ควรทำยังไงดีคะ กับครอบครัวแฟนที่คิดแบบนี้

สวัสดีค่ะ เราอึดอัดใจมาก เรากับแฟนคบกันได้ 3 ปี (ไม่ได้แต่งงานกันและไม่มีลูก) เราตัดสินใจจะกู้บ้าน เพื่อจะได้ส่วนต่างมาปิดบัตรเครดิต และอย่างน้อยจะได้ผ่อนบ้านอย่างเดียว แล้วปิดบัตรทิ้งไปเลย หนี้บัตรเครดิตประมาณ 1 แสนบาท แจ้งก่อนนะคะ บัตรนี้ เราใช้ทั้งคู่ ทั้งแฟนทั้งเรา แต่บัตรคือชื่อเรา เอาง่ายๆคือ หนี้บัตรนี้สร้างด้วยกัน แต่เรื่องทั้งหมดมันเกิดขึ้น ตอนกู้บ้าน คือตอนแรกยื่นกู้ร่วมไป แต่เอกสารฝั่งแฟนไม่ผ่าน เพราะที่ทำงานลงที่เริ่มงานให้ผิด แต่ทางธนาคารแนะนำ ให้เรากูคนเดียว เพราะมีสวัสดิการที่ทำงานอยู่ แต่ต้องหาเงินมาปิดบัตร ยอดประมาณ 70,000 บาท ซึ่งตอนแรกก็คิดว่าจะหาเงินมาจากไหน เราเลยโทรหาครอบครัวเราก่อนแม่เรามี เราได้เงินมาแล้ว เราเลยลองใจแฟน เพราะตั้งแต่คบกับมา ถ้ามีปัญหาไม่ว่าจะเรื่องอะไรไม่เคยช่วยเราเลย หรือช่วยเราดิ้นรนสักครั้ง เราเลยบอกให้แฟนช่วยคิดหน่อย หามาจากไหน นางเลยบอกให้เราไปโทรไปหาแม่นางดู เราก็ลองโทรไป โดยบอกเขาว่า “แม่ค่ะ พอดีทางธนาคารโทรมาแจ้งว่าเอกสารของ A ไม่ผ่าน ไม่สามารถกู้ร่วมได้ แต่ถ้าหาเงินมาปิดบัตรประมาณ 70,000 เขาแจ้งว่า ชื่อหนูสามารถกู้คนเดียวได้” (แม่แฟนรู้ดีว่าบัตรเครดิตที่เป็นหนี้อยู่ A มีส่วนในการสร้างหนี้ก้อนนี้) แม่แฟนก็ถามมาว่า บัตรใคร เราเลยตอบ บัตรหนูค่ะ แล้วเราก็บอกว่า ถ้าปิดแล้วกู้ได้ แต่กู้โดยเป็นชื่อหนูคนเดียว แล้วทางธนาคารโทรหาเราพอดี สายเลยตัดไป เราเลยบอกให้แฟนไปคุยกับแม่เขาหน่อย แต่ตอนนั้นเราได้เงินแล้วนะ แต่เราไม่บอกแฟนเรา อยากรู้ว่าเขาจะทำยังไง สรุปเย็นวันนั้น เขาไปคุยกับที่บ้านเขา พร้อมได้คำตอบที่กลับมาว่า (แฟนเราเล่าให้ฟัง) พ่อเขาพูดว่า ไปกู้เป็นชื่อแฟนคนเดียว ถ้าเขาไล่ออกจากบ้านจะอยู่ยังไง เราเลยบอกกับแฟนว่า ถ้ากู้ร่วมชื่อเราเป็นคนกู้หลักยังไง บ้านก็เป็นชื่อเราอยู่ดี ทางเดียวที่เราจะไล่เธอออกจากบ้าน คือเธอมีคนอื่น เราเลยบอกแฟนเราไปอีกว่า รู้ใช่มั้ย ทางเดียวที่เธอจะมีสิทธิ์เป็นเจ้าบ้าน คือเธอต้องจดทะเบียนกับเรา A บอกรู้ ซึ่งแม่เขาก็พูดให้ไปจดทะเบียน เราเลยโมโห