[CR] K-H-A-O Y-A-I จัดทริปไปเขาใหญ่ เที่ยวได้ตลอดๆ

โควิดระบาดรอบนี้อยู่บ้านเบื้อ เบื่อ เบื่อ.... เที่ยวทิพย์ไปก็สิบตลบแล้ว ว่างๆเลยมาเขียนรีวิวไปเที่ยวทริปสั้นๆที่เขาใหญ่ เผื่อใครกำลังวางแผนเที่ยวหลังจากสถานการณ์ดีขึ้นนะคะ เขาใหญ่ไปได้เรื่อยๆอยู่แล้วนี่นะ 

เขาใหญ่ ด้วยความที่ขับรถไปจาก กทม. เพียง 2 ชั่วโมงเท่านั้น (ยกเว้นช่วงทำถนนก่อนหน้านี้ ติดนรกจริงๆ แต่ฝันร้ายนั้นได้จบลงแล้ว เฮ่อ หรือป่าว 555) ส่วนตัวก็จะไปมาหลายสิบครั้งแล้วละค่ะ แต่เชื่อไหมว่าแทบยังไม่เคยไปเที่ยวบนอุทยานจริงๆเลย ไม่ใช่แนวป่าเขาอ่ะนะ หลังจากเกิดโควิด จะจองตั๋วเครื่องบินก็กลัวจะต้องยกเลิก เลยทำให้เลือกไปที่ขับรถไปได้ง่ายๆดีกว่า สิ่งที่ชอบมากคืออากาศที่รู้สึกว่าบริสุทธิ์และความชิวค่ะ 

ออกเดินทางกันเลยค่ะ ไปบ่อยจนมีปั้มประจำอ่ะคิดดู haha (ไม่ได้เป็นเจ้าของปั้มหรือมีความเกี่ยวข้องใดๆต้องมาโฆษณาให้นะคะ) แต่สิ่งที่เลิฟคือ ปั้มนี้มีห้องน้ำติดแอร์ สะอาดมากๆ ยิ่งถ้ามีผู้สูงอายุไปด้วย สะดวกสบายจริงๆ ปั้มนี้คือ ปตท.ที่ 2 พอเลยจากโรบินสัน สระบุรีไปค่ะ ใครออกจาก By Pass ก็ยังผ่าน

เนื่องจากที่พักอยู่บนถนนผ่านศึก (ซอยแดรี่โฮม) เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าหมวกเหล็กค่ะ แล้ววนลอดใต้ถนนมิตรภาพ มาโผล่ทะลุซอยเอา ช่วงนี้ฝนตกเกือบทุกวัน เขาก็เขียวขจี อากาศไม่ร้อน

ก่อนออกเดินทางได้เตรียมของเพื่อมาถวายสังฆทาน โดยไม่ได้มีวัดประจำหรือหามาก่อน ปกติก็จะแวะวัดไหนก็ได้ที่ผ่านเจอ เหลือบไปเห็นใน Google Map มีวัดป่าระหว่างทาง ชื่อ วัดป่าอัครวัฒน์วินัย เลยลองเข้าไปดู ทางเข้าลึกลับพอสมควร

เมื่อได้มาเห็นบรรยากาศร่มรื่นแบบนี้ โห รู้สึกดีมากๆ


ส่วนของศาลา ขนาดเล็กๆเท่านี้ มีพระไม่กี่รูปประจำวัด เราได้ถวายสังฆทานและสนทนากับพระองค์หนึ่งเล็กน้อย 

เวลาเที่ยงพอดี แวะทานอาหารร้านชาวบ้านค่ะ 


เมนูค่ะ ราคาแอบแรง หากใครชอบทานเนื้อ ขอแนะนำว่าอร่อยเด็ดทุกเมนู แต่เราเคยมาทานแล้ว วันนี้ขอเบาๆ

บรรยากาศในร้านตกแต่งสวยงามดี มีทั้งที่นั่งด้านนอกและใน

ลองข้าวหมูก้อนทอดปลาเค็มอบหม้อดินและแหนมห่อใบตองย่างเตาถ่าน


ทานกับข้าวจี่ร้อนๆ ปรากฏว่าไม่เข้ากันเท่าไหร่ มื้อนี้แอบเฟลเล็กน้อย 555 แนะนำสั่งเมนูเนื้อย่างเตาถ่านค่ะ เด็ดกว่าเยอะ

