[Eurovision Magazine] ฉบับพิเศษ แนะนำวง Måneskin จากอิตาลี เจ้าของเพลงฮิต "I Wanna Be Your Slave" ให้คนไทยรู้จักกัน


"I wanna be your slave
I wanna be your master
I wanna make your heart beat
Run like rollercoasters
I wanna be a good boy
I wanna be a gangster
'Cause you can be the beauty
And I could be the monster"

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


เพลงที่ได้เห็นข้างบนนี้ เราว่าคนไทยบางส่วนน่าจะรู้จักเพลงนี้กันแล้ว I Wanna Be Your Slave จากติ๊กต๊อกบ้างในไอจีบ้าง แม้กระทั่งสื่อในอเมริกาก็พูดถึงเพลงนี้กันแล้วนะคะ เป็นผลงานของวง Måneskin กลุ่มศิลปินจากอิตาลี ดีกรีแชมป์ยูโรวิชั่นปีนี้ค่ะ

ก่อนอื่นต้องสวัสดีทุกคนนะคะ ถ้าใครติดตามยูโรวิชั่นทางพันทิปก็พอจะคุ้นเราบ้างแหล่ะ เพราะตั้งกระทู้รายงานการแข่งยูโรวิชั่น (การประกวดเพลงในภูมิภาคยุโรป) กระทู้ที่จะได้เห็นต่อไปนี้เป็นฉบับพิเศษ ไม่เกี่ยวกับการรายงานการแข่งขันแล้ว เพราะเราจะมาแนะนำศิลปินวงนี้ที่เป็นผลผลิตจากยูโรวิชั่น และกำลังประสบความสำเร็จมากๆทั้งในยุโรป และไปโผล่ชาร์ตในอเมริกาแล้ว ให้คนไทยได้รู้จักกันนะคะ (ตั้งแต่ทำกระทู้ยูโรวิชั่นมา 7 ปีเพิ่งจะมาเห็นศิลปินที่ดังในวงกว้างหลังแข่งเสร็จนี่แหล่ะ) เรามาทำความรู้จักวง Måneskin กลุ่มศิลปินจากอิตาลี ดีกรีแชมป์ยูโรวิชั่นปีนี้กันค่ะ


ดอกไม้ดอกไม้ดอกไม้


แล้วพวกเขาเป็นใครล่ะ

วง Måneskin (ถ้าอ่านแบบอิตาลี อ่านว่ามาเน่สกิน แต่ถ้าอ่านแบบเดนมาร์กตามต้นฉบับภาษา อ่านว่ามอนเน่สกิน) เป็นการรวมตัวของนักเรียนม. ปลายร่วมโรงเรียนในกรุงโรม ในปี 2016 มีสมาชิกสี่คน (จากภาพข้างบน) ได้แก่ ดามิอาโน่ ดาวิด (ร้องนำ คนซ้ายสุด), วิคตอเรีย เด อังเคลลิส (มือเบส คนที่สามจากซ้าย),โทมัส รัคกี้ (มือกลอง คนที่สองจากซ้าย) และเอธาน ตอร์ชิโน่ (มือกีตาร์ คนขวาสุด) โดยพวกเขาตั้งชื่อวงนี้ในภาษาเดนิช ตามไอเดียของวิคตอเรียที่เป็นคนเชื้อสายเดนมาร์กที่แปลว่าแสงจันทร์ จุดเริ่มต้นเล็กๆของพวกเขาคือการไปเล่นดนตรีเปิดหมวกหลังเลิกเรียน สมัยพวกเขาเรียนมัธยมในกรุงโรม
ในปี 2017 พวกเขาไปแข่งรายการ The X Factor Italy ซีซั่นที่ 11 โดยในเวลาต่อมาพวกเขาได้อยู่ในทีมศิลปินกลุ่ม โดย Manuel Agnelli จากวง Afterhours ทำหน้าที่เป็นโค้ชให้ และนี่คือการผลงานพวกเขาในรอบออดิชั่น 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แต่เส้นทางของพวกเขาไม่ได้ไปถึงแชมป์ เพราะพวกเขาได้แค่รองแชมป์ไปแพ้ Lorenzo Licitra จากทีมผู้ใหญ่ ของโค้ช Mara Maionchi ซึ่งเขามาสายโอเปร่า มีผลงานเพลงไม่นานแล้วก็หายไป
แต่ยังโชคดีที่ประตูนั้นยังพอเปิดทางให้พวกเขายังได้ไปต่อความฝันในเส้นทางดนตรี พวกเขาได้มีผลงานเพลงสังกัดโซนี่มิวสิคอิตาลี โดยออกอีพีชุดแรก ชื่อชุด Chosen ได้รับการตอบรับอย่างหอมปากหอมคอ
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
ก่อนที่พวกเขาจะเปรี้ยงในอัลบั้มเต็มชุดแรก Il ballo della vita ในปี 2018 โดยเพลง Torna a casa ดังมากในอัลบั้มนี้
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
และล่าสุดอัลบั้มชุดที่ 2 ที่เพิ่งวางจำหน่ายเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา Teatro d'ira: Vol. 1 ซึ่งมีเพลง "Zitti e buoni" ที่ทำให้พวกเขาเป็นแชมป์ยูโรวิชั่นปีนี้ที่เนเธอร์แลนด์เมื่อเดือนพ.ค. ที่ผ่านมา อยู่ในอัลบั้มนี้ด้วย 

