วัตถุประสงค์ของทู้นี้ คืออยากบันทึกเรื่องราว การทำหมันของน้องแมว และแชร์ประสบการณ์กันค่ะ
เรามีแมว 2 ตัว เป็นตัวเมียทั้งคู่เลยค่ะ ชื่อเจ้านม และเจ้ามิลล์
เจ้ามิลล์นี่เป็นลูกเจ้านมนี่แหล่ะค่ะ ได้ตาสองสีมา
มาถึงช่วงที่เจ้านมฮีท (ติดสัตว์) ก็เลยตัดสินใจ หลังฮีทจะพาน้องไปทำหมันได้ละ
เราก็หาข้อมูลการทำหมันแมว จนมาเจอเพจที่ทำหมันน้องแมวและน้องหมา ฟรี!!
เพจนี้ค่ะ
กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข กรุงเทพมหานคร
เค้ามีจองคิวแบบออนไลน์ โดย Inbox เข้าไปนี่แหล่ะค่ะ
ตอนนั้นเราจองตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. 64 ได้คิว 10 มิ.ย. 64
เหมือนจะนานใช่ไหมคะ แต่ที่จริงแล้ว เพื่อนเราจองวันที่ 2 มิ.ย. ก็ได้คิววันเดียวกัน
ก็แสดงว่าเค้าคงมีวันทำหมันเป็นรอบๆของเค้าแหล่ะ
จนท.ก็จะให้ข้อมูล การเตรียมตัว สถานที่ มาให้เราทราบ
และก่อนวันนัด ก็จะทักมาแจ้งเตือนอีกครั้ง
พอวันที่ 9 มิ.ย. ตอน 18.00 น. เราก็เริ่มทำการเก็บน้ำและอาหาร
ฮื่อ ทาสทรมาน ถึงน้องจะมาป้วนเปี้ยน ทำหน้าเศร้า ก็อย่าใจอ่อนนะ!!
ที่ต้องอดข้าวอดน้ำตามความเข้าใจเรา คิดว่าเป็นเพราะพอถึงตอนที่ทำหมันแล้ว
จะได้ไม่มีอาหารไหลย้อนกลับมา ซึ่งอาจจะไปอุดหลอดลมได้ (เวลาคนผ่าตัดก็งดอาหารเหมือนกัน)
พอตอนเช้า เราไปถึงที่นั่น ประมาณ 7.00 น. มีคนมารอแล้ว 2 กรง เราถือเป็นคิวที่ 3
ประมาณ 7.30 จนท.ก็จะเริ่ม ให้ไปกรอกข้อมูล ชื่อ อายุ น้ำหนัก เพศ พันธุ์ (แมวนะ)
ถ้าหากไม่ได้ฉีดวัคซีนกันพิษสุนัขบ้า ก็แจ้งฉีดได้เลย
จากนั้นก็รอ จนถึง 8.30 น. ก็จะเริ่มเรียกคิว พาน้องไปหาหมอ แล้วหมอก็จะทำการฉีดยาสลบ แล้วเราก็ออกมารอได้
ภาพที่เห็นคือ จนท.หิ้วคู่ขาหน้า และขาคู่หลังออกมา โต๊ะกลางด้านหน้า เพื่อมาโกนขนหน้าท้องบริเวณที่จะผ่า หยอดเบนตาดีน
แล้วหิ้วกลับเข้าไปทางห้องทางขวามือ แล้วก็รอ ไม่ถึง 5 นาที จนท.ก็จะหิ้วมาวางในคอก เรียกหาเจ้าของ เพื่อรับน้องกลับไป
สภาพน้องคือ นอนตาโต ลิ้นแล่บออกมา สภาพเป็นผักเลยค่ะ โอ้ยน่าฉงฉานนน
