ประเทศอังกฤษเป็นประเทศที่น่าอยู่อีกประเทศหนึ่งในความคิดของตนเอง ด้วยใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาราชการ เป็นภาษาใช้ทั่วโลก อาหารก็ไม่ต่างจากชาติยุโรปแถวนั้น คนต่างชาติอยู่แยะ เป็นคนจากเมืองขึ้นของอังกฤษด้วย ถ้าไม่นับว่าฝนตกมากกว่าประเทศแถวๆนั้น เพราะเป็นเกาะและการเดินทางบินจากประเทศไทยตอนดึกก็สามารถไปเข้าทำงานตอนเช้าได้ทันเวลา 6ชั่วโมงที่เวลาของไทยช้ากว่ายุโรป ทำให้บนเครื่องบิน 11-12 ชั่วโมงไม่น่าเบื่อหน่ายเท่าเวลาเดินทางไปเหนือ-ใต้ของไทยนัก ชา Earl's Grey และขนม Scone ที่มีชื่อเสียงยังติดอยู่ในความชอบเสมอมา
จากสนามบิน Heathrow ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงค่ารถแท็กซี่ 30 Lbs ถึงแฟลตเมือง Reading
การหัดเข้า London จาก Reading นี่ไม่ยาก เดินจากแฟลตนี่ไป15นาทีขึ้นรถไฟที่สถานีนั่งไป 20 นาทีถึงสถานีรถไฟ Paddington เดินไปสู่ Underground หรือ Tube เมื่อขึ้นรถใต้ดินแล้ว สังเกตชื่อสถานีด้านข้างและเช็คชื่อสถานีที่มีอักษรวิ่งอยู่ที่ป้ายเหนือศีรษะว่าสถานีที่จะถึงคืออะไร เมื่อนับสถานีก็จะไปลงเที่ยวสถานี Westminster จึงลงสถานีเดินไปดู Big Ben ที่อยู่ใกล้สะพาน ผู้คนเยอะแยะเพราะอากาศดี มีแดดด้วย หันหลังให้นาฬิกามองไปด้านซ้ายมือ เห็น London Eye ใหญ่โตอยู่ริมน้ำ Thames ไม่ไกลนัก ที่สะพานนี้มีนักเล่นเกมกล คือวางแก้วหลายใบนผ้าปูพื้นแล้ววางก้อนกลมๆใต้แก้วทึบที่ครอบ ทำการสลับก้อนกลมอย่างไวไปเรื่อยๆ ผู้ที่จะแทงก็ต้องมองตามว่าก้อนกลมนั้นไปอยู่ใต้แก้วใบไหน เมื่อแน่ใจก็เอาเงินวางที่แก้วครอบนั้น ถ้าเปิดมาถูกก็จะได้เงินเท่าที่วางไว้ คือชนะ มีคนสนใจจับสายตาดูกลุ่มใหญ่ ถือเป็นสิ่งละอันพันละน้อยที่น่าสนใจบนสะพานนี้ ยืนดูสักพักในบรรยากาศรื่นรมย์ แล้วจึงเดินไปลง Tube เพื่อเดินทางต่อไปที่ London Tower อยู่ไม่ไกลกัน
เป็นเส้นทางเดียวกันสำหรับนักท่องเที่ยว เมื่อลงรถใต้ดินขี้นมาบนถนนแล้วได้เดินเลียบไปตามแนวฝั่งแม่น้ำThames ทางเดินริมเขื่อนเลี้ยวลดบ้าง