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


จุดเปลี่ยนจากยูโรวิชั่น

ขออธิบายสั้นๆเผื่อใครยังไม่รู้จักยูโรวิชั่นนะคะ ยูโรวิชั่นเป็นการประกวดเพลงในภูมิภาคยุโรป โดยจัดแข่งทุกปี ประเทศต่างๆในยุโรปจะมีการคัดเลือกศิลปินและเพลงเพื่อเป็นตัวแทนของพวกเขาเพื่อมาแข่งเพื่อหาแชมป์ในแต่ละปี ประเทศไหนได้รับคะแนนโหวตมากที่สุดจะได้แชมป์และได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพในปีถัดไปด้วย

วงนี้ก็เช่นกันค่ะ ถ้าพวกเขาอยากจะเป็นตัวแทนประเทศอิตาลีจะต้องแข่งขันเพื่อหาตัวแทนบ้านเขา โดยเวทีคัดเลือกตัวแทนอิตาลีคืองานซานเรโม่ ซึ่งเป็นเทศกาลดนตรีระดับประเทศ เพลงไหนได้แชมป์ซานเรโม่ (คัดเลือกจากคะแนนกรรมการ สื่อ และทางบ้าน) จะได้รับสิทธิ์เป็นตัวแทนอิตาลีแข่งยูโรวิชั่น ซึ่งศิลปินที่ได้รับเลือกจะตอบรับหรือไม่ก็ได้ โดยวงนี้มาแข่งซานเรโม่ปีนี้ที่แข่งเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ซึ่งความพิเศษคือพวกเขาเพิ่งแข่งครั้งแรก โดยส่งเพลง "Zitti e buoni" ซึ่งแตกต่างจากเพลงอื่นๆที่มาแข่งคือแนวเพลงที่ไม่เหมือนใคร เพราะแนวร็อคนี่เด่นสุดในบรรดาเพลงบัลลาดแบบอิตาลีที่เป็นพิมพ์นิยมที่มาแข่งชิงตัวแทน และแน่นอนว่าคนอิตาลีกล้าเสี่ยงที่จะส่งเพลงนี้เป็นตัวแทนอิตาลี


© Getty Images
พวกเขาได้รับเลือกเป็นตัวแทนอิตาลีในยูโรวิชั่น 2021 ที่จัดขึ้นที่เมืองร็อตเตอร์ดัม ประเทศเนเธอร์แลนด์ โดยแข่งในวันที่ 18, 20 และ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา โดยพวกเขาได้รับคะแนนโหวตทั้งจากกรรมการและทางบ้านทั่วยุโรป รวม 524 คะแนน ได้เป็นแชมป์ ซึ่งพวกเขาทำให้อิตาลีเป็นแชมป์สมัยที่ 3 หลังจากที่ต้องรอถึง 31 ปี (เพราะก่อนหน้านี้บ้านเขาเป็นแชมป์สมัยที่วองในปี 1990) และได้สิทธิ์เป็นเจ้าภาพปีหน้าด้วย 

© Getty Images


โดยเพลง Zitti E Buoni ที่ได้รับเลือกเป็นตัวแทนอิตาลี ทำให้พวกเขาเป็นแชมป์ยูโรวิชั่น ด้วยความเป็นร็อคที่โดนใจคนยุโรป ซึ่งเพลงนี้ติดอันดับชาร์ต UK Charts ของยูเค สูงสุดอันดับที่ 17 และไปติดชาร์ต Billboard Global 200 ที่อเมริกา สูงสุดอันดับที่ 22 ด้วย
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แต่เพลงที่ดูไปไกลมากที่สุดในตอนนี้ ไม่ใช่เพลงข้างบนค่ะ แต่เป็นเพลง I Wanna Be Your Slave ที่เกริ่นหัวกระทู้ไว้นี้แหล่ะ เพราะเพลงนี้เป็นเพลงภาษาอังกฤษที่เข้าถึงภาษาได้ง่ายกว่าเพลงข้างบนที่เป็นภาษาอิตาลี เป็นเพลงจากอัลบั้มล่าสุด ไม่ใช่เพลงโปรโมตแต่อย่างใด แต่กลับดังมาก เพราะตอนนี้ติด UK Charts ของยูเค สูงสุดอันดับที่ 7 ในสัปดาห์นี้ และอาจจะไปไกลกว่านี้ เพราะกำลังมาแรงมาก และติดชาร์ต Billboard Global 200 ที่อเมริกา สูงสุดอันดับที่ 21 ด้วย (คลิปจากรายการคอนเสิร์ต Lotta på Liseberg ที่สวีเดนเมื่อวันที่ 21 มิถนายนที่ผ่านมา)

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


และเพลงที่จะแนะนำอีกเพลงคือเพลง Beggin' เป็นเพลงคัพเวอร์ของวง the Four Seasons ในยุค 60 โดยเพลงนี้พวกเขาร้องตอนแข่ง The X Factor Italy และบรรจุในอีพีชุด Chosen ที่เรานำเสนอไปข้างต้น เพราะตอนนี้ถูกพูดถึงอีกครั้งเพราะกระแสจากโซเชียล และตอนนี้ขึ้นชาร์ต UK Charts ที่ยูเคในสัปดาห์นี้ด้วยอันดับที่ 73 ค่ะ

คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ


ในส่วนชีวิตส่วนตัวของพวกเขานั้น มีความหลากหลายทางเพศในวง เพราะวิคตอเรียเป็นไบเซ็กซ์ช่วลแบบเปิดเผย อิธานเป็นชายแท้ ดามิอาโน่เป็นชายแท้แต่ลื่นไหลได้ ในขณะที่โทมัสประกาศตัวว่าไร้เพศ 

หวังว่ากระทู้นี้จะช่วยให้รู้จักพวกเขากันบ้างนะคะ หวังว่าเพลงของพวกเขาจะกระหื่มในคลื่นวิทยุและทางโซเชี่ยลในบ้านเราบ้างแหล่ะ
ถ้าชื่นชอบเพลงไหนของวงนี้มาร่วมแสดงความเห็นกันได้นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่