จากนั้นเราก็ไปรอรับใบสั่งยา ฟังคำแนะนำ การดูแลหลังทำหมัน
ยาแก้อักเสบที่ต้องซื้อ (Amoxylin สามารถหาซื้อตามร้านขายยาได้เลย) ให้น้องกินยาเช้า-เย็น ก่อนอาหาร เป็นเวลา 7 วัน
ครบ 7 วันก็ให้ไปตัดไหม ที่คลินิคสัตว์ใกล้บ้าน หรือจะมาที่ดินแดงนี้ก็ได้ (ค่าบริการ 50 บาท)
ของเรามีนัดฉีดวัคซีนครั้งถัดไปในเดือนหน้าด้วย ก็จะมีใบนัดสีเหลืองๆด้วย
พอขากลับน้องจะยังอยู่ในอาการสลบอยู่นะ ก็จะต้องนอนเหยียดโดยเชยคอเอาไว้ค่ะ (เพื่อให้ไม่ไปปิดทางเดินหายใจ)
ตะกร้าที่เอาไปก็เป็นใบน้อยๆ เลยต้องนอนเหยียดยาวที่เบาะหลังกันเลย
ถ้าไปรถสาธารณะคงกลับลำบากอยู่เหมือนกันแห่ะ
พอมาถึงบ้าน น้องก็ยังหลับเป็นผักอยู่
เราก็เตรียมตัวหาข้อมูล ตัดชุดกันเลีย ได้ไอเดียจากพันทิปนี่แหล่ะค่ะ จากกระทู้นี้เลย
https://topicstock.ppantip.com/jatujak/topicstock/2008/08/J6921318/J6921318.html
ผ่านไปซัก 1 ชม. น้องก็เริ่มมีอาการกระตุกๆค่ะ เจ้านมมีอ้วกเป็นน้ำใสๆออกมา
เจ้ามิลล์ จู่ๆก็ลุกยืน เดินแบบเซๆ แล้วก็ฉีดราด (สรุปนางอยากไปห้องน้ำแหล่ะ แต่ไปไม่ไหวแล้ว) แล้วก็นอนต่อ
สองตัวนี้ก็นอนๆ ด็อกๆแด๊กๆ พอตอนเย็นก็มีอาการเหมือนหิว แต่กินไม่ไหว เดี๋ยวลุกเดิน แบบเซๆ แล้วก็นอน จนข้ามวัน
วันที่ 2
เจ้านม เริ่มเดินพลิ้วแล้ว มีท่าทีเจ็บๆเล็กน้อย แต่ก็เดินไปเดินมาดูอาการดีขึ้นเยอะ เรียกก็หันมาหา
เจ้ามิลล์ นอน ซึม นิ่ง น้องมีน้ำตาคลอ ปกตินางเป็นแมวคึก พอมาเห็นนอนซึมแล้วก็รู้สึกใจคอไม่ดีเลย
คิดในใจว่านี่เราคิดดีแล้วใช่ไหมเนี่ย เจ้าเหมียวซึม เจ้าของก็ซึมไปด้วย ร้องไห้ไปเลย
วันนี้เป็นวันแรกที่เราให้ยา
เราซื้อเป็น Coamox 125 (รสสตรอเบอร์รี่ด้วยนะ สีชมพูสวยเชียว)
ยาจะเป็นผง เอามาผสมน้ำสะอาด แล้วใส่ไซริง ให้น้อง ครั้งละ 3 cc
แนะนำที่เราป้อนคือจับหน้าน้องให้เงยหน้า แล้วค่อยๆ กดให้ยา ที่มุมปาก น้องจะแผล็บๆกลืนลงไปเอง
(สองตัวนี้ให้ยาง่ายอยู่ แรกๆดิ้นๆหน่อย วันหลังๆเราเริ่มคล่องล่ะ ให้ชิลๆ ไม่เลอะเลย)