อิ่มท้องแล้วเราก็เดินทางเข้าที่พัก ซึ่งครั้งนี้เราลองเช่าเป็นบ้านทั้งหลัง ไม่ต้องเจอใครในช่วงโควิดแบบนี้ ก็ดีเหมือนกัน เจอใน FB  ชื่อว่า The Blue Rim ค่ะ ซึ่งบ้านนี้อยู่ริมถนนผ่านศึกเลย ก่อนถึง The Series Resort ไม่ไกลจากร้านชาวบ้านค่ะ ขับไปอีกไม่ถึง 10 นาที เจ้าของใจดีให้เข้าพักก่อนเที่ยงได้ 

จอดรถปุ๊บมีพนักงานต้อนรับวิ่งมาใส่ทันที haha 

ที่เลือกที่นี่ เพราะมีระเบียงภายนอกน่านั่งด้วยค่ะ

ห้องรับแขกเล็กๆ แต่ก็มีอุปกรณ์ครบ สะอาด ตกแต่งน่ารักค่ะ 

Pantry จะมีทั้งเตาไฟฟ้า ไมโครเวฟ ตู้เย็นใหญ่ สามารถปรุงอาหารง่ายๆได้ มีชา กาแฟให้

ห้องนอน มี 2 ห้อง พักได้ 4 ท่าน เหมาะกับครอบครัวหรือเพื่อนกลุ่มเล็กๆเนอะ แต่เรามาพักกับแฟนแค่ 2 คน ราคาช่วงนั้นมีโปรเปิดบ้านประมาณคืนละ 2,000 เลยคิดว่าไม่แพงอยู่ดี

เตียงนอนใหญ่ 6 ฟุต ใครชอบดิ้นก็ยังนอนสบาย 55 โทนสีขาว ฟ้า เทา ทันสมัยอบอุ่นดีค่ะ 

ส่วนห้องนอน 2 เป็นเตียงคู่แยก

ห้องน้ำบ้านนี้จะมีเป็นห้องใหญ่ที่มีที่อ่างล้างหน้า และอาบน้ำแค่ 1 ห้องค่ะ ส่วนอีกห้องเล็กเป็นห้องที่มีเฉพาะส้วมแยกไป ก็ไม่ต้องแย่งกันเข้าส้วม

เมื่อพักผ่อนชิวๆแว็บนึงแล้ว เราก็พร้อมลุยต่อ โดยไปสถานที่ท่องเที่ยวเปิดใหม่ล่าสุด คือ Lago di Khaoyai อยู่บนเส้นผ่านศึกเหมือนกันค่ะ 
อึ้งตะลึงในความสวยตั้งแต่ทางเข้าเลยทีเดียว โดยที่นี่จะเป็นสวน ค่าเข้าชม 100 บาทสำหรับคนไทย และมีส่วนคาเฟ่ริมน้ำ วันนี้เราไม้ได้เข้าชมสวนเพราะอยากรอพาพ่อแม่มาด้วยกัน สว.จะต้องชอบแนวนี้ 555 เลยไปที่คาเฟ่ก่อน ซึ่งไม่มีค่าบริการแต่ขอให้ช่วยซื้อคนละแก้ว 

คาเฟ่เป็นสไตล์ Log Cabin เหมือนอยู่ยุโรปเลย วันนั้นเมฆครึ้มด้วย อากาศเย็นสบายมาก

เอาแผนที่สวนมาให้ดู ใหญ่ใช่เล่นเลย

อาคารที่กำลังก่อสร้างจะเป็นโรงแรมและพิพิฒภัณฑ์ค่ะ คงยังไม่เปิดอีกนาน ส่วนโรงแรมเพิ่งสร้างเอง

จากนั้นถึงเวลาอาหารเย็น เรายอมขับรถไปไกล ประมาณ 40 นาทีแน่ะ เพื่อมาทานที่ศาลา เขาใหญ่ เรามาหลายรอบแล้วละ ต้องไปให้ถึงก่อนหกโมงเผื่อได้เห็นพระอาทิตย์ตก จอดรถแล้วต้องเดินขึ้นบันไดสูงมาก อันนี้มองลงไป

ห้องอาหารก็มีหลายมุมให้เลือกนั่งตามชอบ บรรยากาศธรรมชาติ ไม้ๆ ชอบมากค่ะ

หลายคนอาจสงสัยว่าราคาแพงไหม ก็มาตรฐานโรงแรมเนอะ
 
วิวนี้แหล่ะที่ทำให้เราดั้นด้นมา แต่วันนั้นไม่มีโอกาสเห็นพระอาทิตย์ พอค่ำฝนตกอีกด้วย

