ช่วยส่งหลานเรียนจนจบ มีงานทำ พูดเตือนแค่ครั้งเดียว โกรธไม่ยอมพูดด้วยเป็นปีแล้ว 😢

หลานคนนี้เป็นลูกพี่สาวค่ะ เค้าเลิกกับสามีตั้งแต่หลานยังเล็กๆ พี่สาวเป็นซิงเกิ้ลมัม แต่รายได้ไม่พอเลี้ยงลูก เราและพี่ชายรวมทั้งคนในครอบครัว ช่วยกันส่งเสียเลี้ยงดู จนจบปริญญาตรีในสายอาชีพที่มั่นคง (เรียนสายวิชาชีพ ต้องใช้เงินเยอะ)

ก่อนหน้านี้ หลานเป็นเด็กดี ไม่เคยเกเร ตั้งใจเรียนมาตลอด แต่หลานจะอยู่บ้าน ตจว. อยู่บ้านหลังเดียวกับตายาย แม่ และลุง (พี่ชายแท้ๆเรา) ตัวเราเองในตอนนั้นทำงานบริษัทฯใน กทม.มีรายได้เยอะ ไม่มีครอบครัว เราช่วยส่งหลานเรียน (ค่าเทอมและค่าใช้จ่ายอื่นๆจิปาถะ)

พี่ชายเราโสด ทำธุรกิจส่วนตัว พอมีเงินเก็บก้อนหนึ่ง ที่ผ่านมาก็นำเงินเก็บมาช่วยส่งหลานคนนี้เรียนเกือบหมด ไม่ว่าหลานจะลำบากเงินทองอะไรเค้าจะช่วยเหลือทุกอย่าง พอหลานเรียนจบ ต้องไปทำงานไกลในพื้นที่ที่เดินทางลำบาก พี่ชายก็ออกเงินดาวน์รถยนต์ให้และตอนนี้ก็ยังผ่อนต่ออยู่ (หลานมีรายได้แล้วไม่ช่วยผ่อน  แต่นำรถไปใช้) 

แต่ปัญหาใหญ่คือ เราและพี่ชายได้ออกปากตักเตือนหลานไปเรื่องหนึ่ง (ซึ่งเกี่ยวกับอนาคตของเค้า) แต่เค้าไม่ฟังและก้าวร้าวใส่ บอกว่าอย่ามายุ่งกับเค้า เค้าโตแล้ว จะทำอะไรก็ไม่ให้มาวุ่นวาย ทุกวันนี้ก็ยังโกรธอยู่ เวลาเค้ากลับบ้านมาหาแม่เค้า แล้วเจอพี่ชายเรา เค้าก็ไม่พูดด้วย ไม่ไหว้ ไม่ทักทาย ทำหน้าบึ้งตึงใส่ เดินเข้าห้องตัวเอง ทั้งๆที่พี่เราง้อพูดด้วยทุกครั้ง ทำให้ทุกคนอึดอัดมากๆ ลำพังเราไม่เท่าไหร่ เพราะไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่เราส่งสารพี่ชาย เราดูออกว่าเค้าเสียใจมาก ที่หลานโกรธทั้งๆที่เตือนด้วยความหวังดี นี่ก็ผ่านมาเป็นปีแล้ว ที่หลานไม่พูดกับพี่ชาย รวมทั้วตัวเราเองด้วย

ใครเคยเจอเรื่องราวแบบนี้บ้างคะ คนที่เรารักและเคยให้การช่วยเหลือมา  โกรธนานเกินไปแบบนี้ จะจัดการกับความรู้สึกแบบนี้ยังไงดีคะ

** เพิ่มเติม **

สิ่งที่เรากับพี่ชายเตือนหลานคือ รู้ว่าเค้าไปยุ่งเกี่ยวกับการพนันออนไลน์ เราเตือนในฐานะผู้ใหญ่ที่เป็นห่วง
ไม่เคยไปทวงบุญคุณหรือพูดถึงแม้แต่นิดเดียว แต่ที่เขียนในกระทู้ เพื่อให้คนอ่านรู้ที่มาที่ไปเท่านั้นค่ะ **
เม่าเศร้า
แก้ไขข้อความเมื่อ
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 9
เรียกรถคืน ตัดการช่วยเหลือ หลานคุณโตแล้ว ควรช่วยเหลือตัวเองได้แล้ว