และก็มีถอดชุดเพื่อหยอดเบนตาดีนที่แผล แล้วก็ใส่ชุดให้เหมือนเดิม
เรากลัวแผลน้องอักเสบ เลยอยากจะลองเช็คดูด้วย
วันที่ 3
เจ้านม เริ่มปกติ กินได้แต่น้อย นอน เดิน ได้ชิลๆ ชอบร้องเรียกหาบ่อยๆ ไม่รู้เกี่ยวไหม ทำหมันแล้วน้องพูดเก่งขึ้น 555
เจ้ามิลล์ สภาพเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังซึมๆ เน้นนั่งนิ่งๆ เป็นท่าแม่ไก่ และยังกินได้น้อยอยู่เลย
แต่วันนี้มีเหมียวเข้าห้องน้ำแล้ว แต่ดมกลิ่นไม่ออกว่าเป็นของใคร 555
วันที่ 4
เจ้านม ดูจะอยากเลียแผลตัวเองมาก เผลอๆปุ๊บ ถอดชุดตัวเองเก่ง เลียแผลแผล็บๆ
เจ้ามิลล์ เริ่มสดใส เริ่มกิน เดิน เล่น ได้มากขึ้นแล้ว กินเก่งเหมือนเดิมแล้ว เย่ๆ ดีใจ
ห้องน้ำถูกใช้บริการน่าจะทั้ง 2 ตัวแล้ว
วันที่ 5
เจ้านม ก็ช่วยเลียตัวลูกอย่างรักใคร่ ช่วยๆน้องทำความสะอาด พูดเก่ง มองหน้าก็พูดด้วยแง๊วๆกันไป
เจ้ามิลล์ เริ่มสดใส เป็นปกติล่ะ เล่นได้ กินเก่ง พร้อมจะกระโดดสูงแล้วฮะ (แต่ห้ามมม ดีนะกันไว้ทัน)
เราเป็นห่วงก็ตรงแผลนี่แหล่ะ น้องมีการเลียผ่านชุดไปเลย ล้ำไปอีก
พอเปิดชุดดู ผ้าก็อตยังเปียก เราเลยตัดสินใจ เอากรรไกรตัดไหม แล้วเอาผ้าก็อตออก
แล้วทาเบนตาดีน ก่อนจะดึงไหมที่เสียบพุงน้องออกตาม ดูโล่งตัวขึ้นแห่ะ แต่ก็ยังใส่ชุดไว้เหมือนเดิม
สภาพแผลแห้งแล้วค่ะ ดูดีอยู่ ไม่อักเสบ เราก็วางใจ
แกะเจ้าก้อนผ้าก็อตออกมาจากพุงทั้ง 2 ตัวแล้วค่ะ
วันที่ 6
เจ้านม และเจ้ามิลล์ อาการเจ็บแผลดูน้อยลงแล้ว เดินทรงปกติแล้ว
แต่นิสัยเปลี่ยน เจ้านม ปกติเคยเป็นแมวขี้รำคาญ ตอนนี้คือเอะอ่ะๆเดินมาหา มาร้องแง๊วเบาๆใส่ ยอมให้อุ้มได้นานขึ้น
แต่กับมิลล์ ความทะเล้นลดลง กลายเป็นแมวขรึมๆ นิ่งๆ นอนได้ทั้งวัน ความขี้อ้อนลดลงไปเฉยเลย
แอบแง้มดูแผล ของเจ้ามิลล์เป็นแผลเรียบๆปกติ ดูแผลแห้งสนิทล่ะ
แต่ของเจ้านม สภาพเย็บแบบขยุ้ม ผิวเหี่ยวๆ ดูน่ากลัวว่าของเจ้ามิลล์ (เจ้ามิลล์พุงมันแน่น แผลเลยดูตึงๆสวยกว่า)
เพื่อนบอกว่าที่น้องขรึมๆอาจจะเป็นเพราะชุด ซึ่งอาจจะทำน้องไม่ได้สบายตัว 100%