เพราะทางฝั่งแม่เราเคยบอกให้มาคุยเรื่องนี้ เขาก็ไม่คุย ไม่เอาอะไรทั้งนั้น บอกอย่างเดียวไม่มีเงินแต่ง ไม่มีเงินผูกแขน ถ้าอยากแต่ง ก็หาเงินมาแต่งกันเอง แต่พอเราจะซื้อบ้าน จะให้ลูกชายมาจดทะเบียน เพื่อได้มีสิทธิ์ในบ้านหลังนี้ เรามองว่ามันเห็นแก่ตัวเกินไป เราเลยยกตัวอย่างเรื่องรถมอไซค์ ออกรถเป็นชื่อพ่อแฟน แต่แฟนเราผ่อน เงินเดือน A ออกมา 17000 บาท จ่ายค่ารถมอไซค์ 4000 ค่าห้อง 5000 ค่าเน็ตบ้าน 1200 และค่าอื่นๆ เหลือกินประมาณ 4000 ต่อเดือน ซึ่งมันไม่พออยู่แล้วมาใช้เงินกับเรา เราเลยบอกเขาไปว่า ไม่ต่างอะไรกับเราผ่อนรถกับเธอเลย เพราะเงินเธอไม่พอ เธอก็มาใช้กับเรา แต่เราไม่เคยเรียกร้องจะเอารถ หรือเป็นเจ้าของรถของเธอเลย เราเลยบอกว่าเห็นแก่ตัวเกินไปนะ ค่าบัตรเครดิต เราไม่ให้เขาจ่ายเลย เราเอาเงินเดือนเราจ่ายเองทั้งหมด บางเดือนเราจ่ายค่าเน็ตให้เขาด้วย แล้วหลังจากที่เราได้ยินคำพูดนั้น เราเลยบอกว่า ไม่ต้องหาแล้วนะ ได้แล้ว แม่ให้มา ซึ่งตอนนี้บ้านเรากู้ผ่านหมดแล้ว พอกู้บ้านผ่าน ปัญหาตามมาอีก พ่อแฟนบอกจะขอเอาหลาน 2 คนไปอยู่บ้านเรา คือก่อนหน้านี้ตกลงกับแฟนว่า บ้านหลังนี้จะไม่ให้ บ้านฝ่ายไหนมาอยู่ทั้งนั้น ตอนนี้เริ่มคิดไม่ตก ไม่อยากย้ายเข้าอยู่ เพราะกลัวเลิกกับแฟนไม่ได้ คิดทุกวันว่าอนาคตจะอยู่กับคนนี้ ครอบครัวของเขาแบบนี้ได้หรอ เข้าใจคนที่บอกว่า ไม่ได้แต่งงานก็รักกันได้ แต่ต้องเข้าใจในมุมเราด้วย เขาไม่พยายามจะหา แต่เขาอยากได้ทุกอย่างแบบนี้ไม่ได้ ภาระใดๆที่สร้างขึ้นมา เราไม่เคยให้เขาเดือดร้อน ทั้งๆที่ใช้ด้วยกัน แต่เราคิดว่ามันเป็นชื่อเราเอง เราต้องรับผิดชอบเอง แต่ภาระเขา เราเดือดร้อนตลอด แม่เขายืมเงินเรา เราไม่เคยได้คืน และไม่ทวงด้วย เพราะคิดว่า เคยกินข้าว กินน้ำบ้านเขา แต่เรื่องนี้คิดยังไงก็ไม่ตก หาทางออกไม่เจอ ได้แต่พูดกับเขาว่า ทำอะไรกับเราไว้ ระวังจะโดนคืน อีกไม่นานหรอก หลานสาวโตไวนะ ถ้าไม่โดนทำแบบบ้านเราบ้าง เขาจะไม่รู้เลย ว่าความรู้สึกเป็นยังไงกระทู้นี้อาจจะมองว่าระบายก็ได้นะคะ แต่มันก็ทำเรื่องเสียความรู้สึกจริงๆ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่