัฐอเมริกามีรายงานการตรวจพบอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในผู้ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์น่าเช่นกัน โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในผู้ชายวัยหนุ่มหลังจากรับวัคซีนโดสที่ 2 ซึ่งคล้ายกับที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นและสิงคโปร์
https://www.thansettakij.com/content/world/484552
ผู้ปกครองญี่ปุ่นไม่เชื่อมันวัคซีนเพื่อลูกหลานเพราะมีอาการหลังฉีด
วัคซีนอะไรก็ไม่ตอบโจทย์ เพราะนำมาใช้กรณีฉุกเฉิน
ประเทศไทยจะนำเข้าไฟเซอร์มาเช่นกัน
ก็ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ
⚁มาลาริน/น่าเห็นใจนะคะ..รัฐบาลญี่ปุ่นยอมถอยไม่ฉีดวัคซีนให้เยาวชน หลังผู้ปกครองค้านสนั่น
เผยแพร่: 24 มิ.ย. 2564 07:57 ปรับปรุง: 24 มิ.ย. 2564 07:57 โดย: ผู้จัดการออนไลน์
กระทรวงสาธารณสุข แรงงาน และสวัสดิการของญี่ปุ่น ตัดสินใจไม่ฉีดวัคซีน “ไฟเซอร์” ให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี หลังถูกผู้ปกครองคัดค้านอย่างหนักจากความกังวลผลกระทบต่อสุขภาพในระยะยาว
กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการของญี่ปุ่นร่วมกันกำหนดแนวทางการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดให้เยาวชนอายุ 12-15 ปี โดยระบุว่า “ในขณะนี้ยังไม่สนับสนุนให้ฉีดวัคซีน” โดยให้เหตุผลว่า ไม่สามารถอธิบายกับบรรดาผู้ปกครองได้, ไม่อาจรับประกันว่าผู้ที่ฉีดวัคซีนจะได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน, อาจก่อความกังวลให้ประชาชน และยังไม่มีมาตรการที่เหมาะสมหากเกิดผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีน
รัฐบาลญี่ปุ่นเคยมีแนวคิดจะฉีดวัคซีนแบบกลุ่มให้กับนักเรียนมัธยม แต่ถูกผู้ปกครองต่อต้านอย่างหนักว่าจะก่อผลร้ายต่อสุขภาพของเด็กในระยะยาว เพราะยังไม่มีผลวิจัยที่ชัดเจนถึงความปลอดภัยของวัคซีน “ไฟเซอร์” ในกลุ่มเยาวชน
อย่างไรก็ตาม แนวทางของกระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงศึกษาธิการ ก็อนุญาตให้ทางการท้องถิ่นต่าง ๆ จัดฉีดวัคซีนให้กับนักเรียนได้หากพิจารณาสถานการณ์ในพื้นที่ว่ามีความจำเป็น โดยมีเงื่อนไขว่าต้องใช้ความระมัดระวังอย่างยิ่ง ต้องให้ข้อมูลอย่างละเอียด ต้องได้รับความยินยอมจากผู้ปกครอง รวมทั้งต้องมีมาตรการป้องกันการเลือกปฏิบัติหรือข่มเหงรังแกที่เกิดจากการฉีดหรือไม่ฉีดวัคซีน
ทั้งนี้ หากทางการท้องถิ่นตัดสินใจฉีดวัคซีนให้กลุ่มนักเรียนจะต้องไม่เป็นการบังคับ และไม่ควรจัดฉีดวัคซีนในเวลาเรียน ควรจัดฉีดหลังเลิกเรียนหรือในวันหยุด
https://mgronline.com/japan/detail/9640000060901
สิงคโปร์-ญี่ปุ่น รายงานพบอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์
สิงคโปร์ยืนยันการตรวจพบชายวัยหนุ่ม 4 คนมีอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนโควิดของบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทค แต่ทุกคนอาการไม่รุนแรงและขณะนี้อาการดีขึ้นแล้ว
เดอะ สเตรทไทม์ สื่อท้องถิ่นของสิงคโปร์รายงานว่า เมื่อช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีการตรวจพบ อาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ (myocarditis) ในชาย 4 คนที่เพิ่งเข้ารับการ ฉีดวัคซีนไฟเซอร์เข็มที่สอง โดยชายเหล่านี้มีอายุระหว่าง 18-30 ปี และเริ่มมีอาการหลังเข้ารับการฉีดวัคซีนเข็มที่สองได้ 2-3 วันก่อนหน้านั้น