ตอนนี้ทาสก็เฝ้ารอวันที่จะได้ถอดเสื้อน้องแล้วเนี่ย จะได้กลับมาเป็นแมวที่สดใสตัวเดิมซะที
ตอนนี้มีสภาพเป็นเหมือนพระไปเลย ไหนๆก็ไหนๆละ ขอเชิญญาติโยม ผู้มีจิตศรัทธา นำปลาทูมาถวาย 555
วันที่ 7
ถึงกำหนดครบวันที่กินยาแก้อับเสบ และถึงวันครบกำหนดตัดไหมค่ะ
เราตัดสินใจ ทำการตัดไหมเองค่ะ โดยดูจากสภาพแผลของน้องแล้วรู้สึกว่าแผลแห้งแล้วและไม่มีอาการเลือดซึม หรือมีสีแปลกๆ
เราเลยลงมือเองเลย โดยทาเบนตาดีนที่แผลน้องก่อน
แล้วนำกรรไกร ที่ฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอลล์ล้างแผลค่ะ มาแซะส่วนที่ไหมโผล่ออกมา
แล้วดึงส่วนที่เป็นเส้นออกมา (ดูจุดที่เป็นปมมัด ดึงเอาส่วนฝั่งที่เป็นปมออกค่ะ)
พอหลังดึงไหมออก ก็หยดเบนตาดีนอีกครั้งค่ะ เป็นอันสำเร็จ
พอไม่มีชุดแล้วนอนสบายเลยค่ะ
พอได้ถอดชุดออกน้องก้มีการเลียๆแผลบ้างนะคะ เราก็พยายามดูว่าจะเป็นยังไง
แผลก็ค่อยๆเรียบ สมาน ดูดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วค่ะ
ขอปิดท้าย ด้วยรูปนี้
พุงนิ่มๆ น่าจิ้ม 555555
🐱 แชร์ประสบการณ์ พาน้องแมวไปทำหมันฟรี ที่ดินแดง
เรามีแมว 2 ตัว เป็นตัวเมียทั้งคู่เลยค่ะ ชื่อเจ้านม และเจ้ามิลล์
เจ้ามิลล์นี่เป็นลูกเจ้านมนี่แหล่ะค่ะ ได้ตาสองสีมา
มาถึงช่วงที่เจ้านมฮีท (ติดสัตว์) ก็เลยตัดสินใจ หลังฮีทจะพาน้องไปทำหมันได้ละ
เราก็หาข้อมูลการทำหมันแมว จนมาเจอเพจที่ทำหมันน้องแมวและน้องหมา ฟรี!!
เพจนี้ค่ะ
กลุ่มควบคุมโรคพิษสุนัขบ้า สำนักงานสัตวแพทย์สาธารณสุข กรุงเทพมหานคร
เค้ามีจองคิวแบบออนไลน์ โดย Inbox เข้าไปนี่แหล่ะค่ะ
ตอนนั้นเราจองตั้งแต่วันที่ 28 เม.ย. 64 ได้คิว 10 มิ.ย. 64
เหมือนจะนานใช่ไหมคะ แต่ที่จริงแล้ว เพื่อนเราจองวันที่ 2 มิ.ย. ก็ได้คิววันเดียวกัน
ก็แสดงว่าเค้าคงมีวันทำหมันเป็นรอบๆของเค้าแหล่ะ
จนท.ก็จะให้ข้อมูล การเตรียมตัว สถานที่ มาให้เราทราบ
และก่อนวันนัด ก็จะทักมาแจ้งเตือนอีกครั้ง
พอวันที่ 9 มิ.ย. ตอน 18.00 น. เราก็เริ่มทำการเก็บน้ำและอาหาร
ฮื่อ ทาสทรมาน ถึงน้องจะมาป้วนเปี้ยน ทำหน้าเศร้า ก็อย่าใจอ่อนนะ!!
