ด้วยดิฉันได้บรรจุเป็นข้าราชการครู ณ โรงเรียนแห่งหนึ่ง ต่อมา ประมาณ 6 ปี มีการเปลี่ยนแปลงของสถานศึกษาโดยโรงเรียนที่ข้าพเจ้าไปบรรจุนั้นได้เข้าอยู่ในองค์การบริหารส่วนจังหวัด ส่วนตัวข้าพเจ้าเองไม่ประสงค์จะเข้าสังกัด อบจ. ดังน้ัน ณ เวลานั้น ต้นสังกัด ให้ข้าพเจ้าเลือกว่าหากไม่เข้าอยุ่ในบุคลากรขององค์การบริหารส่วนจังหวัด แล้วเลือกจะลงที่โรงเรียนใด(ที่ไม่ได้เข้าสังกัด อบจ. ณ ขณะนั้น) เมื่อข้าพเจ้าเลือก ผลปรากฎว่า ไม่มีที่พัก ซึ่งข้าพเจ้าร้องขอเบิกค่าเช่าบ้าน ต่อมา ทางโรงเรียนไม่อนุญาตให้เบิก เนื่องจากมีบ้านพักครูแล้ว ซึ่งต่อมาข้าพเจ้าได้พักอยู่ในบ้านพักครุ ในเวลาต่อมา โรงเรียนแห่งนี้ได้รับจัดสรรงบประมาณสร้างอาคารเรียน 6 ชั้น ในตอนแรกได้ตกลงว่าจะสร้างในบริเวณโรงเรียน ต่อมามีวิศวะกรจากสพฐ.ได้มาดูสถานที่(ซึ่งรอบที่เท่าไหร่ไม่แน่ใจ) และขอให้ย้ายการก่อสร้างจากจุดเดิมที่ทางโรงเรียนได้แจ้งไป มาเป็นส่วนที่ดิน ณ บ้านพักครู ผลปรากฎว่า จุดก่อสร้างนี้ ข้าพเจ้าต้องย้ายออกไป (โดยผู้อำนวยการได้มาแจ้งให้ข้าพเจ้าทราบวันที่ 14 ช่วงบ่าย และให้ข้าพเจ้ารีบย้ายออกภายในสิ้นเดือน จริงๆ แล้ว ยังมีบ้านพักครูอีกจำนวนหนึ่ง เบื้องต้นข้าพเจ้าได้พูดคุยกับน้องที่เพิ่งเข้ามาอยู่ในบ้านพักครู (น้องบรรจุใหม่ และพนักงานราชการ ) เพื่อขอย้ายไปอยู่บ้านหลังนั้น (บ้านครอบครัว ซึ่งข้าพเจ้าได้แต่งงาน มีลูก 1 คน) และให้น้องๆ3 คน ย้ายเข้าไปอยู่บ้านอีกสามหลัง ซึ่งมีห้อง บ้านละ 1 คน ต่อมา น้องๆ มาแจ้งว่าไม่ขอย้าย ส่งผลให้ข้าพเจ้าต้องย้ายออกโดยทันที ช้าสุดไม่เกิน 30 มิถุนายน 2564 เนื่องจากทีมรับเหมาก่อสร้างต้องมาเคลียร์พื้นที่ และต้องหาบ้านเช่าเพื่อเป็นที่พักอาศัย ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
ดังนั้น จากเหตุการนี้ ข้าพเจ้าจะต้องไปหาบ้านเช่าใหม่ นั้น ข้าพเจ้าสามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้หรือไม่ หากได้ ข้าพเจ้าต้องทำอย่างไร
ได้รับความเดือดร้อนจากที่พักอาศัย สามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้หรือไม่
ดังนั้น จากเหตุการนี้ ข้าพเจ้าจะต้องไปหาบ้านเช่าใหม่ นั้น ข้าพเจ้าสามารถเบิกค่าเช่าบ้านได้หรือไม่ หากได้ ข้าพเจ้าต้องทำอย่างไร