เมื่อมีสะพานข้ามแม่น้ำก็เดินไปกลางสะพานมองกลับมาดู สะพาน London Tower ตรงๆเต็มตา มีเรือขนาดไม่ใหญ่โตนักแล่นไปมาบ้าง ยืนบันทึกความจำสักพักก็เดินย่านนั้นมีร้านกาแฟ ร้านอาหารเพื่อนักท่องเที่ยวอยู่ห่างๆกันให้เลือก เดินดูมีร้านเมนูปลามากสักหน่อย จึงตัดสินใจเข้าร้านชื่อ ' Fish ' ร้านใหญ่มากและบริเวณร้านโล่ง ที่นั่งมากมาย เลือกนั่งได้อย่างสบาย ทานโดยมิต้องเร่งรีบ ราคาปลาที่สั่ง Grill มีซอสครีมขาวสำหรับปลา และเครื่องดื่มเป็นน้ำผลไม้เพื่อความสดชื่น จ่ายเงินไป 19 Lbs หลังจากทานอาหารเสร็จก็ได้เดินเล่นบริเวณนั้นอีกหน่อย
บ่ายมากแล้วจึงหาทางกลับ เพราะต้องแวะซื้อกับข้าวอีกก่อนถึงบ้าน จึงหาทางลงTube มุ่งสู่สถานีรถไฟ Paddington ในเวลาไม่นาน จากสถานี Paddington ขึ้นนั่งบนขบวนเก้าอี้หันเข้าหากันและแบบนั่งมองหลังกันก็มี เมื่อเลือกที่นั่งหันหน้าสู่เมือง Reading ใช้เวลา 20 นาทีผ่านสถานี Maidenhead และอื่นๆอีกจนถึงที่หมาย
ลงรถไฟเดินกลับมางสู่แฟลตที่ต้องผ่านย่านการค้า จึงเดินด้วยความเพลิดเพลินกับร้านรวงต่างๆเมื่อมาร้าน Mark& Spenser แวะซื้อขนมปัง BUN ใส่ลูกเกดที่ชอบ ออกจากร้านเดินฝ่าลมเย็น 15องศาซีเห็นจะได้เพราะอยู่ในที่โล่งหลังแดดออกไล่ความเย็น 11องศาซีตอนเช้าไปบ้างแล้ว เดินนานๆก็ทำให้มีเหงื่อออกด้านหลังเสื้อแจ็กเก็ตได้เหมือนกัน
วันพักผ่อนเดือนตุลาคม 2515
(เป็นบันทึกส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวต่างประเทศที่ไม่เคยได้เขียน นอกจากแทรกเป็นแบ็คกราวน์ของนิยายที่ได้เขียนไว้ ยามโควิดนึกถึงประเทศต่างๆรอบโลกก็ทำให้มีเวลานึกถึงอดีตที่ได้ไปอยู่และใช้เวลากับประเทศนั้นๆ ไม่รวมทวีปเอเชียใกล้บ้านก็คง 15 ประเทศ มีหลายรีวิวของคนอื่นแล้ว นี่เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ชั่วคราว เป็นครั้งที่4 เขียนมาวางให้ห้องนักเขียนไม่เหงาค่ะ)
💗🎭⏰ วันนั้นในวันหนึ่งของอดีต ⌛🎭💗
จากสนามบิน Heathrow ใช้เวลาครึ่งชั่วโมงค่ารถแท็กซี่ 30 Lbs ถึงแฟลตเมือง Reading
การหัดเข้า London จาก Reading นี่ไม่ยาก เดินจากแฟลตนี่ไป15นาทีขึ้นรถไฟที่สถานีนั่งไป 20 นาทีถึงสถานีรถไฟ Paddington เดินไปสู่ Underground หรือ Tube เมื่อขึ้นรถใต้ดินแล้ว สังเกตชื่อสถานีด้านข้างและเช็คชื่อสถานีที่มีอักษรวิ่งอยู่ที่ป้ายเหนือศีรษะว่าสถานีที่จะถึงคืออะไร เมื่อนับสถานีก็จะไปลงเที่ยวสถานี Westminster จึงลงสถานีเดินไปดู Big Ben ที่อยู่ใกล้สะพาน ผู้คนเยอะแยะเพราะอากาศดี มีแดดด้วย หันหลังให้นาฬิกามองไปด้านซ้ายมือ เห็น London Eye ใหญ่โตอยู่ริมน้ำ Thames ไม่ไกลนัก ที่สะพานนี้มีนักเล่นเกมกล