ที่ต้องอดข้าวอดน้ำตามความเข้าใจเรา คิดว่าเป็นเพราะพอถึงตอนที่ทำหมันแล้ว
จะได้ไม่มีอาหารไหลย้อนกลับมา ซึ่งอาจจะไปอุดหลอดลมได้ (เวลาคนผ่าตัดก็งดอาหารเหมือนกัน)
พอตอนเช้า เราไปถึงที่นั่น ประมาณ 7.00 น. มีคนมารอแล้ว 2 กรง เราถือเป็นคิวที่ 3
ประมาณ 7.30 จนท.ก็จะเริ่ม ให้ไปกรอกข้อมูล ชื่อ อายุ น้ำหนัก เพศ พันธุ์ (แมวนะ)
ถ้าหากไม่ได้ฉีดวัคซีนกันพิษสุนัขบ้า ก็แจ้งฉีดได้เลย
จากนั้นก็รอ จนถึง 8.30 น. ก็จะเริ่มเรียกคิว พาน้องไปหาหมอ แล้วหมอก็จะทำการฉีดยาสลบ แล้วเราก็ออกมารอได้
ภาพที่เห็นคือ จนท.หิ้วคู่ขาหน้า และขาคู่หลังออกมา โต๊ะกลางด้านหน้า เพื่อมาโกนขนหน้าท้องบริเวณที่จะผ่า หยอดเบนตาดีน
แล้วหิ้วกลับเข้าไปทางห้องทางขวามือ แล้วก็รอ ไม่ถึง 5 นาที จนท.ก็จะหิ้วมาวางในคอก เรียกหาเจ้าของ เพื่อรับน้องกลับไป
สภาพน้องคือ นอนตาโต ลิ้นแล่บออกมา สภาพเป็นผักเลยค่ะ โอ้ยน่าฉงฉานนน
จากนั้นเราก็ไปรอรับใบสั่งยา ฟังคำแนะนำ การดูแลหลังทำหมัน
ยาแก้อักเสบที่ต้องซื้อ (Amoxylin สามารถหาซื้อตามร้านขายยาได้เลย) ให้น้องกินยาเช้า-เย็น ก่อนอาหาร เป็นเวลา 7 วัน
ครบ 7 วันก็ให้ไปตัดไหม ที่คลินิคสัตว์ใกล้บ้าน หรือจะมาที่ดินแดงนี้ก็ได้ (ค่าบริการ 50 บาท)
ของเรามีนัดฉีดวัคซีนครั้งถัดไปในเดือนหน้าด้วย ก็จะมีใบนัดสีเหลืองๆด้วย
พอขากลับน้องจะยังอยู่ในอาการสลบอยู่นะ ก็จะต้องนอนเหยียดโดยเชยคอเอาไว้ค่ะ (เพื่อให้ไม่ไปปิดทางเดินหายใจ)
ตะกร้าที่เอาไปก็เป็นใบน้อยๆ เลยต้องนอนเหยียดยาวที่เบาะหลังกันเลย
ถ้าไปรถสาธารณะคงกลับลำบากอยู่เหมือนกันแห่ะ
พอมาถึงบ้าน น้องก็ยังหลับเป็นผักอยู่
เราก็เตรียมตัวหาข้อมูล ตัดชุดกันเลีย ได้ไอเดียจากพันทิปนี่แหล่ะค่ะ จากกระทู้นี้เลย
https://topicstock.ppantip.com/jatujak/topicstock/2008/08/J6921318/J6921318.html
ผ่านไปซัก 1 ชม. น้องก็เริ่มมีอาการกระตุกๆค่ะ เจ้านมมีอ้วกเป็นน้ำใสๆออกมา