อย่างไรก็ตาม คณะผู้เชี่ยวชาญของโครงการฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 ของกระทรวงสาธารณสุขสิงคโปร์ ระบุว่าประโยชน์ที่ได้จากการฉีดวัคซีนนั้นมีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นหลังการฉีด ทั้งนี้ มีแนะนำว่าประชาชนกลุ่มวัยหนุ่มสาวโดยเฉพาะผู้ชาย ไม่ควรทำกิจกรรมที่ออกกำลังหักโหมหรือหนักเกินไปในช่วง 1 สัปดาห์หลังฉีดวัคซีนเข็มที่สอง
สิงคโปร์-ญี่ปุ่น รายงานพบอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉีดวัคซีนไฟเซอร์
นอกจากนี้ ในช่วงดังกล่าวหากมีอาการเจ็บหน้าอก หายใจสั้นๆ หรือมีการเต้นหัวใจผิดปกติ ให้รีบไปพบแพทย์ทันที
“ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีอาการไม่มากนัก และสามารถรักษาหายได้ ไม่มีผลกระทบระยะยาว แต่ก็มีความเป็นไปได้ซึ่งน้อยมากๆ ที่อาการจะพัฒนารุนแรงจนสร้างความเสียหายให้กับกล้ามเนื้อหัวใจ” แถลงการณ์ของคณะผู้เชี่ยวชาญ สธ.สิงคโปร์ระบุ ทั้งยังเชิญชวนให้ประชาชนเข้ารับการฉีดวัคซีนต่อไปเนื่องจากมีประโยชน์ที่จะได้รับมากกว่าความเสี่ยง โดยระบุยืนยันว่า วัคซีนป้องกันโควิดทำให้อัตราการติดเชื้อลดลง และแม้หากติดเชื้อโควิดแล้ว แต่วัคซีนจะช่วยลดความรุนแรงของอาการ
ทั้งนี้ สิงคโปร์อนุมัติวัคซีน 2 ตัว คือ วัคซีนไฟเซอร์ และโมเดอร์นา สำหรับฉีดให้กับประชาชน โดยวัคซีนทั้งสองตัวนี้ใช้เทคโนโลยีการผลิตเหมือนกัน คือเทคโนโลยี mRNA ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่
ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 12 มิ.ย.ที่ผ่านมา สำนักข่าว NHK ของญี่ปุ่นรายงานอ้างอิงแถลงการณ์ของกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่นที่เผยว่าพบคนญี่ปุ่นมีอาการ “กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ” และ “เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ” จำนวน 7 คน หลังจากที่บุคคลเหล่านี้เข้ารับการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ของบริษัทไฟเซอร์-บิออนเทคเป็นโดสที่ 2 เช่นกัน โดยรายงานระบุว่า ทั้ง 7 คนมีอายุระหว่าง 20-69 ปี เป็นชาย 6 คนหญิง 1 คน
อย่างไรก็ตามทุกคนมีอาการไม่รุนแรงนักและไม่น่าวิตก แต่ผู้เชี่ยวชาญญี่ปุ่นจะติดตามเก็บข้อมูลเกี่ยวกับผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนต่อไปทั้งที่เกิดขึ้นทั้งในและต่างประเทศ
ปัจจุบัน มีคนญี่ปุ่นฉีดวัคซีนของบริษัทไฟเซอร์ไปแล้วราว 9,760,000 คน (ข้อมูล ณ 30 พ.ค.)
ทั้งนี้ ในสหรัฐอเมริกามีรายงานการตรวจพบอาการกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบในผู้ฉีดวัคซีนของไฟเซอร์และโมเดอร์น่าเช่นกัน โดยส่วนใหญ่เกิดขึ้นในผู้ชายวัยหนุ่มหลังจากรับวัคซีนโดสที่ 2 ซึ่งคล้ายกับที่เกิดขึ้นในญี่ปุ่นและสิงคโปร์
https://www.thansettakij.com/content/world/484552
ผู้ปกครองญี่ปุ่นไม่เชื่อมันวัคซีนเพื่อลูกหลานเพราะมีอาการหลังฉีด
วัคซีนอะไรก็ไม่ตอบโจทย์ เพราะนำมาใช้กรณีฉุกเฉิน
ประเทศไทยจะนำเข้าไฟเซอร์มาเช่นกัน
ก็ต้องติดตามกันต่อไปค่ะ