คือวางแก้วหลายใบนผ้าปูพื้นแล้ววางก้อนกลมๆใต้แก้วทึบที่ครอบ ทำการสลับก้อนกลมอย่างไวไปเรื่อยๆ ผู้ที่จะแทงก็ต้องมองตามว่าก้อนกลมนั้นไปอยู่ใต้แก้วใบไหน เมื่อแน่ใจก็เอาเงินวางที่แก้วครอบนั้น ถ้าเปิดมาถูกก็จะได้เงินเท่าที่วางไว้ คือชนะ มีคนสนใจจับสายตาดูกลุ่มใหญ่ ถือเป็นสิ่งละอันพันละน้อยที่น่าสนใจบนสะพานนี้ ยืนดูสักพักในบรรยากาศรื่นรมย์ แล้วจึงเดินไปลง Tube เพื่อเดินทางต่อไปที่ London Tower อยู่ไม่ไกลกัน
เมื่อมีสะพานข้ามแม่น้ำก็เดินไปกลางสะพานมองกลับมาดู สะพาน London Tower ตรงๆเต็มตา มีเรือขนาดไม่ใหญ่โตนักแล่นไปมาบ้าง ยืนบันทึกความจำสักพักก็เดินย่านนั้นมีร้านกาแฟ ร้านอาหารเพื่อนักท่องเที่ยวอยู่ห่างๆกันให้เลือก เดินดูมีร้านเมนูปลามากสักหน่อย จึงตัดสินใจเข้าร้านชื่อ ' Fish ' ร้านใหญ่มากและบริเวณร้านโล่ง ที่นั่งมากมาย เลือกนั่งได้อย่างสบาย ทานโดยมิต้องเร่งรีบ ราคาปลาที่สั่ง Grill มีซอสครีมขาวสำหรับปลา และเครื่องดื่มเป็นน้ำผลไม้เพื่อความสดชื่น จ่ายเงินไป 19 Lbs หลังจากทานอาหารเสร็จก็ได้เดินเล่นบริเวณนั้นอีกหน่อย
บ่ายมากแล้วจึงหาทางกลับ เพราะต้องแวะซื้อกับข้าวอีกก่อนถึงบ้าน จึงหาทางลงTube มุ่งสู่สถานีรถไฟ Paddington ในเวลาไม่นาน จากสถานี Paddington ขึ้นนั่งบนขบวนเก้าอี้หันเข้าหากันและแบบนั่งมองหลังกันก็มี เมื่อเลือกที่นั่งหันหน้าสู่เมือง Reading ใช้เวลา 20 นาทีผ่านสถานี Maidenhead และอื่นๆอีกจนถึงที่หมาย
ลงรถไฟเดินกลับมางสู่แฟลตที่ต้องผ่านย่านการค้า จึงเดินด้วยความเพลิดเพลินกับร้านรวงต่างๆเมื่อมาร้าน Mark& Spenser แวะซื้อขนมปัง BUN ใส่ลูกเกดที่ชอบ ออกจากร้านเดินฝ่าลมเย็น 15องศาซีเห็นจะได้เพราะอยู่ในที่โล่งหลังแดดออกไล่ความเย็น 11องศาซีตอนเช้าไปบ้างแล้ว เดินนานๆก็ทำให้มีเหงื่อออกด้านหลังเสื้อแจ็กเก็ตได้เหมือนกัน
วันพักผ่อนเดือนตุลาคม 2515
(เป็นบันทึกส่วนหนึ่งของการท่องเที่ยวต่างประเทศที่ไม่เคยได้เขียน นอกจากแทรกเป็นแบ็คกราวน์ของนิยายที่ได้เขียนไว้ ยามโควิดนึกถึงประเทศต่างๆรอบโลกก็ทำให้มีเวลานึกถึงอดีตที่ได้ไปอยู่และใช้เวลากับประเทศนั้นๆ ไม่รวมทวีปเอเชียใกล้บ้านก็คง 15 ประเทศ มีหลายรีวิวของคนอื่นแล้ว นี่เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ชั่วคราว เป็นครั้งที่4 เขียนมาวางให้ห้องนักเขียนไม่เหงาค่ะ)