เจ้ามิลล์ จู่ๆก็ลุกยืน เดินแบบเซๆ แล้วก็ฉีดราด (สรุปนางอยากไปห้องน้ำแหล่ะ แต่ไปไม่ไหวแล้ว) แล้วก็นอนต่อ
สองตัวนี้ก็นอนๆ ด็อกๆแด๊กๆ พอตอนเย็นก็มีอาการเหมือนหิว แต่กินไม่ไหว เดี๋ยวลุกเดิน แบบเซๆ แล้วก็นอน จนข้ามวัน
วันที่ 2
เจ้านม เริ่มเดินพลิ้วแล้ว มีท่าทีเจ็บๆเล็กน้อย แต่ก็เดินไปเดินมาดูอาการดีขึ้นเยอะ เรียกก็หันมาหา
เจ้ามิลล์ นอน ซึม นิ่ง น้องมีน้ำตาคลอ ปกตินางเป็นแมวคึก พอมาเห็นนอนซึมแล้วก็รู้สึกใจคอไม่ดีเลย
คิดในใจว่านี่เราคิดดีแล้วใช่ไหมเนี่ย เจ้าเหมียวซึม เจ้าของก็ซึมไปด้วย ร้องไห้ไปเลย
วันนี้เป็นวันแรกที่เราให้ยา
เราซื้อเป็น Coamox 125 (รสสตรอเบอร์รี่ด้วยนะ สีชมพูสวยเชียว)
ยาจะเป็นผง เอามาผสมน้ำสะอาด แล้วใส่ไซริง ให้น้อง ครั้งละ 3 cc
แนะนำที่เราป้อนคือจับหน้าน้องให้เงยหน้า แล้วค่อยๆ กดให้ยา ที่มุมปาก น้องจะแผล็บๆกลืนลงไปเอง
(สองตัวนี้ให้ยาง่ายอยู่ แรกๆดิ้นๆหน่อย วันหลังๆเราเริ่มคล่องล่ะ ให้ชิลๆ ไม่เลอะเลย)
และก็มีถอดชุดเพื่อหยอดเบนตาดีนที่แผล แล้วก็ใส่ชุดให้เหมือนเดิม
เรากลัวแผลน้องอักเสบ เลยอยากจะลองเช็คดูด้วย
วันที่ 3
เจ้านม เริ่มปกติ กินได้แต่น้อย นอน เดิน ได้ชิลๆ ชอบร้องเรียกหาบ่อยๆ ไม่รู้เกี่ยวไหม ทำหมันแล้วน้องพูดเก่งขึ้น 555
เจ้ามิลล์ สภาพเริ่มดีขึ้น แต่ก็ยังซึมๆ เน้นนั่งนิ่งๆ เป็นท่าแม่ไก่ และยังกินได้น้อยอยู่เลย
แต่วันนี้มีเหมียวเข้าห้องน้ำแล้ว แต่ดมกลิ่นไม่ออกว่าเป็นของใคร 555
วันที่ 4
เจ้านม ดูจะอยากเลียแผลตัวเองมาก เผลอๆปุ๊บ ถอดชุดตัวเองเก่ง เลียแผลแผล็บๆ
เจ้ามิลล์ เริ่มสดใส เริ่มกิน เดิน เล่น ได้มากขึ้นแล้ว กินเก่งเหมือนเดิมแล้ว เย่ๆ ดีใจ
ห้องน้ำถูกใช้บริการน่าจะทั้ง 2 ตัวแล้ว
วันที่ 5
เจ้านม ก็ช่วยเลียตัวลูกอย่างรักใคร่ ช่วยๆน้องทำความสะอาด พูดเก่ง มองหน้าก็พูดด้วยแง๊วๆกันไป
เจ้ามิลล์ เริ่มสดใส เป็นปกติล่ะ เล่นได้ กินเก่ง พร้อมจะกระโดดสูงแล้วฮะ (แต่ห้ามมม ดีนะกันไว้ทัน)
เราเป็นห่วงก็ตรงแผลนี่แหล่ะ น้องมีการเลียผ่านชุดไปเลย ล้ำไปอีก
