JJNY : โควิดยังพุ่ง3,058ราย เสียชีวิต22│เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนสะสม68│นายกส.โฆษณาค้านตู่เปิดปท.│สรยุทธจี้ผลกระทบเปิดเทอม

ยอดโควิดวันนี้ ยังพุ่ง 3,058 ราย เสียชีวิต 22 ราย ป่วยสะสม 181,919 คน
https://www.matichon.co.th/covid19/news_2782296
 

 
ยอดโควิดวันนี้ ยังพุ่ง 3,058 ราย เสียชีวิต 22 ราย ป่วยสะสม 181,919 คน
 
เมื่อวันที่ 18 มิถุนายน ศูนย์ข้อมูลโควิด 19 เผย ยอดผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำ วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน 2564 รวม 3,058 ราย จำแนกเป็น ติดเชื้อใหม่ 2,599 ราย ติดเชื้อภายในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 459 รายหายป่วยกลับบ้าน 4,094 ราย ผู้ป่วยสะสม 181,919 ราย (ตั้งแต่ 1 เมษายน) เสียชีวิต 22 ราย
 


เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีน ภายใน 1 สัปดาห์ พุ่ง 40 ราย สะสม 68 ชีวิต เทียบอาการแพ้ ซิโนแวค -แอสตร้าเซเนก้า
https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/149651

เปิดรายงานวัคซีนโควิด 1 สัปดาห์ เสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนเพิ่ม 40 ราย รวม 68 รายแล้ว 13 รายผู้เชี่ยวชาญฟันธงไม่เกี่ยววัคซีน อีก 55 ยังรอ เทียบผลข้างเคียง แอสตร้า-ซิโนแวค
 
เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน 2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศบค. รายงานการฉีดวัคซีนโควิด-19 ทั่วประเทศ สะสม 7,003,783 โดส แล้ว ฉีดเข็มแรก 5,114,755 ราย เข็ม 2 1,889,028 ราย โดยวานนี้ (16 มิ.ย.) ฉีดได้ 222,967 ราย วัคซีนโควิด จัดสรรลงพื้นที่แล้ว 7,191,744 โดส ขณะที่ในการฉีดวัคซีน พบอาการไม่พึงประสงค์ ทั้งวัคซีนยี่ห้อซิโนแวค และแอสตร้าเซเนก้า ขณะเดียวกันมีรายงานผลการพิจารณาโดยผู้เชี่ยวชาญกรณีเสียชีวิตหลังฉีดวัคซีนโควิด-19 ในประเทศไทย จนถึงวันที่ 15 มิ.ย.พบมีจำนวนเพิ่มขึ้น

ศบค.รายงานว่า ภาพรวมการฉีดวัคซีนโควิด-19  กรมควบคุมโรครายงานยอดอาการไม่พึงประสงค์หลังเข้ารับวัคซีน จากยอดวัคซีนที่มีการฉีดไปแล้วกว่า 7 ล้านโดส ฉีดวัคซีนยี่ห้อซิโนแวค 3,214,385 โดส มีอาการไม่พึงประสงค์ 993 ราย (เฉพาะที่ต้องนอนโรงพยาบาล) คิดเป็น 20 ราย ต่อ 1 แสนโดส  พบมากที่สุดคือ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ ปวดศีรษะ อาเจียน ผื่น 
 
ขณะที่ฉีดวัคซีนโควิด-19 ยี่ห้อ แอสตร้าเซเนก้า ไปแล้ว 1,943,693 โดส พบอาการไม่พึงประสงค์ที่รับรักษา 472 ราย คิดเป็น 24 ราย ต่อ 1 แสนโดส พบมากคือ อาการไข้ ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย ถ่ายเหลว
        
ขณะเดียวกันมีรายงานผลการพิจารณาของคณะผู้เชี่ยวชาญกรณีเสียชีวิตภายหลังการฉีดวัคซีนโควิด-19 จนถึงวันที่ 15 มิ.ย. พบผู้เสียชีวิตที่รับรายงาน 68 ราย 
 
ทั้งนี้เพิ่มเติมจากวันที่ 9 มิ.ย. 64 ที่พบเพียง 28 ราย (กรณีล่าสุด ณ วันที่ 9 มิ.ย. หญิงวัย 46 ปี เสียชีวิตที่บ้านย่านบางเขน กทม.) เห็นได้ชัดว่า ในช่วงเวลาเพียงสัปดาห์เดียว มีรายงานผู้เสียชีวิตหลังรับวัคซีนโควิด-19 ถึง 40 ราย 
 
รายงานดังกล่าวระบุว่า คณะผู้เชี่ยวชาญได้พิจารณาแล้ว 13 รายที่เสียชีวิต ไม่เกี่ยวข้องกับการฉีดวัคซีนโควิด-19 ส่วนอีก 55 ราย ยังอยู่ระหว่างสอบสวนโรค รอผลการผ่าชันสูตร
 