วิวภูเขาเรียงรายสุดลูกหูลุกตา มองแล้วช่างสงบ สวยงามเป็นที่สุด ห้องพักที่นี่ราคาสูงมากค่ะ เราใช้มากินข้าว กินขนมเอานี่แหล่ะ 

ขากลับจากศาลา เส้นทางค่อนข้างมืดมาก ไม่ได้มีไฟถนนทุกช่วง ต้องขับด้วยความระมัดระวังนะคะ หากใครขับรถไม่แข็ง แนะนำไปช่วงกลางวันดีกว่า
เป็นอันจบไปวันแรก มาต่อกันวันที่สอง สำหรับบ้านพักนี้ไม่ได้มีอาหารเช้าบริการ เราทานโจ๊กแช่แข็ง ขนมปังที่ซื้อจากเซเว่นง่ายๆ แล้วไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์บ้านไทยโบราณกันค่า โอ้ว ใครจะคิดว่ามีสถานที่แบบนี้ในเขาใหญ่ด้วย ชื่อว่า Villa Musee ตั้งอยู่บนถนนธนะรัชย์ เข้าทางเดียวกับรีสอร์ทจำชื่อไม่ได้แล้ว ป้ายจะไม่เขียนว่า Villa Musee แต่เขียนชื่อ R.E. 101 ซึ่งเป็นชื่อของคาเฟ่ที่นั่นค่ะ ไปคาเฟ่เฉยๆก็ได้ถ้าไม่อยากชมบ้าน
*การเข้าชมต้องนัดหมายล่วงหน้า มีเป็นรอบๆ จำกัดคน สามารถดูได้เพจ FB เลยค่ะ ค่าเข้าชมลด 50% เหลือ 200 บาทพร้อมน้ำฟรี 1 แก้ว

เราไม่อยากเชื่อเลยว่าจะมีบ้านเรือนไทยหลายหลังขนาดนี้ แต่ไม่ขอเอาภาพมาให้ดูทุกบ้านนะ จะได้ไม่ Spoil หลังเด่นที่สุดคือสีเขียวไข่กาทางขวามือนี้แหล่ะค่ะ บ้านสมัย ร.5 ชื่นชมเจ้าของค่ะ ที่สร้างอะไรสวยๆและนำเรือนไทยโบราณมารักษาไว้ให้คนไทยได้ชมกันอีกนานๆ เพราะถ้าไม่มีใครลงทุนแบบนี้ บ้านไม้เก่าๆมันคงผุพังและหายไปจากประเทศไทยในที่สุด 

สำหรับบ้านและของทั้งหมดนี้เป็น Private Collection ของท่านเจ้าของที่รักและหวงแหนในสถาปัตยกรรมและของไทยๆ บ้านคือบ้านจริงๆที่ตั้งอยู่ในหลายจังหวัดทั่วไทยแล้วเค้าย้ายมาประกอบใหม่ทั้งหลังบนที่ดินผืนนี้ ไม่อยากจะคิดเลยว่าต้องลงทุนเท่าไหร่ 

ความสุขเล็กๆส่วนหนึ่งมาจากการได้เห็นภาพถ่ายของราชวงศ์หลายๆพระองค์ (แต่ในภาพผู้ชายข้างล่างนี้ไม่ใช่นะ จำไม่ได้ว่าใคร) ซึ่งเป็นภาพที่เราไม่มีทางได้เห็นง่ายๆทั่วไป การได้รับรู้ว่าสมัยนั้นเค้าอยู่กันยังงัย มีเครื่องมือเครื่องใช้แบบไหน 

ทัวร์จะจบลงที่คาเฟ่ ดันเป็นสไตล์จีนซะงั้น เอ๊า 

ภายในคาเฟ่ก็จะมีโต๊ะจี๊นจีน ฝังมุขด้วยอ่า อันนี้ไม่อิน 555

เครื่องดื่มที่ให้เป็นชามีให้เลือก และเราสั่งขนมไข่เต่าเพิ่ม อร่อยเบานุ่มมากๆ ส่วนตัวชอบขนมไทยมากกว่าเบเกอรี่หรือเค๊กฝรั่ง แต่ไม่มีคนทำขายเท่าไหร่ ทีสโคนอะไรไม่รู้ละขายกันจัง กินยังงัยก็ไม่เห็นมีความฟิน 555 
ชื่อสินค้า:   เที่ยวเขาใหญ่
คะแนน:     

CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้

  • - จ่ายเงินซื้อเอง หรือได้รับจากคนรู้จักที่ไม่ใช่เจ้าของสินค้า เช่น เพื่อนซื้อให้
  • - ไม่ได้รับค่าจ้างและผลประโยชน์ใดๆ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่