พอเปิดชุดดู ผ้าก็อตยังเปียก เราเลยตัดสินใจ เอากรรไกรตัดไหม แล้วเอาผ้าก็อตออก
แล้วทาเบนตาดีน ก่อนจะดึงไหมที่เสียบพุงน้องออกตาม ดูโล่งตัวขึ้นแห่ะ แต่ก็ยังใส่ชุดไว้เหมือนเดิม
สภาพแผลแห้งแล้วค่ะ ดูดีอยู่ ไม่อักเสบ เราก็วางใจ
แกะเจ้าก้อนผ้าก็อตออกมาจากพุงทั้ง 2 ตัวแล้วค่ะ
วันที่ 6
เจ้านม และเจ้ามิลล์ อาการเจ็บแผลดูน้อยลงแล้ว เดินทรงปกติแล้ว
แต่นิสัยเปลี่ยน เจ้านม ปกติเคยเป็นแมวขี้รำคาญ ตอนนี้คือเอะอ่ะๆเดินมาหา มาร้องแง๊วเบาๆใส่ ยอมให้อุ้มได้นานขึ้น
แต่กับมิลล์ ความทะเล้นลดลง กลายเป็นแมวขรึมๆ นิ่งๆ นอนได้ทั้งวัน ความขี้อ้อนลดลงไปเฉยเลย
แอบแง้มดูแผล ของเจ้ามิลล์เป็นแผลเรียบๆปกติ ดูแผลแห้งสนิทล่ะ
แต่ของเจ้านม สภาพเย็บแบบขยุ้ม ผิวเหี่ยวๆ ดูน่ากลัวว่าของเจ้ามิลล์ (เจ้ามิลล์พุงมันแน่น แผลเลยดูตึงๆสวยกว่า)
เพื่อนบอกว่าที่น้องขรึมๆอาจจะเป็นเพราะชุด ซึ่งอาจจะทำน้องไม่ได้สบายตัว 100%
ตอนนี้ทาสก็เฝ้ารอวันที่จะได้ถอดเสื้อน้องแล้วเนี่ย จะได้กลับมาเป็นแมวที่สดใสตัวเดิมซะที
ตอนนี้มีสภาพเป็นเหมือนพระไปเลย ไหนๆก็ไหนๆละ ขอเชิญญาติโยม ผู้มีจิตศรัทธา นำปลาทูมาถวาย 555
วันที่ 7
ถึงกำหนดครบวันที่กินยาแก้อับเสบ และถึงวันครบกำหนดตัดไหมค่ะ
เราตัดสินใจ ทำการตัดไหมเองค่ะ โดยดูจากสภาพแผลของน้องแล้วรู้สึกว่าแผลแห้งแล้วและไม่มีอาการเลือดซึม หรือมีสีแปลกๆ
เราเลยลงมือเองเลย โดยทาเบนตาดีนที่แผลน้องก่อน
แล้วนำกรรไกร ที่ฆ่าเชื้อด้วยแอลกอฮอลล์ล้างแผลค่ะ มาแซะส่วนที่ไหมโผล่ออกมา
แล้วดึงส่วนที่เป็นเส้นออกมา (ดูจุดที่เป็นปมมัด ดึงเอาส่วนฝั่งที่เป็นปมออกค่ะ)
พอหลังดึงไหมออก ก็หยดเบนตาดีนอีกครั้งค่ะ เป็นอันสำเร็จ
พอไม่มีชุดแล้วนอนสบายเลยค่ะ
พอได้ถอดชุดออกน้องก้มีการเลียๆแผลบ้างนะคะ เราก็พยายามดูว่าจะเป็นยังไง
แผลก็ค่อยๆเรียบ สมาน ดูดีขึ้นเรื่อยๆ ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้วค่ะ
ขอปิดท้าย ด้วยรูปนี้
พุงนิ่มๆ น่าจิ้ม 555555