 
นายกสมาคมโฆษณาค้าน 'บิ๊กตู่' เปิดประเทศเร็วไปไหม ทั้งที่แผนวัคซีนยังสับสน
https://www.matichon.co.th/economy/news_2781805

นายกสมาคมโฆษณาค้าน ‘บิ๊กตู่’ เปิดประเทศเร็วไปไหม ทั้งที่แผนวัคซีนยังสับสน
 
นายรติ พันธุ์ทวี นายกสมาคมโฆษณาแห่งประเทศไทย เปิดเผยถึงการประกาศเปิดประเทศให้ได้ภายใน 120 วันของนายกรัฐมนตรี นั้น การเปิดประเทศได้ทุกคนย่อมยินดี แต่ส่วนตัวยังมองว่าเร็วไปไหม เพราะที่ผ่านมาการสื่อสารจากภาครัฐต่อเรื่องวัคซีนค่อนข้างมีปัญหา จนเกิดความสับสนและตรึงเครียดต่อการใช้ชีวิตประจำวัน และหลังจากนายกรัฐมนตรีประกาศแล้ว ทางปฎิบัติจะเป็นอย่างไร เป็นเรื่องจับต้องได้จริงทั้งวันเวลาที่จะได้ฉีดวัคซีน และจะไม่เสี่ยงต่อการเปิดประเทศนั้นจะมีขั้นตอนหรือแนวทางปฎิบัติได้อย่างไร หรือหากเปิดแล้วเกิดการกลับมาระบาดของเชื้อไวรัสโควิดรอบ 4 หรือเกิดแหล่งระบาด(คลัสเตอร์)อีกจะทำอย่างไร รัฐจะเข้ามาดูแลช่วยเหลือเยียวยาได้ทันเหตุการณ์ไหม เพราะที่ผ่านมารัฐบาลถูกมองว่าขาดการสื่อสารถึงข้อมูลที่จริง และสับสนในหลายข้อมูล ดังนั้น รัฐบาลต้องตอบโจทย์สร้างความเชื่อมั่นเรื่องทุกคนจะได้รับการฉีดวัคซีน มีการปูพรมฉีดให้เห็นเป็นรูปธรรม และคุมไม่ให้เกิดความหย่อนยานต่อการดูแลป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 จนเกิดไฟลามทุ่งอย่างการระบาดรอบ 3
 
“ผมมองว่าจะเปิดใน 120 วัน หรือ เปิดในต้นปี 2565 ก็ไม่แตกต่างกัน เพราะแม้จะเปิดประเทศ แต่คงยังกังวลต่อการใช้ชีวิตประจำวัน กิจกรรมยังไม่เต็มที่ และไม่รู้ว่าเปิดแล้วเสี่ยงแค่ไหน อารมณ์คนไทยตอนนี้สะสมความกังวลมานาน ก็ต้องใช้เวลา ดังนั้น ต้องไปเริ่มที่ให้คนได้มั้นใจ เปิดช้าหน่อยแต่ปลอดภัยจริง ผมเชื่อว่าคนไทยรับได้ แม้เปิดประเทศก็ใช่ว่าคนต่างชาติจะแห่กันเดินทางเข้าประเทศพรวด เพราะประเทศต้นทางก็ต้องดูประเทศปลายทางที่จะเดินเข้าหรือเรารับเขามานั้นปลอดภัยปลอดเชื้อแท้จริง และยังต้องมีเรื่องวัคซีนพาสปอร์ตทต้องมีระบบที่เพียงพอ ” นายรติ กล่าว
 
นายรติ กล่าวต่อว่า แต่สิ่งที่ดีในขณะนี้ที่รัฐควรทำเลย คือ วางระเบียบและกติกาการใช้แหล่งธรรมชาติและแหล่งท่องเที่ยว ที่จะทำอย่างไรให้คงความสะอาดและสวยงานอย่างตอนนี้ หลังจากเกิดโควิดทำให้สถานที่ได้พักผ่อน สะอาดและสวยงาม เพราะเป็นสิ่งจูงใจประเทศไทยในอนาคต ส่วนการจับจ่ายในสอยก็ขึ้นกับความคลายกังวลและการพึ่งพาในประเทศน่าจะทำได้มากกว่าการพึ่งพาต่างชาติ ผมยังเชื่อว่ากว่ากิจกรรมจะกลับมาได้อีกครั้งและเริ่มใช้จ่ายก็ปลายไตรมาส4ปีนี้ เพราะดูจากแผนงานของธุรกิจต่อการใช้สื่อ แต่ก็อยากให้กำลังใจนายกรัฐมนตรีและผู้บริหารประเทศเพราะในสถานการณ์วิกฤตอย่างนี้การจัดการไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้คนไทยสาหัสที่สุดแล้ว ก็เริ่มการปรับตัวและอยู่ให้ได้ในภาวะสาหัส เพียงรัฐต้องให้ข้อมูลตรงกับความเป็นจริงมากที่สุด
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่