ที่เคยส่งเสียก็ช่างมันถือว่าทำบุญทำทาน อย่าไปต่อกรรมเพิ่ม

พี่ชายคุณต้องเก็บเงินเก็บทองเลี้ยงดูตนเองยามแก่ อนาคตต้องหวังพึ่งตนเอง อย่าหลังฝากผีฝากไข้กับหลาน แม้รู้ว่าที่ช่วยไม่ได้หวังอะไรแต่ด้วยที่เคยส่งเสียเบี้ยงดูมันก็ต้องมีบ้าง

ครอบครัวคุณสปอยหลานเกินไป จนเค้าคิดว่าสิ่งที่คุณให้เป็นสิ่งที่เค้าควรจะได้ และต้องได้ และไม่ต้องตอบแทน ควรหยุดการให้โดยไม่จำเป็นได้แล้ว ให้หลานเผชิญโลกเองบ้าง ครอบครัวไม่สามารถอุ้มชูเค้าได้ตลอดไป

แค่เตือนเรื่องพนันออนไลน์ยังขนาดนี้ ถ้ายึดรถคืนไม่รู้จะขนาดใหน ถ้าหลานมีสำนึกพอควรคืนให้แต่โดยดี แต่คุณที่เลี้ยงดูมาน่าจะพอเดาผลได้ และมันจะดีกับตัวพี่ชายและหลานคุณเอง
ความคิดเห็นที่ 2
อย่าวางตัวเป็นเบี้ยล่างเค้าสิคะ วางตัวให้เป็นที่พึ่ง ตอนนี้เค้าปีกกล้าขาแข็งก็ปล่อยเค้าไป เป็นลมใต้ปีกเค้าก็พอ มีปัญหาก็มา ไม่มีก็ไม่ต้องมา คอยดูเค้าห่างๆ และอย่าคาดหวังให้เค้าเป็นอย่างที่เราอยากให้เค้าเป็น ปล่อยให้เค้าใช้ชีวิตและเรียนรู้ด้วยตัวเองค่ะ

หยุดง้อแล้วขอพูดอีกคำเดียว มีปัญหาขอให้นึกถึงลุง/น้าก็แล้วกัน ลุง/น้าไม่เคยโกรธมีแต่ความหวังดีให้เท่านั้น
ความคิดเห็นที่ 1
เป็นเราคงตัดค่ะ.  ทำใจ.  ลูกก็ไม่ใช่.  รถยังผ่อนอยู่ใช่มั้ยคะยึดรถกลับมาค่ะ.    ให้รู้ซะบ้างว่าใครเป็นใคร.    เราจะไปเตือนแม่เค้าด้วยว่าสอนลูกตัวเองหน่อย.
ความคิดเห็นที่ 17
ลูกก็ไม่ใช่ ที่เคยส่งเสียมาจนเรียนจบก็ถือว่าทำทานไปครับ

ไม่ต้องมาเหยียบบ้าน เอารถคืนมาด้วย แล้วไม่ต้องมาทำเป็นง้อเพราะอยากได้รถคืนนะ สายไปแล้ว ไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไข ขาดแล้วขาดเลยครับ
ความคิดเห็นที่ 8
หยุดช่วยเหลือเขาทุกทาง เขาปีกกล้าขาแข็งต้องให้เขาเรียนรู้ชีวิตด้วยตัวเอง ทุกสิ่งที่เราช่วยเหลือเขามาตลอดเขาได้มาโดยง่ายจึงอาจไม่ค่อยเห็นคุณค่า

อีกอย่างคนเป็นแม่ไม่กล้าเตือนนี่ พ่อแม่โค-ตรรังแกฉันเลย ถ้าแม่ไม่เตือน คนอื่น?!?! ก็คงอย่าหวังไปเตือนเลยเพราะเขาไม่เห็นหัวหรอกมั้ง ตัดใจปล่อยไปเราทำดีที่สุดละ เราให้เขามากที่สุดละ ต่อไปนี้ทำทุกอย่างเพื่อตัวเองพอเนอะ
เม่าฝึกจิต
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่